หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 66 ใช้แฟนร่วมกัน
บทที่ 66 ใช้แฟนร่วมกัน
“คุณ…..คุณ….ไปเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?” เย่สวนมองลู่เสี้ยงหยางอย่างอึ้งๆแล้วเอ่ยถามขึ้นมา
ซื้อรถBMW M8สามคัน บวกค่าธรรมเนียมเข้าไปด้วย ก็คงราวๆแปดล้าน
ลู่เสี้ยงหยางยักไหล่ พูดว่า “ผมโชคดี เมื่อไม่กี่วันก่อนผมซื้อล็อตเตอร์รี่แล้วบังเอิญถูกรางวัลน่ะ”
“ถูกล๊อตเตอร์รี่?” เย่สวนรับประทานจุด ในภาพจำของเธอ คนที่ซื้อล๊อตเตอร์รี่มีแต่พวกชอบฝันลมๆแล้งๆ
ทันใดนั้น เธอก็เริ่มสอนลู่เสี้ยงหยางอย่างอดไม่ได้ “ครั้งนี้ที่คุณถูกล็อตเตอร์รี่ มันเป็นเพราะว่าคุณบังเอิญโชคดี และมันไม่มีทางที่คุณจะโชคดีแบบนี้ทุกครั้ง การซื้อล็อตเตอร์รี่มันก็คือการเล่นพนันดีๆนี่แหละ ต่อไปนี้คุณก็เพลาๆลงบ้างนะ ถ้าไม่มีเงินก็มาทำงานที่บริษัทฉันก็ได้ ฉันจะให้เงินเดือนคุณสูงๆเลย”
ลู่เสี้ยงหย่างหัวเราะ ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ผมซื้อเล่นแก้เบื่อเฉยๆ ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่ามันจะถูกรางวัล ไปทำงานที่บริษัทคุณก็คงทำได้แค่ชั่วคราว ผมมีงานของผมน่า”
“โอเคแล้วแต่คุณเลยงั้น” เย่สวนไม่พูดอะไรกับลู่เสี้ยงหยางให้มากความอีก
กลางคืน ตอนที่กำลังจะถึงสี่ทุ่ม หลิวจิ้งถึงได้กลับบ้าน
เมื่อเห็นเย่สวนก็ยิ้มออกมาอย่างปลาบปลื้มแล้วพูดว่า “ลูกแม่ แก่นี่สมกับเป็นลูกแม่จริงๆ ไม่เสียแรงที่ฉันเลี้ยงดูแกมา”
เย่สวนแค่ยิ้มไม่ได้พูดอะไร เรื่องที่ลู่เสี้ยงหยางถูกล็อตเตอร์รี่เลยซื้อรถให้ เธอยังไม่พูดดีกว่า
แม่ของเธอเป็นพวกเห็นแก่ได้ เธอรู้ดี ว่าถ้าให้แม่รู้ว่าลู่เสี้ยงหยางมีเงิน แม่ต้องหาทางขอเงินกับเขาแน่ๆ
ในตอนนี้เองที่หลิวจิ้งนั่งลง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาว่า “ความรู้สึกตอนนั่งรถหรูมันต่างจริงๆนะ ขนาดควันรถที่ถูกปล่อยออกมา ฉันยังรู้สึกว่าหอมเลย”
เมื่อได้ยินที่เธอพูด ลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึกขำ จนต้องส่ายหัวอย่างอดไม่ได้
โชคไม่เข้าข้าง เมื่อหลิวจิ้งหันมาเห็นลู่เสี้ยงหยางขำเข้าพอดี หลิวจิ้งรู้สึกไม่พอใจ จึงชี้หน้าพร้อมพูดฉีกหน้าลู่เสี้ยงหยางขึ้นมา “ผีตายอดตายอยากอย่างแก ยังจะมีหน้ามาขำอีกนะ ชาตินี้ทั้งชาติแกมีปัญญาซื้อรถแบบนี้ไหม?”
“ถ้าเป็นBMW M8 ทั้งคันคงไม่มีปัญญาหรอกครับ แต่ถ้าล้อรถข้างหนึ่งผมซื้อได้นะ” ลู่เสี้ยงหยางพูดออกมาเล่นๆ
“หึ ไม่เอาไหน เห็นหน้าแกฉันก็หงุดหงิดอีกแล้ว” หลิวจิ้งพูดอย่างฮึดฮัด
ตั้งแต่ที่เธอได้BMW M8มา เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนชั้นสูง ถ้าอยากจัดการคนชั้นต่ำอย่างลู่เสี้ยงหยาง ยิ่งพูดตรงๆออกไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจมากเท่านั้น
เมื่อได้ยินที่หลิวจิ้งพูดกระทบกระทั่งลู่เสี้ยงหยาง เย่สวนก็ไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป ถลึงตาใส่หลิวจิ้งแล้วพูดว่า “แม่ หยุดพูดได้ไหม”
“หึ” หลิวจิ้งส่งเสียงหึขึ้นจมูกออกมา “วันนี้ฉันอารมณ์ดีหรอกนะ จะไม่ถือสาแล้วกัน”ตอนนี้เธอเป็นคนรวยที่ได้ขับBM M8 ฐานะสูงส่งกว่าพวกความรู้น้อย ไม่จำเป็นต้องไปถือสาหาความกับคนอย่างลู่เสี้ยงหยางก็ได้
……
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วหนึ่งอาทิตย์
ภายในอาทิตย์นี้ ก็ยังนับว่าสงบสุข ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ตอนเช้าของวันนี้ เย่สวนมาทำงานที่ชิงสุยกรุ๊ป ส่วนลู่เสี้ยงหยางไปที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ป
เพิ่งถึงครึ่งทาง เขาก็พบคนคุ้นเคยคนหนึ่ง
จ้าวหรูเย็น
จ้าวหรูเย็นถือกระเป๋าอยู่ในมือ กำลังยืนรอรถที่ป้ายรถเมล์
ลู่เสี้ยงหยางขับตรงไปหาอย่างไม่คิดลังเล จากนั้นก็จอดรถลงตรงหน้าของจ้าวหรูเย็น
จ้าวหรูเย็นก้มหน้ามอง ก็พบว่าเป็นรถสปอร์ตยี่ห้อดัง ไม่น่าจะเกี่ยวกับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก ยืนรอรถเมล์ต่อไป
ลู่เสี้ยงหยางกดเลื่อนหน้าต่างรถลง ตะโกนบอกคนที่อยู่ข้างนอกว่า “ขึ้นรถ”
จ้าวหรูเย็นรู้สึกว่าเสียงนี้คุ้นหูมากๆ ทันทีที่ก้มหน้าลงมองก็เห็นลู่เสี้ยงหยางยื่นหน้าออกมาจากหน้าต่างรถ
“นี่…ลู่…ลู่….ลู่เสี้ยงหยาง คุณเองหรอกเหรอ” จ้าวหรูเย็นประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่คิดเลยว่าจู่ๆลู่เสี้ยงหยางจะขับรถมาจอดลงตรงหน้า
แต่เมื่อคิดกลับกัน ลู่เสี้ยงหยางเป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเย่ จะไปเอาเงินแต่ไหนมาซื้อรถสปอร์ตกันล่ะ รถคันนี้คงเป็นรถของเย่สวนล่ะสิ
เมื่อคิดได้ดังนี้ สีหน้าของจ้าวหรูเย็นก็ฉายแววซับซ้อนออกมา ในขณะเดียวกันในใจก็รู้สึกอึดอัด
คืนวันนั้น ตอนที่เธอไปทานข้าวกับลู่เสี้ยงหยาง แม้ว่าช่วงท้ายๆจะดื่มจนเมา แต่พอวันรุ่งขึ้นเริ่มสร่างเมา เธอก็พอจำเรื่องที่เธอทำในคืนนั้นได้รางๆ ว่าเธอจูบลู่เสี้ยงหยาง
ชั่วขณะ เธอก็เริ่มเสียใจและโทษตัวเอง
ลู่เสี้ยงหยางมีภรรยาแล้ว ทำไมเธอถึงทำอย่างนั้นนะ?
ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา เธอก็ตัดสินใจว่าต่อไปนี้จะไม่ติดต่อกับลู่เสี้ยงหยางอีก เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อเจอหน้ากัน
แต่ไม่คิดเลยว่าพึ่งผ่านมาแค่ไม่กี่วัน เธอกับลู่เสี้ยงหยางจะกลับมาเจอกันอีก
“ยืนบื้ออะไรอยู่ รีบขึ้นรถได้แล้ว” เมื่อเห็นจ้าวหรูเย็นยืนนิ่งไม่ยอมขยับ ลู่เสี้ยงหยางก็พูดเร่ง ตามมาด้วยเปิดประตูรถออกมาให้
จ้าวหรูเย็นลังเลอยู่สักพัก จากนั้นถึงได้ค่อยๆขึ้นไปนั่งบนรถช้าๆ
“วันนี้ไม่ได้ทำงานที่คลินิกเหรอ?” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยถาม
จ้าวหรูเย็นตอบกลับไปว่า “ฉันเข้าเมืองมาซื้อยาน่ะ”
“อ่อ” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้าแล้วพูดว่า “เดี๋ยวไปส่ง”
จ้าวหรูเย็นเงียบไม่ส่งเสียงอะไรออกมา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลู่เสี้ยงหยางก็มาส่งจ้าวหรูเย็นที่ตลาดขายส่งผลิตภัณฑ์ยา
จ้าวหรูเย็นเริ่มจัดการธุระของตัวเอง เริ่มหาซื้อยาตามจุดขายส่งต่างๆ
ลู่เสี้ยงหยางทำหน้าที่เป็นผู้ติดตามเดินตามอยู่ข้างหลัง สายตาจดจ้องไปที่แผ่นหลังของจ้าวหรูเย็น จากนั้นก็กลืนน้ำลายลงคออย่างห้ามตัวเองไม่ได้
วันนี้จ้าวหรูเย็นสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว กับกางเกงยีนส์สีอ่อน ชายเสื้อเหน็บเข้าข้างในกางเกง จึงโชว์สัดส่วนร่างกายของเธอ
พูดได้เลยว่า ขาเรียวๆของเธอดูยั่วยวนเป็นอย่างมาก
เดินวนๆเวียนๆอยู่ในตลาดสักพัก ช่วงเช้าก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลังจากกินข้าวเสร็จ ตอนที่ใกล้จะบ่าย จ้าวหรูเย็นกับลู่เสี้ยงหยางถึงได้ตกลงกันว่า จะกลับไปที่คลินิก
ระหว่างทาง จ้าวหรูเย็นจ้องลู่เสี้ยงหยาง จากนั้นก็ทอดถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้ตัวว่า “ทำไมต้องแต่งงานแล้วด้วยนะ?”
“อะไรนะ?” ลู่เสี้ยงหยางคิดว่าเขาฟังผิด จึงถามกลั้วยิ้มกลับไป
“เอ่อ เปล่า…เปล่า…ไม่มีอะไร” จ้าวหรูเย็นรีบส่ายหน้า เมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกไป ตอนนี้ใบหน้างามล่มเมืองแดงระเรื่อ ดูสวยหวานหยดย้อย จนทำให้คนมองแทบอยากจะเข้าไปกัด
“แหะๆ” ลู่เสี้ยงหยางเกาหัว แล้วหัวเราะแห้งๆออกมา จากนั้นก็พูดหยอกล้อกับจ้าวหรูเย็นอย่างไม่คิดอะไรว่า “ถ้าคุณอยากเลี้ยงดูผม ก็ได้นะ สมัยนี้คนเขานิยมใช้แฟนร่วมกันไม่ใช่เหรอ?”
อะไรนะ?
ใช้ ใช้ ใช้แฟนร่วมกัน?
จ้าวหรูเย็นเขินจนพูดไม่ออก ประกายแดงระเรื่อบนใบหน้าเริ่มลามไปถึงคอ แก้มแดงแปร๊ดเหมือนทาบรัชออน ดูน่ามองเป็นอย่างมาก
“ฮ่าๆๆ” ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะออกมาเสียงดัง ยัยนี่ทำไมน่ารักขนาดนี้? แค่พูดหยอกไม่กี่คำ ก็เขินไม่ไหวแล้ว ดูท่าแล้วแม้แต่แฟนสักคนก็น่าจะยังไม่เคยมีแน่ๆ
ทั้งสองพูดคุยหัวเราะกันตลอดทาง ไม่นาน ลู่เสี้ยงหยางกับจ้าวหรูเย็นก็มาถึงคลินิก
เพิ่งเดินเข้ามาในคลินิกได้ไม่ทันไร ลู่เสี้ยงหยางกับจ้าวหรูเย็นก็ได้เจอกับคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ
ผู้หญิงที่สวมใส่เสื้อโคท รูปร่างสูงเพรียว หน้าตาสะสวย
เธอคนนั้นมีชื่อว่าถังปิงหยู่ ไม่กี่วันเกิดหน้าเกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นเหล็กเกี่ยวเข้าที่ขาของเธอ สาหัสจนเลือดทะลักไหลออกมา
ตอนนั้นลู่เสี้ยงหยางได้โชว์ทักษะทางการแพทย์ด้วยการช่วยห้ามเลือดให้เธอ
ไม่คาดคิดเลยว่า คุณงามความดีนี้จะถูกซูจื้อเฉิงแย่งไปหน้าด้านๆ
หลังจากนั้นเมื่อถังปิงหยู่พ้นอันตราย ลูกน้องของเธอก็พาเธอไปโรงพยาบาล เพื่อทำการช่วยชีวิตต่อไป
เมื่อแผลเริ่มหายดีแล้ว ถังปิงหยู่ก็ได้ยินบอดี้การ์ดบอกว่า ตอนนั้นเป็นซูจื้อเฉิงที่ช่วยเธอห้ามเลือดเอาไว้ จนทำให้เธอพ้นขีดอันตราย
ดังนั้นวันนี้เธอเลยมาเพื่อขอบคุณซูจื้อเฉิงเป็นพิเศษ