หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 50 ขอแต่งงาน
บทที่ 50 ขอแต่งงาน
ท่านย่า ไม่พอใจอย่างมากกับการตื่นตูมของเลขา เงยหน้าขึ้นกวาดสายตามองไปที่เขา แล้วถามอย่างเย็นชา “แขกวีไอพีงั้นเหรอ แขกวีไอพียังไงกัน”
เลขาหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น และพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ประธานของตงเฟิงกรุ๊ป ประธานจางจางยูนเหา”
อะไรกัน คำพูดแบบนี้เขาเพิ่งจะพูดออกมา เหมือนระเบิดที่กำลังประทุในทันที คลื่นลูกใหญ่ได้พัดกระหน่ำขึ้นในห้องประชุมของตระกูลเย่
ตงเฟิงกรุ๊ปจะใหญ่สักแค่ไหนนะหรือ เป็นหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆของ เมืองปินเหอ ซึ่งมีมูลค่าหลายหมื่นล้าน และมีต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลจาง คอยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ทำให้มีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด
แล้ว ตระกูลจาง เป็นอย่างไรกัน ก็เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งใน เมืองปินเหอ ภายใต้การนำของตระกูล มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ถึง 5 บริษัท
ด้วยการเป็นที่นิยมยอดเยี่ยม เกรงว่าจะมีเพียง หยูเม่ยหยินกรุ๊ป เท่านั้นที่สามารถจะกดดันพวกเขาได้
“แต่กลับไม่รู้ว่า ประธานจาง ของตงเฟิงกรุ๊ปผู้นี้ มีเรื่องอะไรจึงได้มาถึงบริษัทของพวกเรา” หลังจากความสั่นสะเทือนผ่านไป ท่านย่า ก็ได้ถามเลขาขึ้นมา
เลขาพูดด้วยความตื่นเต้น “ดูเหมือนว่าประธานจาง จะสนใจชิงสุยกรุ๊ป ของพวกเรา อย่างไรก็ตาม เขามาครั้งนี้ก็เพื่อไปยัง ชิงสุยกรุ๊ป ของพวกเรา ส่วนวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงคืออะไรนั้น ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด”
“เอาล่ะ อย่างนั้นตอนนี้คุณก็รีบไปเชิญประธานจาง เข้ามา” ท่านย่า ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น และออกคำสั่งไปให้เลขา
“ได้ ท่านประธาน” เลขาเดินออกจากห้องประชุม ออกไปเชิญจางยูนเหา
จากนั้นไม่นาน จางยูนเหา ก็ถูกเลขานำเดินเข้ามา
ทุกคนในตระกูลเย่ ล้วนหันไปมอง ก็พบกับจางยูนเหาในชุดสูทแบบตะวันตก รองเท้าหนังมันเงา ผมที่หวีเป็นทรงโมฮอก ใบหน้าที่ดูทะนงตน รูปลักษณ์ดูมีชีวิตชีวา
ท่านย่า รู้สึกตื่นเต้นมาก ออกไปต้อนรับด้วยตนเอง
ต่อจากนั้น ยังให้เลขาจัดเก้าอี้อีกตัวมาวางไว้ด้านข้างเก้าอี้ประธานกรรมการของเธอด้วย จากนั้นเชิญจางยูนเหาให้นั่งลง
ใน เมืองปินเหอ ตระกูลเย่จัดว่าเป็นตระกูลในแถวที่สองหรือสามเท่านั้น โดยธรรมชาติแล้วพวกเขาย่อมมีความเกรงกลัวตระกูลระดับแนวหน้าแถวหนึ่งอย่างแน่นอน
ภายใต้สถานการณ์ปกติ คุณชายในระดับนี้อย่างจางยูนเหา ไม่ควรค่าแก่การจะมาเยือนตระกูลของพวกเขา แต่เมื่อจางยูนเหามาแล้ว ก็ต้องนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก
หลายคนใน ตระกูลเย่ ไม่กล้าที่จะมอง จางยูนเหาโดยตรง ทำได้แต่เพียงแอบมองอยู่เงียบๆ หรือไม่ก็รีบแอบมองอย่างรวดเร็ว
ในที่สุด ท่านย่า ก็สามารถระงับอารมณ์ไว้ได้ ข่มความระทึกภายในใจ แล้วถามออกไป “คุณชายจาง ไม่ทราบว่าคุณมาถึงตระกูลของพวกเรา มีเรื่องอะไรหรือคะ”
จางยูนเหา ไม่สนใจเธอ แต่สายตาของเขาจ้องไปยัง เย่สวน
ขณะนี้ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น ใบหน้าของเย่สวน มีความสับสนเล็กน้อย
ตั้งแต่ช่วงเวลาแรกที่ จางยูนเหา เดินเข้าประตูมา เธอก็นึกถึงเหตุการณ์มากมายในอดีต
เมื่อสามปีก่อน เธอและจางยูนเหา มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทั้งสองคนมีความคลุมเครืออยู่ช่วงหนึ่ง เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง
ต่อมาก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไร จู่ ๆจางยูนเหาก็หายไป ไปต่างประเทศ เย่สวนจะติดต่อเขาอย่างไรก็ติดต่อไม่ได้ ทำให้เธอโกรธมาก รู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นถูกหลอกเข้าอย่างจริงจัง
ไม่รู้ว่านี่เป็นจิตใจแบบไหนกัน หรืออาจจะเป็นเรื่องความขุ่นเคืองใจ หรือเป็นเพราะโชคชะตา เธอจึงรีบเลือกแต่งงานกับลู่เสี้ยงหยางจึงได้มีเรื่องในภายหลัง
แน่นอน ทุกคนในตระกูลเย่ รวมถึงหลิวจิ้งก็ไม่มีผู้ใครรู้เรื่องนี้เลย ว่าเย่สวนและจางยูนเหาเคยมีความพัวพันแบบนั้นกันมาก่อน
หลังจากผ่านไปสามปี เมื่อได้เห็นผู้ที่เคยมีความคลุมเครือกันมาก่อนอีกครั้งหนึ่ง ในใจของเย่สวนไม่มีความรู้สึกดีอะไรอีก มีแต่เพียงความรู้สึกขยะแขยง
“เหอะๆ” จางยูนเหา ได้ยิ้มอย่างขมขื่น ได้เห็นข้อมูลมากมายที่อยู่ในดวงตาของ เย่สวน ตามแนวโน้มปกติแล้ว ตามวิธีปกติ เรื่องระหว่างเขาและเย่สวน ทั้งสองคนนั้นไม่มีความเป็นไปได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่เต็มใจ เพื่อให้ได้เย่สวนมา ไม่ว่าเขาจะใช้หนทางที่ไม่ธรรมดา หรือจะใช้กลอุบายเล็กน้อย แล้วอย่างไรต่อ
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ จางยูนเหาก็ได้แสดงรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความมั่นใจในตัวเอง พูดกับท่านย่า “ท่านย่า ผมมาตระกูลเย่ของพวกคุณด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามันเป็นการนำโอกาสมามอบให้กับตระกูลเย่ของพวกคุณ”
โอกาสเหรอ
ท่านย่า หน้าแดงด้วยความตื่นเต้น รู้สึกเหมือนตนเองทั้งตัวจะอายุน้อยไปหลายปี
“นี่ นี่ถือเป็นเกียรติสำหรับพวกเราตระกูลเย่ จริง ๆ ขอให้คุณชายจางโปรดวางใจ คุณชายจางเต็มใจให้โอกาสกับพวกเราตระกูลเย่ พวกเราตระกูลเย่ ก็ขอรับเอาไว้อย่างแน่นอน” ท่านย่ากล่าวคำสัญญาไว้อย่างมั่นใจ
“ดี ท่านย่าเป็นคนตรงไปตรงมาจริง ๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็จะเข้าประเด็นเลยนะ” จางยูนเหา กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมได้ยินมาว่าพวกคุณตระกูลเย่ มีหุ้นของ ชิงสุยกรุ๊ป 60% ที่จำนองอยู่กับธนาคาร ตอนนี้ ไห่เทียนกรุ๊ป กำลังมีปัญหา การลงทุนของพวกคุณก็สูญเปล่า หากอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ แล้วพวกคุณยังไม่สามารถชำระเงินกู้ให้กับธนาคารได้ ธนาคารก็จะนำหุ้น 60% ของพวกคุณชิงสุยกรุ๊ป ออกประมูล วันนี้ผมมาหาพวกคุณตระกูลเย่ ก็เพื่อจะจ่ายเงิน600ล้านให้พวกคุณตระกูลเย่ ไปชำระคืนเงินกู้”
อะไรนะ
เมื่อเขาพูดออกมาแบบนี้ ทุกคนในตระกูลเย่ ก็ต้องตกตะลึง รู้สึกว่านี่เป็นความฝันไม่ใช่ความจริง
จางยูนเหา ออกเงินจำนวน600ล้านให้กับพวกเขานำไปชำระเงินกู้ ตระกูลของพวกเขาต้องจ่ายเงินคืนธนาคาร 500 ล้าน และยังมีกำไรเหลืออีก100ล้านอย่างนั้นหรือ
ในขณะที่กำลังตื่นเต้นอยู่นั้น ทุกคนในตระกูลเย่ต่างก็มีคำถามสงสัยอยู่คำถามหนึ่ง ทำไมจางยูนเหาถึงต้องทำแบบนี้
จางยูนเหา กวาดสายตามองไปยังคนในตระกูลเย่ มองออกว่าพวกเขามีข้อสงสัยอยู่ภายในใจ ยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่าผมมีเงื่อนไข”
“เงื่อนไขอะไรหรือ” ท่านย่า ถามขึ้นด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
จางยูนเหา มองไปยังเย่สวน อย่างสงบเยือกเย็น ระงับความปรารถนาภายในใจ แล้วค่อยๆพูดว่า “เงิน 600ล้านนี้ถือเป็นค่าสินสอดที่พวกเราตระกูลจางมอบให้กับพวกคุณตระกูลเย่”
“อะไรนะ”
“สินสอดหรือ”
ทุกคนในตระกูลเย่ต่างหันมองหน้ากัน จางยูนเหาคุณชายคนนี้ชอบใจคุณหนูคนไหนของพวกเราตระกูลเย่กันแน่ จ่าย600ล้านเป็นค่าสินสอด นี่มันเป็นเงินจำนวนมากเลยเช่นกัน
ในตระกูลเย่คนที่สวยที่สุด และมีความสามารถที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลยก็คือ เย่สวน แต่เธอได้แต่งงานไปนานแล้ว จึงไม่แน่จะใช่คนที่จางยูนเหาชอบใจอย่างแน่นอน
อย่างนั้น ในตระกูลเย่นอกจากเย่สวนแล้ว คนที่น่าเป็นไปได้ที่สุดที่จางยูนเหาชอบใจก็คือเย่ซวง
เย่ซวง ก็มีความงดงามมากเช่นเดียวกัน ใบหน้าที่สมส่วนงดงาม รูปร่างที่เซ็กซี่ มักจะชอบใส่กระโปรงสั้นแนบชิดสะโพก เวลาเคลื่อนไหวสะโพกขณะเดิน ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าจะดึงดูดใจเพียงไร
สักพักหนึ่ง หลายคนใน ตระกูลเย่ก็มองไปยังเย่ซวงโดยไม่ทันรู้ตัว
“เอ่อ…..” เย่ซวงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ใบหน้าเริ่มมีความเคร่งเครียด
หากว่าเธอได้รับความชื่นชอบจากคุณชายแบบจางยูนเหาในเวลาปกติ เธอคงจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ แต่เป้าหมายของเธอในตอนนี้คือการแต่งเข้าตระกูลเศรษฐีของเหมืองหลวงอย่าง ตระกูลลู่
เมื่อเทียบกับระหว่าง ตระกูลจางและตระกูลลู่ไม่มีอะไรที่จะเปรียบเทียบกันได้อย่างสิ้นเชิง
ตระกูลลู่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งแถวหน้าของทั้งประเทศจีน แต่ ตระกูลจางเป็นเพียงแค่พวกเศรษฐีระดับแถวหน้าในสถานที่เล็ก ๆ อย่างเมืองปินเหอเท่านั้น
เย่เจิ้งซานพ่อของเย่ซวง รู้สึกลืมตาอ้าปากขึ้นมาทันที ที่ลูกสาวในบ้านของพวกเขาจะได้แต่งงานกับจางยูนเหา ในอนาคตเขาก็สามารถจะโดดเด่นกว่าพี่ใหญ่เย่เจิ้งกั๋วได้
ในขณะเดียวกัน คนจำนวนมากในตระกูลเย่ก็มีความชมเชยต่อเย่เจิ้งซานอยู่แล้ว
หลิวจิ้งซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างเย่สวน ไม่ได้พูดอะไร แสดงท่าทีที่น่าเกลียดมากออกไป ไม่รู้กี่ครั้งแล้วที่ภายในใจด่าทอคนไร้ค่าแบบนี้
มันจะไม่เจ็บปวดเลยถ้าไม่มีการเปรียบเทียบ เย่ซวงยังไม่ได้แต่งงานออกไป สินสอดจำนวน 600ล้านจากฝ่ายสามีล้วนถูกส่งมา
ในตอนนั้นที่ลูกสาวของเธอแต่งงานกับลู่เสี้ยงหยาง เธอไม่เพียงแต่จะไม่ได้รับสินสอดเท่านั้น แม้แต่คนในครอบครัวของลู่เสี้ยงหยางก็ยังไม่เคยได้เจอแม้แต่คนเดียว
เธอมักจะสงสัยอยู่เสมอว่า ลู่เสี้ยงหยาง เป็นเด็กกำพร้า
“ฮ่าๆ คุณชายจางคุณนี่ตาถึงจริง ๆ เย่ซวงของพวกเรายังไม่ได้แต่งงาน เรื่องของงานแต่งงานผมจะดูแลเอง ขอเพียงแค่ คุณชายจางยินดี ก็สามารถจะมาพาเย่ซวงของพวกเราได้ทุกเมื่อ” ในเวลานี้ท่านย่า ลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุขมาก มองไปยังจางยูนเหาแล้วพูดขึ้นมา
หากสามารถอาศัยจางยูนเหา เพื่อไต่เต้าไปสู่ตระกูลจางซึ่งเป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองปินเหอ อย่างนั้นในอนาคตพวกเขาตระกูลเย่ก็คงไม่มีความจำเป็นต้องไปมองหยูเม่ยหยินกรุ๊ปอีก
บนใบหน้าของคนในตระกูลเย่ ล้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และทุกคนก็พร้อมที่จะเริ่มประจบคนของเย่เจิ้งซานแล้ว
แต่ในขณะนี้ จางยูนเหาก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ท่านย่า ผมคิดว่าพวกคุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่ผมชอบใจไม่ใช่เย่ซวง แต่เป็นเย่สวน วันนี้คนที่ผมจะมาขอแต่งงาน ที่ผมพูดถึงคือเธอ”
อะไรนะ
ไม่ใช่เย่ซวงหรือ แต่เป็น เย่สวน!
ทุกคนใน ตระกูลเย่มองหน้ากัน ด้วยความตกตะลึง