หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 23 โควตารายบุคคล
บทที่ 23 โควตารายบุคคล
ฟังจากที่เย่หยุนเทาพูด ท่านย่าใบหน้าเศร้าลงมาก เธอก็เคยคิดเรื่องนี้ คนเสียข้าวสุกอย่างลู่เสี้ยงหยาง ในบัตรจะมีเงินสามแสนกว่าหยวนได้อย่างไร หลังจากที่เย่หยุนเทาพูดเรื่องนี้ขึ้น เธอตื่นตัวทันที
ที่แท้ลู่เสี้ยงหยางแอบโอนเงินของชิงสุยกรุ๊ปภายใต้ชื่อของเย่สวน
“บังอาจมาก ลู่เสี้ยงหยางใจกล้าเกินไปแล้ว” ท่านย่าตบโต๊ะด้วยความโมโห ใบหน้าเครียดมาก
เย่หยุนเทาถอนหายใจ แล้วพูดต่อว่า “คุณย่า บางทีอาจถูกสั่งโดยเย่สวนก็เป็นได้ ไม่เช่นนั้นคนอย่างลู่เสี้ยงหยาง จะกล้าทำเรื่องเช่นนี้ใต้จมูกของเย่สวนได้อย่างไร”
“ใช่ แม่ เย่สวนเป็นผู้หญิงที่ฉลาดเฉียบแหลม มีการโอนเงินสามแสนกว่าหยวน เธอจะไม่รู้เรื่องได้อย่างไร จะต้องได้รับการยอมรับจากเธอแน่นอน ดูท่าเย่สวนผู้หญิงคนนี้เป็นหมาป่าที่เลี้ยงไม่เชื่อง ต้องการยืมมือของลู่เสี้ยงหยางในการยักยอกเงินบริษัทของพวกเรา” เย่เจิ้งกั๋วตีไข่ใส่สี
“ฮึ นังเย่สวน ถ้ากำเริบเสิบสาน ชั่งเหอะรอพวกเรากลับจากการสัมมนาครั้งนี้ก่อน ฉันจะปลดเธอออกจากตำแหน่ง ต่อไปชิงสุยกรุ๊ปก็ให้หยุนเทาควบคุมดูแล” ท่านย่าน้ำเสียงหนักแน่น
เย่หยุนเทาและเย่เจิ้งกั๋วจ้องหน้ากันแล้วก็ยิ้ม ในใจรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ในเวลาเดียวกันก้อนหินขนาดใหญ่ที่พวกเขาแขวนอยู่สูงก็ตกลงสู่พื้นในที่สุด
ไม่กี่วันที่ผ่านมา พวกเขาต่างก็รู้ว่าชิงสุยกรุ๊ปของเย่สวนห่วงโซ่การระดมทุนขาด เผชิญกับภาวะล้มละลาย ต่อมาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เอาเงิน 10 ล้านมาลงทุนในบริษัทได้จากไหน ตอนนี้บริษัทถึงได้ร่ำรวยทางการเงิน
โก๋เย่กรุ๊ปภายใต้ชื่อของเย่เจิ้งกั๋วเป็นบริษัทย่อยที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเย่กรุ๊ปมาโดยตลอด แต่หลายปีมานี้ เย่เจิ้งกั๋วและเย่หยุนเทาไม่รู้ว่าแอบยักยอกเงินบริษัทไปเท่าไหร่แล้ว ตอนนี้โก๋เย่กรุ๊ปมีช่องโหว่อยู่ทุกที่
เย่เจิ้งกั๋วและเย่หยุนเทาถึงได้เอาความสนใจไปไว้ที่ชิงสุยกรุ๊ป อยากจะยักยอกเงินจากชิงสุยกรุ๊ป มาอุดช่องโหว่
ดังนั้นเย่สวนจำเป็นต้องลงจากตำแหน่งก่อน เย่หยุนเทาจะต้องได้ควบคุมดูแลชิงสุยกรุ๊ป พวกเขาถึงจะมีโอกาสยักยอกเงินต่างๆของชิงสุยกรุ๊ป
ในคืนนั้น ท่านย่าก็โทรหาเย่สวน บอกเธอว่า พรุ่งนี้การประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปไม่มีชื่อของเธอ เธอไม่ต้องไปเข้าร่วม
“อะไรนะ ทำไม ทำไม” เย่สวนพอวางสาย ก็มีน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
การประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจในครั้งนี้เธอเป็นคนได้บัตรเชิญมา คิดไม่ถึงว่าท่านย่าจะใจร้ายขนาดนี้เตะเธอออก
หลิวจิ้งที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาดูทีวีถึงกับผงะ รีบถามเย่สวน “ลูก เกิดอะไรขึ้น”
เย่สวนใบหน้าเศร้า กล่าวคำพูดของท่านย่าอีกรอบ
หลิวจิ้งลุกขึ้นจากโซฟาอย่างโกรธเกรี้ยว ตะโกนอย่างโมโห “ทำไม ทำไมท่านย่าถึงได้ลำเอียงขนาดนี้ บัตรเชิญเธอเป็นคนได้มา เธอต้องมีที่สำหรับเธอหนึ่งที่ถึงจะถูกต้อง”
เย่สวนไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ กุมขมับของเขาด้วยความเจ็บปวด
หลิวจิ้งเริ่มด่าว่า “เป็นเพราะลู่เสี้ยงหยางคนเสียข้าวสุก ถ้าเขาไม่ยั่วโมโหท่านย่า ท่านย่าจะทำเช่นนี้กับเธอได้อย่างไร นอกจากนี้ คนเสียข้าวสุกนี้มีความสามารถเพียงเล็กน้อย ท่านย่าก็จะไม่กล้ารังแกพวกเรา เฮ่ย เธอดูเย่ซวง ตอนนี้ท่านย่ายกเป็นคนสำคัญแล้ว ท่านย่าสายตาเฉียบคม รู้ว่าอีกไม่นานแกก็จะได้แต่งงานกับตระกูลลู่ที่ร่ำรวยของเมืองหลวง”
“แม่ หยุดพูดได้ไหม ฉันกุ้มใจจะตายแล้ว” เย่สวนได้ยินชื่อลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย หลังจากจ้องมองไปที่หลิวจิ้ง ก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วกลับเข้าห้องตัวเองไป
เธอมีคำถามหนึ่งคำถามในใจตลอดมา ลู่เสี้ยงหยางออกไปจากบ้านของพวกเขาสามวันแล้วก็ไม่กลับมาอีก ไม่รู้เขาเป็นอย่างไรบ้างเมื่ออยู่ข้างนอก จะกินอิ่มนอนอุ่นหรือไม่ มีที่นอนไหม
……
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น
ลู่เสี้ยงหยางเพิ่งมาถึงห้องทำงาน ซุนเซียงเซียงก็ผลักประตูเข้ามา
ซุนเซียงเซียงสวมเครื่องแบบเช่นเคย ด้านบนพันด้วยผ้า เอวบางด้านล่างจับคู่กับกระโปรงสั้นคลุมสะโพกซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปร่าง
ที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์ของเธออย่างสมบูรณ์
น่าเสียดายลู่เสี้ยงหยางไม่ได้มองเธอ เขากับเย่สวนไม่ได้เจอกันมาสามวันแล้ว ในหัวคิดถึงแต่เย่สวน
“ประธาน นี่คือรายชื่อบริษัทที่จะเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจของพวกเรา พร้อมรายชื่อตัวแทนผู้เข้าร่วมของบริษัท” ซุนเซียงเซียงมาถึงด้านหลังของลู่เสี้ยงหยาง วางเอกสารกองหนึ่งไว้ตรงหน้าลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางไม่มองเอกสาร แล้วถามซุนเซียงเซียงว่า “รายชื่อเหล่านี้มีปัญหาอะไรไหม”
ซุนเซียงเซียงยิ้มแล้วพูดว่า “50 บริษัทใหญ่ที่ได้รับเชิญจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ปของเรา ไม่มีใครขาดเลย ดูเหมือนว่าตัวแทนของตระกูลเย่กรุ๊ปจะมีปัญหาเล็กน้อย”
“อืม จริงเหรอ ปัญหาอะไร” ลู่เสี้ยงหยางขมวดคิ้วแล้วถาม
“ประธานเป็นแบบนี้” ซุนเซียงเซียงลังเลอยู่สองสามวินาที ถึงได้พูดออกไปว่า “ก่อนหน้านี้ เราให้ตระกูลเย่กรุ๊ปเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจจำนวนสี่ท่าน รายชื่อก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว แต่เย่สวนไม่ได้อยู่ในตัวแทนด้วย”
“อะไรนะ” ลู่เสี้ยงหยางใบหน้าของเขาเย็นชาทันที ดูเหมือนว่า แม้ว่าเย่สวนจะได้รับบัตรเชิญ แต่ก็ไม่มีสถานะในครอบครัวเลย การปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้เธอจึงไม่มีสิทธิเข้าร่วม
ไม่ต้องรอลู่เสี้ยงหยางถาม ซุนเซียงเซียงก็พูดขึ้นทันที “ตัวแทนของตระกูลเย่กรุ๊ปคือ ท่านย่า เย่เจิ้งกั๋ว เย่หยุนเทาและเย่ซวง”
ลู่เสี้ยงหยางเกือบจะหัวเราะด้วยความโกรธ ท่านย่าโปรดปรานเย่เจิ้งกั๋วคนโตของครอบครัวมาโดยตลอด สี่ตำแหน่ง ครอบครัวของพวกเขาก็ครองไปแล้วสองตำแหน่ง สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
“แจ้งคำสั่งของฉันออกไปตอนนี้ว่า ยกเลิกรายชื่อของตระกูลเย่กรุ๊ปทั้งหมด นอกจากนี้ ให้ชิงสุยกรุ๊ปมีตำแหน่ง ลู่เสี้ยงหยางกล่าวแบบเย็นชา
ก่อนหน้านี้รายชื่อการเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการธุรกิจในนามของตระกูลเย่กรุ๊ป ดังนั้นท่านย่าจึงมีอำนาจในการจัดการ แต่ถ้าตอนนี้เขาให้รายชื่อการเข้าร่วมในนามของชิงสุยกรุ๊ป เช่นนั้นอำนาจในการจัดการก็จะเป็นของเย่สวนแล้ว
“ใช่ ประธาน ฉันจะรีบไปจัดการเรื่องนี้ทันที” ซุนเซียงเซียงออกจากห้องทำงานของลู่เสี้ยงหยางอย่างเร่งรีบ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ที่ใต้อาคารของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป ตัวแทนของบริษัทขนาดใหญ่ 50 แห่งที่ได้รับการเชิญทั้งหมดก็มาถึงอย่างพร้อมเพรียง ยืนอยู่อย่างเรียบร้อยที่ใต้อาคารบริษัท รอการจัดการของหยูเม่ยหยินกรุ๊ป
ท่านย่าแห่งตระกูลเย่ในฝูงชนมองไปที่อาคารหยูเม่ยหยินกรุ๊ปอันสง่างาม ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
มีโอกาสได้รับเชิญจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ปนั่นคือการยืนยันถึงความแข็งแกร่ง ตระกูลเย่ของพวกเขาเกือบจะไม่ได้ก้าวเข้าสู่วงการชั้นสูงของเมืองปินเหอแล้ว
เย่เจิ้งกั๋วยิ้มแล้วยิ้มอีก หน้าด้านเพื่อคว้าเครดิต “แม่ ตระกูลเย่ของพวกเราได้รับเชิญจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ป โก๋เย่กรุ๊ปภายใต้ชื่อของฉันก็มีส่วนร่วมไม่น้อยนะ”
“ใช่ๆ คุณย่า เพราะโก๋เย่กรุ๊ปของพ่อฉันช่วยได้มาก ตระกูลเย่ของพวกเราถึงได้รับบัตรเชิญจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ป คุณย่า นี่ถือว่าเป็นผลงานชิ้นใหญ่เลยนะ ท่านต้องไม่ลืมนะ” เย่หยุนเทาเออออห่อหมกด้วย
“สบายใจได้ ในตระกูลเย่ของพวกเรา พวกคุณพ่อลูกโดดเด่นที่สุด ฉันจะไม่รู้ได้อย่างไร” ท่านย่ากล่าว
เย่ซวงไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่พูดอะไร
เย่หยุนเทาพูดต่อว่า “คุณย่า ปีที่ผ่านมาเป็นเพราะชิงสุยกรุ๊ปของเย่สวน เป็นตัวถ่วงของพวกเราตระกูลเย่ ไม่เช่นนั้นตระกูลเย่ของพวกเราก็คงจะได้รับเชิญจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ปไปตั้งนานแล้ว”
“ฮึ” ท่านย่าส่งเสียงในจมูก เมื่อเอ่อถึงเย่สวนก็รู้สึกไม่สบายใจ
“คุณย่า” เย่ซวงพูดแทรก “ความสำเร็จของพวกเราตระกูลเย่ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ รอฉันได้เข้าร่วมตระกูลเย่ ตระกูลเย่กรุ๊ปของพวกเรากับตระกูลลู่ร่วมมือกัน ไม่แน่เมื่อถึงเวลานั้นอาจจะกดหยูเม่ยหยินกรุ๊ปลงก็เป็นได้ ใครจะไปรู้”
“ดี ดี ดี” เมื่อท่านย่าได้ยินประโยคนี้ จึงพูดสามคำนี้ติดต่อกัน รู้สึกอารมณ์ดีมีความสุขมาก
ขณะที่ทุกคนในตระกูลเย่กำลังพูดคุยกัน เย่สวนใส่ส้นสูงเดินเข้ามาที่ใต้ตึกของหยูเม่ยหยินกรุ๊ปอย่างเร่งรีบ
ตอนเช้าวันนี้ เย่สวนได้รับสายจากซุนเซียงเซียงโดยตรง ในสายซุนเซียงเซียงบอกเธอว่า ชิงสุยกรุ๊ปของพวกเขามีจำนวนสี่คน
เธอจึงรีบมาทันที แต่ในชิงสุยกรุ๊ป แต่ภายใต้การดูแลของเย่สวนไม่มีพนักงานคนไหนที่มีความเหมาะสม ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พาใครมาด้วย เธอมาคนเดียว
“เฮ้ เฮ้ย เย่สวนมาได้อย่างไร” เย่สวนเพิ่งมาถึง ก็ถูกเย่หยุนเทาสังเกตเห็นแล้ว
ตระกูลเย่ทุกคนหันไปมองข้างหลังทีม เห็นเย่สวนยืนอยู่ด้านหลังสุด
ท่านย่าชักสีหน้าลงทันที คิดว่าเย่สวนถูกเธอเตะออกไปแต่ไม่ยอมแพ้ ดังนั้นจึงแบกหน้าตามมาด้วย ส่งเสียงจากจมูก แล้วเดินไปหาเย่สวน
เย่หยุนเทาพวกเขาก็เดินตามไปด้วย
“อุ๊ยเย่สวน คุณย่าไม่ให้เธอมา เธอยังหน้าด้านมาอีกเหรอ มันสมควรไหม” เย่หยุนเทา พูดโจมตีแปลกๆ
“นั่นหล่ะ อะไรของเธอ ไม่รู้ตัวเลยเหรอ แล้วไม่ดูสถานะของตัวเองกับพวกเราเลย พวกเราเหมือนอยู่กันคนละโลกเข้าใจไหม คุณจะต้องเบียดเข้ามาในวงของพวกเขา ไม่อายเหรอ” เย่ซวงสามารถยิ้มแล้วพูดประชด
“ฉันว่าคุณควรจะรีบออกไปจากที่นี่นะ คุณจะหน้าด้านมาที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์ ตระกูลเย่ของพวกเราไม่มีรายชื่อของคุณ” เย่เจิ้งกั๋วสะบัดมือ
“ฮึเย่สวน ถ้าจะให้ดีคุณอย่ามาทำให้ตระกูลเย่ของพวกเราต้องขายหน้าเลย รีบออกไปจากที่นี่ซะ” ท่านย่าหมดความอดทนมากและสั่งให้ออกไป
เย่สวนสีหน้านิ่ง พูดว่า “ฉันได้รับเชิญจากหยูเม่ยหยินกรุ๊ปเป็นการส่วนตัว คิดว่าคงจะไม่ได้มีชื่อซ้ำกับสี่รายชื่อของตระกูลเย่ของพวกคุณใช่ไหม”
อะไรนะ
เธอพูดเช่นนี้ พวกท่านย่า เย่หยุนเทามองหน้ากัน เหลือเชื่อ