หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 453 เรียกปะป๊าให้ฟังสักคำสิ
บทที่ 453 เรียกปะป๊าให้ฟังสักคำสิ
มองดูหลิวเป่าคุนที่ระยะห่างลดลงเรื่อย ๆ ลู่เสี้ยงหยางถามจ้าวฮวนฮวนเสียงต่ำ “หมอนี่มีที่มาอย่างไร? โอหังขนาดนี้ ยังกล้ามาสามหาวในบริษัทของผม”
จ้าวฮวนฮวนพูด “เขาเป็นคุณชายจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชิงหยางค่ะ”
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชิงหยาง? ลู่เสี้ยงหยางหัวเราะ นี่มันบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ด้อยกว่าบริษัทเราไม่ใช่หรือ?
ของเพียงอสังหาริมทรัพย์หลงซานยินยอม เพียงพูดประโยคเดียวก็สามารถทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ด้อยกว่าอย่างอสังหาริมทรัพย์ชิงหยางปิดกิจการได้
สิบห้านาทีต่อมา ลู่เสี้ยงหยางยื่นมือมาดึงจ้าวฮวนฮวนมาอยู่ข้างหลังตนเอง หลังจากนั้นก็มองที่หลิวเป่าคุนแล้วพูดอย่างยกตนว่า “เด็กดี ถ้าแกยังกล้าขยับแม้แต่นิดเดียว ฉันรับรองได้เลยว่าแค่กริ๊งเดียว บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชิงหยางของพวกแกปิดกิจการแน่”
อะ… อวดดีถึงเพียงนี้เชียวหรือ?
จ้าวฮวนฮวนมองแผ่นหลังของลู่เสี้ยงหยาง รู้สึกหลงใหลขึ้นมา
ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอเรียกลู่เสี้ยงหยางว่าปะป๊า ในใจของเธอก็บังเกิดความรู้สึกราบคาบแปลก ๆ รวมถึงความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจที่ยากจะบรรยาย
ราวกับว่าในตอนนั้นเธอจะโดนลู่เสี้ยงหยางปราบพยศเสียแล้ว
แต่ตอนนี้ ความรู้สึกแบบนี้ซึมลึกเข้าไปในหัวใจของเธอแล้ว
ในสายตาเธอ ลู่เสี้ยงหยางเป็นเหมือนกับมหาสมุทรที่ลึกเกินหยั่งถึง
สุภาษิตนั้นกล่าวไว้ได้ดี เมื่อได้พบเห็นคลื่นใหญ่ ก็ไม่สามารถหลงใหลแสงสะท้อนของคลื่นเล็ก ๆ ในทะเลสาบได้อีก
เพราะเหตุนี้ ในตอนนี้นอกจากลู่เสี้ยงหยางที่สามารถเข้าไปอยู่ในดวงตาเห็นสัจธรรมของจ้าวฮวนฮวนแล้ว ผู้ชายคนอื่นมองดูแล้วก็ล้วนแต่มืดมิดไร้สง่าราศี
แถมหลิวเป่าคุนที่กำลังจะชกไปที่ลู่เสี้ยงหยางก็หยุดก้าวในทันที สมองส่งเสียงสายฟ้าฟาดดังลั่นออกมา
จนถึงตอนนี้เขาถึงจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ลู่เสี้ยงหยางเป็นถึงผู้จัดการใหญ่ของอสังหาริมทรัพย์หลงซาน อสังหาริมทรัพย์หลงซานนั่นเป็นผู้นำธุรกิจในสายงานอสังหาริมทรัพย์ในปินเหอ ผู้จัดการใหญ่ลู่เสี้ยงหยางคนนี้ เพียงแค่เอ่ยปากคำเดียว คนในสายงานนี้มีใครกล้าไม่ไว้หน้าเขาบ้าง?
ถ้าหากลู่เสี้ยงหยางพุ่งเป้าไปที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชิงหยางบ้านของพวกเขาจริง ๆ ผลลัพธ์ที่ตามมาคงเลวร้ายจนไม่กล้าแม้แต่จะคิด เรื่องปิดกิจการคงไม่ใช่แค่คำพูดข่มขู่เขาแน่
คิดไปคิดมา เหงื่อเม็ดใหญ่ก็ไหลออกมาเต็มหน้าผากของหลิวเป่าคุน
ร่างกายก็ยิ่งเหมือนตะปูที่ตอกอยู่กับที่ ไหนเลยจะกล้าก้าวออกไปเพียงหนึ่งก้าวไปเสียมารยาทกับลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ รู้ว่านายคนนี้หวาดกลัวแล้ว ภายหลังก็ไม่ได้ไปใส่ใจอีก หันกลับไปผลักบานประตูห้องทำงานของประธาน ฯ แล้วเดินเข้าไป
จ้าวฮวนฮวนจ้องหลิวเป่าคุนอย่างโกรธแค้นแล้วพูดขึ้นว่า “รีบไสหัวไป แล้วต่อไปอย่ามาเสนอหน้าตรงหน้าฉันอีก ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ฉันจะไปเอาคำตอบกับประธานคณะกรรมการบริหารของอสังหาริมทรัพย์ชิงหยางด้วยตัวเอง”
เธอทิ้งประโยคหนึ่งเอาไว้ แล้วถึงจะรีบเดินตามจังหวะการก้าวเท้าของลู่เสี้ยงหยางเข้าไปในห้องทำงานและจัดการปิดประตู
หลิวเป่าคุนที่อยู่ด้านนอกยืนเซ่ออยู่นานจึงจะตั้งสติได้ สีหน้าของเขาทั้งซึมเซาทั้งหวาดผวา ท่าทางจนตรอกได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น
ในห้องทำงาน
ลู่เสี้ยงหยางนั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหาร เรื่องเมื่อสักครู่เป็นเพียงละครตอนย่อย ไม่ได้กระทบกระเทือนกับแผนการอะไรของเขาเลยแม้แต่น้อย เวลานี้ก็ได้พูดกับจ้าวฮวนฮวนว่า “เอารายการเดินบัญชีกับรายงานการดำเนินธุรกิจในช่วงนี้ของบริษัทมาให้ผมดูหน่อยซิ”
จ้าวฮวนฮวนพยักหน้า รีบไปทำตามที่ลู่เสี้ยงหยางสั่ง
หลังผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง รายการเดินบัญชีกับรายงานการดำเนินธุรกิจกองใหญ่ก็ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าของลู่เสี้ยงหยางในตอนนี้
ลู่เสี้ยงหยางหยิบแฟ้มแรกขึ้นมาเปิดดู
ด้วยเพราะตัวเขาเองเป็นคนฉลาดเฉลียว ลู่เสี้ยงหยางสามารถกวาดตาอ่านหนังสือทีเดียวได้ถึงสิบบรรทัด ความเร็วอ่านที่ทำให้คนทึ่ง
จ้าวฮวนฮวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่เสี้ยงหยางมองแล้วรู้สึกงงอยู่บ้าง ท่านประธาน ฯ กำลังอ่านรายงานอย่างตั้งอกตั้งใจหรือแค่เพียงทำท่าทำทางไปอย่างนั้น?
แต่ว่าไม่ว่าจะตั้งใจอ่านหรือแค่ทำท่าทำทาง ทั้งหมดนี่ล้วนดูปลอมมาก
พอดีกับในตอนที่จ้าวฮวนฮวนกำลังคิดเช่นนี้ในใจ ลู่เสี้ยงหยางก็อ่านเนื้อหาทั้งหมดในรายงานจบแล้ว
บนใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางปรากฏรอยยิ้มอย่างปลื้มอกปลื้มใจขึ้นมา พูดกับจ้าวฮวนฮวน ว่า “ไม่เลวเลย การที่ฉันมอบหมายอสังหาริมทรัพย์หลงซานให้เธอจัดการเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ไตรมาสแรกผลการดำเนินงานของพวกเราเติบโตขึ้นถึง 15% ไตรมาสที่สองผลการดำเนินงานของพวกเราเติบโตขึ้น 13% ไตรมาสที่สามผลการดำเนินงานของพวกเราเติบโตขึ้น 10% ถึงแม้ว่าอัตราการเติบโตจะลดลงมาตามลำดับ แต่การเงินของพวกเราทั้งหมดกำลังเพิ่มขึ้น นั่นหมายถึงว่าประสิทธิภาพการทำงานของบริษัทเรากำลังยกระดับขึ้น การบริหารของคุณชอบด้วยเหตุผล…”
ลู่เสี้ยงหยางพูดวิเคราะห์สิ่งที่เขาได้อ่านในรายการเดินบัญชีกับรายงานการดำเนินกิจการออกมาในทันที
หลังจากจ้าวฮวนฮวนฟังจบ ก็ช็อกจนพูดอะไรไม่ออก ในใจถาโถมไปด้วยคลื่นยักษ์และสายลมที่พัดโหมกระหน่ำ เมื่อกี้ลู่เสี้ยงหยางอ่านไปเร็วขนาดนั้น ราวกับแค่มองครั้งเดียวก็พลิกหน้าใหม่แล้ว ทำไมถึงอ่านแล้วเข้าใจขนาดนั้น
ในตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางก็พูดต่อ “แผนการบริหารของคุณสามารถดำเนินการต่อไปได้เลย แต่ผมรู้สึกว่ากิจการของพวกเรายังสามารถสูงขึ้นไปได้อีก นอกจากนี้เขตบ้านพักตากอากาศหลงซาน แบบแผนโครงการก่อตั้งในเขตที่สี่จะต้องออกมาเร็วหน่อย โครงการนี้จำเป็นต้องก้าวหน้าภายในหนึ่งเดือนนี้”
“ค่ะท่านประ… ค่ะ ปะป๊า” จ้าวฮวนฮวนรีบขานรับ
หลังจากนั้นลู่เสี้ยงหยางก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ทันที พูดขึ้น “เอาล่ะ วันนี้ที่ผมจะพูดมีเท่านี้ คุณรีบไปทำงานที่ค้างอยู่เถอะ”
“ค่ะ ปะป๊า” จ้าวฮวนฮวนรีบพยักหน้า
……
และในเวลาเดียวกันนี้
โอหยางรั่วสุ่ยเพิ่งจะเลิกงานและมาถึงร้านอาหารแล้ว ในขณะที่กำลังเตรียมตัวจะทานอาหาร โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอล้วงออกมาดู พบว่าเป็นสายที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกไม่พอใจ
เย่หยุนเทาโทรเข้ามา
ลังเลอยู่สักพัก โอหยางรั่วสุ่ยจึงกดรับสาย
ยังไม่รอจนโอหยางรั่วสุ่ยพูด โทรศัพท์ก็ส่งเสียงพูดยิ้ม ๆ ของเย่หยุนเทาออกมา “รั่วสุ่ย วันนี้มื้อกลางวันผมเลี้ยง คุณมีเวลาไหมครับ?”
โอหยางรั่วสุ่ยเดิมคิดจะปฏิเสธ แต่เมื่อก่อนเธอเคยไปขอพักอาศัยที่บ้านตระกูลเย่ เย่หยุนเทาก็นับเป็นคนคุ้นเคยของเธอ จะปฏิเสธตรง ๆ คงไม่เหมาะ ได้แต่พยักหน้าตอบตกลง
แน่นอนว่าเย่หยุนเทาจะต้องตื่นเต้นดีใจ เขารีบบอกเวลาและสถานที่นัดพบ
ครึ่งชั่วโมงให้หลังเย่หยุนเทากับโอหยางรั่วสุ่ยก็เจอกันที่ประตูร้านอาหารจายซิง
เย่หยุนเทามาถึงก่อน ได้จองที่นั่งไว้ก่อนแล้ว ตอนนี้พอเห็นโอหยางรั่วสุ่ยก็นำทางเธอเข้ามาในร้านอาหาร
หลังจากนั่งลงแล้วจึงจะได้มองโอหยางรั่วสุ่ย เย่หยุนเทาก็คิดในใจพลางกลืนน้ำลายลงคอไปหนึ่งอึก
เดิมโอหยางรั่วสุ่ยก็งดงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัวมากอยู่แล้ว ยิ่งวันนี้แต่งตัวทันสมัยมาก ท่อนบนสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวหนึ่งตัว ท่อนล่างสวมกางเกงยีนรัดรูป ชายเสื้อเชิ้ตสอดอยู่ในกางเกงยีน เผยให้เห็นรูปร่างได้อย่างชัดเจน
“แม่งเอ๊ย ผู้หญิงที่เลอค่าขนาดนี้ กูจะต้องเอามาอยู่ในกำมือให้ได้ ให้เธอมาเป็นลูกสะใภ้ตระกูลเย่” เย่หยุนเทาคิดในใจ
ในตอนนี้บริกรเดินเข้าจดเมนูอาหารให้เย่หยุนเทา เย่หยุนเทาพูดออกคำสั่งอย่างมือเติบเพื่อจะอวดสาวงามตรงหน้า “เอาเมนูแนะนำของร้านทั้งหมดมาเสิร์ฟ”
อะไรนะ? เมนูแนะนำทั้งหมด?
บริกรอึ้งอยู่พักหนึ่ง คนที่ใจใหญ่เหมือนเย่หยุนเทานี้หาได้ยากยิ่ง
แต่ว่ามีน้อยไม่ได้หมายความว่าไม่มี
“ครับ ๆ ๆ คุณชายท่านนี้โปรดรอสักครู่ ผมจะให้ห้องครัวจัดการให้ทันทีครับ” บริกรรีบเปลี่ยนท่าทีที่ให้บริการให้สูงขึ้นไปอีกระดับทันที พูดจาอย่างนอบน้อม
เย่หยุนเทาไม่พูดอะไร แค่โบกไม้โบกมือ ให้บริกรรีบไปสั่งอาหาร
โอหยางรั่วสุ่ยที่นั่งอยู่อีกฝั่งมองดูเย่หยุนเทาที่แสดงท่าทางร่ำรวยอู้ฟู่ ในใจก็รู้สึกประหลาด!