หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 74 ทำใจให้เย็นลง
ถูกขนามนามว่า “เพื่อนรัก” เจี่ยนอี๋นั่วยังไม่ทันจะปฏิเสธเหอหลวนเล่อเลย เหอหลวนเล่อก็เดินจากไปทันที เจี่ยนอี๋นั่วก็เอนตัวลงนอนที่เตียงคนเดียว ค่อยๆหลับตาพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“เพื่อนรักเหรอ?”
ตั้งแต่เล็กจนโตเจี่ยนอี๋นั่วไม่เคยมีเพื่อนรักสักคน ในสมัยที่เรียนอยู่มัธยมเธอโดนเพื่อนๆบูลลี่ พอเข้ามหาวิทยาลัยเธอก็ยุ่งอยู่กับงานภายในบริษัท และไม่มีเวลาคลุกคลีกับเพื่อนๆสักเท่าไหร่ แล้วจะเอาเวลาไหนไปหาเพื่อนที่รู้ใจล่ะ พอเรียนจบมหาวิทยาลัยชีวิตก็เดินเข้าสู่สังคม เจี่ยนอี๋นั่วเคยมีเพื่อนรักนะ นั่นก็คือเฉิงซานซาน เซิงซานซานเป็นคนที่เข้าหาเธอก่อนเอง แล้วก็เป็นคนที่หักหลังเธออีกหลายครั้งด้วย
และในเวลานี้เหอหลวนเล่อก็เป็นอีกคนที่หลงรักเหลิ่งเซ่าถิงมาก จะเป็นเพื่อนรักกันได้อย่างไรกันในเมื่อพวกเราหลงรักผู้ชายคนเดียวกัน?
เจี่ยนอี๋นั่วเอามือก่ายหน้าผากและหลับตา จิตใจกระสับกระส่ายสักครู่ กำลังนึกขึ้นได้ว่าจะโทรหาเฮ่อเยี่ยนหง โทรศัพท์โทรออกไปหลายครั้งกว่าจะมีคนรับสาย หลังจากที่เฮ่อเยี่ยนหงรับโทรศัพท์ เสียงปลายสายรับด้วยความดีใจ พูดตอบกลับอย่างไว:“อี๋นั่ว เธอโทรมาดึกขนาดนี้ เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อของเธอหรือเปล่า?”
“ทำไมเหรอคะ? คุณหวังอยากให้เกิดเรื่องกับคุณพ่ออย่างนั้นเหรอคะ ระยะนี้เขาดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่นานอาการคงกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมค่ะ “ เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดพูดด้วยน้ำเสียงเบา
เฮ่อเยี่ยนหงหยุดชะงักไปชั่วครู่ แล้วค่อยพูดต่อว่า:“อี๋นั่ว นี่เธอกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะ ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น ฉันคิดว่าอาการคุณพ่อของเธอป่วยหนักขนาดนี้ มีชีวิตอยู่ต่อไปก็ทรมานเปล่าๆ และอยู่ไปก็ไม่มีศักดิ์ศรี ยังทำให้คนที่อยู่ต้องลำบากอีก ฉันได้ข่าวมาว่าในต่างประเทศสถานที่แห่งหนี่ง การที่ยิมยอมที่จะตาย มันถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าหาก……”
“คุณรู้ตัวไหมคะว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่?” หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของเฮ่อเยี่ยนหงก็รีบพูดด้วยน้ำเสียงที่โมโห:“ถึงแม้คุณจะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาของพ่อฉัน คุณก็ขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่งไหมคะ? คุณพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไรกัน? คุณพ่อของฉัน ฉันจะเป็นคนดูแลเอง และเขาจะไม่รบกวนชีวิตของคุณแน่นอนค่ะ ต่อไปนี้อย่าให้ฉัรได้ยินคำพูดแบบนี้อีก”
เฮ่อเยี่ยนหงพึมพำพูดว่า:“นี่เพราะฉันหวังดีกับเธอหรอกนะ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะได้แบ่งสมบัติเร็วยิ่งขึ้นไม่ใช่เหรอ? และถ้ามันเป็นเธอ เธอจะยอมเป็นภรรยาของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนบ้า และเป็นเจ้าชายนิทราอย่างนั้นหรือ? ฉันทนมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว มีผู้หญิงคนไหนสามารถทำอย่างฉันได้บ้าง?”
เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวดนวดขมับของตัวเองพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“คุณวางใจเถอะค่ะ ทรัพย์สมบัติพวกนั้น ฉันไม่มีวันให้มันตกไปอยู่ในมือของคุณง่ายๆหรอก ถ้าคุณอยากทำเรื่องหย่าก็รีบไปดำเนินการเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ฉันสามารถช่วยเหลือคุณได้”
“ถ้าหลังจากที่หย่าร้างแล้ว ฉันจะได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่? ฉันได้ยินฮุ่ยฮุ่ยเล่าว่าบริษัทตอนนี้ธุรกิจกำลังไปได้สวย ฉันและฮุ่ยฮุ่ยก็มีผลประโยชน์ไม่น้อย ควรจะได้ส่วนแบ่งบ้างสิ “เฮ่อเยี่ยนหงรีบพูดขึ้น
เจี่ยนอี๋นั่วก็หัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา:“เวลานี้สมองของคุณคิดแต่เรื่องเงินเท่านั้นเองหรือ? ฉันจะบอกอะไรคุณไว้นะ ถ้าหากทนายของคุณเก่งมากพอ ถ้าคิดว่าสามารถชนะคดีได้ ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูค่ะ ลองดูซิว่าพวกเขาจะเอาส่วนแบ่งจากตระกูลเจี่ยนไปได้เท่าไหร่กัน”
เฮ่อเยี่ยนหงได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดแบบนี้ ก็รีบเปลี่ยนน้ำเสียงพูดด้วยน้ำเสียงเบาทันที:“เธอก็อย่าเข้าใจผิดแบบนี้สิ ฉันก็ไม่ได้หมายความอย่างที่เธอคิด ขึ้นโรงขึ้นศาลอะไรกัน เราเป็นคนในครอบครัวเดียวกันมันช่างเป็นเรื่องที่ไร้สาระเลยจริงๆ?”
เจี่ยนอี๋นั่วสูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงอย่างเฮ่อเยี่ยนหงถามกลับด้วยน้ำเสียงเบา:“ในสิ่งที่พูดเมื่อกี้นี้:“ ฮุ่ยฮุ่ยพูดว่าธุรกิจของบริษัทกำลังไปได้สวย? แล้วฮุ่ยฮุ่ยรู้ได้อย่างไหร่ว่าธุรกิจของบริษัทกำลังไปได้สวยคะ? ตอนนี้เธอกำลังทำเรื่องอะไรอยู่กันแน่?”
เฮ่อเยี่ยนหงหัวเราะขึ้นมาอย่างสะใจ พอหัวเราะได้สักพัก ค่อยพูดต่อว่า:“อี๋นั่ว ฉันไม่ได้ว่าเธอนะ เธอลองคิดดูดีๆนะการใช้ชีวิตแบบผู้หญิงอย่างเธอมันจะมีความหมายอะไร? เธอควรเหมือนฮุ่ยฮุ่ยแบบนั้นดีกว่านะ เธอไม่ใช่ถูกผู้ชายคนที่ชื่อว่าฉู่หมิงเซวียนทอดทิ้งหรอกเหรอ? เธอรู้อะไรไหมตอนนี้ฉู่หมิงเซวียนดีต่อฮุ่ยฮุ่ยขนาดไหน ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรูและของมีค่าให้กับฮุ่ยฮุ่ยมากมาย เขารักและเอ็นดูฮุ่ยฮุ่ยมาก ถ้าจะให้ฉันพูดนะ เธอคุยจะเรียนรู้จากฮุ่ยฮุ่ยให้มากกว่านี้ ถ้าไม่อย่างนั้นชาตินี้เธอคงขึ้นคานแน่ๆ!”
“ฉู่หมิงเซวียน?”เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวด:“คุณรู้ไหมว่าฉู่หมิงเซวียนเป็นคนแบบไหน? เป็นเพราะเขาเกือบทำให้ตระกูลเจี่ยนของเราล้มละลาย? คุณรู้ได้อย่างไรว่าเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยกำลังคบอยู่กับฉู่หมิงเซวียน ทำไมคุณถึงไม่ขัดขวาง? หรือคุณอยากเห็นเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยตกนรกทั้งเป็น ? ฉู่หมิงเซวียนเป็นคนที่ไม่มีหัวใจ เขาเป็นคนเยือกเย็นมาก เดิมทีเฉิงซานซานก็เป็นผู้หญิงของเขา แล้วยังมีลูกกับเขา แต่ไม่ทันไรเขาก็ทำให้เฉิงซานซานเข้าคุก ผู้ชายแบบนี้ไม่สมควรเป็นคนด้วยซ้ำ? คุณยังกล้าให้เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยคบกับเขาอีกหรือ?”
เฮ่อเยี่ยนหงหัวเราะพูดขึ้นว่า:“อี๋นั่วจ๊ะ เธออย่าทำตัวเหมือนกับว่าไม่ได้กินองุ่นแต่กลับบอกว่าองุ่นเปรี้ยวได้ไหม? ฉันจะพูดอะไรให้ฟังนะ ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ทุกคนแหละ สำหรับผู้หญิงที่ตัวเองรักก็จะทุ่มเทแบบนี้แหละ และสำหรับผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดนั้น จะใส่ใจทุ่มเททำไมเธอว่าจริงไหม ?อี๋นั่ว ถ้าเธอมีเวลาก็หาเวลาแต่งตัวบ้างนะ ฉันกลัวว่ารอเวลาที่ฮุ่ยฮุ่ยแต่งงานเมื่อไหร่ เธอก็ยังขายไม่ออก ถ้าอย่างนั้นมันจะขายขี้หน้าขนาดไหน?”
“เฮ่อเยี่ยนหง คุณจะรู้สึกผิดในสิ่งที่คุณพูดไว้ในวันนี้แน่นอน ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะมองฉันยังไง แต่ผู้ชายอย่างฉู่หมิงเซวียนพึ่งพาไม่ได้ ที่คุณทำอยู่มันเป็นการทำร้ายฮุ่ยฮุ่ยทางอ้อม ตอนนี้ฮุ่ยฮุ่ยอยู่ที่ไหน? ให้เธอรับโทรศัพท์เดี๋ยวนี้!” เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกโมโหมาก
เฮีอเยี่ยนหงตกใจกับเสียงโมโหของเจี่ยนอี๋นั่ว เธอรีบพูดว่า:“ให้ตายเถอะ เธอจะโมโหขนาดนี้ทำไมกัน? และที่สำคัญคืนนี้ฮุ่ยฮุ่ยไม่อยู่ เธอออกไปเดทแล้ว”
“ออกไปกับฉู่หมิงเซวียนแล้วเหรอ?”เจี่ยนอี๋นั่วหน้าคิ้วขมวดพูดขึ้น
เฮ่อเยี่ยนหงหัวเราะพูดขึ้นว่า:“ใช้แล้ว หมิงเซวียนกำลังพาฮุ่ยฮุ่ยไปทานอาหารฝรั่งเศสจ๊ะ และยังซื้อของให้ฉันหลายอย่างอีกด้วย เขาเป็นเด็กที่น่ารักมากจริงๆ ของขวัญที่ซื้อให้ฉันมันถูกใจฉันมากจริงๆ เสื้อโค้ทหนังเสือดาวนี้จับแล้วนุ่มมากมาย……”
ยังไม่ทันรอเฮ่อเยี่ยนหงพูดจบ เจี่ยนอี๋นั่วก็วางสายทันที กัดฟันพร้อมด่าว่า:“อีโง่!”
เจี่ยนอี๋นั่วไม่ค่อยใส่ใจเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยสักเท่าไหร่ เป็นเพราะว่าเธองานยุ่งมาก และต้องดูแลคุณพ่อ แล้วยังต้องรับมือกับคนของตระกูลเหลิ่งอีก และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ไม่มีเวลาดูแลเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย และประเด็นสำคัญหลักๆแล้วก็คือ อย่างน้อยเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยก็มีเฮ่อเยี่ยนหงแม่ผู้ให้กำเนิด เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าเฮ่อเยี่ยนหงถึงจะไม่ดียังไง แต่คาดไม่ถึงว่าเฮ่อเยี่ยนหงหวังแค่ของเล็กๆน้อยๆจากฉู่หมิงเซวียนเท่านั้น ก็ยินยอมให้เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยคบกับฉู่หมิงเซวียนแล้ว
เจี่ยนอี๋นั่วคิ้วขมวด สูดหายใจเข้าลึกๆ รีบลุกไปเปิดตู้เสื้อผ้าเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอจะออกไปหาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย และพาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยออกจากฉู่หมิงเซวียน ถ้าไม่อย่างนั้นสักวันเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยคงถูกฉู่หมิงเซวียนทำร้ายแน่ๆ!
เจี่ยนอี๋นั่วเปลี่ยนชุดไปด้วย และโทรหาฮุ่ยฮุ่ยและฉู่หมิงเซวียนไปด้วย แต่ว่าก็ไม่มีใครรับสาย เจี่ยนอี๋นั่วก้มหัวพูดว่า:“พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่แน่? ทำไมถึงไม่มีใครรับสายสักคนเลย?”
ในห้องพักสุดหรูของโรงแรม ฉู่หมิงเซวียนมองเห็นมือถือสั่นอยู่บนโต๊ะทั้งสองเครื่อง สายที่โทรเข้ามาเป็นคนคนเดียวกัน
ฉู่หมิงเซวียนค่อยๆหรี่ตา ใบหน้าแสดงออกด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นฉู่หมิงเซวียนท่าทางยิ้มแย้ม เธอรีบก้าวเดินไปกอดหลังของฉู่หมิงเซวียนหัวเราะแล้วถามว่า:“หมิงเซวียน คุณกำลังหัวเราะอะไรอยู่เหรอคะ? ทำไมถึงดูมีความสุขขนาดนี้?”
ฉู่หมิงเซวียนหันหลังไปกอดเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยไว้ เอาเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยกอดไว้ในอ้อมกอด หัวเราะพูดขึ้นว่า:“ผมกำลังหัวเราะที่มีคุณอยู่ในชีวิตของผมนี่เป็นเรื่องที่โชคดีมากจริงๆ นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มีความสุขมากขนาดนี้”
เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเม้มริมฝีปากพูดด้วยน้ำเสียงอ้อน:“คุณนี่น่าเกลียดจริงๆเลย หาคำพูดดีๆมาแกล้งหลอกให้ฉันดีใจตลอด”
ฉู่หมิงเซวียนเอื้อมมือเข้าไปในผ้าเช็ดตัว แล้วค่อยๆลูบไปทั่วร่างกายของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ย หัวเราะพูดขึ้นว่า:“ มีอีกหลายอย่างที่ผมจะทำให้คุณมีความสุข?”
“คุณ……หมิงเซวียน……”จากที่เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยถูกฉู่หมิงเซวียนสัมผัสไปทั่วร่าง เธอค่อยๆซบไปอยู่ในอ้อมกอดของฉู่หมิงเซวียน
ฉู่หมิงเซวียนจ้องมองดวงตาของเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยมันช่างเหมือนกันกับเจี่ยนอี๋นั่วมากๆ ดวงตาของเขามืดลง รีบดันเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยนอนลงบนเตียง เมื่อเจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเอามือไปสวมกอดที่คอฉู่หมิงเซวียน ฉู่หมิงเซวียนพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“เจี่ยน……”
ชื่อ“อี๋นั่ว”สองคำนี้ถูกซ่อนเก็บไว้ภายในจิตใจ……
เจี่ยนอี๋นั่วเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว กำลังจะเดินออกจากห้อง ก็เห็นเหลิ่งเซ่าถิงเดินกลับมาทางนี้ เหลิ่งเซ่าถิงคิ้วขมวดถามขึ้น:“คุณจะออกไปไหน? ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว?”
เจี่ยนอี๋นั่วรีบตอบกลับ:“ฉันกำลังจะออกไปหาฮุ่ยฮุ่ย ตอนนี้เธออยู่กับฉู่หมิงเซวียน เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย”
“ฉู่หมิงเซวียน? คนรักเก่าของคุณคนนั้นเหรอ? เหลิ่งเซ่าถิงคิ้วขมวดจ้องมองเจี่ยนอี๋นั่ว
เจี่ยนอี๋นั่วใช้แรงเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็ค่อยๆพยักหน้า:“ถูกต้อง เป็นเขา ที่เขาพยายามเข้าใกล้ฮุ่ยฮุ่ยเป็นเพราะต้องการใช้ฮุ่ยฮุ่ยเป็นเครื่องมือ เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเป็นเด็กที่ไร้เดียงสา ถ้าหากถูกเขาหลอก……”
“คุณรู้เหรอว่าต้องไปหาที่ไหน?” เหลิ่งเซ่าถิงถาม
เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้า:“ฉันไม่รู้ แต่ฉันจะไปหาตามโรงแรมทีละแห่ง ฉัน……”
“คุณแน่ใจเหรอว่าอยู่โรงแรมในตัวเมือง?” เหลิ่งเซ่าถิงถามต่อเนื่อง
“ ฉัน……ฉันไม่แน่ใจ เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าต่อเนื่อง
เหลิ่งเซ่าถิงคว้าข้อมือของเจี่ยนอี๋นั่ว และพาเจี่ยนอี๋นั่วเดินกลับเข้าห้องไป หลังจากที่ปิดประตู ก็จับไหล่ของเจี่ยนอี๋นั่วพูดว่า:“ตอนนี้คุณต้องใจเย็นก่อน พวกเขาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ถึงแม้พวกเขาจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันหรือไม่ ช้าเร็วก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี รอคุณไปหาตามโรงแรมทีละแห่งทีละแห่ง พวกเขาอาจจะออกจากโรงแรมแล้วก็เป็นได้ ตอนนี้ก็ดึกแล้วมาก คุณออกไปตามหาก็เสียแรงเปล่า”
“แต่ว่าฉู่หมิงเซวียนก็ไม่ใช่คนดี ที่เขาเข้าใกล้เจี่ยนฮุ่ยฮุ่ยเพราะมีจุดประสงค์แอบแฝงไว้!”เจี่ยนอี๋นั่วตาแดงก่ำ
เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้า:“ต้องมีจุดประสงค์อะไรแฝงไว้แน่นอน แล้วจะทำยังไงล่ะ? วันนี้ถึงคุณทำอะไรก็ทำไม่ได้ เอาเวลาไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ให้มีสติมากว่านี้ พรุ่งนี้ค่อยคิดหาวิธีต่อไป! ตอนนี้คุณต้องใจเย็น ถ้าหากคุณใจร้อน นั่นก็เท่ากับว่าคุณให้โอกาสฉู่หมิงเซวียน!”
เจี่ยนอี๋นั่วมองดูท้องมืดสนิท เอาแต่ถอนหายใจเฮือกๆใช้แรงหลับตาพูดด้วยน้ำเสียงเบาว่า:“ได้ค่ะ ต้องใจเย็น ฉันจะพยายามทำใจให้เย็นลงค่ะ