ตอนที่ 6: สโนว์ไวท์พิษ (2)
หลังจากไปโรงเรียนด้วยกันแล้ว ต่อไปก็ต้องทานข้าวกลางวันด้วยกัน แต่เนื่องจากทั้งสองคนเรียนอยู่คนละห้อง ดังนั้นนาโอยะจึงต้องเป็นฝ่ายเดินมาหา
“วันนี้ชิโรกาเนะซังเอาข้าวกล่องมาไหม? ทำไมเราไม่มากินข้าวกลางวันด้วยกันล่ะ”
“เอ๋!? อ-เอ่อ… ก็ได้…”
เนื่องจากข้อเสนออย่างกะทันหันโคยูกิจึงเริ่มกระสับกระส่าย เห็นได้ชัดว่าลิ้นที่เป็นพิษของเธอใช้การไม่ได้เมื่อถูกโจมตีแบบไม่คาดคิด นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อเริ่มพักเที่ยงนาโอยะจึงวางแผนไปรับโคยูกิที่ห้องเรียน แต่ว่า…
“หืม…? ไม่อยู่เหรอ…?”
หลังจากเหลือบมองเข้าไปในห้อง 2-3 ก็ไม่พบโคยูกิที่ไหนเลย บางทีเธออาจไปเข้าห้องน้ำ
“นี่ เธอน่ะ!”
มีเสียงอันคุ้นเคยดังมาจากโถงทางเดิน เมื่อมองไปทางนั้นก็เห็นโคยูกิ เธอไม่รับรู้ถึงการปรากฏตัวของนาโอยะ แต่กลับกำลังส่งเสียงทักนักเรียนหญิงคนหนึ่งอยู่ เธอคนนั้นสวมแว่นตาราวกับนักเรียนดีเด่นแบบคลาสสิค และถือกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเอกสารสำหรับการเรียน ดวงตาของเธอคนนั้นเบิกกว้างและจ้องไปที่โคยูกิ
“ม-มีอะไรเหรอคะ ชิโรกาเนะซัง?”
“นั่นคงจะหนักใช่ไหมล่ะ? เอามาให้ฉันแบกครึ่งนึงซะสิ”
“เอ๋! ต-แต่… อันนี้อาจารย์เป็นคนวานให้ฉันช่วยนะคะ… ฉันคงรู้สึกแย่ถ้าให้…”
“เอามานี่!”
โคยูกิไม่ฟังคำพูดของสาวแว่นและคว้ากล่องมาที่ตัวอย่างแรง
เธองุนงงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ผุดรอยยิ้มที่ราวกับดอกไม้บานออกมาอย่างรวดเร็ว
“ขอบคุณค่ะ ชิโรกาเนะซังใจดีจริงๆ เลย”
“……!”
โคยูกิกลืนลมหายใจและหันหน้าหนี
“ฮึ ฉันก็แค่ทนไม่ไหวเพราะหล่อนดูเงอะงะจนจะล้มต่างหาก ไปได้แล้ว อย่าทำให้ฉันเสียเวลาไปมากกว่านี้”
“ฮะฮะฮะ… ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
สาวแว่นหรี่ตาลงอย่างรู้สึกผิด
เหล่านักเรียนที่อยู่โดยรอบต่างแสดงปฏิกิริยาคล้ายคลึงกันโดยยักไหล่ พูดตามตรงมันไม่ใช่บรรยากาศที่ดีเลย
(เข้าใจแล้ว… นี่สินะเหตุผลที่พวกเขาเรียกเธอว่า ‘สโนว์ไวท์พิษ’…)
จากมุมมองของนาโอยะ คำพูดของโคยูกิในตอนนี้มันชัดเจนมากว่าเธอทำไปเพื่อปิดบังความเขินอาย แต่ดูเหมือนนักเรียนคนอื่นจะไม่ได้เข้าใจเรื่องนี้
(…จะเสียเปล่าเกินไปแล้ว ทั้งที่ความจริงเธอเป็นผู้หญิงน่ารักแท้ๆ)
นาโอยะตัดสินใจอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ส่งเสียงเรียกโคยูกิ
“ชิโรกาเนะซัง”
“ฟุเอ๋!? ซ-ซาซาฮาระคุง…?”
ไหล่ของโคยูกิกระตุกจนเกือบทำกล่องกระดาษแข็งหล่น
แม้แต่สาวแว่นยังมองมาทางนาโอยะอย่างรู้สึกสงสัย แต่เขาก็ไม่สนใจและพูดออกมาด้วยรอยยิ้มอย่างใจเย็น
“ฉันคิดว่า…เธอไม่ควรทำอย่างนั้นนะ”
“…เอ๊ะ?”
ดวงตาของโคยูกิเปิดกว้างขึ้น
“ฉันรู้ว่าชิโรกาเนะซังก็แค่กำลังเขิน แต่คนอื่นๆ เขาไม่ได้มีความสามารถแบบเดียวกับฉัน เพราะงั้นเธอควรบอกความรู้สึกกับเขาไปตรงๆ นะ”
“ฉันไม่ได้เขินหรืออะไรทั้งนั้น…!”
“ฉันไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจเธอผิดไปนะ…”
“อุ… อื๊ออออ…”
นาโอยะแสดงสีหน้าผิดหวัง ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีผลอย่างมากต่อโคยูกิ ร่างกายของเธอสั่น จากนั้นสีหน้าก็เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย เมื่อความเงียบผ่านไปครู่หนึ่งเธอเผชิญหน้ากับสาวแว่นอย่างเชื่องช้า—และก้มหัวลง
“เอ่อ… ขอโทษด้วยนะที่พูดอะไรรุนแรงแบบนั้นออกไป… คือมันดูอันตรายฉันเลยแค่อยากช่วยน่ะ…”
“เอ๋!?”
สาวแว่นอุทานออกมาด้วยความงงงวย
แม้แต่นาโอยะก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ เขาไม่ได้คาดหวังว่าเธอจะซื่อสัตย์ขนาดนี้
(บางทีนั่นคงทำไปเพราะคำพูดเราสินะ…)
นาโอยะต้องการให้โคยูกิไตร่ตรองการการเลือกคำของตัวเองสักนิด แต่เขาก็คาดไม่ถึงว่ามันจะได้ผลดีเกินคาด
“เข้าใจแล้วค่ะ เข้าใจแล้ว ฉันไม่ได้ติดใจอะไรหรอกนะคะ ชิโรกาเนะซัง”
สาวแว่นตอบกลับไป
“…จริงเหรอ?”
“ค่ะ ฉันรู้นะคะว่าจริงๆ แล้วชิโรกาเนะซังมักช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ”
สาวแว่นหัวเราะคิกคักจากนั้นก็จ้องมองไปที่โคยูกิ
“แต่ฉันก็ดีใจดีใจนะคะที่ชิโรกาเนะซังจริงใจกับฉันขนาดนี้ ฉันดีใจที่ได้ยินความรู้สึกที่แท้จริงของชิโรกาเนะซังนะคะ”
“น-นั่นมัน…”
“แล้วก็คุณคนที่อยู่ตรงนั้น! ฉันขอยืมตัวชิโรกาเนะซังไปสักครู่นะคะ!”
“ขอความกรุณาด้วยครับ เชิญตามสบายเลย~”
โคยูกิพึมพำอะไรบางอย่าง แต่ในที่สุดเธอก็ตามสาวแว่นคนนั้นไปยังห้องพักครู นาโอยะมองพวกเธอเดินจากไปในขณะที่โบกมือ นักเรียนคนอื่นที่อยู่รอบๆ ต่างมองฉากนี้เหมือนกับกำลังดูละครสัตว์ แต่นาโอยะก็เลือกเมินพวกเขาและเดินจากไปอย่างคล่องแคล่ว
***
โคยูกิกลับมาหลังจากนั้นประมาณสิบนาที
“มันไปได้สวยเลยนี่ เธอไม่ดีใจงั้นเหรอ ชิโรกาเนะซัง?”
“……”
นาโอยะทักโคยูกิจากลานกว้างระหว่างอาคาร มีสวนดอกไม้บานสะพรั่งระหว่างอาคารเรียนทั้งสองหลัง แถวนี้มักมีนักเรียนจำนวนมากมาออกันอยู่ช่วงพักกลางวัน ยิ่งในวันอากาศแจ่มใสขนาดนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทุกคนต่างพากันทานอาหารกลางวัน เล่นเกม ไม่ก็ใช้เวลาไปกับสิ่งต่างๆ ตามที่พวกตนพอใจ
ม้านั่งในร่มแถวนี้ยังคงว่างอยู่ ดังนั้นนาโอยะจึงรออยู่ตรงนั้น โคยูกิถือกล่องอาหารกลางวันของตัวเองมาและนั่งลงข้างๆ เขา ทว่าถึงเวลาจะผ่านไปสักพักแต่ความเงียบก็ยังไม่หายไป
(อืม… บางทีเราคงเข้าไปยุ่งเกินไปสินะ… เราไม่ควรเข้าไปดุเธอต่อหน้าคนอื่นเลย…)
เพียงแค่นั่งข้างๆ โคยูกิ นาโอยะก็สัมผัสได้ถึงความอึดอัด เขาได้ไตร่ตรองถึงการกระทำของตัวเองเมื่อตอน…
“คือว่า…”
โคยูกิเปิดปากพูด
เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้น และมองนาโอยะด้วยท่าทางจริงจัง
“ขอบคุณนะ… ที่นายดุใส่ฉันเมื่อกี้”
“เอ๊ะ?”
นาโอยะกระพริบตาปริบอย่างสับสน
ไม่พบร่องรอยความโกรธหรือความผิดหวังในสายตาของโคยูกิเลย เธอขอบคุณนาโอยะจากก้นบึ้งของหัวใจ เธอถอนหายใจจากนั้นก็พูดต่อ
“ฉันมักเป็นแบบนี้อยู่เสมอแหละ นายก็เห็นสินะ… ฉันน่ะเข้ากับคนอื่นไม่ค่อยได้ แถมยังชอบพูดเรื่องที่ไม่ได้คิดออกไปอย่างไม่รู้ตัวตลอดด้วย”
“อา เธอก็รู้สินะ”
“ใช่… ฉันเองก็รู้ตัวเหมือนกันว่าทำแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้ แต่ฉันก็แก้ไขมันไม่ได้ด้วย…”
คำพูดของโคยูกิตรงไปตรงมาอย่างผิดปกติ
เธอยังคงจ้องมองไปที่ใบหน้าของนาโอยะแล้วก็พูดต่อ
“แต่เพราะนายเข้ามาดุฉันก่อนก่อนหน้านี้… ฉันเลยคุยกับผู้หญิงคนนั้นดีๆ ได้ เพราะงั้น… ขอบคุณนะ”
“…ด้วยความยินดี”
นาโอยะยิ้ม
พูดแล้วก็ตกใจอยู่ มันผ่านไปแล้วหนึ่งเดือนตั้งแต่ขึ้นชั้นปีสอง แต่โคยูกิกลับเพิ่งได้คุยกับเพื่อนร่วมชั้นแบบดีๆ ครั้งแรกเท่านั้น
(จะพูดยังไงดี… เธอช่างเรียบง่ายแล้วก็เงอะงะ)
นาโอยะรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ว่าหลักๆ ลิ้นที่เป็นพิษของโคยูกิมันเป็นเพียงวิธีปกปิดความเขินอายของเธอเท่านั้น แต่นอกจากนี้มันก็ยังเป็นเป็นกลไกป้องกันตัวเองด้วย มันเป็นเรื่องปกติ แต่ในกรณีของโคยูกิ… มันมากเกินไป
(ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่มันเกิดจากความชอกช้ำในอดี… อ๊ะไม่! เราไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของเธอสิ)
นาโอยะเริ่มคิดอย่างจริงจังแต่เขาก็หยุดตัวเองลง เมื่อไหร่ก็ตามที่นาโอยะเริ่มต้นอ่านใจมันจะมีบางครั้งที่เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ในขณะเดียวกันสีหน้าของโคยูกิก็เริ่มสั่น เธอคงตีความการเงียบของนาโอยะไปในทางลบ
“ดูท่านายคงเบื่อฉันแล้วสินะ… การที่ต้องอยู่กับคนที่มีชื่อเล่น ‘สโนว์ไวท์พิษ’ แบบนี้มันคงทำให้นายลำบากใจใช่ไหมล่ะ…”
โคยูกิเหลือบมองกล่องอาหารกลางวันและพูดด้วยน้ำเสียงสั่น
ดวงตาของเธอมีน้ำรินออกมาและเริ่มโทษตัวเอง นั่นเป็นเหตุผลที่นาโอยะเห็นว่าจำเป็นที่ต้องพูด
“ไม่! มันไม่ใช่อย่างนั้นนะ”
“เอ๋!?”
โคยูกิเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ
นาโอยะสังเกตดูรอบๆ ตัวเขาและชี้ไปที่ทางเดินใกล้ๆ ระหว่างอาคารเรียนทั้งสองหลัง
“ตัวอย่างเช่น… ดูอาจารย์อิวาทานินั่นสิ”
เขาชี้นิ้วไปยังอาจารย์ที่กำลังตักเตือนนักเรียนอยู่ เป็นอาจารย์ชายที่ร่างกายใหญ่โตและมีสีหน้าเคร่งขรึม เขาบ่นใส่นักเรียนกลุ่มเล็กๆ เกี่ยวกับชุดเครื่องแบบ เขาเป็นที่รู้จักกันในนามหนึ่งอาจารย์ที่เข้มงวดที่สุดในโรงเรียน เขาเป็นคนที่ไม่ยอมละเลยแม้แต่กฎของโรงเรียนที่เล็กที่สุดและเทศน์ใส่ทุกคนที่จับได้จนหูแฉะ
“…อาจารย์เขาทำไมเหรอ?”
“ความจริงแล้วเขาเป็นคนใจดี แต่บังคับตัวเองเพื่อดุใส่นักเรียนอยู่น่ะ”
“เอ๊ะ? ไม่มั้ง”
“เรื่องจริงนะ เอ้า ลองดูที่เขาดีๆ สิ”
หลังจากการเทศนานักเรียนสิ้นสุด เหล่านักเรียนก็แยกย้ายกันไปเหมือนกับฝูงแมงมุม อาจารย์อิวาทานิมองดูพวกเขาจากนั้นก็ถอนหายใจ ใบหน้าของเขาซีดเซียวด้วยความเหนื่อยล้า จากนั้นสักพักมันก็กลับเป็นสีหน้าเคร่งเครียดอีกครั้งเมื่อเขากลับมาถึงอาคารเรียน เมื่อเห็นสิ่งนี้ดวงตาของโคยูกิก็เบิกกว้าง
“ข-เขาเหมือนจะบังคับตัวเองอยู่จริงๆ ด้วย… ไม่รู้มาก่อนเลย”
“ใช่ เขากำลังพยายามซ่อนมันอย่างหนักเลยล่ะ”
มีเพียงอาจารย์ไม่กี่คนและนาโอยะที่รู้ ว่าการที่อาจารย์อิวาทานิแสดงท่าทีรุนแรงกับนักเรียนและเพื่อนร่วมงานของตนนั่นก็เพื่อสร้างบุคลิกของ ‘อาจารย์ปีศาจ’
“ฉันสามารถบอกคร่าวๆ ได้ว่าผู้คนกำลังคิดอะไรก็เลยรู้ ฉันมั่นใจนะว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็สวมหน้ากากอยู่เหมือนกับชิโรกาเนะซังนั่นแหละ”
ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากของอาจารย์ที่ดุดัน หน้ากากของนักบุญผู้ใจดี หรือหน้ากากของนักเสียดสี ทุกคนต่างถือหน้ากากของตัวเองและใช้มันตามที่อยากใช้ นั่นไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป และมันก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการมีชีวิตอยู่ด้วย
“นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมหน้ากากที่ชิโรกาเนะซังสวมมันถึงเป็นวิธีหนึ่งในการใช้ชีวิตของเธอด้วย ฉันไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีหรอกนะ”
“…แต่ก่อนหน้านี้นายดุฉัน”
“นั่นสินะ… คงเพราะฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เสียเปล่าน่ะ”
“เสียเปล่า…?”
โคยูกิทวนคำพูดของนาโอยะซ้ำด้วยเสียงที่เปราะบาง
นาโอยะวางมือลงบนตัวของเธอและเริ่มให้คำอธิบาย
“ฉันรู้นะว่าชิโรกาเนะซังเป็นคนจริงจังและเป็นผู้หญิงแค่ไหน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าการที่เธอถูกเข้าใจผิดมันเป็นเรื่องที่เสียเปล่าน่ะ”
“ฉ-ฉันไม่ใช่คนใจดีอะไรหรอก…”
“ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เธอก็ยังเข้าไปช่วยเพื่อนร่วมชั้นที่ต้องการความช่วยเหลือนี่”
นาโอยะยิ้ม
“บางทีเธอคงอยากจะเข้าหาผู้คนมากกว่านี้ใช่ไหม? ถ้าเกิดชิโรกาเนะซังเป็นคนซื่อสัตย์กว่านี้ ฉันรับรองว่าเธอจะต้องมีเพื่อนมากมายเลยล่ะ”
“…ไม่มีใครที่ไหนอยากมาคบกับคนอย่างฉันหรอก”
“เธอพูดอะไรอยู่เหรอ? ก็มีอยู่ที่นี่คนนึงไง”
“อุ… ต-แต่นั่นมันเพราะนายเป็นตัวประหลาดต่างหาก”
โคยูกิหน้าแดงและพึมพำกับตัวเอง
ไม่ว่าจะพูดอะไรโคยูกิก็ไม่เห็นด้วยกับการ ‘หาเพื่อนเพิ่ม’ ดังนั้นมันจึงมีวิธีเดียวที่นาโอยะสามารถทำได้นั่นคือ—ให้การสนับสนุนกับเธอซะ
“มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในทันทีหรอก ดังนั้นเรามาร่วมมือเพื่อเป้าหมายนั้นกันเถอะ… เพื่อให้วันหนึ่งเธอสามารถพูดความรู้สึกที่แท้จริงออกมาได้ ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ก็บอกมาได้เลย”
“ซาซาฮาระคุง…”
โคยูกิได้ยินคำพูดพเหล่านี้และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ในที่สุดเธอก็พยักหน้า
“เข้าใจแล้ว ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ จากนั้น… รับรองได้ว่าจะไม่มีใครเรียกฉันว่า ’สโนว์ไวท์พิษ’ อีก!”
“ใช่แล้ว มันต้องอย่างนี้สิ”
นาโอยะยิ้มให้โคยูกิ
เพราะสามารถอ่านใจได้ เขาจึงสามารถบอกได้ว่าเธอจริงจังแค่ไหนเมื่อต้อง ‘เปลี่ยนแปลงตัวเอง’ ในขณะเดียวกันเขารู้ว่ามันยากด้วยที่ต้องรวบรวมความกล้าในการทำเช่นนั้น ผู้คนส่วนใหญ่สามารถรู้ข้อบกพร่องของตัวเองได้ แต่เขาก็เลือกดำเนินชีวิตต่อโดยไม่พยายามแก้ไขมัน แต่กระนั้นความุ่งมั่นของโคยูกิมันก็แรงกล้ามากจนเสมือนสลักไว้ด้วยหิน วันที่เธอจะขจัดชื่อเล่นของตัวเองได้นั้นมันอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่ๆ
(อา นี่เราชอบเธอจริงๆ นั่นแหละ…)
มีคำเหล่านี้ก่อขึ้นมาอยู่ในใจ นาโอยะคิดว่าสักวันตนคงคงตกหลุมรักโคยูกิเข้าแบบไม่รู้ตัว แต่เขาก็ไม่รู้เวลาที่แน่ชัด นาโอยะหัวเราะให้กับตัวเองเพราะไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
“ขอบคุณมากนะ ซาซาฮาระคุง”
“เอ๊ะ?”
นาโอยะถูกเรียกกลับมาสู่ความเป็นจริงเพราะคำพูดของโคยูกิ เธอมองตรงไปยังนาโอยะจากนั้นก็ยิ้มให้
“ถ้าไม่ใช่เพราะนาย… ฉันคงทำผิดอีกรอบและเสียใจเหมือนอย่างทุกครั้ง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันอยากจะขอบคุณนะ”
“อ-อื้ม มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก”
เมื่อรู้ซึ้งถึงความรักที่มีต่อโคยูกิ นาโอยะก็ควานหาคำพูดของตนอย่างลนลาน
“ฉันแค่จะสร้างโอกาสให้ ส่วนคนที่หาเพื่อนทั้งหมดจะเป็นเธอเองนะ”
“เพื่อน…”
สีหน้าของโคยูกิเริ่มขุ่นหมอง
“คนแบบฉันนี่จะหาเพื่อนได้จริงๆ เหรอ… มันคงไม่มีใครเต็มใจมา…”
“เรื่องนั้นอย่าคิดมากไปเลยน่า เธอก็แค่หาเพื่อนไปตามปกติก็พอแล้ว”
“ปกตินี่… หมายถึง?”
“อืมมม”
ถึงนาโอยะจะทำตัวสูงส่งและเหนือกว่าแต่เขากลับแทบไม่มีเพื่อนเลย ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันจำเป็นที่ต้องตอบสนองความคาดหวังของโคยูกิ
“ก็อย่างไปโรงเรียนด้วยกัน กินข้าวกลางวันด้วยกัน กลับบ้านด้วยกัน…”
“อืมม… ฟังดูยากจังแฮะ… เอ๊ะ? เป็นอะไรไปเหรอซาซาฮาระคุง?”
“แบบว่า… ฉันก็แค่รู้สึกผิดหวังนิดๆ น่ะ”
“หืมมม?”
นาโอยะก้มหัวลงเพื่อซ่อนใบหน้าของตัวเอง นั่นทำให้โคยูกิเอียงศีรษะอย่างสับสน เดินไป-กลับโรงเรียนด้วยกัน ทานข้าวกลางวันด้วยกัน… นั่นเหมือนกับที่นาโอยะทำกับโคยูกิอยู่ตอนนี้เลยไม่ใช่เหรอ?
(ไม่ใช่ว่าจริงๆ แล้วความสัมพันธ์ของเราตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเพื่อนเลยหรือไง…?)
นาโอยะมีเพื่อนผู้หญิงหลายคน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาคุ้นเคยกับการสร้างมิตรภาพกับผู้หญิง แต่ตัวเขากลับไม่มีความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์อื่นๆ ที่อาจมีต่อเพศตรงข้ามเลย เขาไม่เคยคบกับผู้หญิงคนไหน ดังนั้นประสบการณ์ของเขาในเรื่องนี้จึงเท่ากับศูนย์
นาโอยะรู้สึกสนุกที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับโคยูกิ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขามีความรู้สึกดีๆ ให้กับเธอ แต่ว่า…
(เรารู้สึกยังไงกับชิโรกาเนะซังกันแน่…?)
มันคือความรักหรือมิตรภาพ? ณ ตอนนี้นาโอยะยังไม่สามารถยืนยันเรื่องนี้ได้
Chapters
Comments
- ตอนที่ 15: เยี่ยมที่ทำพาร์ทไทม์ (2) เมษายน 3, 2022
- ตอนที่ 14: เยี่ยมที่ทำพาร์ทไทม์ (1) เมษายน 2, 2022
- ตอนที่ 13: เดตแรกภายใต้ผู้ดูแล (4) เมษายน 2, 2022
- ตอนที่ 12: เดตแรกภายใต้ผู้ดูแล (3) กุมภาพันธ์ 18, 2022
- ตอนที่ 11 กุมภาพันธ์ 15, 2022
- ตอนที่ 10: ตอนที่ 10 กุมภาพันธ์ 12, 2022
- ตอนที่ 9: ตัวตนของคำว่าชอบ (3) กุมภาพันธ์ 10, 2022
- ตอนที่ 8: ตัวตนของคำว่าชอบ (2) กุมภาพันธ์ 9, 2022
- ตอนที่ 7: ตัวตนของคำว่าชอบ (1) กุมภาพันธ์ 7, 2022
- ตอนที่ 6: สโนว์ไวท์พิษ (2) กุมภาพันธ์ 7, 2022
- ตอนที่ 5: สโนว์ไวท์พิษ (1) มกราคม 29, 2022
- ตอนที่ 4: ความงามที่มีลิ้นเป็นพิษและทักษะเดาใจ (4) มกราคม 25, 2022
- ตอนที่ 3: ความงามที่มีลิ้นเป็นพิษและทักษะเดาใจ (3) มกราคม 24, 2022
- ตอนที่ 2: ความงามที่มีลิ้นเป็นพิษและทักษะเดาใจ (2) มกราคม 23, 2022
- ตอนที่ 1: ความงามที่มีลิ้นเป็นพิษและทักษะเดาใจ (1) มกราคม 23, 2022
- ตอนที่ 0: อารัมภบท มกราคม 23, 2022
MANGA DISCUSSION