หมอดูยอดอัจฉริยะ - ตอนที่ 655 ฟ้าถล่มดินทลาย (3)
8:22น. นิวยอร์ค เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์
เหมือนกับทุก ๆ วัน ในช่วงเช้า เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เป็นสถานที่ที่คึกคักที่สุด ที่นี่รวบรวมอัจฉริยะจากทั่วโลกไว้มากมาย คนที่เตรียมตัวมาแลกเปลี่ยนธุรกิจกันก็ได้เตรียมสิ่งที่จะต้องทำไว้แล้ว
ไม่มีใครรู้เลยว่า ทางหนีไฟที่เคยมีแต่พนักงานทำความสะอาดจะเข้าไป จะมีคน ๆ หนึ่งกำลังวิ่งขึ้นไป
กำลังกายของเยี่ยเทียนกับการปรับความสมดุล กำลังทำงานอย่างเต็มที่ แต่ละก้าวของเขาค่อนข้างกว้าง หนึ่งก้าวสามารถข้ามบันไดได้ถึงสิบกว่าขั้น
ตอนที่เลี้ยว ร่างของเยี่ยเทียนยืดหยุ่นราวกับนกนางแอ่น พนักงานทำความสะอาดหลายชั้นถึงกับมองไม่ทันเพราะเยี่ยเทียนหายไปต่อหน้าต่อตาอย่างรวดเร็ว
ห้องที่ปิดผนึกกับอากาศที่ขุ่นมัว ทำให้เยี่ยเทียนต้องกลั้นหายใจเอาไว้ ส่วนลมที่วิ่งอยู่ในกายเป็นพลังลมปราณชีวิตดั้งเดิมทั้งหมด
ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วบวกกับใจที่กังวลที่สุด ตอนที่ขึ้นไปถึงชั้นที่หกสิบ หน้าผากของเยี่ยเทียนเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ส่วนชุดลำลองที่ใส่อยู่ เหมือนเอาไปแช่ในน้ำ เพราะตอนนี้มันแนบสนิทไปกับลำตัวของเขาแล้ว
“แปดสิบ!”
เมื่อเยี่ยเทียนเห็นตัวเลขที่แขวนอยู่ตรงกำแพง ลมปราณที่กลั้นเอาไว้ มันก็ถึงขีดสูงสุด เขาอ้าปากและพ่นมันออกมา เป็นเส้นสีขาวที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพุ่งออกมาจากปากของเยี่ยเทียน
8:35น. มองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ เยี่ยเทียนพบว่า ตัวเองวิ่งขึ้นมาแปดสิบชั้นใช้เวลาไปทั้งหมดแค่ 13 นาที ไม่รู้ว่าสถิตินี้สามารถยื่นขอจดการทำลายสถิติโลกบนกินเนสส์บุ๊คส์ได้หรือเปล่า?
“บัดซบเอ้ย ใครทำวะ?”
ตอนที่เยี่ยเทียนบิดกลอนประตู พบว่าประตูถูกล็อกจากข้างใน เยี่ยเทียนไม่มีเวลาคิดแล้ว เขาจึงใช้ไหล่ชนเข้ากับประตู เสียง “ผัวะ” ดังขึ้น ประตูเหล็กทั้งบานถูกชนจนเปิดออก
“เสี่ยว…..เสี่ยวเทียนใช่มั้ย?”
เยี่ยเทียนยังไม่ทันสูดอากาศบริสุทธ์ เสียงของแม่ก็ดังขึ้นมาข้างหู สำหรับเยี่ยเทียนแล้ว นี่เป็นเสียงจากฟ้าเลยแหละ
“แม่ ใครให้แม่มาที่นี่ ผมบอกแล้วไง สองสามวันนี้อย่ามาที่นี่!”
แม่ที่ยืนอยู่ข้างประตูกระจก มีสีหน้าแสดงออกมาเหมือนเห็นผี ความร้อนรุ่มที่อยู่ในใจของเยี่ยเทียนอดกลั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงได้ตะโกนใส่ซ่งเวยหลัน
“ลูก ลูก……เป็นอะไร?”
ซ่งเวยหลันมองเยี่ยเทียนอย่างงุนงงและมองไปที่ประตูหนีไฟที่ถูกชนจนพัง เธอพูดว่า “แม่ลืมสัญญาไว้ฉบับหนึ่ง นี่ก็จะกลับแล้ว ลูกจะโกรธอะไรขนาดนั้น?”
หลายวันที่อยู่แต่ในบ้าน ไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น มันนิ่งสงบมาโดยตลอด ทำให้ซ่งเวยหลันแอบสงสัยในการทำนายของเยี่ยเทียน เธอจึงคิดว่าจะแวะมาครู่เดียวคงไม่เป็นอะไร
แล้วสัญญาฉบับนี้ก็เก็บไว้ในห้องทำงานของเธอ คนอื่นก็หยิบให้ไม่ได้ ซ่งเวยหลันจึงต้องมาเอาด้วยตัวเอง ซ่งเวยหลันไม่ได้มองว่านี่เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น
แต่สภาพของลูกชายที่อยู่ตรงหน้าทำให้เธอทั้งโกรธทั้งขำ คนอะไรอายุ 20 กว่าแล้ว ยังรีบร้อนเป็นเด็กไปได้ แถมยังไม่ใช้ลิฟต์แต่วิ่งขึ้นบันไดมาอีกต่างหาก ตัวที่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อนั่นอีก เหมือนขึ้นมาจากแม่น้ำซะอย่างนั้น
“ผมโกรธอะไรล่ะ? แม่ แม่อยากให้ผมตายรึไง?”
เยี่ยเทียน เกือบบาดเจ็บเพราะแม่ของเขา ตอนที่กำลังจะพูด สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที จากกระดูกสันหลังไปจนถึงด้านหลังศีรษะจู่ ๆ ก็รู้สึกเย็นวาบและชา ๆ
ความรู้สึกแบบนี้เยี่ยเทียนเพิ่งสัมผัสมันเมื่อไม่นานมานี้ มันเป็นช่วงที่ปะทะกับแอนโทนีมาร์คัส มันเป็นสัญญาณแห่งความตายที่กำลังจะมาถึง!
ในเวลาเดียวกัน มีเสียง “วิ๊ง ๆ ” ดังขึ้น เมื่อมองผ่านกระจกใสของห้องทำงาน เยี่ยเทียนพบว่า ขอบฟ้าตรงนั้น มีเครื่องบินลำนึงเพิ่งโผล่ส่วนหัวออกมาจากกลุ่มเมฆ
“พระเจ้า ผมรู้แล้ว!” ตอนนี้เยี่ยเทียนรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ในที่สุดเขาก็เข้าใจสักทีว่าภัยพิบัติมาจากทางไหน
เพราะในสมองของเยี่ยเทียน มีภาพเครื่องบินพุ่งเข้าใส่ตึกเวิลด์เทรดแล้ว นี่เป็นความสามารถการรับรู้ที่ซินแซฮวงจุ้ยมีเท่านั้น อันตรายใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เยี่ยเทียนไม่ต้องทำนายอีกแล้วก็ได้
“ไอ้พวกกลุ่มก่อการร้ายเลว พวกแกจะเล่นฉันแบบนี้เหรอวะ!”
ในที่สุดเยี่ยเทียนก็เข้าใจสักทีว่าสิ่งที่อับดุลลาฮ์พูดหมายความว่าอะไร หลังจากเครื่องบินพุ่งชนตึกเสร็จ กลุ่มก่อการร้ายพวกนี้จะกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
แต่ถ้าอับดุลลาฮ์ยืนอยู่ตรงหน้าเยี่ยเทียนในเวลานี้ เยี่ยเทียนจะฆ่ามันให้ตายคามือ ตึกอาคารในอเมริกามีมากมาย เลือกอะไรไม่เลือก ทำไมต้องเลือกตึกที่ทำงานของแม่เขาด้วย?
“แม่ รีบไปกัน!”
ความรู้สึกที่เหมือนโดนไฟช็อต ทำให้เยี่ยเทียนเห็นรอยยิ้มของพระเจ้าแห่งความตายอีกครั้ง เขาไม่มีเวลาอธิบายอะไรให้แม่ฟังทั้งนั้น เขาคว้าเอวของแม่ขึ้นมาอุ้มไว้
“ไอ้ลูกคนนี้ ทำอะไรเนี่ย ปล่อยแม่ลงนะ คนอื่นเห็นจะทำยังไง?”
แม้ว่าจะถูกอุ้มโดยลูกชาย แต่ซ่งเวยหลันก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก เธอเป็นถึงเจ้าของบริษัทระดับสูงในตึกนี้ ถ้ามีคนมาเห็นจริง ๆ พรุ่งนี้เช้าคงได้ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์การเงินแล้ว
“แม่ แม่อยากให้พ่อสูญเสียเมียกับลูกชายในวันเดียวมั้ยละ?”
เยี่ยเทียนในเวลานี้แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว เขาหันกลับไปดูเครื่องบินที่คนปกติอาจจะมองไม่เห็นลำนั้น จากนั้นก็เดินเข้าทางหนีไฟทันที
…………-
เอมส์ เจ้าหน้าที่บริษัทประกัน AIG อารมณ์ดีมาก แม้ว่าหนุ่มคนนั้นจะซื้อประกันของเขาจริงหรือไม่ แต่ก็เป็นโอกาสหนึ่งไม่ใช่เหรอ? มีคนมากมายรวยเป็นมหาเศรษฐีร้อยล้านจากการขายประกัน พวกเขาก็รวยเพราะโอกาสที่ไม่โดดเด่นแบบนี้แหละ
“เห้ คนสวย ผมขอเลี้ยงกาแฟคุณสักแก้วได้มั้ย?”
เมื่อเขาเห็นสาวผมบลอนด์หุ่นดีที่นั่งข้างหน้าต่างตรงนั้น เอมส์ก็ยิ่งอารมณ์ดี พระเจ้าใจดีกับตัวเองมาก ตอนที่เขาเบื่อก็ยังมีผู้หญิงสวยปรากฏตัวข้าง ๆ เขา
แต่เอมส์ตัดสินใจแล้วว่า ต้องลองขายประกันให้กับสาวสวยคนนี้สักหน่อย เพราะเอมส์มองปุ๊ปก็รุ้เลยว่า กระเป๋าหนังรุ่นลิมิเต็ดยี่ห้อ LV เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด
“ไปไกล ๆ เอาก้นของคุณออกจากที่นั่งตรงนั้น!”
แต่สิ่งที่เอมส์คิดไม่ถึงเลยคือ สาวที่ดูอ่อนโยนคนนี้ แค่เปิดปากก็เริ่มด่าคนซะแล้ว ทำให้เขารู้สึกทำอะไรไม่ถูก ก้นยังนั่งไม่สนิทก็ไม่รู้ว่าจะยกขึ้นหรือไม่ยกขึ้นดี
“ยังไม่ไปอีก?”
ตอนนี้แอนนากำลังรอเยี่ยเทียนอย่างใจร้อน ในใจมีแต่ไฟที่พร้อมจะระบายออกมา เธอจึงจ้องเขม่นไปและคว้าคอเสื้อของเอมส์เอาไว้
“พระเจ้า เกิด……เกิดอะไรขึ้น?”
ตอนที่แอนนาดึงคอเสื้อเอมส์ไว้และกำลังจะโยนเขาออกไป แต่เอมส์กลับนิ่งไปทั้งตัว ดวงตาแสดงอารมณ์ที่ไม่น่าเชื่อออกมา จ้องมองท้องฟ้านอกหน้าต่างอย่างตะลึง
“อะไร?” แอนนาก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง และหันหัวตามสายตาของเอมส์ ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้แอนนาไม่สามารถลืมมันได้เลยทั้งชีวิต
เครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน พุ่งเข้าใส่ชั้นบนของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ทางเหนือ จากนั้นเสียงระเบิดก็ดังขึ้นอย่างสนั่น แม้แต่กระจกของร้านกาแฟริมถนนยังมีเสียงร้าวดังขึ้น
“พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
แม้ที่ผ่านมาแอนนาจะมีจิตใจที่เข้มแข็งมาก แต่ในเวลานี้ กลับรู้สึกเหมือนโดนคนบีบคอจนขาดอากาศหายใจ เพราะเธอรู้ว่า ออฟฟิศของซ่งเวยหลันอยู่ทางเหนือของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์
และเยี่ยเทียนเพิ่งเข้าไปข้างในตึกเมื่อ 20 นาทีที่แล้ว มันทำให้แอนนาถึงกับกรีดร้องออกมาอย่างดัง เธอลุกขึ้นวิ่งไปข้างนอกทันที
ภาพที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวนี้ ทำให้ผู้คนแถวแมนฮัตตันยังตกตะลึงไปตามกัน อาคารสัญลักษณ์ตัวแทนนิวยอร์คเริ่มมีเขม่าควันลอยขึ้นฟ้า มันลอยขึ้นจนเกือบปิดท้องฟ้าไว้ทั้งหมด
เสียงระเบิดยังคงดังขึ้นเป็นระยะ เชื้อเพลิงเป็นสิบ ๆ ตันของเครื่องบินยังคงไหลออกมาไม่หยุด มันยิ่งทำให้ไฟลุกขึ้นหนักกว่าเดิม
เพียงครู่เดียว ทิศเหนือของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ก็ถูกปกคลุมไปด้วยควันดำ เศษซากกำแพงที่แตกเพราะระเบิดลอยหล่นกระจายไปทั่ว เหมือนวันโลกแตกกำลังมาถึง!
ผู้คนที่เดินอยู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น บริเวณที่ถูกควันดำปกคลุมไว้เหมือนเป็นนรกบนโลก พื้นดินกำลังสั่น ท้องฟ้ากำลังร้องไห้
ฝูงชนกำลังวิ่งกันไปคนละทิศคนละทาง เสียงตะโกนร้องไห้ได้ยินทั่วทิศ เศษก้อนหินที่หล่นจากฟ้านับร้อยอันคร่าชีวิตคนไปแล้วนับไม่ถ้วน ความหวาดกลัวค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น
“ช่วยคน รีบช่วยคน……”
“โทร 911 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหล่ะ?”
“ผู้ก่อการร้ายโจมตี นี่เป็นการเปิดศึกกับอเมริกาแน่ ๆ !”
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที ฝูงชนที่หวาดกลัวก็เริ่มช่วยตัวเอง พวกเขาพบว่ามือถือไม่มีสัญญาณแล้ว เบอร์โทรทุกเบอร์ไม่สามารถโทรออกได้
การตื่นตัวจากเหตุการณ์อันตรายของคนอเมริกานั้นเร็วมาก หลังจากที่เครื่องบินลำนั้นพุ่งชนตึกไปแค่ 3 นาที รถดับเพลิงคันแรกก็มาถึงใต้ตึกพร้อมไฟสัญญาณเตือน
“ให้ฉันเข้าไป นายหญิงของฉันอยู่ในนั้น!”
แอนนาที่เพิ่งมาถึงใต้ตึกทิศเหนือถูกคนกันเอาไว้ ตอนนี้สติของแอนนาหลุดไปหมดแล้ว เธอถูกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพาไปยังจุดที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
……-
ถอยเวลากลับไปเมื่อ 5 นาทีก่อน เยี่ยเทียนที่อุ้มซ่งเวยหลันและไม่สนใจเสียงตะโกนโหวกเหวกของแม่ เขาวิ่งลงบันไดสุดชีวิต
เวลาลงบันไดยากกว่าตอนขึ้น ก็เลยทำให้ช้าลงเกือบเท่านึง เขาใช้เวลาไป 6 นาที เยี่ยเทียนมองตัวเลขตรงกำแพง ตอนนี้เพิ่งจะชั้นที่ 48!
ตอนที่เข็มนาฬิกาชี้ไปที่ 8.46 นาที 40 วินาที เสียงระเบิดอันน่าตกใจดังขึ้นข้างหูเยี่ยเทียนกับซ่งเวยหลัน
จากนั้นทั้งตึกก็เริ่มสั่น กำแพงรอบข้างของตึกเริ่มแตกออกเป็นรอยร้าว ราวกับว่าจะถล่มลงไปได้ทุกเมื่อ
“เยี่ยเทียน เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?”
ซ่งเวยหลันรู้สึกถึงความโยกสั่นของตึก พอเห็นกำแพงเริ่มมีรอยร้าวเหมือนเส้นใยแมงมุม เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติ จากนั้นสีหน้าก็เริ่มซีดลงทันที
“ไม่มีอะไรครับ แม่ปิดตา คนที่จะมาเก็บชีวิตของเยี่ยเทียนยังไม่เกิด แม้แต่พระเจ้าก็ห้ามเก็บไปเด็ดขาด!”
เยี่ยเทียนกัดฟัน และทรงตัวให้ตรง จากนั้นก็เดินลงบันไดต่อ
…………………………………….