หมอผีแม่ลูกติด - บทที่ 339 ทำตัวเอง
บทที่ 339
ทำตัวเอง
จิ่งชุนที่ยืนอยู่ห่างๆและฟังอยู่นั้น ที่มุมปากของนางก็ได้กระตุกเล็กน้อย ถึงตอนนี้นายน้อยนั้นจะเห็นคอและไม่อ้วนได้อย่างชัดเจนก็ตามที แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่เด็กจะอ้วน แล้วทำไมคุณหนูถึงได้พูดหลอกนายน้อยเช่นนั้นนะ?
แล้วหลินซีเหยียนก็ได้ปล่อยเทียนเอ๋อไปแล้วจากนั้นก็ได้กลับไปที่ห้องเพื่อไปหยิบเอากระบี่สวรรค์ แล้วกระบี่สวรรค์ก็ได้สั่นขึ้นมาราวกับว่ามันกำลังแสดงอาการดีใจ
“ช่วงนี้ข้าลืมเจ้าไปเสียสนิทเลย”
เป็นคำพูดที่อ่อนโยนราวกับกำลังคุยอยู่กับเพื่อนสนิท แล้วหลินซีเหยียนก็ได้สวมชุดสีฟ้าของนางแล้วจากนั้นก็ได้มองหาเทียนเอ๋อ “แม่จะไปที่รัฐจงเพื่อไปรับท่านลุงของเทียนเอ๋อเสียหน่อย เทียนเอ๋ออยากที่จะไปกับแม่หรือเปล่า?”
“รัฐจงเหรอ?” เทียนเอ๋อนั้นเคยได้ยินแค่ชื่อแต่ไม่เคยไปจริงๆมาก่อนเหมือน เขาจึงได้กระตือรือร้นขึ้นมาและแสดงสีหน้าว่าอยากไป “เทียนเอ๋ออยากที่จะไปกับท่านแม่ขอรับ”
หลินซีเหยียนก็ได้ผงกหัวและปรากฏแววตาที่มืดมนออกมาในดวงตาของนาง นางนั้นได้แต่หวังว่าจงซู่เฟิงนั้นจะไม่ได้ทำอะไร ไม่อย่างนั้นก็อาจจะมีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่จริงๆ
ในขณะที่หลินซีเหยียนกำลังจัดเก็บข้าวของในเรือน เชียนเหยียนอยู่นั้น หลินหัวเยว่ก็ได้บุกเข้ามาพร้อมกับข้ารับใช้ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของนาง
“นั่นน้องสามกำลังจะไปที่ไหนน่ะ?”
เมื่อเห็นหลินซีเหยียนกำลังเก็บข้าวของ ก็ได้ปรากฏแววตาประหลาดใจในดวงตาของหลินหัวเยว่ จากนั้นนางก็ได้กลับเข้าธุระของนางและปรบมือ แล้วสาวใช้คนหนึ่งก็ได้นำเสื้อผ้าอย่างดีมามอบให้กับหลินซีเหยียน
“พี่สอง นี่มันอะไรกัน?”
เสื้อผ้าหรูหราเหล่านั้นไม่ได้ทำให้หัวใจของหลินซีเหยียนนั้นหลงใหลแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าทุกคนนั้นจะมีหัวใจที่รักความสวยงาม แต่ทว่าพังพอนมาสวัสดีตรุษจีนให้กับไก่เช่นนี้ไม่มีทางมาดีแน่นอน มันจะเป็นการดีกว่าที่นางจะระวังตัวเอาไว้
หลินหัวเยว่ที่เข้ามาในห้องและมองไปรอบๆราวกับว่าที่นี่เห็นห้องของนาง และแล้วนางก็ได้นั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่งแล้วกล่าว “วันนี้พี่ได้ชุดใหม่มาน่ะ มันสวยมากเลยล่ะ แต่น่าเสียที่พี่นั้นท้องอยู่เลยใส่ไม่ได้ พี่จึงได้มาเพื่อมอบชุดนี้ให้กับเจ้าน่ะ”
“ข้าขอบคุณในความใจดีของเจ้า แต่ข้าเกรงว่าข้าคงอาจไม่ได้ใส่ ข้าว่าเจ้าเก็บเอาไว้ใส่เองจะดีกว่า!” หลินซีเหยียนก็ได้หลับตาลงแล้วยิ้ม ถ้านางเดาไม่ผิดจะต้องมีอะไรบางอย่างกับชุดนั้นเป็นแน่
หลินหัวเยว่ก็ได้ลุกขึ้นยืนแล้วหยิบเอาเสื้อผ้านั้นขึ้นมาด้วยมือของนางแล้วจากนั้นก็ได้กล่าว “นี่น้องข้าชุดนี้มันสวยมากเลยนะ ข้าคิดว่าคงไม่มีใครที่เหมาะสมกับชุดนี้ไปมากกว่าเจ้าอีกแล้ว”
หลังจากที่พูดจบนางก็ได้เดินเข้ามาหาหลินซีเหยียนพร้อมกับชุดนั้น ดูเหมือนว่านางนั้นคิดที่จะช่วยหลินซีเหยียนสวมชุดนั้นด้วยตัวนางเอง
ในขณะที่หลินซีเหยียนผลักหลินหัวเยว่ออกไป ผิวของนางที่สัมผัสกับชุดนั้นก็ได้เริ่มมีอาการบวมแดงและคันขึ้นมา เพียงแค่มองดูเฉยๆนางก็รู้ได้ทันทีว่ายานี้เป็นยาที่นางทำขึ้นมาเอง….
ไม่นึกเลยว่าตัวนางจะต้องมาโดนยาของตัวเองเช่นนี้เล่นงานเข้าสักวันหนึ่ง
แต่ที่สำคัญกว่าคือหลินหัวเยว่นั้นไปได้ยาตัวนี้มาจากไหน? หรือว่านางจะมีช่องทางการติดต่อกับหมอพิษ? แต่นางนั้นก็คิดอะไรไม่ออก เพราะอาการแสบคันนั้นทำให้นางต้องทรุดลงไป
ยาตัวนี้เดิมทีเป็นยาที่นางคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เหล่าหมอพิษใช้ป้องกันตัว ดังนั้นจึงได้มียาถอนพิษอยู่เผื่อในกรณีที่ว่า“บังเอิญ”ไปถูกยานั้นเองด้วยความประมาท
ด้วยอาการคันหลินซีเหยียนจึงได้ถอยห่างออกมาจากหลินหัวเยว่แล้วจากนั้นก็ได้มองไปที่มือของนาง
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถูกเห็นโดยหลินหัวเยว่ด้วย แล้วหลินหัวเยว่ก็ได้มีอาการตกใจขึ้นทันทีแล้วจากนั้นก็ได้พูดเสียงดัง “น้องข้า มือของเจ้าเป็นอะไรไป?”
หลินซีเหยียนก็ได้ทำสีหน้าบูดบึ้ง ในเวลานี้นางนั้นไม่สนใจที่จะมาเล่นละครกับหลินหัวเยว่แล้ว นางจึงได้มองไปที่อีกฝ่ายด้วยดวงตาที่หนาวเย็นแล้วกล่าว “หลินหัวเยว่เป้าหมายของเจ้าประสบความสำเร็จแล้วนี่ เจ้ากลับไปพร้อมกับเสื้อผ้าของเจ้าได้แล้ว”
“ไม่ใช่นะ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับข้า” ดวงตาของหลินหัวเยว่ก็ได้แดงและบวมเหมือนจะร้องไห้ และก็ยังดื้อที่จะไม่กลับไปอีก “ข้าไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้น ที่จะหาปัญหามาให้เจ้าด้วยตัวเองเช่นนี้”
ด้วยใบหน้าที่ยิ้มเยาะ โจรตะโกนบอกให้จับโจร นางจึงได้เอามือล้วงกระเป๋าที่อยู่ข้างเอวจากนั้นก็ได้ขยับมือเล็กน้อยแล้วจากนั้นก็ได้ชักกลับมา
เอนตัวเข้าไปหาหลินหัวเยว่ แล้วหลินซีเหยียนก็ได้แกล้งทำเป็นสงสัยแล้วจากนั้นก็ได้จับมือของหลินหัวเยว่ด้วยมือของนางแล้วกล่าว “ทั้งๆที่ข้าก็สัมผัสชุดเดียวกันกับเจ้าแท้ๆ แล้วทำไมเจ้าถึงไม่เป็นอะไรล่ะ?”
“บางทีน้องข้าอาจจะมีอาการแพ้อะไรสักอย่างก็ได้นะ?”
แล้วหลินหัวเยว่ก็ได้รีบชักมือของนางกลับมาจากมือของหลินซีเหยียน เพราะนางนั้นรู้สึกได้ว่าที่มือของนางเริ่มมีอาการคันหน่อยๆแล้ว นางจึงได้คิดที่จะรีบกลับไปเอาน้ำล้าง นางจึงได้กล่าวขอตัวกับหลินซีเหยียน “น้องข้าพอดีจู่ๆข้านึกขึ้นมาได้ว่ามีธุระอื่นต้องรีบไปทำ ดังนั้นข้าขอตัวกลับก่อน เจ้าก็รีบไปหาหมอซะนะ”
มองดูแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่กระวนกระวายแล้ว หลินซีเหยียนก็ได้เผยรอยยิ้มที่มุมปากของนางขึ้นมาอย่างช้าๆ รอยยิ้มที่ชั่วร้ายของนางนั้นทำเอาเทียนเอ๋อต้องหดหัว
“ท่านแม่ ถ้าท่านมัวแต่จ้องแบบนั้นมือของท่านก็ไม่หายหรอก” เทียนเอ๋อก็ได้เปิดปากของเขาอย่างครุ่นคิด และในขณะเดียวกันตัวเขานั้นก็รู้สึกไม่ดีกับคนในจวนมหาเสนาบดีอีกครั้ง
“จิ่งชุนช่วยไปเอาอ่างน้ำมาให้หน่อย” หลินซีเหยียนก็ได้กำมือของนางแน่น และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะหักห้ามใจไม่ให้ไปเกา
เพราะถ้านางเผลอไปเกาเข้าล่ะก็ อาการมันก็จะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม และยากที่จะรักษาได้ แต่นางกลัวว่านางนั้นจะรู้สึกอยากเกาในไม่ช้าแล้ว
จิ่งชุนก็ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และไม่นานนักนางก็ได้มาพร้อมกับอ่างน้ำในอุณหภูมิที่พอเหมาะ
หลินซีเหยียนก็ได้หยิบเอายาขวดหนึ่งออกมาแล้วเทลงไปในน้ำ จากนั้นก็เอามือที่บวมนั้นจุ่มลงไปแล้วอาการก็ได้ค่อยๆดีขึ้นมา
ยาตัวนี้หลินซีเหยียนเป็นคนคิดขึ้นมาเอง ดังนั้นผลของมันจึงไม่มากนัก แต่หลินหัวเยว่ที่คิดจะทำร้ายคนอื่นนั้น คงโชคไม่ดีเสียแล้ว
ซึ่งนางคงไม่รู้ว่ายาตัวนี้แม้แตะต้องมันเพียงเล็กน้อย มันก็จะแผ่ขยายออกไปเรื่อยๆ ราวกับผีร้ายที่เข้าสิ่งในตัวมนุษย์และค่อยๆกัดกินร่างกาย, ความคิดและแม้กระทั่งจิตวิญญาณเหลือเอาไว้แต่รอยแผล
ในเวลานี้เจียงหวายเย่ก็ได้ทราบข่าวในตอนที่เขาออกมาจากวังหลวงว่า เสี่ยวเหยียนเอ๋อนั้นได้กลับไปที่จวนมหาเสนาบดีแล้ว เขาจึงได้รีบบอกให้อันอี้หันหัวรถม้าทันที “ไปที่จวนมหาเสนาบดี”
อันอี้ก็ได้หันหัวรถม้าอย่างชำนาญ และเมื่อเดินทางมาถึงเรือนเชียนเหยียน แม้ว่าท้องฟ้าจะยังไม่เปลี่ยนสี แต่อากาศเย็นก็ได้เข้ามาแล้ว เสี่ยวเหยียนเอ๋อนั้นก็ได้ผล็อยหลับไปแล้วพร้อมด้วยผ้าห่มบางๆบนตัวของนางและเอนตัวพิงหมอน
และมีหนังสือเล่มหนึ่งตกอยู่ที่ขาของนางเขียนเอาไว้ว่า “แมลงวิปลาส”
เจียงหวายเย่จึงไม่อยากที่จะไปรบกวนหลินซีเหยียน เขาจึงได้เดินไปหลินซีเหยียนอย่างเงียบๆแล้วจากนั้นก็ดึงผ้าห่มขึ้นมาแล้วห่อตัวทั้งสองคนเอาไว้ แล้วมองไปที่ใบหน้ายามหลับของคนที่อยู่ข้างๆเขา แล้วก็ได้ผล็อยหลับไปด้วยกัน
จนกระทั่งตอนค่ำ จิ่งชุนก็ได้เปิดประตูออกมาและคิดที่จะถามเจ้านายทั้งสองคนว่าจะทานอาหารไหม แต่นางก็พบภาพที่งดงามในช่วงเวลาหลายปีนี้เข้า
จิ่งชุนก็ได้ยิ้มออกมาด้วยดวงตาของนางเล็กน้อย แล้วปิดประตูลงอย่างเบาๆแล้วถอยออกมา ตัวนางนั้นรู้สึกได้ว่าคุณหนูของนางนั้นต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาตลอด นางจึงได้เป็นกังวลมากว่าคุณหนูอาจจะต้องทุกข์ทรมานเมื่อนางต้องแต่งงานเข้าวัง แต่ในเวลานี้นางนั้นรู้สึกโล่งอกขึ้นมาแล้ว
บางที….บางทีองค์ชายรัตติกาลคนนี้อาจจะเป็นสามีที่ดีก็ได้!
เทียนเอ๋อที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะมือถือตะเกียบพร้อมถึงแม้ว่าน้ำลายของเขาจะเริ่มควบคุมไม่อยู่แล้ว แต่เขาก็ยังรอ หลินซีเหยียนอย่างเชื่อฟังโดยไม่แตะต้องอาหารแม้แต่น้อย
จิ่งชุนก็ได้เดินมาหาแล้วพูดเบาๆ “คุณหนูเหมือนจะเหนื่อยและหลับไปแล้ว นายน้อยทานก่อนได้เลยเจ้าค่ะ!”
มองดูบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารที่น่าอร่อยหลายอย่าง เช่นเดียวกันกับข้าวต้มที่ทั้งนุ่มและหวานอร่อย เทียนเอ๋อก็ได้กลืนน้ำลายแล้วตัดสินใจเริ่มลงมือขยับตะเกียบของเขา
ก่อนที่จะทานเขาก็ได้พูดขึ้นมา “ท่านแม่หลับไปแล้ว เทียนเอ๋อจะช่วยจัดการในส่วนของท่านแม่ให้เองนะ”