หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 60 คิดไว้หรือยังว่าจะตายยังไง
บทที่ 60 คิดไว้หรือยังว่าจะตายยังไง
สีหน้าของหม่าเถิงเฟยหม่นหมองถึงขีดสุด ตอนแรกคิดว่าอันธพาลห้าคนนี้ที่เขาหามาจะจัดการลู่เสี้ยงหยางและเย่สวนได้อย่างอนาถ แต่คิดไม่ถึงว่าลู่เสี้ยงหยางที่เป็นเศษขยะในสายตาของทุกคนจะสามารถต่อสู้ได้ขนาดนี้ สองสามครั้งก็จัดการอันธพาลทั้งห้าคนได้เรียบร้อย
ต้องรู้ว่าอันธพาลห้าคนนี้ไม่ใช่อันธพาลธรรมดา พวกเขาทำงานให้กับท่านเปียวเขาเพิ่งจ่ายเงินยืมตัวอันธพาลห้าคนนี้มากับท่านเปียว
“เชี่ย แม่ง เจ้าเด็กนี่ นายสามารถมาก แต่น่าเสียดายนายทำให้ท่านเปียวโกรธเข้าแล้ว เพียงแค่ฉันโทร เมื่อท่านเปียวลงมาแกต้องคุกเข่าอ้อนวอนขอชีวิต” หม่าเถิงเฟยจ้องลู่เสี้ยงหยางพูดออกมาทีละคำ
“ท่านเปียว?” ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าแสดงความขี้เล่น ซุนสงมีลูกน้องที่ทรงพลังอยู่สองคน คือ อาเปียว เสือ สันนิษฐานว่าท่านเปียวที่หม่าเถิงเฟยพูดถึงคงจะเป็นอาเปียว
“ดูแล้วนายยังไม่สาแก่ใจ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันจะเวลานายหนึ่งนาที เรียกคนที่นายพึ่งได้เรียกมาให้ หมด ฉันจะดูว่า ตัวตลกสองสามคนมาอยู่รวมกัน สามารถเป็นพายุอะไรได้” ลู่เสี้ยงหยางพูดเรียบๆ
อะไรนะ? เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของลู่เสี้ยงหยาง หม่าเถิงเฟยเป็นต้องอึ้ง!
ลู่เสี้ยงหยางให้โอกาสเขาเรียกกำลังเสริมจริงๆ เท่ากับรนหาที่ตายเองไม่ใช่เหรอ?
อย่างไรเขาก็รู้สึกประหลาดใจ วินาทีแรกจึงหยิบมือถือออกมา โทรออกไปสองสาย
สายแรกโทรหาอาเปียว
สายที่สองโทรหาพ่อของเขา
หลังจากโทรเสร็จ ทันใดนั้นหม่าเถิงเฟยก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาก และหัวเราะออกมา “ไอ้น้อง แกตายแน่”
ลู่เสี้ยงหยางทำเป็นไม่ได้ยิน เดินไปข้างกายของเย่สวน มองเธออย่างอ่อนโยน แล้วพูดว่า: “เธอวางใจ แผลบนใบหน้าของเธอ ฉันจะรักษาเธอให้หาย รับรองไม่เหลือรอยแผลเป็น อีกอย่าง อยากลงโทษพวกเขายังไง แค่เธอบอกมา”
หัวสมองของเย่สวนว่างเปล่า และส่ายหัว ลู่เสี้ยงหยางในตอนนี้มีอำนาจ เหนือกว่าผู้ชาย ไม่เหมือนลู่เสี้ยงหยางคนอ่อนแอเหมือนแต่ก่อนสำหรับเธอ
“หรือว่านี่จะเป็นธาตุแท้ของเขา?” เย่สวนคิดในใจ ความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเกิดขึ้นในใจของเธอ
ซุนหยันเสว่ลังเลว่าตัวเองกำลังฝันไปหรือเปล่า เอื้อมมือไปหยิกแขนของเธอไม่หยุด แต่ความเจ็บปวดตรงแขนได้บอกกับเธอว่า นี่ไม่ใช่ความฝัน
แม้แต่ซูเยียนรันผู้เย็นชา สายตาก็จ้องบนตัวของลู่เสี้ยงหยางไว้แน่น ปฏิกิริยาเมื่อครู่ของลู่เสี้ยงหยางนั้นเกินความคาดหมายของเธอ
แต่ไม่นานเธอก็หัวเราะกับตัวเอง: “ก็แค่เป็นกังฟูเพียงนิดเดียวก็เท่านั้น”
ตอนนี้เธอเป็นศิลปินในเฟยหยางกรุ๊ปมีชื่อเสียงเล็กน้อย ในอนาคตอาจกลายมาเป็นนักร้องดัง ในระดับของเธอ สามารถใกล้ชิดกับเด็กหนุ่มมากมาย ข้างกายของเด็กหนุ่มเหล่านั้นมีบอดี้การ์ดคอยติดตามมากมาย ไม่มีใครที่ความสามารถน้อยไปกว่าลู่เสี้ยงหยาง
ด้งนั้นลู่เสี้ยงหยางก็แค่ทำให้เธอแปลกใจเล็กน้อย
“ชายผู้เย่อหยิ่ง ก็ไม่รู้เอาความกล้าหาญมาจากไหน กล้าใช้ให้หม่าเถิงเฟยยกทัพมา นี่เป็นการแสดงออกว่าตัวเองไปไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?” จากนั้น ซูเยียนรันก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงส่ายหัวไม่หยุด
ส่วนถังหลงและโจวหนิงที่ถูกลู่เสี้ยงหยางตีไปกองกับพื้นเมื่อครู่ หลังจากผ่านการต่อสู้ ในที่สุดก็ลุกขึ้นมาจากพื้น เดินมาข้างกายของหม่าเถิงเฟย
“หัวหน้าชั้น เด็กคนนี้หยิ่งเกินไป แม้แต่นายก็ไม่อยู่ในสายตา นายต้องออกหน้าให้พวกเรา ต้องเอาให้มันตาย”
ถังหลงและโจวหนิงพูดอย่างดุเดือด พวกเขาถือว่าเป็นลูกผู้ดีตีนแดงในเมืองปินเหอ ในเมื่อถูกลู่เสี้ยงหยางจัดการอย่างอนาถเช่นนี้ ความเกลียดในใจ ยากที่จะกลืนลงคอ
“วางใจเถอะ ชีวิตที่เหลือของมันจะอยู่บนเตียง และเดี๋ยวพวกนายก็จะได้เห็น มันจะต้องคุกเข่าร้องขอชีวิตกับพวกเรา “หม่าเถิงเฟยยิ้มบางๆ ท่าทีโหดร้ายและกระหาย
“เฮ้อ” หลายคนในห้องส่วนตัวพากันส่ายหัว ลู่เสี้ยงหยางเจ้าเด็กนี่คิดว่าตัวเองรู้กังฟูนิดหน่อยก็สามารถต่อกลอนกับหม่าเถิงเฟยได้งั้นเหรอ
เขาไร้เดียงสาเกินไป นี่คือสังคมเศรษฐกิจ โลกของคนรวย ผู้ชายอย่างลู่เสี้ยงหยางที่รู้กังฟูเพียงเล็กน้อย ยังไงก็ต้องเป็นสุนัขให้คนรวยไม่ใช่เหรอ
เย่สวนตกใจอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นก็ได้สติกลับมา คว้ามือของลู่เสี้ยงหยางและพูดว่า “ตอนนี้เรารีบไปกันเถอะ ฉวยโอกาสตอนที่ทัพของหม่าเถิงเฟยยังมาไม่ถึง”
เธอรู้ว่าลู่เสี้ยงหยางต่อสู้ได้อย่างแน่นอน แต่เรื่องของคืนนี้ไม่ใช่ปัญหาที่จะสามารถแก้ไขได้ ทรัพย์สินของบ้านหม่าเถิงเฟยเกินหมื่นล้าน ต้องการฆ่าคนอย่างลู่เสี้ยงหยางให้ตาย เป็นเรื่องง่าย
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า และพูดว่า: “ไป? ไม่มีทาง คำพูดเมื่อกี้ของฉัน ยังคงมีประสิทธิภาพ อยากลงโทษพวกเขายังไง เพียงแค่เธอพูดออกมา”
เย่สวนร้อนใจจนอยากจะหลบอยู่ใต้เท้า ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้ดื้อขนาดนี้?
สีหน้าของซุนหยันเสว่สับสน แอบเหงื่อไหลแทนเย่สวนและลู่เสี้ยงหยาง ไม่ไปตอนนี้ เดี๋ยวจะไม่มีโอกาส
แน่นอน ไม่นานด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เห็นเพียงชายยักษ์ใหญ่พาผู้ชายโหดเหี้ยมเดินเข้ามาสิบกว่าคน
ชายยักษ์ใหญ่คนนี้เป็นหนึ่งในลูกน้องที่มีความสามารถของซุนสง อาเปียว อาเปียวเพิ่งก้าวเข้ามาในห้องส่วนตัว ก็ได้เห็นลูกน้องห้าคนที่ถูกตีจนกองกับพื้นโดยไม่รู้ว่าตายหรือยัง
“บังอาจ ใครมันช่างกล้า กล้าอยู่ที่KTVมงกุฎทำร้ายคนของฉัน” อาเปียวตะโกนออกมา สายตาพิฆาตรพุ่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
หม่าเถิงเฟยใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข สองในสามก้าวก็ได้ถึงข้างกายของอาเปียว ยิ้มพูดว่า: “ท่านเปียว ในที่สุดนายก็มา หากนายมาช้าอีกนิด เกรงว่าห้องส่วนตัวคงต้องถูกรื้อออกไปหมด”
“หึ” อาเปียวทำเสียงตรงจมูก ความน่ากลัวบนใบหน้าน่ากลัวขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเมฆดำปกคลุม
“เฮ้อ” หม่าเถิงเฟยถอนหายใจ เพื่อจะยุให้อาเปียวโกรธต่อเนื่อง จึงดึงเฉินหลันมาด้วย และพูดว่า: “ท่านเปียวนายดู ผู้หญิงของฉันถูกคนทำร้ายจนกลายเป็นแบบนี้ในพื้นที่ของนาย”
อาเปียวกวาดมองเฉินหลัน ด้วยใบหน้ารู้สึกผิด
ปกติความสัมพันธ์ของเขาและหม่าเถิงเฟยนั้นดีมาก ต่างเรียกพี่เรียกน้องกัน เมื่อเห็นว่าผู้หญิงของหม่าเถิงเฟยถูกซ้อมจนน่าอนาถเช่นนี้ เขาทนต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ
“น้องชายนายวางใจได้ ความยุติธรรมของคืนนี้ ฉันจะช่วยพวกนายทวงคืนเอง” อาเปียวตบไหล่ของหม่าเถิงเฟยเบาๆ พูดอย่างมั่นใจมาก เขาไม่เชื่อว่าในพื้นที่ของเขาใครจะกล้ามาท้าทายเขาได้
“ดี งั้นต้องขอบคุณท่านเปียวแล้ว” ดูเหมือนหม่าเถิงเฟยจะคาดหวังผลแบบนี้ไว้นานแล้ว ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่ชั่วร้าย ยกมือชี้ไปทางลู่เสี้ยงหยาง: “เป็นไอ้โง่คนนี้ที่ลงมือเมื่อครู่ ทำร้ายลูกน้องของนายและผู้หญิงของฉัน”
ทั่วร่างกายของอาเปียวนั้นเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม หันไปมองตามทางที่หม่าเถิงเฟยชี้
ทันใดนั้น ร่างของลู่เสี้ยงหยางกระทบเข้ากับสายตาของเขา
“เชี่ย! ลู่…ลู่…ทำไมถึงเป็นท่านลู่!” อาเปียวตะโกนร้องในใจ ตกใจจนแทบจะกระโดดขึ้นมา ร่างกายสั่นไม่หยุด หน้าผากมีเหงื่อไหลออกมา
ผู้ชายตรงหน้านี้คือใคร?
แม้แต่หัวหน้าของเขาก็ต้องสะพรึงกลัวและคุกเข่าเมื่อได้เห็น!
กุ้งตัวเล็กๆ อย่างเขา อยู่ต่อหน้าพวกเขายังตบให้ตายไม่พอหรือไง
“แม่ง ไอ้โง่หม่าเถิงเฟยคนนี้ทำไมถึงได้ทำให้คุณชายลู่โกรธ ดีไม่ดีฉันคงต้องถูกมันทำให้ตายไปด้วย” อาเปียวร้องไห้โดยไม่มีน้ำตา รู้สึกแค่ว่าขาทั้งสองสั่นไม่หยุด และหม่าเถิงเฟยไม่ได้สังเกตถึงความผิดปกติของอาเปียวเลย ตอนนี้เขารีบมุ่งไปทางลู่เสี้ยงหยางและพูดตะโกน: “ไอ้สวะเอ๋ย คิดไว้หรือยังว่าจะตายยังไง? ปู่อย่างฉันจะทำให้แกสมหวังเอง”