หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 27ต้องแต่งเข้าตระกูลลู่
บทที่27ต้องแต่งเข้าตระกูลู่
คุกเข่าตามเย่หยุนเทาแล้วเรียกคุณพ่อ ทันใดนั้นเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วสี่ด้าน
ตัวแทนเกือบทั้งหมดมาองดูตระกูลเย่ท่านย่าเต็มไปด้วยความดูถูกเหยี่ยมหยาม เดิมทีก็เป็นแค่ตระกูลเล็กๆ.รั้นจะบิดตัวเข้ามาในสังคมชั้นสูง นี่มันตั้งใจมารับความอัปยศอดสูแท้ๆ
ท่านย่า ก้มศีรษะต่ำมาก รู้สึกแค่แสบร้อนไปทั้งหน้า แทบอยากจะหาหลุมเข้าไป
ประสบการณ์ฉากในวันนี้ เป็นความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงของเธอแน่นอน
หลานชายที่เธอรักที่สุด คุกเข่าให้กับลูกเขยที่เธอทั้งเกลียดทั้งน่าสมเพช
เย่ซวงไม่รู้สึกน่าอับอายตรงไหน สายตากลับยิ่งร้อนแรงขึ้น
ซุนเซียงเซียงเป็นแค่คนของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปที่มีตำแหน่งสูง เป็นตัวแทนตระกูลลู่ไม่ได้ สง่าผ่าเผยขนาดนี้
ต่อไปถ้าหากเธอแต่งเข้าตระกูลตระกูลลู่ อย่างซุนเซียงเซียงแบบนี้ยังถูกเธอเหยียบใต้ฝ่าเท้า นักประสาอะไรกับเย่สวน?ถึงเวลานั้นคาดว่าเย่สวนเป็นหมาของเธอก็คงไม่มีสิทธิ์
เย่สวนในใจถึงแม้จะรู้สึกตื่นเต้นสบายใจ แต่พริบตาเดี๋ยวก็รู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมา
ท่านย่าพวกเขาวันนี้ได้รับความอับอายที่นี่ กลับถึงบ้านคงระบายอารมณ์ใส่ตัวเธอแน่
"อืม ลูกรัก ต่อไปอย่าโดดแบบนั้นอีก ไม่งั้น พ่อก็จะลงโทษลูกอีก "ลู่เสี้ยงหยางมองดูเย่หยุนเทาที่คุกเข่าอยู่กับพื้น สั่งสอนเป็นเรื่องเป็นราว
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า" เป็นเสียงหัวเราะที่ดังก้องขึ้นอีกครั้ง
เย่หยุนเทากำๆมือไว้แน่น สาบานในใจ สักวันหนึ่งต้องกำจัดลู่เสี้ยงหยางให้ตายแน่
หลังจากนั้นซุนเซียงเซียงไม่ได้มองคนตระกูลเย่อีก ดำเนินอภิปรายธุรกิจต่อ
เย่หยุนเทาลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างละอาย นั่งกลับไปที่นั่งของตัวเอง
การอภิปรายผลักดันธุรกิจครั้งนี้ ท่านย่าของตระกูลเย่กับเย่หยุนเทาพวกเขาทุกคน รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งต้องฝืนมากขึ้น
ดูเหมือนพวกเขายืนยันความสงสัยที่มีต่อลู่เสี้ยงหยาง
เมื่อกี้แล้ว ลู่เสี้ยงหยางก็อาศัยคารมปาก ถึงหลอกได้ขึ้นตำแหน่งสูงของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
พวกเขาสังเกตเห็น อยู่ในระหว่างอภิปรายธุรกิจนี้ ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้พูดสักคำ เพียงแค่นั่งเงียบๆ ยิ้มเป็นครั้งเป็นคราว
นี่ดูออกว่าแกล้งทำเป็นนิ่งสงบ จริงๆแล้วไม่มีปัญญาสักนิด
เวลาช่วงเช้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว ถึงช่วงเที่ยง การอภิปรายธุรกิจก็ใกล้จบแล้ว
สุดท้ายซุนเซียงเซียงก็สรุปผล เป็นการจบอภิปลายธุรกิจครั้งนี้
ลู่เสี้ยงหยางกับซุนเซียงเซียงพูดคุยอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสออกจากห้องประชุม
ดูจากภาพนี้ทำให้ท่านย่า เย่หยุนเทาพกเขาถึงกับคันปากกัดฟัน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
ท่านย่ากับทุกคนกลับไปถึงตระกูลเย่กรุ๊ป อันดับแรกก็เรียกทุกคนในครอบครัวประชุมด่วน
ในใจเย่สวนกังวลมาก เธอรู้ว่าท่านย่าต้องประกาศการแก้แค้นส่วนตัวแน่นอน
ไม่ว่ายังไงก่อนหน้านี้ตอนอภิปลาย ลู่เสี้ยงหยางทำให้ท่านย่า เย่หยุนเทาพวกเขาขายหน้าจนสุดขีด ท่านย่าแต่ไหนแต่ไรมาจิตใจก็คับแคบอยู่แล้ว ไม่กู้หน้าครั้งนี้คืนคงเป็นไปไม่ได้แน่
แต่ว่าลู่เสี้ยงหยางถูกแม่ของเขาขับไล่ออกจากบ้านนานแล้ว ถ้าอย่างนั้นท่านย่าคงระบายความโกรธกับครอบครัวพวกเขาแน่เลย
หลิวจิ้งมองสีหน้าที่มืดมนของท่านย่า รู้ได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถ้าไม่มีเรื่องดี ครอบครัวของพวกเขาก็จะเป็นที่รับอารมณ์
"ลูก ตกลงท่านย่าเป็นอะไรกันแน่? หรือว่าในงานอภิปรายเกิดปัญหาอะไร?"หลิวจิ้งถามเย่สวนอย่างเบาๆ
เย่สวนไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจเธอ แค่ส่ายศีรษะแบบผ่านไปที
ในใจ หลิวจิ้งยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น มือไม้เย็นชาไปหมด
ขนาดนี้ ในที่สุดท่านย่าก็ออกปากพูด "ทุกคน เดี๋ยวนี้ฉันจะประกาศเรื่องหนึ่ง……"
แต่เธอคำแรกยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเลขาส่วนตัวผลักประตูเข้ามาขัดจังหวะ
“ประธานกรรมการ ข่าวดี ข่าวดีที่สุด"เลขาวิ่งมาใกล้ตัวท่านย่า พูดอย่างดีใจที่สุด
"อ๋อ จริงเหรอ?"ท่านย่าขยับเปลือกตาขึ้น มองไปที่เราลา ไม่ได้ใส่ใจคำพูดเขาแม้แต่น้อย
เธออายุปูนนี้แล้ว เรื่องดีขนาดไหนที่ยังไม่เคยเจอ?อีกอย่าง เรื่องดีๆที่ออกจากปากเลขาเล็กๆคนหนึ่ง มันจะดีขนาดไหนเชียว ให้ตายเต็มที่ก็คงแค่ได้รับออเดอร์สักล้านมั่ง
"พอแล้ว ฉันรู้ละ มีเรื่องอะไร ก็รอฉันพูดเรื่องอยู่ตรงหน้านี้จบก่อนค่อยรายงาน"ท่านย่าสะบัดมือ สำหรับเธอแล้ว เรื่องที่สำคัญที่สุดเวลานี้ก็คือ ลงโทษครอบครัวเย่สวนทุกคน
"ได้ครับประธานกรรมการ“ เลขาระงับความดีใจไว้ ถอยไปยืนข้างกายท่านย่า
“ทุกคน พูดต่อเรื่องที่ฉันกำลังจะพูดเมื่อกี้" ท่านย่าปรับน้ำเสียง แล้วพูดต่อ"เพราะธุรกิจของครอบครัวต้องการความเจริญก้าวหน้า ต่อไปตำแหน่งประธานของชิงสุยกรุ๊ปก็ให้หยุนเทา รับหน้าที่ ช่วงนี้เย่สวน ก็กลับบ้านพักผ่อนสักพัก รอบริษัทต้องการ ค่อยกลับมาทำ
คำพูดนี้ ถึงจะพูดเสียงไม่ดัง แต่ก็ฟังเข้าหูของทุกคนอย่างชัดถ้อยชัดคำ
คนส่วนใหญ่ของตระกูลเย่ก็ไม่เห็นด้วยครอบครัวเย่สวนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อกี้พอได้ข่าว รีบซ้ำเติมทันที พูดแต่คำพูดตัดเพ้อ
"ที่จริงเย่สวน ไม่มีความสามารถ หลายปีที่รับผิดชอบเป็นตำแหน่งประธานของชิงสุยกรุ๊ป ชิงสุยกรุ๊ปมีแต่แย่ลง ขณะนี้เกือบจะล้มละลายแล้ว ทางที่ดีเธอรีบส่ายหัวออกไปจากบริษัทดีกว่า"
"คุณย่าตัดสินเรื่องที่อย่างฉลาดที่สุด"
"คุณย่าท่านควรให้เธอส่ายหัวไปตั้งนานแล้ว"
หลังจากฟังคำพูดแล้งน้ำใจนี้แล้ว ตามด้วยเสียงแสดงความปีติยินดีกับเย่หยุนเทา
"ฮ่า ฮ่าหยุนเทา ยินดีด้วยจริงๆ นายมีความสามารถขนาดนี้ ควรจะเป็นคนจัดการดูแลเรื่องชิงสุยกรุ๊ปตั้งนานแล้ว เชื่อว่าภายใต้นายเป็นผู้นำ ชิงสุยกรุ๊ปต้องเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นแน่"
"พี่หยุนเทา ต่อไปพวกเราเป็นผู้ติดตามของพี่แล้วนะ พี่ต้องคอยดูแลพวกเราด้วยล่ะ"
"หยุนเทาทำให้ดีนะ พวกเราลุงป้าน้าอาเชื่อมั่นในความสามารถของนาย"
ฟังคำอวยพรพวกนี้ หลิวจิ้งนั่งลงที่เก้าอี้อย่างหมดแรง สีหน้าแทบจะดูไม่ได้เลย
พึ่งจะผ่านพ้นวิกฤตมาหยกๆ เดี๋ยวนี้ทุกอย่างกำลังอยู่ในช่วงก้าวหน้ามั่นคง คิดไม่ถึงหน้าที่ประธานของเย่สวนถูกท่านย่ายกเลิกสักก่อน
เย่สวนถอนหายใจลึกไป ผลสรุปวันนี้เธอคิดมานานแล้ว เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้ประหลาดใจมาก แค่รู้สึกอัดอั้นใจนิดหน่อย
เมื่อสองปีที่แล้ว ชิงสุยกรุ๊ปที่เธอรับช่วงต่อตอนนั้นกำลังแย่สุดๆ แทบจะล้มละลาย ถึงตอนนี้เธอพึ่งจะกู้ชิงสุยกรุ๊ปคืนมาได้ ก็ถูกเย่หยุนเทารับช่วงไป พูดได้ว่าเหมือนช่วยเย่หยุนเทาเตรียมชุดแต่งงานฟรีๆ
"ฮ่า ฮ่า คุณย่าวางใจเถิด ผมต้องทำให้ชิงสุยกรุ๊ปเจริญก้าวหน้าแน่นอน ทำให้บริษัทตระกูลเรายิ่งใหญ่เท่ากับโก๋เย่กรุ๊ป"ใบหน้าเย่หยุนเทาเต็มไปด้วยความภาพภูมิใจและเสียงหัวเราะ ขนาดเดียวกันก็ยังไม่ลืมที่จะเหยียดหยามเย่สวน
“เย่สวนความสามารถเธอแย่ขนาดนี้ ไม่เหมาะจะทำหน้าที่เป็นประธานของชิงสุยกรุ๊ป ถึงวันนี้แล้ว ในเมื่อคุณย่าประกาศแล้ว ครอบครัวเธอทั้งบ้านก็ควรรีบไสหัวไปซะ อย่าอยู่ที่นี่เพื่อสร้างความยุ่งยากให้พวกเราเลย
"เหอ เหอ เย่สวนเธออายุน้อยๆก็กลับบ้านพักผ่อน เธอคงอยู่ไม่ไหวแน่ หรือไม่ก็เธอลองปรึกษาหยุนเทาดู ต่อไปเธอก็อยู่ที่ชิงสุยกรุ๊ปเป็นคนทำความสะอาดนะ"เย่ซวงหัวเราะเยาะแบบมีเล่ห์เหลี่ยม
"ฮ่าฮ่าฮ่า" คนตระกูลเย่ทั้งบ้านหัวเราะเสียงดัง มองดูเย่สวนเหมือนเป็นตัวตลก
“ อะ ฉันไป ทำไมเรื่องถึงจบลงแบบนี้?ขณะที่ทุกคนในตระกูลเย่กำลังตื่นเต้น ช่วงตื่นเต้น เหลือแต่เลขาส่วนตัวของท่านย่าทำหน้าเศร้า เมื่อกี้ที่เขาจะพูดว่าเป็นข่าวดีขั้นฟ้า แต่ว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเย่สวนด้วย
ถ้าหากเย่สวนถูกขับไล่ออกจากชิงสุยกรุ๊ปจริงๆ งั้นข่าวดีก็จะกลายเป็นข่าวร้ายละสิ
"ไม่ ไม่ ไม่ประธานกรรมการ คุณเย่สวนความสามารถเป็นเลิศ ชิงสุยกรุ๊ปขาดเธอไม่ได้นะ การตัดสินใจนี้ท่านต้องคิดให้ดี"เลขายืนออกมาทันที พูดกับท่านย่าอย่างจริงจัง
อะไร?
พอคำพูดนี้ออกมา ทำเอาคนในตระกูลเย่ทั้งหมดชะงับ
แค่เลขาเล็กๆยังกล้าขัดขวางการตัดสินใจของท่านย่า?เลขาเล็กสำคัญตัวเองมากไปละมั่ง?
"เชี่ยหลี่เจ๋นายเป็นแค่สุนัขรับใช้ข้างกายของคุณย่า การตัดสินใจของคุณย่านายกล้ามาตั้งคำถาม?เย่หยุนเทาทุบโต๊ะลุกขึ้นมาคนแรก
“ไอ้ปัญญาอ่อนมาจากไหน?ไม่รู้ตัวหรือไงว่าตัวเองไม่มีค่าอะไร"เย่ซวงทำเสียง ฮืม แล้วพูดต่อ"คุณย่าคนปัญญาอ่อนแบบนี้ให้อยู่ข้างกายทำไม?ถือโอกาสรีบไล่เขาออกเถิด"
“แม่-เอ๊ย ไม่รู้ตัวเองเลยสักนิด การประชุมในครอบครัวเรา นายเป็นแค่หมาตัวหนึ่ง มีสิทธ์มาเห่าอยู่ที่นี่เหรอ?" เย่เจิ้งกั๋วลุกขึ้นทันที ตาจ้องไปที่เลขาน้อยแล้วพูด:"ฉันมีร้อยวิธีให้นายอยู่ต่อเมืองปินเหอไม่ได้เชื่อมั้ย?
เลขาเช็ดเหงื่อบทหน้าผ่า ไม่กลัวสักนิด แม้กระทั่งยังยิ้มอย่างเย็นชาตลอด "ผมพึ่งได้รับเอกสารจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ปมาหนึ่งฉบับ หยูเม่ยหยินกรุ๊ปให้โอกาสตระกูลเย่ร่วมมือกับเขา ให้ตระกูลเย่จัดยาสมุนไพรตามที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ปต้องการ ทุกปีออเดอร์ประมาณสิบกว่าล้าน แต่หยูเม่ยหยินกรุ๊ปมีข้อแม้ หยูเม่ยหยินกรุ๊ปไม่ได้ร่วมมือภายใต้บริษัทของตระกูลเย่ทั้งหมด เขาจะร่วมมือด้วยแค่ชิงสุยกรุ๊ปเท่านั้น นอกจากนี้ เขายังระบุด้วยว่าคนรับผิดชอบต้องเป็นคุณเย่สวนเท่านั้น แต่ตอนนี้ประธานกรรมการก็ไล่คุณเย่สวนออกจากชิงสุยกรุ๊ปแล้ว ถ้างั้นออเดอร์พวกนี้ก็โมฆะไม่มีผลอะไร
เงียบงัน!
ทั้งห้องประชุมที่กว้างใหญ่ เงียบงันทั้งห้อง