หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 97 เจ้านายซุปเปอร์สตาร์ที่มาช้า
บทที่ 97 เจ้านายซุปเปอร์สตาร์ที่มาช้า
หลังจากที่ซูเยียนรันตกลงไปในอ้อมแขนของตนเอง ลู่เสี้ยงหยางก็ตกตะลึง บนตัวสามารถรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและสัดส่วนที่มีความยืดหยุ่นเต็มที่ของซูเยียนรัน ที่จมูกได้กลิ่นหอมจางๆราวกับกลิ่นกล้วยไม้ที่เจาะลึกเข้าไปในหัวใจจนสดชื่น
โอ้!
ลู่เสี้ยงหยางต้องมนตร์ไปชั่วขณะ เขาก้มหัวลงโดยไม่รู้ตัว น่าเสียดายอย่างมาก จากองศาที่เขามองลงไปสามารถมองเห็นร่องอกที่ลึกซึ้งนั้นได้
ปัง!
หัวใจของลู่เสี้ยงหยางเต้นอย่างรุนแรงราวกับถูกทุบด้วยค้อนยักษ์ อาการช๊อคนี้ยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
ในเวลาเดียวกันซูเยียนรันที่อยู่ในอ้อมแขนของลู่เสี้ยงหยางก็สังเกตเห็นสายตาของลู่เสี้ยงหยาง ใบหน้างามเลื่องชื่อนั้นปรากฏเส้นเลือดฝาดสีแดงก่ำ หัวใจเต้นอย่างรุนแรงในทรวงอก ราวกับว่าสามารถโผล่ออกมาจากลำคอได้ทุกเมื่อ
ถึงแม้ว่าเธอจะชอบความรู้สึกนี้มาก แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะอาลัยอาวรณ์ รีบผละออกจากอ้อมแขนของลู่เสี้ยงหยาง
“ประ ประธานลู่ ขอโทษค่ะ ที่เมื่อกี้ฉันทำตัวหยาบคาย” ซูเยียนรันรีบกล่าวขอโทษต่อลู่เสี้ยงหยาง ใบหน้าสวยแดงระเรื่อราวกับลูกพีชที่สุกงอม ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะอยากกัด
ตึกตัก!
คนโดยรอบที่เป็นผู้ชายเหมือนกันจำนวนไม่น้อยพากันกลืนน้ำลาย มองเห็นท่าทางที่ขวยเขินของซูเยียนรันเช่นนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะลูบคลำเธอ
แต่เหล่าสุภาพสตรีเหมือนกันต่างก้มหน้าลงด้วยความอับอาย รูปร่างหน้าตา และรัศมีของพวกเธอล้วนแต่เทียบไม่ได้กับซูเยียนรัน
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มให้ซูเยียนรัน และแสดงท่าทางว่าไม่เป็นไร จากนั้นก็มองไปที่ สวีข่ายหรัน พร้อมกับกล่าวว่า : “ตอนนี้คุณมีทางเลือกสองทาง หนึ่ง ออกไปอย่างเปิดเผย สอง ให้เกียรติในสิ่งที่คุณเพิ่งจะพูดไป”
ทันทีที่พูดคำนี้ออกไป ทุกคนต่างมองไปที่สวีข่ายหรันด้วยความเพลิดเพลิน ผู้ชายคนนี้กล้าที่จะล่วงเกินลู่เสี้ยงหยาง ไม่ใช่การรนหาที่ตายชัดๆงั้นเหรอ?
การแสดงออกบนหน้าของสวีข่ายหรัน เปลี่ยนไปชั่วขณะ
ท้ายที่สุดแล้วก็กัดฟันและคุกเข่าลง เริ่มที่จะเห่าแบบสุนัขออกมา : “โฮ่งโฮ่ง”
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ที่ทำอย่างนี้จะทำให้เขารู้สึกอับอาย แต่เมื่อเทียบกับอนาคตของตนเอง สิ่งนี้ไม่นับว่ามีความหมายอะไรเลย
สุดท้ายแล้วเฟยหยางกรุ๊ปก็เป็นยักษ์ใหญ่ของในอุตสาหกรรมบันเทิง ทรัพยากรของวงการบันเทิงในมือของพวกเขามีเกินกว่าครึ่ง ถ้าหากเฟยหยางกรุ๊ปหมายหัวเขา และต้องการที่จะสกัดกั้นเขา สิ่งนั้นมันง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ในห้องประชุมเสียหัวเราะเยาะดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ได้เห็นคนอย่างสวีข่ายหรัน ทำตัวน่าอายเช่นนี้ พวกเขาอยากดูใจจะขาด
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างเรียบเฉย แล้วส่ายหัว คิดไม่ถึงเลยว่าสวีข่ายหรัน จะสามารถอดทนกับความอัปยศอดสูได้จริงๆ
“ไปให้พ้นซะ ต่อจากนี้ผมไม่อยากเห็นคุณอีก” ลู่เสี้ยงหยางโบกมือของเขา
“ครับ ครับ ประธานลู่” สวีข่ายหรันพยักหน้าราวกับเป็นกระเทียม แล้วตาลีตาเหลือกลุกขึ้นมาจากพื้น แล้วหายวับไปกับตา
อย่ามองว่าตอนนี้ภายนอกของเขานั้นยอมจำนน แต่ว่าภายในใจเกลียดชังลู่เสี้ยงหยางและเฟยหยางกรุ๊ปถึงขีดสุดไปแล้ว
“ไอ้ลู่เสี้ยงหยางสมควรตาย เฟยหยางกรุ๊ปสมควรตาย นับตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะไม่มีวันยอมยุติกับพวกแก” ในใจของสวีข่ายหรันคิดอย่างรุนแรงและมีความคิดที่จะแก้แค้นลู่เสี้ยงหยางและเฟยหยางกรุ๊ปเรียบร้อยแล้ว
ภายในห้องประชุม
เมื่อเวลาผ่านไป อาการช็อคของทุกคนค่อยๆสงบลง เมื่อทุกคนมองไปทางลู่เสี้ยงหยาง ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกเกรงกลัว นี่คือเจ้านายใหญ่ของพวกเขาเลยนะ
ในอดีตพวกเขาได้ยินว่าเจ้านายของพวกเขาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ชอบมาแบบผลุบๆโผล่ๆแวบเดียวก็หายวับไปแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็ได้พบแล้ว
ซูเยียนรันจ้องไปมองที่เสี้ยงลู่หยางตลอดเวลา ยิ่งมองยิ่งรู้สึกปากคอแห้งผาก นี่คือท่านประธานจอมเผด็จการตัวจริงสินะ
“คนที่ฉันอยากจะแต่งงานด้วยเป็นคนอย่างประธานลู่หรือเปล่านะ” ซูเยียนรันคิดในใจ
“ฮ่าฮ่า ประธานลู่ เนื่องจากคุณมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราเริ่มทดสอบหน้ากล้องกันเถอะ”
จินอานฉวน ยิ้มแล้วพูดกับลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า
จินอานฉวนได้อธิบายง่ายๆเกี่ยวกับพล๊อตของบทให้กับลู่เสี้ยงหยาง
ในตอนที่ตัวเอกชายมีชีวิตชีวาและมีพลัง บริษัทได้ล้มละลายเนื่องจากปัญหาการลงทุน ตัวเอกฝ่ายชายขังตัวเองไว้ในห้องอย่างไร้ซึ่งหนทาง
ลู่เสี้ยงหยางยิ้ม เขาเคยได้พบกับประสบการณ์เหล่านี้เป็นการส่วนตัวมาแล้ว
ในตอนที่เขาถูกครอบครัวขับไล่ออกมา แล้วแต่งเป็นเขยเข้าบ้านตระกูลเย่ ในช่วงเวลานั้นที่ไหนก็ตามที่ไม่มีใคร เขาก็จะรู้สึกหมดหวังไร้ซึ่งหนทาง
เพราะฉะนั้นอารมณ์เช่นนี้เขาไม่จำเป็นต้องจงใจปรุงแต่ง เพราะมันฝังลึกลงไปในกระดูกนานแล้ว และสามารถส่งผ่านหน้ากล้องออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
“ดีดี เยี่ยมมากเลย สมบูรณ์แบบมาก ผมนึกสงสัยว่าบทนี้มันถูกเขียนออกมาโดยมีประธานลู่เป็นต้นแบบ” จินอานฉวนปรบมือแล้วหัวเราะเสียงดัง และพอใจกับการแสดงของลู่เสี้ยงหยางมาก
นักแสดงคนอื่นๆต่างก็ประหลาดใจกันอย่างมากเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เสี้ยงหยางอยู่ในกล้อง แต่แสดงออกมาได้สมบูรณ์แบบขนาดนี้ หรือว่านี่จะเป็นเจ้านายซุปเปอร์สตาร์ที่มาช้างั้นเหรอ?
สายตาของซูเยียนรันร้อนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มีลู่เสี้ยงหยางแสดงเป็นนักแสดงนำชายในละครทีวีเรื่องนี้ จะต้องการันตีเรทติ้งผู้ชมได้อย่างแน่นอน ประการแรกในแง่ทรัพยากรของเฟยหยางกรุ๊ปจะต้องเอนเอียงมาดูละครเรื่องนี้อย่างไม่ลังเล ประการที่สองดูจากเรื่องที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ทักษะการแสดงของลู่เสี้ยงหยางนั้นยอดเยี่ยมมาก
ตอนนี้ละครยังไม่ได้ออกอากาศ ก็มีสามปัจจัยแห่งความสำเร็จทั้งจังหวะเวลาที่ตั้งและพลังของคนแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คว้าเรทติ้งผู้ชมระดับสูง
“ฮิฮิ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะประสบความสำเร็จในวงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ในปีนี้ก็เป็นได้” ซูเยียนรันคิดในใจ
หลังจากการทดสอบหน้ากล้องจบลง ผู้กำกับได้กำหนดให้ลู่เสี้ยงหยางเป็นนักแสดงนำชายของละครเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ในเวลาเดียวกันก็มอบบทให้กับลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางพลิกดูบทลวกๆ ถึงได้รู้ว่าที่แท้ละครเรื่องนี้มีชื่อว่า ‘กาลเวลาที่บากบั่น’
หลังจากนั้นผู้กำกับก็ให้เวลาและสถานที่ถ่ายทำกับลู่เสี้ยงหยาง และเมื่อถึงเวลาถ่ายทำอีกครั้งขอให้เขาไปที่สถานที่ถ่ายทำด้วย
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า หลังจากนั้นเพราะบริษัทไม่มีงานอะไรแล้ว เขาจึงออกจากเฟยหยางกรุ๊ป
ที่ใต้อาคาร สายตาก็มองเห็นเฉินห้านหลินคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ขยับ
ลู่เสี้ยงหยางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนนี้สู้สุดชีวิตจิตใจเพื่อที่จะได้ร่วมงานกับเฟยหยางกรุ๊ปต่อไป
“ประธานลู่ครับ ผมมีหัวใจอันบริสุทธิ์สำหรับความร่วมมือกับเฟยหยางกรุ๊ป ขอเพียงประธานลู่มอบโอกาสให้ผมอีกครั้ง จากนี้ผมจะทำผลงานให้ดี จะไม่เสียแรงเปล่าที่โปรโมทซูเยียนรันให้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์เลยครับ” เฉินห้านหลินรีบแสดงจุดยืนของเขา
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าและกล่าวว่า “ผมมอบโอกาสให้อีกครั้งก็ได้ แต่จำไว้ว่า ผมให้โอกาสนี้เพราะเห็นแก่ชิวรั่วหาน”
“ครับครับครับ ประธานลู่ ผมทราบครับ ขอบคุณประธานลู่ที่เมตตาไม่ขุ่นเคืองคนที่มีความรู้ด้อยกว่าเช่นผม” เฉินห้านหลินตื่นเต้นจนน้ำตาแทบจะไหลออกมา ในช่วงที่ลู่เสี้ยงหยางเข้ามาที่บริษัท เขาไม่สบายใจมาโดยตลอดเพราะกลัวว่าลู่เสี้ยงหยางจะเตะเขาออกไป
……
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และพริบตาเดียวก็ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ในหนึ่งสัปดาห์นี้ทุกอย่างล้วนสงบนิ่ง เหยียดตัวนอนได้ไม่นาน โทรศัพท์ของลู่เสี้ยงหยางก็สั่น เพราะได้รับข้อความทางมือถือที่ส่งมาโดยถังหลง