หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 304 ไม่มีใครเชื่อ
บทที่ 304 ไม่มีใครเชื่อ
ก่อนหน้านี้ที่ทุกคนได้หัวเราะเยาะลู่เสี้ยงหยาง ว่าเป็นแค่เขยแต่งเข้าที่ไร้ค่า ตัดสินไปแล้วว่าเขาไม่มีทางปรุงยาจู้หลิงได้สำเร็จอย่างแน่นอน
ไม่คิดว่า ในตอนนี้เขาทำให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น เขาปรุงยาจู้หลิงได้สำเร็จแล้ว
เหมือนว่ามีแรงที่ทรงพลัง ตบไปที่ใบหน้าทุกคน ทำให้พวกเขารู้สึกร้อนที่หน้าเหมือนไฟเผาขึ้นมาทันที
ในสายตาของโจ่ฉิน ลู่เสี้ยงหยางเป็นแค่นักเรียนที่ไร้ประโยชน์ที่ชอบต่อกรกับเธอ ฉะนั้นนี่เป็นความจริงที่เธอรับไม่ได้ มองไปที่ ลู่เสี้ยงหยางด้วยความตะลึง ในสมองมีแต่ความว่างเปล่า
“แม่งฉิบหาย มันเป็นไปได้ยังไงกันนี่?” ฉินหยุนเฟยขยี้ตาไปมา แล้วสงสัยว่าตัวเองฝันไปหรือเหล่า แม่ง เขยแต่งเข้ายังมีเทคนิคเช่นนี้
“อืม? เขา…..ปรุงยาสำเร็จแล้วเหรอ?” กงหยู่หนิงมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างตกตะลึง รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงไม่หยุด
ไอ้หมอนี้เป็นคนประเภทละเลงขนมเบื้องด้วยปากไม่ใช่เหรอ? ไม่คิดว่าจะปรุงยาจู้หลิงจนสำเร็จได้ นี่ทำให้เธอรีบเงยหน้าขึ้มไปมองเขาทันที
เฮ้ย?
เกิดอะไรขึ้น?
นักเรียนคนอื่นต่างก็เบิกตากว้าง จนลูกตาแทบถลนออกจากเป้า
แม่งฉิบ ไอ้เขยแต่งเขาคนนี้ปรุงยาสำเร็จแล้ว แต่พวกเขากลับล้มเหลว ทำให้พวกเขารู้สึกอับอายจนไม่มีที่จะยืน
ขณะเดียวกันก็รู้สึกตกใจ มันไม่น่าเชื่อ จนกระทั่งผ่านไปสักพักใหญ่ ทุกคนต่างเรียกสติกลับมา
ฉินหยุนเฟยเป็นคนที่รับเรื่องนี้ไม่ได้ที่สุด ลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า “อาจารย์ ยาจู้หลิงที่เจ้าโง่ลู่เสี้ยงหยางปรุงขึ้นมา สีมันก็ไม่ตรงอยู่แล้ว”
ยาจู้หลิงต้องเป็นสีดำเข้มเท่านั้น ยาจู้หลิงที่ฉินหยุนเฟยปรุงมานั้นเป็นสีดำเข้ม ส่วนยาจู้หลิงที่กงหยู่หนิงปรุงนั้นสีดำ
ยาจู้หลิงที่ลู่เสี้ยงหยางปรุงออกมานั้น เป็นสีแดงสด เป็นสีที่ไม่ถูกต้องตามหลักอยู่แล้ว
หวังเจี้ยนพูดเสริมต่อ “เจ้าเขยแต่งเข้าคนนี้ช่างตลกสิ้นดี ทำของที่แปลกประหลาดนี้ขึ้นมา ก็คิดว่ามันจะผ่าน ฮ่า ๆ นายกำลังดูถูกสติปัญญาของอาจารย์อยู่ใช่ไหม?”
นักเรียนส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมรับว่า ลู่เสี้ยงหยางเหนือกว่าพวกเขา เพราะฉะนั้นพวกเขาก็ยังคงหัวเราะเยาะเขาอยู่ดี
กงหยู่หนิงแทบรอไม่ไหวเดินไปหาลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดว่า “ฉันสามารถดูยาจู้หลิงของนายได้ไหม?”
ลู่เสี้ยงหยางผงกศีรษะ แล้วตอบไปว่า “ได้แน่นอน”
ยิ้มพร้อมยื่นยาจู้หลิงให้กับกงหยู่หนิง
หงหยู่หนิงยื่นมือไปรับ แล้วเริ่มสังเกตดูอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็ส่ายหัว แล้วพูดว่า “ผิดปกติเกือบทุกอย่าง ยาที่นายปรุงน่าจะไม่ใช่ยาจู้หลิง”
“ฮ่า ๆๆ ฉันว่าแล้ว ไอ้คนไร้ค่ามันไม่สามารถปรุงยาจู้หลิงได้สำเร็จหรอก พวกเราทุกคนลองสังเกตดู ว่าเขาปรุงยาบ้าบอคอแตกอะไรกัน ยังไงนายมันเป็นได้แค่กาในฝูงหงส์” ฉินหยุนเฟยยิ้มเยาะขึ้นมา ตอนนี้เขาเหมือนได้ยกก้อนหินออกจากอก
แม่งฉิบ เมื่อกี้เขาตกใจแทบแย่ เขาคิดว่าเขยแต่งเข้าไร้ค่าคนนี้จะสามารถปรุงยาจู้หลิงได้สำเร็จ ถ้าเป็นเช่นนั้น มันจะทำให้เขารู้สึกอับอายมาก
คนส่วนใหญ่ก็แอบยิ้ม และรู้สึกโล่งใจ ตามที่พวกเขาดู เขยแต่งเข้าอย่างลู่เสี้ยงหยาง ต้องล้มเหลวเท่านั้น ความสำเร็จเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเขา
ลู่เสี้ยงหยางได้ฟังคำพูดของกงหยู่หนิงแล้ว ยักไหล่แล้วพูดว่า “มันก็ไม่แน่”
“ทำไม? นายสงสัยการประเมินของฉันเหรอ?” คิ้วของกงหยู่หนิงขมวดขึ้นมาเบาๆ
ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้สนใจกงหยู่หนิง แต่หันไปพูดกับโจ่ฉินว่า “อาจารย์ ก็คิดเช่นนั้นใช่หรือไม่ ว่ายาจู้หลิงที่ผมปรุงขึ้นมามันล้มเหลว? ”
โจ่ฉินผงกศีรษะ โดยไม่มีท่าทางลังเลใด ๆ แล้วพูดว่า “ยาจู้หลิงที่เจ้าปรุงมาเม็ดนี้ เมื่อสังเกตดูสีก็แตกต่างกันสิ้นเชิง ล้มเหลวแน่นอน”
ถ้าหากยาจู้หลิงที่ลู่เสี้ยงหยางปรุง สีค่อนไปทางเข้ม โจ่ฉินก็จะไม่บอกว่าลู่เสี้ยงหยางล้มเหลวทันที แต่นี่มันเป็นสีแดงสด ไม่ต้องตรวจสอบต่อไปก็รู้ว่ามันล้มเหลวอย่างแน่นอนแล้ว
ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้ว โจ่ฉินนี่ตัดสินตามอำเภอใจเลย แม้ว่าสีเป็นองค์ประกอบหลักที่ระบุความถูกต้องของยา แต่มันก็ไม่ใช่องค์ประกอบเพียงอย่างเดียว
เมื่อมองเห็นพฤติกรรมของลู่เสี้ยงหยางแล้ว ฉินหยุนเฟยก็หัวเราะเสียงดัง แล้วพูดว่า “ไอ้น้อง นายล้มเหลวแล้ว นายก็อย่าคาดหวังอะไรอีก ฮ่า ๆๆ คนไร้ค่ามันก็เป็นคนไร้ค่าวันยังค่ำ เสียเวลามามากพอแล้วเราจะไม่พูดถึงมันอีก แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายาที่ปรุงมามันคือยาอะไร ช่างน่าสงสารเสียจริง ๆ ”
หวังเจี้ยนยิ้มเย้ยหยัน “ตามสติปัญญาของนายมันไม่สามารถเรียนวิชาการปรุงยาได้ ต่อจากนี้ไปนายก็ไม่ต้องมาเรียนอีก เพราะหากคนอื่นรู้ว่านายเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์โจ่ฉิน จะทำให้อาจารย์ขายหน้าเปล่า ๆ”
ช่วงเวลานั้น นักเรียนส่วนใหญ่ต่างหัวเราะเยาะขึ้นมาอีกครั้ง
จางสู้ ฟ้านเจา และเซียวมู่ไป๋ที่พักด้วยกันได้เดินมาถึงข้างลู่เสี้ยงหยาง ตบบ่าของเขา แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอก ครั้งแรกล้มเหลวมันเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องไปฟังคำพูดพล่อย ๆ ของคนพวกนั้น”
ลู่เสี้ยงหยางผงกศีรษะ ในห้องเรียนนี้ คงมีแต่พวกฟ้านเจาสามคนเท่านั้นที่ไม่หัวเราะเยาะเขา
จากนั้นโจ่ฉินก็มองไปทางลู่เสี้ยงหยาง แล้วก็วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า “ลู่เสี้ยงหยาง ตอนนี้นายรู้หรือยังว่านายผิดแค่ไหน? ฮึ่ม ที่มาเรียนวันแรกก็กล้าสงสัยในสูตรยาของอาจารย์ ตอนนี้นายยังรู้สึกว่า สูตรยาที่อาจารย์พูดมีปัญหาอยู่อีกไหม?”
“ลู่เสี้ยงหยาง นายต้องเข้าใจหลักการความจริงอันหนึ่ง ไม่ใช่ว่านายเป็นเขยแต่งเข้า อาจารย์จึงดูถูกนาย ในสายตาของฉันนักเรียนทุกคนเหมือนกันหมด ฉันปฏิบัติต่อทุกคนโดยเท่าเทียมกัน”
“แน่นอน เมื่อนายรู้ว่าตนเองเป็นเขยแต่งเข้า มันทำให้คนอื่นดูถูกนาย ฉะนั้นนายควรจะยิ่งต้องฟ้งคำพูดของอาจารย์ ตั้งใจเรียน ไม่ใช่อวดเก่งแสร้งทำ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกมีตัวตน ทำแบบนี้มันไร้เดียงสา และน่าเศร้ามา”
คำพูดที่เธอพูดนั้นมันทรงพลัง
คนส่วนใหญ่ยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมาอีกครั้ง ไอ้เขยแต่งเข้าวันนี้ถูกอาจารย์วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงมาก ฮ่า ๆๆ ช่างน่าอับอายจริง ๆ
อย่างไรก็ตามทุกคนคิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ลู่เสี้ยงหยางก็ยังไม่เจียมตัวและไม่ยอมรับแนะนำ แล้วมองไปโจ่ฉิน แล้วพูดว่า “อาจารย์ คิดว่าสูตรยาของอาจารย์ไม่มีปัญหาอย่างนั้นเหรอ? แล้วยาจู้หลิงที่ผมปรุงมันผิดสูตรเหรอ?”
ลู่เสี้ยงหยางมีความมั่นใจกับสูตรยาของตนเองอย่างมาก เพราะเขาเคยได้รับการเรียนวิธีการปรุงยาจากเทพเทียนหัว
เทพเทียนหัวเคยเล่าให้เขาฟังว่า ตอนที่ท่านปรุงยา ท่านเป็นปรมาจารย์ปรุงยาระดับสูง มีน้อยคนที่สามารถเทียบท่านได้
เห้ย!
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่เสี้ยงหยางแล้ว คนส่วนใหญ่ต่างส่งเสียงดังโกลาหล
แม่งฉิบหาย ไอ้เขยแต่งเข้าคนนี้มันช่างกล้า เดิมชีวิตตนเองก็ล้มเหลวอยู่แล้ว ยังกล้ามาเถียงอีก ดูท่าทางของมันแล้ว ยังมีความคิดสงสัยสูตรยาของอาจารย์โจ่ฉินอีก
ฉินหยุนเฟยชี้ไปที่หน้าของลู่เสี้ยงหยาง ด่าขึ้นมาว่า “แม่งฉิบหาย ชอบหาเรื่องให้คนอื่นด่าอยู่ได้ ถ้าหากนายสามารถปรุงยาจู้หลิงได้สำเร็จ ฉันจะกินโต๊ะทดลองตัวนี้ให้หมดเลย”
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มทันที แล้วมองไปที่ฉินหยุนเฟย แล้วพูดว่า “คำพูดนี้ถือเป็นจริงนะ?”
อืม?
เมื่อเห็นว่าขณะนี้ลู่เสี้ยงหยางยังยิ้มอยู่ และมีความมั่นใจอย่างมาก ทำให้ฉินหยุนเฟยรู้สึกเสียใจกับคำพูดที่เขาพูดออกไปก่อนหน้านั้น
แต่ในไม่ช้าเขาก็ยิ้มที่มุมปาก ยาจู้หลิงบ้าบอที่เจ้าโง่ปรุงขึ้นมานี้ ตนเองไม่มีเหตุผลอะไรที่จะกลัวเขา
“แน่นอน ลูกผู้ชายอย่างฉันเป็นคนรักษาคำพูด พูดไหนคำนั้น ถ้านายปรุงยาสำเร็จ ฉันก็จะกินโต๊ะทดลองนี้ และแน่นอน ถ้าหากนายปรุงยาไม่สำเร็จ ก็ให้คุกเข่ายอมรับผิดต่อหน้าอาจารย์โจ่ฉิน แล้วบอกแก่นักเรียนทุกคนในห้องว่า นายมันเป็นคนไร้ค่าที่ไร้ประโยชน์” ฉินหยุนเฟยกล่าวอย่างโหดเหี้ยม แล้วจะคอยดูลู่เสี้ยงหยางอับอาย
“ได้” ลู่เสี้ยงหยางยิ้มยียวนแล้วตอบ เมื่อฉินหยุนเฟยแส่หาเรื่อง ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปล่อยเขาไป
โซะ!
เมื่อสิ้นเสียง ลู่เสี้ยงหยางกระดิกมือ ยาจู้หลิงในมือของเขาก็ตกลงไปในตู้ปลาที่อยู่ฝั่งขวาของโจ่ฉิน