หนุ่มเศรษฐีลึกลับ - ตอนที่ 114 หวาดระแวง
บทที่114 หวาดระแวง
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น เหอจุนก็ยังนิ่งเฉยพลางสูบซิการ์ต่อ
หลังจากสูบซิการ์เสร็จ เขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ จากนั้นก็รีบหยิบกระบอง
รีบเดินไปอยู่เบื้องหน้าของชายที่กำลังนอนอยู่บนพื้น จากนั้นก็เหยียบหน้าของชายผู้นั้น
“แม่มึงดิ หลิวผิง ปกตินายชอบกำเริบเสิบสานไม่ใช่เหรอ?เคยคิดไหมว่าวันหนึ่งนายจะต้องมานอนเหมือนหมาอยู่กับพื้นแบบนี้?” เหอจุนมองหลิวผิงอย่างเหยียดหยาม พลางพูดขึ้นด้วยความเย็นชา
แม้ว่าหลิวผิงจะถูกตีจนร่างกายแตกออกเป็นเสี่ยงๆแบบนี้ แต่ว่ากระดูกของเขาก็ยังคงแข็งเหมือนเดิม
เขาหัวเราะเยาะเย้ยว่า:“เหอจุนเก่งจริงก็ฆ่าผมเลย วันนี้ของผมก็เหมือนวันพรุ่งนี้ของนาย เชื่อว่านายไม่ตายดีแน่”
“เหรอ?ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงๆ นายก็คงจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นเป็นแน่” เหอจุนยิ้มเย้ยพลางเหยียบหน้าหลิวผิงอย่างจัง
บาดแผลบนใบหน้าของหลิวผิงเพิ่งจะตกสะเก็ด ตอนนี้กลับแยกออกอีกครั้ง เลือดสีแดงสดไหลออกมาไม่หยุด
แม้ว่าร่างกายของหลิวผิงจะเจ็บปวดแค่ไหน แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ขมวดคิ้วและไม่ร้องออกมาเลยสักนิด
และนี่ยิ่งทำให้เหอจุนรู้สึกไม่พอใจ
เขาชอบทรมานคน ชอบเห็นคนคุกเข่าขอร้องต่อหน้าเขา
แต่ว่ากระดูกของหลิวผิงแข็งอย่างนี้ ทำให้เขาไม่สามารถดื่มด่ำกับอารมณ์นี้ได้
“แม่มึงหนิ ฉันจะดูสิว่ากระดูกของแกจะแข็งสักแค่ไหน” เหอจุนพูดขึ้นเสียงดัง พลางยกไม้กระบอกที่อยู่ในมือขึ้น จากนั้นทุบไปที่ร่างของหลิวผิงอย่างจัง
เพี้ย เพี้ย เพี้ย!
เสียงดังออกมาจากร่างของหลิวผิง
ร่างของหลิวผิงงอเหมือนกุ้ง เลือดสีแดงสดไหลออกทั่วร่าง
ไม่นาน หลิวผิงก็ถูกตีจนแทบจะหยุดหายใจ
ลูกน้องที่อยู่ข้างๆหวังดีจึงพูดขึ้นว่า:“พี่จุน ถ้าลูกพี่ยังไม่หยุดตีเขาอีก เกรงว่าเขาคงจะไม่มีชีวิตรอดแน่”
“แม่มึงหนิ ไร้สาระ เพิ่งตีไปแค่สองสามทีก็จะตายแล้วเหรอ ฉันก็คิดว่ามันน่าจะมีความอดทนมากกว่านี้ ที่แท้ก็เป็นแค่แมลงตัวหนึ่ง ”เหอจุนก่นด่า แล้วโยนไม่กระบองทิ้ง
“พามันไปที่ห้องการลงโทษ ใช้เครื่องมือลงโทษทุกอย่างกับเขาอย่างละรอบ แต่อย่าให้มันตายเด็ดขาด”เหอจุนกำชับลูกน้อง
“ได้ครับพี่จุน”ลูกน้องคนหนึ่งยืนขึ้น จากนั้นหิ้วหลิวผิงออกจากออฟฟิศ
“พูดมาสิ เมื่อกี้นายจะบอกอะไรฉัน”หลิวผิงมองไปที่ผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ผู้ชายคนที่กำลังผลักประตูเข้ามา
ชายคนนั้นก้าวเข้ามาข้างหน้า รีบพูดขึ้นว่า:“ลูกพี่ วันนี้ไนต์คลับมีชายแปลกหน้ามาร้านเรา สถานะเขาน่าสงสัยมาก”
“อ่อ งั้นเหรอ?ไป ไปดูกัน”เหอจุนโบกมือ จากนั้นก็พาลูกน้องออกจากออฟฟิศแล้วมาที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด
ผนังห้องควบคุมกล้องวงจรปิดเต็มไปด้วยหน้าจอเรียงกันถี่ยิบ ไม่มีมุมไหนที่เล็ดลอดไปได้
กล้องวงจรปิดบางตัวก็บันทึกเพียงเหตุการณ์ธรรมดา บางตัวก็บันทึกเหตุการณ์มีเซ็กส์กันของชายหญิง บางตัวก็บันทึกภาพการชนแก้วของผู้ที่มาสังสรรค์
สรุปแล้วภายในไนต์คลับไห่เทียนนั้นไม่มีที่ไหนเลยที่เป็นความลับ
แน่นอนว่าคนที่มาใช้บริการที่ไนต์คลับไห่เทียนนั้นต่างคิดว่าที่นี่ปลอดภัย
เหอจุนถือว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงในโลกใต้ดินเมืองปินเหอ มีคนรู้จักมากกว่าหลิวผิงและถังหลงเสียอีกไม่เช่นนั้นแล้ว ก็คงสร้างไนต์คลับไห่เทียนขึ้นมาไม่ได้
กว่าเหอจุนจะสร้างที่นี่จนประสบความสำเร็จ ก็ไม่รู้ว่าต้องข่มเหงคนไปตั้งเท่าไหร่ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นทำเรื่องที่ไม่อาจสู้หน้าคนได้
สายตาของเหอจุนจ้องมองไปที่หน้าจอห้อง666
กล้องตัวนี้หันไปที่ห้อง666
หลังจากเหลือบมองดูครู่หนึ่ง เหอจุนยิ้มพลางพูดขึ้นว่า หากมันยังยังคงใช้จ่ายแบบนี้ ถ้ามันไม่มีเงินห้าล้านบาท ก็อย่าหวังเลยว่ามันจะได้ออกไปจากที่นี่
ชายผมยาวที่อยู่ข้างเขาพูดขึ้นว่า:“พี่จุน เจ้าหนุ่มคนนี้หน้ามันคุ้นๆนะครับ ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นคนในวงการเดียวกับเรานะ”
เหอจุนไม่พูดไม่จา มองไปที่ชายอีกคนที่อยู่ในจอ
ชายคนนั้นใส่ชุดสูท สวมแว่นดำ ใส่หมวกแก๊ป ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ด
ไม่รู้ว่าทำไม เหอจุนถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับคนพวกนี้นัก
เหอจุนนั้นคิดไม่ถึงเลยว่า ถังหลงจะแต่งตัวแบบนี้แล้วมาปรากฏตัวที่ไนต์คลับ
เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากเหอจุนละสายตาออกจากกล้องวงจรปิด
“ไปกันเถอะ เราไปดูกันว่าพวกมันเป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกันแน่ เดี๋ยวก็รู้กัน”เหอจุนโบกมือ จากนั้นก็แยกตัวออกจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด
ในขณะเดียวกัน ห้องหมายเลข 666
สุราถูกสาวสวยเวียนอยู่หลายต่อหลายรอบ เงินสดที่ถังหลงถือมากว่าล้านบาทหายไปในพริบตา
ถังหลงรีบวิ่งออกไปด้านนอก แล้วหยิบกระเป๋าเดินทางมาอีกใบ
ภายในใจของเขารู้สึกร้อนรน ลู่เสี้ยงหยางใช้วิธีแบบนี้จะสามารถเรียกร้องให้เหอจุน สนใจได้เหรอ?
ถ้าหากว่าเหอจุนยังเพิกเฉยอยู่อีก งั้นเงินพวกนี้ก็เหมือนทิ้งไปฟรีๆเหรอ?
สาวสวยจำนวนไม่น้อยดื่มจนเมา แต่ว่าพอคิดว่าเหล้าหนึ่งแก้วแลกกับเงินหนึ่งหมื่น พวกหล่อนก็ดื่มอย่างไม่คิดชีวิต
เวลานี้ประตูของห้องวีไอพีถูกเปิดออก ชายฉกรรจ์สิบกว่าคนพุ่งเข้าไป
ถังหลงร้อนตัว หรือว่าสถานะของพวกเขาถูกเปิดเผยแล้ว?
เหอจุนก็เดินเข้ามาในห้องของเขา ถือซิการ์อยู่ท่าทางอวดดี
ถังหลงประหม่าเป็นอย่างมาก เตรียมพร้อมที่จะลงมือ
แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เหอจุนไม่เหลือบมองเขาเลยแม้แต่น้อย
เวลานี้ทำให้เขารู้สึกการที่เขาสวมแว่นดำ ใส่หมวกแก๊ป ผนวกกับแสงไฟสลัวในห้องนี้ ทำให้เหอจุนจำเขาไม่ได้
“ทำฉันตกใจหมดเลย”ถังหลงถอนหายใจอย่างผ่อนคลาย
สาวสวยที่กำลังดื่มเหล้าอยู่ถูกขัดจังหวะ ต่างก็รู้สึกหงุดหงิดใจ ขณะที่กำลังอยากจะก่นด่าออกไป เมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นเถ้าแก่ของตัวเอง ก็หวาดกลัวจนหัวหด
“คืนนี้ฉันขอคุยกับเพื่อนคนนี้สักหน่อย คนที่ไม่เกี่ยวออกไปให้หมด”เมื่อเหอจุนนั่งลงก็พูดขึ้น
เมื่อประโยคนี้พูดออกไป สาวสวยเหล่านั้นต่างวางแก้วลง จากนั้นก็กรูออกจากห้องไป
พวกหล่อนต่างรู้ดีว่า เถ้าแก่ของพวกหล่อนน่ากลัวแค่ไหน ถ้าหากขัดคำสั่งเขาแล้วล่ะก็ พรุ่งนี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นดวงตะวันแล้ว
ไม่นานห้องวีไอพีก็เหลือเพียงลู่เสี้ยงหยาง ถังหลงและเหอจุน
สีหน้าของลู่เสี้ยงหยางไม่พอใจนัก เขามองไปที่เหอจุนพลางพูดว่า “ นายเป็นใครมาจากไหน?ฉันมาใช้เงินของฉัน แล้วนายจะมายุ่งอะไรด้วย?”
“ถุย เจ้าหนุ่มนี่ ทำไมถึงได้พูดกับลูกพี่แบบนี้ล่ะ?ฉันฆ่านายได้นะ”ชายคนหนึ่งตะโกนออกมา
ลู่เสี้ยงหยางจ้องมองไปที่เหอจุน อย่างไม่ละสายตา
เหอจุนปล่อยควันบุหรี่ออกจากปาก ยิ้มแล้วพูดว่า:“ฉันนับถือความกล้าของนายจริงๆ กล้ามาถิ่นของฉันเพียงลำพัง อีกไม่นานนายก็จะมีจุดจบแบบเดียวกับหลิวผิงแล้ว”
แม่มึง!สถานะถูกเปิดเผยแล้ว?
เมื่อประโยคนี้พูดออกไป ถังหลงตกใจแทบแย่ ใจเต้นแรงจนจุกอยู่ที่ลำคอ
แต่ก่อนที่เขาจะระเบิดออกมานั้นกลับเห็นลู่เสี้ยงหยางพูดขึ้นอย่างราบเรียบว่า “ฉันไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดอะไรอยู่ ฉันให้เวลานายหนึ่งนาที รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่ามาขัดความสุขของฉัน”
กำปั้นของถังหลงค่อยๆคลายออก เขาเข้าใจในทันทีว่า ที่แท้เหอจุนก็แค่หลอกล่อพวกเรา
ใช่ ก็แค่หลอกล่อพวกเขา
ถ้าหากสถานะของพวกเขาถูกเปิดเผยแล้วจริงๆเหอจุนก็คงจะไม่เสียเวลามาพูดมากอย่างงี้ เขาคงส่งคนมาต่อยตีพวกเขาแล้ว
“แม่มึง ดีนะที่ลูกพี่รู้ทัน เกือบทำเรื่องใหญ่พังแล้วไหมล่ะ”ถังหลงนึกกลัวภายหลัง
แต่การกระทำต่อมาของเหอจุน ทำให้ถังหลงเหมือนนั่งอยู่บนกองไฟ