หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 93 สมัครนักแสดงพิเศษงั้นเหรอ
บทที่ 93 สมัครนักแสดงพิเศษงั้นเหรอ
จ้าวหรูเย็นเขินอายกับการกระทำของลู่เสี้ยงหยาง จนไม่กล้ามองหน้าเขา ได้แต่ก้มหน้าลงแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นเขา
อย่างไรก็ตามกลับเกิดความรู้สึกผิดปกติขึ้นในใจของเธอ ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้รังเกียจน้ำที่พุ่งออกจากปากของเธอเลย
“ลู่เสี้ยงหยาง คุณเป็นคนที่หน้าหนาอะไรขนาดนี้ ไม่ละอายใจเลย”
จ้าวหรูเย็นหน้าแดงและพูดอย่างอ่อนแรง รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว
ลู่เสี้ยงหยางเลียน้ำที่พุ่งออกจากปากเธอ นั่นหมายความว่าพวกเขาจูบกันทางอ้อมอีกแล้วใช่หรือเปล่า?
ลู่เสี้ยงหยางพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า : “หน้าหนา แต่พอได้กินแล้ว หวานมากเลยนะ”
ตอนที่เขาพูดถึงประโยคสุดท้าย ก็แลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของเขา
อี๋!
จ้าวหรูเย็นพูดไม่ออกไปโดยสิ้นเชิง ใบหน้าสวยนั้นแดงก่ำจนถึงขีดสุด หัวใจเต้นอย่างรุนแรงอยู่ในอกราวกับว่าสามารถกระโดดออกมาได้ทุกเมื่อ
“เหอเหอ” ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมา ในใจครุ่นคิดว่าจะแกล้งจ้าวหรูเย็นอย่างไรดี
แต่ในตอนนี้เอง จ้าวต้าไห่เดินเข้ามาในคลินิกจากด้านนอก
เมื่อมองเห็นความเขินอายของบุตรสาวเช่นนี้แล้ว ก็มองไปทางลู่เสี้ยงหยางอย่างสงสัย เด็กคนนี้คงไม่ได้ทำเรื่องที่ดีกับลูกสาวเขาสินะ?
ลู่เสี้ยงหยางถูกมองด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติแล้ว หลังจากหัวเราะแห้งๆสามสี่ครั้ง เขาก็หยิบหนังสือทางการแพทย์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่าน
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ จ้าวต้าไห่ยิ่งคิดฟุ้งซ่าน
“แค่กแค่ก คนหนุ่มสาวชอบเล่นสนุกเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ว่าจะต้องใส่ใจกับสุขภาพด้วย” จ้าวต้าไห่เอ่ยเตือนด้วยใจกรุณา
ถึงแม้ว่าลู่เสี้ยงหยางจะไม่ใช่ผู้ที่มากด้วยประสบการณ์ แต่เมื่อได้ฟังก็เข้าใจความหมายของประโยคนี้ และใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำอย่างอดไม่ได้
จ้าวหรูเย็นนั้นไร้เดียงสา แม้แต่แฟนก็ไม่เคยพูดถึง ถึงจะฟังไม่เข้าใจ แต่เมื่อเธอมองเห็นท่าทางการแสดงออกของลู่เสี้ยงหยางแล้วก็สรุปได้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“พ่อ พ่อกลับมาแล้ว หนูมีข่าวดีจะบอกค่ะ”
จ้าวหรูเย็นพูดอย่างตื่นเต้น
เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของจ้าวต้าไห่ และถามว่า : “ ลูก ลูกท้องงั้นเหรอ?”
อะไร?
ตั้งท้อง?
คนบ้านี่!
จินตนาการอะไรกัน!
พอพูดประโยคนี้ออกมาแล้ว ทั้งลู่เสี้ยงหยางและจ้าวหรูเย็นก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะ
“พ่อ พ่อพูดอะไรเนี่ย? หนูเป็นผู้หญิงง่ายๆประเภทนั้นเหรอคะ?” จ้าวหรูเย็นกระทืบเท้า แล้วพูดกับจ้าวต้าไห่อย่างดุเดือด
หัวใจของจ้าวต้าไห่ที่แขวนเอาไว้สูงได้ลดลงมาเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเขาจะชื่นชมลู่เสี้ยงหยางเป็นอย่างมาก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าลู่เสี้ยงหยางจะเป็นลูกเขยของตน แต่เรื่องการมีบุตรก่อนแต่งงานเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
“อะแฮ่ม ลูกสาว เรื่องดีๆที่อยากจะบอกคืออะไรเหรอ?” จ้าวต้าไห่ถามอย่างกระดากอาย
จ้าวหรูเย็นหันไปมองลู่เสี้ยงหยางแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า : “เมื่อกี้นี้วังเฉิงเจียง มาที่คลินิกของเราค่ะ เดิมทีจะมาทวงหนี้ แต่ถูกลู่เสี้ยงหยางส่งออกไปแล้วค่ะ”
จ้าวต้าไห่ขมวดคิ้ว วังเฉิงเจียง ขึ้นชื่อเรื่องรับมือได้ยาก เขานึกสงสัยว่าลู่เสี้ยงหยางใช้วิธีอะไรไล่เขาไป จึงเอ่ยถามทันที
จ้าวหรูเย็นพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ด้วยใจที่เหลือเชื่อ เกือบจะสั่นไปทั้งตัวในตอนที่พูดเรื่องนี้จนจบ
จ้าวต้าไห่ฟังลูกสาวบรรยายเรื่องนี้จนจบโดยไม่พูดอะไรสักคำ รู้สึกเซื่องซึมโดยสมบูรณ์ ตัวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นแข็งทื่อราวกับรูปสลักหิน
ลู่เสี้ยงหยางใช้เหตุผลในการรักษาโรคนี้เป็นข้ออ้างที่บริสุทธิ์ในการโกงเงินวังเฉิงเจียงถึงสามแสนเหรียญ และวังเฉิงเจียงยังมีความสุขมากอีกด้วย
“ไม่ไม่ไม่ นี่มันเป็นไปไม่ได้แน่ๆ วังเฉิงเจียงแสนฉลาดคนนี้ จะถูกแบล๊คเมล์ได้อย่างไร” จ้าวต้าไห่ส่ายหน้า
จากนั้นลู่เสี้ยงหยาเอ่ยว่า : “คุณลุง พูดแย่ๆขนาดนี้ได้ยังไงกันครับ ใครบอกว่าผมแบล๊คเมล์เขา? ผมรักษาโรคให้เขา มันคุ้มค่ากับเงินนะครับ”
เฮอะ!
เหงื่อเย็นออกไปทั่วทั้งตัวของจ้าวต้าไห่ ไม่ใช่แค่วิธีนั้นจะไม่โอเค แต่เอ่ยปากต้องการสามแสนเหรียญ ใครจะเชื่อ?
ลู่เสี้ยงหยางไม่สนใจความละอายใจของจ้าวต้าไห่ และเอ่ยต่อ : “นอกจากนี้ที่ผมเรียกเงินค่ารักษาจากเขาสามแสนเหรียญก็เพื่อคลินิกของพวกเรา ครอบครัวของพวกคุณติดหนี้เขาอยู่หนึ่งล้านไม่ใช่เหรอ? สามแสนนี้จะถูกหักออกจากบัญชีหนึ่งล้าน”
อะไรนะ?
ฟังคำพูดนี้แล้ว ทั้งจ้าวต้าไห่และจ้าวหรูเย็นต่างก็เกิดความประหลาดใจ
ที่แท้ลู่เสี้ยงหยางหลอกวังเฉิงเจียงอยู่เป็นเวลานาน เงินจำนวนนี้ไม่ได้เข้ากระเป๋าตัวเอง แต่เพื่อชำระหนี้ให้คลินิกของพวกเขา
จ้าวหรูเย็นรู้สึกตื้นตันใจ ในตอนที่มองลู่เสี้ยงหยาง ภายในใจมีความรู้สึกมากมาย
จ้าวต้าไห่ตบต้นขา ยิ่งมองลู่เสี้ยงหยางก็ยิ่งเจริญตามากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าจะต้องเป็นลูกเขยของตนเองแน่ๆ!
แต่ทว่าเมื่อคิดอะไรได้บางอย่างในวินาทีต่อมา เขากลอกตาไปที่ลู่เสี้ยงหยางทันที “ทำไมนายถึงเรียกเงินแค่สามแสนเหรียญ ถ้าเป็นฉัน ฉันจะรับเงินจากเขาหนึ่งล้านเหรียญมาเลยโดยตรง เพื่อเอามาชำระหนี้ของคลินิกเราในครั้งเดียว”
“…” ครั้งนี้ถึงคราวที่ลู่เสี้ยงหยางพูดไม่ออก
หลังจากนั้นนั่งอยู่ในคลินิกไม่นาน ลู่เสี้ยงหยางก็ได้รับสายโทรศัพท์
สายนี้มาจากหลี่ซือซือประธานรักษาการของเฟยหยางกรุ๊ป
“ว่ายังไง? เกิดเรื่องงั้นเหรอ?” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยถาม
หลี่ซือซือพูดอย่างลังเล “ประ ประธานคะ ฉันมีเรื่องอยากจะรบกวนให้ช่วยออกหน้าให้หน่อยค่ะ”
“ว่ามาสิ” ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้ว หลี่ซือซือ มีความสามารถอันโดดเด่น เรื่องที่เธอจัดการไม่ได้จะต้องเป็นปัญหาใหญ่
“เอาล่ะค่ะ ท่านประธาน เรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ” เมื่อหลี่ซือซือ พูดมาถึงตรงนี้ ชะงักไปชั่วครู่ แล้วจึงพูดว่า : “มันเป็นเรื่องเดียวกันกับที่เคยพูดกับประธานเมื่อคราวก่อนน่ะค่ะ ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงในประเทศไปหาซูเยียนรัน ต้องการให้เธอรับบทนำหญิงของละครเรื่องนี้ จนถึงตอนนี้นักแสดงนำหญิงได้รับการตัดสินใจแล้ว แต่นักแสดงนำชายยังไม่เจอผู้ได้รับคัดเลือกที่เหมาะสม ผู้กำกับใหญ่ท่านนั้นรู้ว่าคุณเป็นผู้ที่เหมาะสมต่อการคัดเลือกมากที่สุด ท้ายที่สุดแล้วการแสดงละครเรื่องนี้ จะเป็นการแสดงที่โดดเด่นและเป็นธรรมชาติของประธานนะคะ ดังนั้นผู้กำกับใหญ่จึงขอให้ฉันถามความสนใจของท่านประธาน ว่าพอจะมีเวลามาร่วมแสดงหรือเปล่า?”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า และปฏิเสธไปโดยตรง ถึงแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์มากมาย แต่สำหรับการแสดงแล้วเขาไม่มีประสบการณ์เลยจริงๆ
แม้ว่าทุกวันนี้ซูเยียนรันจะได้รับความนิยมในวงการดนตรี แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกของวงการการแสดง จึงจำเป็นต้องหานักแสดงนำชายที่มีทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยม ถ้าหากเขารับบทนำฝ่ายชาย อย่างนั้นแล้วทั้งเขาและซูเยียนรันก็จะกลายเป็นหน้าใหม่ทั้งคู่ ไม่มีทางจะรับประกันเรทติ้งของผู้ชมได้อย่างแน่นอน ถ้าเกิดซูเยียนรันได้รับความล้มเหลวตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์แล้วล่ะก็ มันก็จะยากที่จะพลิกกลับมาอีกครั้งในอนาคต
หลี่ซือซือ สามารถเป็นประธานรักษาการของเฟยหยางกรุ๊ปจัดการงานบริษัทแทนลู่เสี้ยงหยางได้ย่อมต้องฉลาดมากและรู้ความคิดของลู่เสี้ยงหยาง
“โอเคค่ะท่านประธาน ความกังวลของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน งั้นเอาอย่างนี้ไหมคะ คุณมาลองทดสอบหน้ากล้องดูสักหน่อยไหมคะ แล้วให้ผู้กำกับตัดสินดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง” หลี่ซือซือกล่าวขอร้องอย่างอ่อนแรง
หลี่ซือซือ พูดทุกอย่างจนมาถึงจุดนี้แล้ว ลู่เสี้ยงหยางจึงไม่ปฏิเสธอีก เขาพยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า : “เอาเถอะ ผมจะรีบไป”
“ตกลงค่ะประธาน คุณมาถึงแล้วฉันจะออกไปรับนะคะ” หลี่ซือซือ รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
หลังจากวางสายแล้ว ลู่เสี้ยงหยางประกาศกับจ้าวหรูเย็นและจ้าวต้าไห่ว่าตนเองยังมีธุระและออกจากคลินิก
จ้าวหรูเย็นมองตามลู่เสี้ยงหยางจากไปอย่างนิ่งงัน ในใจเธอรู้สึกว่างเปล่าอีกครั้ง ราวกับว่าชั่วขณะที่เธอไม่ได้อยู่กับลู่เสี้ยงหยาง เธอก็รู้สึกว่างเปล่าไปทั้งตัวและไม่มีที่พึ่งทางใจ
“เฮ้” จ้าวต้าไห้ที่อยู่ด้านข้างถอนหายใจ และพูดด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง “พ่อได้ยินเสียงในโทรศัพท์ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้หญิงนะ ลูกเอ๋ย ถ้าหากว่าลูกชอบลู่เสี้ยงหยางจริงๆ ก็ต้องรีบลงมือนะ”
จ้าวหรูเย็นส่ายหน้าและพูดว่า “พ่อคะ พ่ออาจจะไม่รู้ว่าลู่เสี้ยงหยางแต่งงานแล้ว”
ห้ะ?
แต่งงานแล้ว?
จ้าวต้าไห่เกิดความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ แล้วโบกมืออย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “กลัวอะไรกับแต่งงาน หย่าได้นี่นา ลูกจะเป็นเมียน้อยที่ประสบความสำเร็จ ทำให้ลู่เสี้ยงหยางหย่า เช่นนี้แล้วลูกก็สามารถครอบครองตัวเขาได้”
“…” จ้าวหรูเย็นไม่พูดอะไรอีก รู้สึกว่าทัศนคติของเธอถูกล้มล้างไปโดยสิ้นเชิง นี่คือคำพูดพ่อของเธองั้นเหรอ?
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ลู่เสี้ยงหยางมาถึงใต้อาคารเฟยหยางกรุ๊ป ทันทีที่จอดรถเสร็จ ในตอนที่ลงจากรถก็ได้ยินเสียงหัวเราะเย้ยหยันของผู้ชายคนหนึ่ง
“โอ๊ะโอ นี่คือเด็กน้อยหน้าขาวตระกูลเย่ที่เกาะผู้หญิงกินใช่หรือเปล่า? มาที่เฟยหยางกรุ๊ปเพื่อมาสมัครนักแสดงสินะ? ฮ่าฮ่า ตลกจริงๆ ให้ตายเถอะนายมาผิดที่แล้วล่ะ”
ทันทีที่เขาพูดจบ เฉินห้านหลินก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่หยิ่งยโส!