หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 209 เรื่องบางเรื่องพูดต่อหน้าภรรยาไม่ได้
บทที่ 209 เรื่องบางเรื่องพูดต่อหน้าภรรยาไม่ได้
หวังเขี่ยวหยุนที่เห็นลู่เสี้ยงหยางไม่มีทีท่าว่าจะลงไม้ลงมือ เธอจึงคิดว่าเขากลัวตัวเองและแสดงสีหน้าได้ใจมาก
ทุกวันนี้เธอเป็นสะใภ้ของตระกูลหลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองปินเหอ เป็นครอบครัวสูงส่งแม้แต่ครอบครัวเศรษฐีอื่นๆ ก็ไม่กล้าตอแยด้วย
ด้วยเหตุนี้หวังเขี่ยวหยุนถึงกล้าหยิ่งผยองขนาดนี้ อีกอย่างสามีของเธอยังเป็นน้องชายแท้ๆของทายาทสืบสกุลด้วย ดังนั้นในเมืองปินเหอนี้เธอแทบไม่ต้องเกรงกลัวใครเลย
แน่นอนว่าวันนี้ที่หวังเขี่ยวหยุนมีปัญหากับเย่สวนนั้นไม่ได้มีเพียงเรื่องในอดีตของพวกเธอเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้สามีของเธอที่ได้เจอกับเย่สวนเขากลับมองเย่สวนอย่างไม่กะพริบตาเลย ซึ่งเรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
วันนี้เธอจะให้บทเรียนกับผู้หญิงสารเลวคนนี้ เธอจะทำให้สามีรู้ว่าผู้หญิงที่น่าเกลียดคนนี้ยังคุ้มค่าให้เขามองอย่างไม่กะพริบตาอีกไหม!
ณ เวลานี้ เมื่อเห็นมือของหวังเขี่ยวหยุนที่กำลังเหวี่ยงออกมา ในที่สุดลู่เสี้ยงหยางก็ยกมือขึ้นมาแล้วคว้าแขนหวังเขี่ยวหยุนไว้ทันที
“เชื่อไหมว่าผมจะหักมือคุณได้” ลู่เสี้ยงหยางพูดอย่างเย็นชามาก
หวังเขี่ยวหยุนรู้สึกสะดุ้งอย่างตั้งตัวไม่ทัน ความกลัวที่ไม่รู้จักเกิดขึ้นในหัวใจของเธอ
ดูเหมือนเป็นภาพลวงตาที่ลู่เสี้ยงหยางกล้าทำอะไรกับเธอจริงๆ
แต่ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็นึกถึงภูมิหลังอันสูงส่งของเธอ และทันทีที่นึกถึงเธอก็เต็มไปด้วยความมั่นใจแล้วพูดกับลู่เสี้ยงหยางอย่างท้าทาย “นายมันก็แค่เศษขยะ ยังกล้าพูดจาถากถางอีก เชื่อไหมว่าฉันจะหาคนมาฆ่านายได้……”
เธอยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ต้องตะโกนขึ้นมาอีกครั้งด้วยสีหน้าความเจ็บปวด
ลู่เสี้ยงหยางเริ่มใช้แรงแขนของเขา
เปลือกตาเย่สวนกระตุก เธอรู้จักตัวตนของหวังเขี่ยวหยุนดี ดังนั้นเธอจึงรู้สึกกลัวเล็กน้อย
เธอรีบเข้ามาดึงแขนเสื้อลู่เสี้ยงหยางแล้วกระซิบพูด “ใจเย็นก่อน ฉันอาจจะลำบากนะถ้าคุณมีเรื่องกับเธอ”
แม้จะเป็นเสียงกระซิบ แต่หวังเขี่ยวหยุนก็ยังได้ยินเสียงเธอ ดังนั้นจึงทำให้หวังเขี่ยวหยุนยิ่งได้ใจขึ้น
เธอมั่นใจแล้วว่าวันนี้จะให้เย่สวนคุกเข่าขอร้องเธอให้ได้
เมื่อพูดเสร็จ เธอยกมือขึ้นแล้วเหวี่ยงไปทางเย่สวนอีกครั้ง
เธอคิดว่าจะสั่งสอนเย่สวนก่อนแล้วค่อยกลับมาจัดการลู่เสี้ยงหยาง เพราะตอนนี้เธอเกลียดเย่สวนมากกว่า
เย่สวนได้แต่มองฝ่ามือของหวังเขี่ยวหยุนที่เหวี่ยงเข้ามาหาเธอ เธอไม่กล้าหลบ ได้แต่หลับตาน้อมรับมันและไม่รู้ว่าน้ำตาของตัวเองซึมตั้งแต่เมื่อไหร่
เธอไม่ได้กลัวหวังเขี่ยวหยุน แต่เธอกลัวแค่ว่าหวังเขี่ยวหยุนจะทำร้ายคนข้างๆ เธอคนนี้
ผั๊วะ!
ทันใดนั้นเสียงคมชัดที่แสบแก้วหูดังขึ้น
ตามด้วยเสียงกรีดร้องของหวังเขี่ยวหยุน “โอ้ย ไอ้เหี้ยมึง ไอ้เศษขยะ กล้าตีกูได้ไง”
เย่สวนลืมตาขึ้นอย่างว่างเปล่า เธอเห็นเพียงลู่เสี้ยงหยางยืนอยู่ตรงหน้าเธอ และเห็นรอยฝ่ามือสีแดงแขวนอยู่บนใบหน้าของหวังเขี่ยวหยุน
นี่มัน?
เย่สวนรู้สึกตกใจอย่างหนัก ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกได้ว่าลู่เสี้ยงหยางนั้นกล้าหาญมาก
“ถ้าเป็นแบบนี้ตลอดไป ก็คงดีเหมือนกันเนอะ” เย่สวนคิดในใจ แต่ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็ส่ายหัว เพราะนี่เป็นแค่ความปรารถนาที่ฟุ่มเฟือยของเธอเท่านั้น
ลู่เสี้ยงหยางตบหวังเขี่ยวหยุนจริงๆ ด้วย ซวยแล้ว เขาต้องเผชิญกับความกดดันและปัญหาอย่างไม่รู้จบแน่
“หมดกัน หมดกัน วันนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่เลย” เย่สวนตกใจจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
หวังเขี่ยวหยุนเป็นถึงสะใภ้ที่รักของตระกูลหลินเชียวนะ ในเมืองปินเหอนี้ไม่มีใครกล้าแตะต้องเธอนอกจากตบหน้าเธอแค่ครั้งเดียว แต่ลู่เสี้ยงหยางคนนี้กลับเป็นคนตบหน้าเธอเอง
“ลู่เสี้ยงหยาง คุณหยุดเถอะ คุณกำลังสร้างปัญหาแล้วนะ” เย่สวนพูดอย่างกังวล
เมื่อเห็นเย่สวนรู้สึกกลัวตัวเองมาก หวังเขี่ยวหยุนก็ยิ่งได้ใจ เธอจึงยื่นมือออกไปชี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยาง “สารเลว ไอ้เศษขยะ ไปส่องหน้าตัวเองดูก่อนสิว่าอยู่ในสภาพอะไร ช่างกล้ามาทำร้ายฉัน ฉันจะให้โอกาสนายคุกเข่าขอร้องฉันตอนนี้ เลียรองเท้าของฉันให้สะอาดแล้วก้มกราบฉันงามๆ ฉันอาจจะไว้ชีวิตนาย ก็แค่หักทั้งสามขาของนายทิ้งเท่านั้น”
“หนวกหู!” ดวงตาลู่เสี้ยงหยางเย็นชาอย่างที่สุด เขายกมือขึ้นแล้วตบไปที่ใบหน้าอีกด้านหนึ่งของหวังเขี่ยวหยุน
เพียงแค่ชั่วขณะ ใบหน้าทั้งสองข้างของหวังเขี่ยวหยุนแดงก่ำไปด้วยรอยฝ่ามือ และยังมีเลือดหยดออกมาจากมุมปากของเธอด้วย
“โอ๊ย! ให้ตายเถอะ ไอ้เศษขยะ ฉันจะให้นายเสียใจที่มาเกิดในโลกใบนี้อย่างแน่นอน……” หวังเขี่ยวหยุนมองลู่เสี้ยงหยางอย่างน่าเหลือเชื่อ เป็นแค่เศษขยะจากสังคมยังกล้าทำร้ายเธอแบบนี้ เธอได้แต่ด่าอย่างไม่หยุด
“ปากคุณเหม็นจริงๆ เลยนะ ผมว่าคุณต้องกินขี้สุนัขจนโตแน่เลย” ลู่เสี้ยงหยางพูดอย่างเย็นชา และเสียงตบหน้ายังคงดังขึ้นอย่างไม่หยุด ไม่นานหลังจากนั้น ใบหน้าทั้งใบของหวังเขี่ยวหยุนถึงกับบวมเป็นหัวหมูเลย
“……” เย่สวนตกใจจนสติแตกไปแล้ว ลู่เสี้ยงหยางตบแรงขนาดนี้ เขาคิดจะตบจนฟ้าถล่มลงมาเลยหรือ?
แม้หวังเขี่ยวหยุนจะถูกทำร้ายอย่างรุนแรง แต่เธอก็ยังท้าทายอย่างมั่นใจและด่าลู่เสี้ยงหยางอย่างโหดร้าย “กูขอสัญญาว่ามึงตายแน่”
ลู่เสี้ยงหยางยักไหล่และพูดว่า “ใครทำให้คุณมั่นใจที่จะกล้าพูดกับผมแบบนี้ ไปโทรหาเขาซะ แล้วเรียกผู้มีพระคุณของคุณมา”
ว่าไงนะ?
หวังเขี่ยวหยุนถึงกับตกใจ ลู่เสี้ยงหยางปล่อยให้เธอไปเรียกคนมาช่วย
ฮ่าๆ ๆ ในเมื่อไอ้เศษขยะมันดิ้นหาที่ตาย ฉันจะทำให้มันสมหวังเอง รอสามีของฉันมาถึงก่อน นายจะได้ตายอย่างสมดังปรารถนาแน่
หวังเขี่ยวหยุนหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาสามีของเธอทันที
เย่สวนตกใจยืนอยู่กับที่ เธอไม่รู้ควรทำอย่างไรแล้วจริงๆ
เธอไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายอะไรขึ้นเมื่อสามีของหวังเขี่ยวหยุนมาถึง
แต่ลู่เสี้ยงหยางกลับรู้สึกผ่อนคลายเหมือนเพิ่งจิบชาเสร็จ
สามีของหวังเขี่ยวหยุนอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ ทันทีที่ได้รับสายเขาก็รีบเข้าไปหาเธอพร้อมกับผู้ติดตามสิบกว่าคน
เมื่อเห็นสภาพใบหน้าของหวังเขี่ยวหยุนแล้วเขาโกรธจนแทบลุกเป็นไฟ
“ที่รัก สองผัวเมียเศษขยะนี้รังแกฉัน คุณต้องสั่งสอนพวกมันแทนฉันนะ” หวังเขี่ยวหยุนร้องบอกเหตุการณ์ให้กับหลินเสี่ยวโปด้วยสีหน้าร้ายกาจ
หลินเสี่ยวโปเพิกเฉยต่อไอ้กระจอกลู่เสี้ยงหยางคนนี้ เขาได้แต่มองไปที่เย่สวนด้วยสายตาอันมีเลศนัย อดีตเขาเคยพยายามขวนขวายความงามอันล้ำเลิศของเย่สวน แต่เธอปฏิเสธเขาอย่างชัดเจน จึงทำให้เขาไม่สามารถทำตามปรารถนาได้
จวบจนวันนี้ เย่สวนที่กระทำผิดต่อเขา จึงทำให้เขามีเหตุผลที่จะคุกคามเธอได้สักที
“เหอะๆ เย่สวน เธอช่างกล้าจริงๆ เลยนะ คิดว่ามีสามีป่าเถื่อนแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ?” หลินเสี่ยวโปจ้องมองที่เย่สวนแล้วพูดคำพูดเย็นชาออกมา
เย่สวนไม่อยากให้เรื่องแย่ลงกว่านี้ เธอจึงรีบก้มหน้าขอโทษเขา “คุณหลิน เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดนะ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน”
“ใช่เหรอ?” หลินเสี่ยวโปยิ้มอย่างร้ายลึก เรื่องบางเรื่องจะพูดต่อหน้าภรรยาไม่ได้ เขาจึงหันกลับไปพูดกับหวังเขี่ยวหยุนว่า “ที่รัก คุณกลับไปในรถก่อนนะ เดี๋ยวคนอื่นจะเห็นสภาพที่น่าสงสารแบบนี้ของคุณ”
“อื้ม ที่รักอย่าปล่อยให้พวกมันหนีไปได้นะ ช่วยจัดการพวกมันให้สาสมที” หวังเขี่ยวหยุนพูดอย่างหยิ่งผยองแล้วเดินเข้าไปในรถ
หลังจากหลินเสี่ยวโปไม่ต้องกังวลในคำพูดอีกต่อไป ดวงตาของเขาจึงจับจ้องไปที่เย่สวนอีกครั้ง