หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 25 เขาเป็นคนล้างห้องน้ำ
บทที่ 25 เขาเป็นคนล้างห้องน้ำ
เห็นลู่เสี้ยงหยางเดินออกมาจากห้องน้ำเย่สวน ท่านย่าพวกเขา นึกว่าพวกเขาจำคนผิด พวกเขาขยี้ตาทีละคน
ภาพลักษณ์ของลู่เสี้ยงหยางในคราบของคนขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถฝังรากลึกในใจของทุกคน เขาจะมีสิทธิ์เข้ามาในหยูเม่ยหยินกรุ๊ปได้อย่างไร
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจคือ มองไปอีกที คนคนนั้นเป็นลู่เสี้ยงหยางจริงๆด้วย
“เฮ้ย เห็นผี” เย่หยุนเทาตกใจ ส่งเสียงร้องแปลก ๆ ในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ลู่เสี้ยงหยางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
แน่นอนในวินาทีนี้ท่านย่า เย่สวน เย่ซวงและ เย่หยุนเทา ในใจต่างมีคำถาม
ลู่เสี้ยงหยางมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
ในจิตใต้สำนึก เย่หยุนเทาและเย่ซวงก็คิดว่า ลู่เสี้ยงหยางจะต้องแอบเข้ามาแน่ๆ และพวกเขาก็คิดว่า หยูเม่ยหยินกรุ๊ปมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มมาก แม้ลู่เสี้ยงหยางจะมีปีก ก็ไม่มีทางจะแอบเข้ามาได้
คิดถึงตรงนี้ สมองของเย่หยุนเทาก็เริ่มทำงานด้วยความเร็วสูง ช่วงเวลาต่อไป ตากลอกไปมา คิดถึงความเป็นไปได้ ยิ้มเหมือนไม่ค่อยเต็มใจมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วกล่าวว่า “ลู่เสี้ยงหยาง คุณไม่ธรรมดา ไม่เจอกันแค่สามวันทำเอาตะลึงไปเลย หรือทำงานที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ป โอ้ เหอะๆ คงจะทำงานพวกล้างห้องน้ำมั่ง”
ฟังคำพูดของเขาแล้ว เย่ซวงดวงตาประกายทันที ในเมื่อลู่เสี้ยงหยางไม่สามารถแอบเข้ามาได้ ก็มีแค่กรณีเดียวคือ เขาทำงานที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ป และด้วยความสามารถของลู่เสี้ยงหยาง ก็น่าจะทำได้แค่ล้างห้องน้ำ
“ฮา ฮา ฮา ตลกจริงๆ ชั่งเป็นคนขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถจริงๆเลย ต้องล้างห้องน้ำเพื่อเลี้ยงปากท้อง” เย่ซวงหัวเราะเสียงดัง ใบหน้าแสดงความดูถูก
“คนเสียข้าวสุก หน้าตาตระกูลเย่ของพวกเราถูกคุณทำลายจนหมดสิ้นแล้วเย่สวน รอการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจสิ้นสุดก่อน คุณกลับไปต้องหย่ากับเขาทันที” ท่านย่ากล่าวด้วยใบหน้าที่โกรธ
“โธ่” เย่สวนถอนหายใจในใจ การแสดงออกบนใบหน้าดูสับสน ในสายตาของเธอ การทำงานไม่มีการแบ่งชนชั้น ถึงแม้จะเป็นแค่คนล้างห้องน้ำแต่ก็อาศัยลำแข้งของตนเอง ดีกว่าเย่หยุนเทา และเย่ซวงหนอนข้าวของครอบครัวเหล่านี้ เพียงแค่การดูถูกของเย่หยุนเทาพวกเขา ทำให้เธอเจ็บปวดในใจ
เธอไม่ได้สนใจว่าลู่เสี้ยงหยางจะทำงานอะไร แต่คนอื่นสนใจ และเธอก็สนใจว่าคนอื่น ๆ คิดอย่างไรกับลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย ยิ้มให้เธอเมื่อเห็นเย่สวน จากนั้นเหลือบมองท่านย่า เย่หยุนเทาพวกเขา เหมือนกำลังมองคนโง่
“เกรงว่าจะทำให้พวกคุณผิดหวังแล้ว ฉันมาเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจ” ลู่เสี้ยงหยางพูดเบาๆ
อะไรนะ
เมื่อเขาพูดออกมา ทุกคนตะลึง เสียดายที่ไม่มีใครเชื่อเขา
ในช่วงสามปีที่ผ่านมาที่เขาเป็นลูกเขยของตระกูลเย่ ภาพลักษณ์คนขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถของเขาได้ซึมเข้าในกระดูกของพวกเขาแล้ว คนที่สามารถเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจนี้ได้ ล้วนเป็นตัวแทนของบริษัทใหญ่ ๆทั้งนั้น เขาลู่เสี้ยงหยางเป็นใคร
“ฮา ฮา ฮา ช่างเป็นคนโง่จริงๆ แม่งไม่กลัวว่าพูดโกหกแล้วจะสะเทือนลิ้นเหรอ คนอย่างคุณเนี่ยนะ จะมีสิทธิ์ได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจ ฉันจะรีบคุกเข่าแล้วเรียกคุณว่าพ่อเลย” เย่หยุนเทาหัวเราเสียงดัง น้ำตาเกือบจะไหลออกมา
“ถุย เล่นอะไรกัน ช่างไม่รู้ตัวเลย คนโง่อย่างคุณยังสามารถมาเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจ แล้วคนชั้นสูงอย่างพวกเราจะต้องมาคลุกคลีกับคุณ ออกไปเดี๋ยวนี้” เย่ซวงกล่าวด้วยการเยาะเย้ย
เย่สวนใบหน้าซีดขาว เดินไปข้างลู่เสี้ยงหยาง พูดเบาว่า “รีบออกไปเถอะ อย่าโม้ต่อเลย มิฉะนั้นคุณจะต้องอับอายกว่านี้ นอกจากนี้ งานนี่ของคุณก็ไม่ต้องทำต่อแล้ว ต่อไปทำงานที่บริษัทของฉันดีกว่า ฉันจะให้เงินเดือนสูงกับคุณ”
ฟังประโยคนี้แล้ว ลู่เสี้ยงหยางในใจก็สบายขึ้น ในเวลาที่สำคัญเช่นนี้คนที่เป็นห่วงตัวเองมากที่สุดก็ยังคงเป็นภรรยาของตัวเอง
เวลาต่อมา ลู่เสี้ยงหยางยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังแล้วเดินไป
แต่ด้านหลังก็ยังมีเสียงหัวเราะเยาะของเย่หยุนเทาและเย่สวน
“แม่ง ทำไมถึงมีคนโง่อย่างลู่เสี้ยงหยางได้ คนอย่างเขาอยู่ไปก็เปลืองข้าวเปล่าๆ ทำไมไม่ตายๆไปซะ”
“ฮา ฮา ฮา ที่ตกลงคือ ทั้งๆที่เป็นคนไร้ค่า แต่ในสายตาของบางคนกลับเป็นของล้ำค่า”
“อืม นี่น่าจะเป็นเพราะคนไร้ค่าก็น่าจะเห็นใจคนไร้ค่าด้วยกัน”
……
ด้วยเสียงเยาะเย้ยลู่เสี้ยงหยาง พวกเย่สวนก็เดินไปถึงห้องประชุมของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
การประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจในวันนี้จัดขึ้นที่นี่
การประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจจะเริ่มตอน 9โมงอย่างเป็นทางการ ตอนนี้แค่8โมง50 ยังมีเวลาพักอีก10นาที
เย่สวนพวกเขาเจอที่นั่งของตนเองแล้ว การจัดสรรที่นั่งก็มีความเฉพาะเจาะจง มีเพียงตัวแทนบริษัทที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถนั่งในตำแหน่งแนวหน้าได้
เย่สวน ท่านย่าพวกเขาสี่คน มีสิทธิ์นั่งได้แค่แถวหลังสุด
ต้องบอกว่า ความโลภของผู้คนไม่มีขีดจำกัด ก่อนที่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจ พวกคนตระกูลเย่ความปรารถนาก็คือ ขอแค่ได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจ แต่ตอนนี้ได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจแล้ว พวกเขาก็อยากจะนั่งตำแหน่งแถวหน้า
เย่หยุนเทายิ้มแล้วยิ้มอีก พูดอย่างมั่นใจว่า “คุณย่า ต่อไปถ้าบริษัทอยู่ในความดูแลของฉัน บวกกับเย่ซวงแต่งเข้าไปในตระกูลลู่ พวกเราร่วมมือกัน ตัวแทนของบริษัทเราจะต้องได้นั่งตำแหน่งแถวหน้าอย่างแน่นอน”
ท่านย่ายิ้มแล้วพยักหน้า ในใจยิ่งปลื้มเย่หยุนเทาและเย่ซวงสองคนนี้มากขึ้น
เย่สวนไม่ได้มีส่วนร่วมในการพูดคุยของพวกเขา เหมือนกำลังใจลอย เจ็บปวดในใจ ลู่เสี้ยงหยางเป็นคนรักศักดิ์ศรีมาก แต่มาทำงานล้างห้องน้ำที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ป ดูเหมือนเขาจะไม่มีทางไปแล้ว
“ใช่แล้ว” เวลานี้เย่หยุนเทานึกถึงเรื่องเรื่องหนึ่ง มองเย่สวนเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มแล้วถามว่า “ลู่เสี้ยงหยางบอกว่ามาร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจไม่ใช่เหรอ ทำไมยังไม่เห็นเขา คุณไม่โทรเรียกเขาหน่อยเหรอ”
“ใช่ เรียกเขามาให้ทุกคนได้เห็นหน่อย คนขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถของตระกูลเย่พวกเราเก่งแค่ไหน เขายังสามารถมาเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจได้” เย่ซวงกล่าวโดยไม่มีรอยยิ้ม
เย่สวนถูกโจมตีจนพูดไม่ออก ท่านย่าตบโต๊ะแล้วพูดว่า “พอแล้ว อย่าพูดถึงคนขี้ขลาดตาขาวและไม่มีความสามารถแล้ว พูดถึงเขา ฉันก็คลื่นไส้”
“ได้ครับคุณย่า” เย่หยุนเทาและเย่ซวงไม่กล้าพูดต่อแล้ว แต่เมื่อมองไปที่เย่สวนแสดงออกถึงการเยาะเย้ย
เวลาผ่านไประหว่างรอ 10นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว เก้าโมงตรง การประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจเริ่มอย่างเป็นทางการ
อาวุโสของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปในภายใต้การดูแลของซุนเซียงเซียงก็เดินเข้ามาพร้อมกัน
ทันใดนั้นเย่หยุนเทาหรี่ตามอง คนข้างๆซุนเซียงเซียง เขามองเห็นเป็นลู่เสี้ยงหยาง
แน่นอนเย่สวน ท่านย่า ก็เห็นลู่เสี้ยงหยางทันทีเช่นกัน
“เฮ้ย เห็นผีอีกแล้ว” เย่ซวงเกือบจะพ่นน้ำที่กำลังดื่มออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ เหลือเชื่อ
ลู่เสี้ยงหยางไม่ใช่เป็นแค่ลูกเขยที่คนเสียข้าวสุกของตระกูลเย่เหรอ มีสิทธิ์อะไรไปเดินข้างซุนเซียงเซียงได้
เชอะ
ท่านย่าลุกขึ้นทันที จ้องมองลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่กะพริบตา สีหน้าดูสับสนมาก
เธอนำตระกูลเย่ต่อสู้ดิ้นรนมานานหลายสิบปี กว่าจะมีโอกาสได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจนี้ได้ แต่ลู่เสี้ยงหยางเป็นแค่ลูกเขยคนเสียข้าวสุกของครอบครัวเขา เวลานี้กลับได้เดินข้างซุนเซียงเซียง
“โอ้ นี่ นี่มันอะไรกัน” เย่สวนในหัวมีแต่ความว่างเปล่า นั่งตะลึง ในสมองคิดถึงภาพที่เพิ่งเจอลู่เสี้ยงหยางเมื่อสักครู่นี้
ลู่เสี้ยงหยางบอกว่ามาเพื่อเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจ แต่ไม่มีใครเชื่อแม้แต่คนเดียว แต่ตอนนี้เขายืนอยู่ข้างคนที่มีชื่อเสียงอย่างซุนเซียงเซียง
การปฏิบัติตัวเช่นนี้น่าจะเป็นคนตระกูลเย่ของพวกเราถึงจะเหมาะสมสิ
ในขณะที่ท่านย่าพวกเขากำลังตกตะลึง ลู่เสี้ยงหยางกับซุนเซียงเซียงก็เดินเข้ามาในห้องประชุมแล้ว
มือของเย่หยุนเทาจับแก้วไว้อย่างแน่น คิดถึงความเป็นไปได้ ทันใดนั้นจึงยิ้มอย่างเย็นชา “ลู่เสี้ยงหยางก็เป็นแค่คนทำงานเบ็ดเตล็ดของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป เขาเข้ามาในนี้ น่าจะมาเพื่อเสิร์ฟน้ำให้กับพวกเรา”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ท่านย่าและเย่ซวงตาก็สว่าง รู้สึกสบายใจขึ้น
ใช่ๆ คนเสียข้าวสุกอย่างลู่เสี้ยงหยางจะมีสิทธิ์อะไรมาร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจนี้ น่าจะมาเพื่อเสิร์ฟน้ำให้พวกเราแน่นอน
“เหอะๆ ลิงก็คือลิง แม้ว่าจะสวมใส่เสื้อผ้าก็ยังเป็นตัวตลกอยู่ดี ทำงานที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ป พูดออกไปก็เป็นเรื่องที่มีเกียรติ แต่คนเสียข้าวสุกนี้ล้างห้องน้ำ ทำงานเบ็ดเตล็ดที่หยูเม่ยหยินกรุ๊ป ถ้าพูดออกไปก็จะทำให้ตระกูลเย่ของพวกเราเสียหน้า” เย่ซวงยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูด
เย่สวนไม่พูดสักคำ รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ ถ้าลู่เสี้ยงหยางมาเสิร์ฟน้ำจริงๆ ในมือทำไมไม่มีกาต้มน้ำและถ้วยกระดาษ
แต่แล้ว สิ่งที่ทำให้ท่านย่าและเย่หยุนเทาพวกเขาต้องตื่นตระหนกคือ
ลู่เสี้ยงหยางและซุนเซียงเซียงนั่งในแถวที่นั่งที่เป็นของเจ้าภาพ