หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 822 ความเป็นและความตาย
“ผม…ผมเห็นฟ้าผ่าคุณเยี่ยจริงครับ! ”
โก่วซินเจียแม้จะตัวเล็ก แต่พอยืนตรงนั้น กลับทำให้หวงเต๋อหมิงรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่น่านับถือมาก หวงหมิงเต๋อชะงักไปครู่นึง และหันหลังพูดกับแอร์โฮสเตสว่า “อาลี่ ตอนนั้นเธอห่างจากตรงนั้นไม่ไกลมาก เธอเห็นใช่มั้ย?”
“ใช่ค่ะ ฟ้าผ่ากลางหัวของคุณเยี่ยเทียนเลยค่ะ…”
แอร์โฮสเตสที่ชื่ออาลี่พูดประโยคนี้เสร็จ อุณหภูมิของห้องโดยสารลดลงทันทีทันใด เพราะอาวุโสที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เธอรู้สึกขนลุกซู่ เธอกัดริมฝีปากล่างเอาไว้และพูดด้วยความติดอ่างว่า “ฉัน…ฉันเห็นกับตานะคะ! ”
ตอนนั้นฟ้าร้องฟ้าผ่ายังไม่หายไปทั้งหมด ฟ้าก็ยังสลัวไม่มืด ใครที่อยู่ในระยะไม่กี่กิโลก็สามารถเห็นฟ้าผ่านั่นได้อย่างชัดเจน แล้วนับปรสาอะไรกับพวกเขาที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร เกือบทุกคนที่หันไปทางเยี่ยเทียน ต่างก็เห็นภาพนั้นชัดเจน
“เป็นไปไม่ได้ ด้วยพลังวิชาของน้องเล็ก เขาจะตายเพราะฟ้าผ่าได้อย่างไร? ”
เสียงของแอร์โฮสเตสยังไม่ทันสิ้น จั่วเจียจวิ้นพูดแทรกขึ้นมาด้วยความโมโห แม้แต่อาจารย์จั่วที่เคยอ่อนน้อมเรียบร้อยเวลาอยู่ต่อหน้าผู้คน ตอนนี้เขาไม่ต่างจากสัตว์ป่าที่มีแผลฉกรรจ์ เขาจ้องแอร์โฮสเตสเขม่น ฝ่ายตรงข้ามกลัวจนถอยไปหลายก้าว
“น้องจั่ว ใจเย็นก่อน ความวู่วามไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ฉันเชื่อว่าน้องเล็กต้องไม่เป็นอะไร! ”
โก่วซินเจียคว้าจั่วเจียจวิ้นเอาไว้ ลมหายใจอันเย็นเยือกที่จั่วเจียจวิ้นปล่อยออกมา ไม่มีวี่แววว่าจะลดลงมีแต่จะเพิ่มขึ้น จนแอร์โฮสเตสที่ใส่เสื้อน้อยชิ้นแต่เดิมอยู่แล้ว ถึงกับขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“น้องถัง ต้องรบกวนช่วยเชิญผู้รับผิดชอบของทีมการค้นหามาหน่อย! ”
มีชีวิตเกือบจะร้อยปี ผ่านเรื่องราวใหญ่โตมากมาย กำลังลมปราณของโก่วซินเจียหาใช่คนทั่วไปจะเทียมได้ไม่ แต่จั่วเจียจวิ้นกับโจวเซี่ยวเทียนที่รู้โก่วซินเจียเป็นอย่างดี สัมผัสได้ว่าศิษย์พี่ใหญ่ (ศิษย์ลุง) ดูเหมือนใกล้จะโมโหเข้าไปทุกที
“ครับคุณโก่ว เยี่ยเทียนเป็นคนที่โชคดี ต้องไม่เป็นอะไร ท่านอย่ากังวลไปเลย”
โก่วซินเจียสามารถเรียกถังเหวินหย่วนว่าน้อง แต่ถังเหวินหย่วนไม่กล้าเรียกเขาว่าพี่ หลังจากที่รู้ว่าโก่วซินเจียเคยเป็นคนเบื้องหลังของคุณเจียง เขาจะใช้คำนำหน้าว่าคุณตลอด จะต่อหน้าหรือลับหลังเขาจะให้ความเคารพมากเป็นพิเศษ
“ผมใจร้อนไปหน่อย น้องถัง รีบให้คนไปเรียกเขาเข้ามาเถอะ! ”
โก่วซินเจียยิ้มที่เห็นหญิงสาวพวกนั้นมีอาการปากสั่นตัวสั่น ลมหายใจอันเย็นเยือกเมื่อกี้ก็จางหายไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเขา แล้วอุณหภูมิในห้องโดยสารก็กลับมาสู่ปกติ
จนถึงตอนนี้ แม้แต่คนที่ตอบสนองช้า ก็มองออกว่าความไม่ธรรมดาของโก่วซินเจียเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันในใจของทุกคนรับรู้แล้วว่าเยี่ยเทียนมีความสำคัญมากแค่ไหน เวลาที่โก่วซินเจียไม่ออกเสียง คนอื่นอยากจะหายใจยังต้องระมัดระวัง กลัวไปรบกวนอาวุโสที่น่ากลัวท่านนั้น
“คุณโก่ว คนนี้คือคุณบาเดอค็อกสหพันธรัฐใหม่และบริษัทค้นหาครับ บริษัทของพวกเขาเป็นบริษัทที่ทันสมัยที่สุดในโลก และยังมีอัตราการค้นหาสำเร็จบนน่านน้ำสูงที่สุด! ”
เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ถังเหวินหย่วนพาผู้ชายผิวขาวคนหนึ่งเดินเข้า บรรยากาศในห้องอบอุ่นขึ้น หวงหมิงเต๋อและคนอื่นต่างก็แอบสบายใจขึ้น
“ทันสมัยที่สุดในโลก อัตราการค้นหาสำเร็จบนน่านน้ำสูงที่สุด? ”
โก่วซินเจียขมวดคิ้ว มองบาเดอค็อก และพูดกับเขาด้วยภาษาเยอระมันว่า “เยี่ยเทียนหายไปเกือบ 24 ชั่วโมงแล้ว ทำไมถึงยังไม่พบร่องรอยใดๆ? นี่หรือคือประสิทธิภาพการทำงานของพวกคุณ? ”
แม้ว่าโก่วซินเจียจะอายุมาก แล้วหลายสิบที่ผ่านมานี้เขาหลบซ่อนอยู่แต่ในป่า แต่เขาเป็นคนที่ผ่านเหตุการณ์สำคัญมาก่อน ตอนนั้นแม้แต่นายพลดอนัลด์ที่มีชื่อเสียงไม่นานท่านนั้น ก็ยังต้องตรงไปตรงมาต่อโก่วซินเจีย สำหรับโก่วซินเจียการพูดคุยกับชาวต่างชาติ โก่วซินเจียไม่เคยประณีประนอม
“โอ้ว อาวุโสท่านนี้ ท่านพูดภาษาเยอรมันเก่งมาก! ” ชาวต่างชาติชอบแบบนี้ การที่ผู้อื่นจ้างเขาด้วยเงินมหาศาลเพื่อค้นหาผู้สาบสูญ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับงานของเขาอยู่แล้ว
“คุณไม่ต้องชมหรอก ผมแค่อยากรู้ว่างานของพวกคุณดำเนินการไปถึงไหนแล้ว! ” โก่วซินเจียส่ายหัวและพูดแทรกคำชมของช่าวต่างชาติ
ช่วงครึ่งศตวรรษที่แล้วก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง โก่วซินเจียมีหน้าที่รับผิดชอบข่าวกรองของต่างประเทศเป็นหลัก เขาใช้เวลาครึ่งค่อนปีในการฝึกภาษาเยอะรมัน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษและภาษาสเปน แม้จะพูดตอนนี้ก็ไม่ได้ติดขัดตรงไหน พูดคล่องราวกับใช้ชีวิตที่เยอรมันมาหลายปี
“ครับท่าน เรื่องนี้คงจะโทษพวกเราไม่ได้”
บาเดอค็อกหยักไหล่และพูดด้วยสีหน้าไร้เดียงสาว่า “เมื่อวานน่านน้ำแห่งนี้เกิดพายุลูกใหญ่ แม้อุบัติเหตุทางเครื่องบินจะเกิดขึ้นตรงขอบของพายุ แต่มีความเป็นไปได้ที่ทำให้เกิดพายุเฮริเคน ถ้าเป็นเช่นนั้น คนที่พวกคุณต้องการหา อาจจะปรากฏตัวอยู่น่านน้ำที่ห่างออกไปหลายร้อยหรือหลายพันไมล์! ”
เขาชะงักไปครู่หนึ่งและพูดต่อว่า “การทำงานการค้นหาบนทะเล ไม่สามารถทำให้แล้วเสร็จในวันสองวัน บริษัทของเราเคยค้นหาคนๆเดียวที่หายไปนานสิบสี่วันจนสำเร็จ และเรื่องนั้นก็เกิดที่มหาสมุทรอินเดีย เพราะฉะนั้นผมกล้าพูดได้เลยว่า ไม่มีบริษัทไหนในโลกที่เชี่ยวชาญเท่าบริษัทของเราอีกแล้วครับ! ”
“คุณโก่ว เป็นความจริงครับ! ” เมื่อเห็นว่าโก่วซินเจียไม่ค่อยรู้จักอาชีพนี้สักเท่าไหร่ ถังเหวินหย่วนที่ยืนด้านข้างจึงใช้ภาษาจีนขยายความอีกครั้งด้วยเสียงแผ่วเบา
บาเดอค็อกไม่ได้พูดโอ้อ้วด แต่เนื่องจากลักษณะเฉพาะของงานกู้ภัยทางทะเล โดยทั่วไปจะดำเนินการร่วมกันโดยหน่วยงานการกุศลทางทหารและหน่วยงานเอกชนของประเทศต่างๆ
ตัวอย่างเช่นพลังกู้ภัยและการค้นหาทางทะเลของอังกฤษประกอบด้วยหน่วยยามฝั่ง ทหารและหน่วยงานตำรวจเป็นต้น พลังประชาชนประกอบด้วย องค์กรการกุศลที่ช่วยชีวิตในทะเลโดยเรือ องค์กรการกุศลที่ช่วยชีวิตในทะเลและประชาชนอาสาสมัครเป็นต้น
แต่หน่วยงานกึ่งราชการเหล่านี้ ยังมีข้อบกพร่องต่างๆ นานา ในการค้นหาบางครั้งที่ต้องใช้เงินหรือเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก การค้นหาในครั้งนั้นมักจะปฏิบัติภารกิจแบบพอเป็นพิธี เรือไททานิกที่จมลงใต้มหาสมุทรในตอนนั้น จึงมีคนเคยประนามว่ารัฐบาลช่วยเหลือไม่เต็มที่
ด้วยเหตุนี้เอง หน่วยงานการกู้ภัยทางทะเลของประชาชนทั่วไปจึงเริ่มก่อตัวขึ้น บริษัทสหพันธรัฐใหม่ก็คือหนึ่งในบริษัทที่โดดเด่น ความระมัดระวังและความตั้งใจในการทำงานของคนเยอรมัน ทำให้พวกเขากลายเป็นแกะนำของวงการนี้
พวกเขาไม่เพียงแต่ปฏิบัติภารกิจกู้ภัยทางทะเล แต่ยังเข้าร่วมโครงการกู้ซากเรือด้วยความกระตือรือร้น กำลังของพวกเขาแข็งแกร่งมาก และการที่ถังเหวินหย่วนเชิญพวกเขาเข้าร่วมการค้นหาเยี่ยเทียน เขาใช้เงินไปเยอะมาก
“แบบนี้เองเหรอ? ”
หลังจากฟังถังเหวินหย่วนอธิบายเสร็จ โก่วซินเจียพยักหน้าและพูดว่า “ผมหวังว่าพวกคุณจะเพิ่มกำลังคน ห้าวัน ภายในห้าวันต้องหาคนให้เจอ…”
“สามวัน พระเจ้า เป็นไปไม่ได้ เพราะคน…คนที่ท่านตามหา อาจจะไปพบพระเจ้าแล้วก็ได้! ”
บาเดอค็อกยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อได้ยินแบบนั้น เนื่องจากตรวจจับสัญญาณตำแหน่ง GPRS ใต้เก้าอี้ของเหลยหู่ไม่เจอ พวกเขาสันนิษฐานว่าเก้าอี้อาจจะเสียหายตอนที่ถูกฟ้าผ่า และทั้งคู่อาจจะเสียชีวิตแล้ว
ดั่งเช่นเหตุการณ์แบบนี้ หน่วยค้นหาทั้งหมดทำได้เพียงวิธีเดียว นั่นก็คือค้นหาตามเส้นทางกระแสของน้ำ หากโชคดี ก็จะพบศพของผู้ตาย แต่สิ่งที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดกลับเป็นซากกระดูกขาวที่เหลือจากการถูกกัดกินของปลาต่างๆ
“เยี่ยเทียนต้องไม่ตาย แม้ว่าเขาตาย ผมก็ต้องเห็นคน ตายก็ต้องเห็นศพ! ”
โก่วซินเจียชี้นิ้วและพูดว่า “ถึงแม้สิ่งที่หาเจอคือศพของเยี่ยเทียน ผมก็จะเพิ่มเงินให้อีกสิบล้านดอลล่าร์ โอเคหรือยัง? ”
ถังเหวินหย่วนได้ยินสิ่งที่โก่วซินเจียพูด เขารีบพูดออกไปว่า “บาเดอค็อก เงินก้อนนี้ผมจะโอนเข้าบัญชีของบริษัทคุณครับ”
“ครับ ผมจะนำทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่มาใช้ และจะปฏิบัติให้เต็มที่ครับ! ”
คิ้วที่ขมวดอยู่ของบาเดอค็อกคลายออกทันทีที่ได้ยินเงื่อนไขใหม่ของโก่วซินเจีย ด้วยคอนเนคชั่นต่างๆ ของบริษัท พวกเขาสามารถระดมทีมกู้ภัยของรัฐบาลจากหลายประเทศมาเข้าร่วมได้ แม้ว่านี่จะเป็นมหาสมุทรผืนใหญ่ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะพบศพของเยี่ยเทียน
“คุณถัง งั้นผมไปจัดการเลยนะครับ! ”
สำหรับการกู้ภัยช่วยชีวิต เวลาทุกวินาทีนั้นมีค่ามาก บาเดอค็อกร่ำลาถังเหวินหย่วนเสร็จ เขารีบออกจากห้องโดยสารและจะนำข้อตกลงใหม่นี้แจ้งให้กับบริษัทรับทราบ เพื่อเพิ่มกำลังการกู้ภัย
“อาจารย์ปู่ อา…อาจารย์ของผม? ” หลังจากบาเดอค็อกออกไปแล้ว ตาของโจวเซี่ยวเทียนเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา จนเกือบจะร้องออกมา
โจวเซี่ยวเทียนจากการเป็นโจรขโมยสุสานจนมีชีวิตทุกวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะเยี่ยเทียนเป็นคนให้เขา ในใจของโจวเซี่ยวเทียน เยี่ยเทียนไม่ได้เป็นแค่อาจารย์ แต่เป็นเหมือนดั่งพ่อคนนึง ที่มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน ซึ่งคนอื่นไม่สามารถจินตนาการได้
“พูดพร่อยๆ! ”
โก่วซินเจียผู้ไม่เคยหยาบคายต่อหน้าเด็กรุ่นหลัง โมโหขึ้นมากะทันหัน พลังชี่อันแรงกล้าแผ่ออกมาจากร่างอันบางของเขา ชี่แท้ที่ใกล้เคียงกับแก่นแท้นั่น เหมือนพายุทอร์นาโด มันพัดแรงจนคนในห้องโดยสารเซไปเซมา
เยี่ยเทียนเป็นความหวังเดียวที่จะฟื้นฟูสำนักเสื้อป่าน เขายอมตายแต่ไม่ยอมให้ศิษย์น้องเล็กได้รับอันตรายใดๆ คำพูดของโจวเซี่ยวเทียนทำให้ความกดดันที่เก็บไว้มานานระเบิดออกมา
“ศิษย์พี่ใหญ่ ระงับความโกรธ! ”
แม้ว่าในใจของจั่วเจียจวิ้นจะเป็นทุกข์ แต่เขายังมีสติ เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดีเขาจึงรีบห้ามโก่วซินเจีย เพราะถ้าปล่อยให้เขาโกรธต่อไป เกรงว่าเรือลำนี้อาจจะถูกโก่วซินเจียรื้อถอนทั้งหมด
พอโก่วซินเจียได้สติแล้ว เขาก็รีบดึงชี่แท้กลับมา จากนั้นก็จ้องเขม่นโจวเซียวเทียนและพูดว่า “ศิษย์น้องเล็กไม่เป็นอะไร ถ้าแกกล้าแช่งอาจารย์แกอีก ฉันจะหักขาแก! ”
“ที่…ที่จริง คุณ…คุณลุงเยี่ยไม่ตาย! ”
และในตอนที่ห้องโดยสารเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมจนแทบหายใจไม่ออก เสียงของสาวน้อยคนนึงดังขึ้น ทุกคนหันไปตามเสียง และพบกับเด็กสาวรูปร่างผอมบางนั่งอยู่ตรงมุมนึงของห้องนี้
“หล่อนเป็นใคร? ”
โก่วซินเจียมองกัปตันด้วยความสงสัย แต่เขาไม่รอให้หวงหมิงเต๋อตอบ เขาเดินเข้าไปเจียงซานและพูดกับหล่อนว่า “เด็กน้อย หนูรู้ได้อย่างไรว่าเยี่ยเทียนยังไม่ตาย? ”
…………………………….