หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 42 ความขมขื่น
บทที่42 ความขมขื่น
ลู่เสี้ยงหยางได้ยินคำพูดของนั้น ในใจของซูจื้อเฉิงก็รู้สึกไม่ดี เรื่องที่ช่วยเหลือเมื่อกี้ ก็ไม่ถูกเขาพูดออกมาหลอกนะ แต่นึกขึ้นได้ว่า ถึงแม้ลู่เสี้ยงหยางจะพูดออกมา ก็เกรงว่าเหมือนจะไม่มีใครเชื่อเขานะ
เขาจบจากโรงพยาบาลชื่อดัง และยังเคยไปเรียนต่อต่างประเทศอีก ในวงการแพทย์ก็เป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียง
แต่ ลู่เสี้ยงหยางใส่เสื้อผ้าข้างถนน ท่าทางไม่น่าพึ่งพา แค่มองก็เหมือนคนเอาแต่เที่ยวเตร่ คนอย่างนี้จะรักษาคนได้ยังไง มากสุดก็เป็นหมอพเนจรเท่านั้น
เมื่อเอาสองคนมาเทียบแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นคนโง่ก็รู้ว่าควรจะเชื่อใคร
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซูจื้อเฉิงก็มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก มองที่ ลู่เสี้ยงหยางยิ้มๆแล้วพูดว่า : “ผมพูดโอ้อวด? ไอ้เจ้าหนุ่ม แกยังไม่รู้เรื่องนี้จริงๆเหรอ? เมื่อกี้ผมใช้ทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศช่วยทำการรักษาอย่างยากเย็น คุณไม่ใช่หมอ ไม่รู้ ว่าการเสียสละช่วยชีวิตในครั้งนี้ของแพทย์เป็นยังไง? ! ”
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหัว ขี้เกียจจะโต้เถียงกับ ซูจื้อเฉิง ที่เขาช่วยชีวิตผู้หญิงคนนั้นไปเมื่อกี้ทั้งหมด กลับไม่ได้อยากได้คุณงามความดีอะไรทั้งนั้น พูดเรื่องหน้าตาอะไร แค่มองในมุมของแพทย์และมุมของชีวิตที่น่าเคารพยำเกรง ทนไม่ได้ที่จะเห็นต้องมาตายลงต่อหน้าเขา
เห็นว่า ลู่เสี้ยงหยางไม่พูดต่อ ซูจื้อเฉิงยิ่งภูมิใจขึ้นไปอีก หัวเราะ ลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดเสียดสีว่า “เรียนแพทย์จีนที่กากๆ มีคุณสมบัติอะไรมายืนอยู่ตรงนี้? ”
เรียนแพทย์จีน?
จ้าวหรูเย็นและจ้าวต้าไห่ มองหน้ากัน สายตาทั้งคู่เผยความรู้สึกที่ขมขื่นออกมา
ในตอนนี้ แพทย์แผนปัจจุบันรุ่งเรือง แพทย์แผนจีนเสื่อมสลายไปตั้งนานแล้ว ในด้านการแพทย์ โรคที่ยากที่จะแก้ไขก็ยังคงพึ่งแพทย์แผนจีน
แต่ว่า แพทย์แผนจีนเป็นสิ่งของล้ำค่ายิ่งของพวกเรา ถึงตอนนี้จะเสื่อมไป ทำให้ในใจคนในประเทศทุกคนรู้สึกไม่สบายใจ
ใบหน้าของ ลู่เสี้ยงหยางเผยความรู้สึกเย็นชา มอง ซูจื้อเฉิงแล้วพูดว่า “เรียนแพทย์แผนจีนแล้วทำไม? ความจริงก็พิสูจน์แล้ว ว่าแพทย์แผนจีนมีรากเหง้าที่แท้จริง แข็งและดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบันไม่รู้กี่เท่า ”
“ฮ่าๆ แพทย์แผนจีนดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน ดูเหมือนว่าคุณจะไม่รู้ความรู้ทั่วไปทางการแพทย์จริงๆนะ ผมสงสัยว่าคุณเคยเรียนมหาวิทยาลัยไหม? เกรงว่าจะเป็นหมอผีเท้าเปล่าล่ะซิ ” ซูจื้อเฉิงหัวเราะเสียงดัง ท่าทางดูถูกเสียดสี
“เฮ้อ ” จ้าวหรูเย็นถอนหายใจออกมา ส่ายหัว ตอนนี้คนที่เป็นหมอก็รู้ ว่าแพทย์แผนปัจจุบันดีกว่าแพทย์แผนจีนมาก ดูเหมือนว่า ลู่เสี้ยงหยางไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ
ทันใดนั้น จ้าวต้าไห่ก็คิดว่า ลู่เสี้ยงหยางไอ้เด็กผมทอง จะมาสมัครงานที่คลินิกพวกเขา เพราะฉะนั้นเลยโบกมือแล้วพูดว่า : “คลินิกของพวกเราไม่ขาดแพทย์แผนจีน คุณรีบไปเถอะ ”
ลู่เสี้ยงหยาง จับต้นชนปลายไม่ถูก ตัวเองเคยพูดว่าจะมาสมัครงานที่คลินิกนี้เหรอ? ผู้อาวุโสนี้คิดไปเองฝ่ายเดียวจริงๆ
ไม่มีความลังเลใดๆ ลู่เสี้ยงหยางก้าวเดิน เตรียมจะออกไป
แต่เขาเดินไปไม่กี่ก้าว ใจดีมีเมตตาอย่าง จ้าวหรูเย็นก็พูดตามหลังเขาว่า : “หลังจากนี้คุณไม่ต้องไปเที่ยวโอ้อวดหลอกต้มคนอื่นนะ ไม่อย่างงั้นจะเสียเปรียบ แต่ว่าฉันมองออก ว่าคุณชอบการแพทย์มาก ถ้าคุณอยากเรียนละก็ สามารถมาเรียนแพทย์แผนปัจจุบันที่คลินิกของพวกเราได้ ฉันจะให้รุ่นพี่ของฉันถ่ายทอดทักษะการแพทย์ที่ล้ำเลิศให้กับคุณ ”
ได้ยินคำพูดแบบนี้ ซูจื้อเฉิงทำท่าทางภูมิใจ หัวเราะแล้วพูดว่า : “เห็นแก่หน้า หรูเย็นรุ่นน้องผมนะ ผมอยากจะพูดแนะนำอะไรคุณหน่อย หลังจากนี้ถ้าคุณมาทางแพทย์แผนปัจจุบัน ก็ดีกว่าแพทย์แผนจีนที่ไม่มีที่ให้คุณ ต่อจากนี้ก็ไม่ต้องมาแสดงให้ใครเห็นอีก ”
“เหี้ย ” ลู่เสี้ยงหยางแอบด่า จากไปอย่างไม่กลับไปมองอีก คิดไม่ออกจริงๆ ว่ามีคนหน้าด้านจอมปลอมอย่าง ซูจื้อเฉิงได้ยังไง
ลู่เสี้ยงหยาง ก็เหมือนตัวประกอบละคร ไม่มีใครสนใจ
หลังจากรอให้ ลู่เสี้ยงหยางเดินจากไป จ้าวต้าไห่ก็นึกขึ้นมาได้เรื่องหนึ่ง พูดกับ จ้าวหรูเย็นว่า : “หรูเย็น ตอนนี้ ตระกูลเย่ได้รับมือการรักษาของหมู่บ้านเราแล้ว คลินิกมากมายในหมู่บ้านของเราล้วนอยากร่วมมือกับ ตระกูลเย่ คลินิกของเราไม่สามารถล้าหลังได้ พรุ่งนี้ลูกไปที่ ตระกูลเย่ หน่อย ไปคุยกับคนของ ตระกูลเย่ ไปดูหน่อยว่าคลินิกของพวกเราจะสามารถร่วมมือกับ ตระกูลเย่ ได้ไหม ”
“คือ……” สีหน้าของ จ้าวหรูเย็นมีความลังเล เรื่องที่รับผิดชอบการรักษาพยาบาลนี้ เป็นคุณชายใหญ่เย่หยุนเทาของตระกูลเย่
ชื่อเสียงของ เย่หยุนเทาคนนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่ว่าถ้าจะคุยเรื่องร่วมมือ ก็ต้องหาเขา
ถึงแม้ในใจจะไม่ยินยอม แต่ว่าเพื่อที่จะให้คลินิกอยู่รอดได้ จ้าวหรูเย็นก็พยักหน้าตอบรับอย่างฝืนใจไป “ค่ะ พ่อ พรุ่งนี้หนูจะไปคุยเรื่องนี้กับคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ของตระกูลเย่ ”