หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 234 ฝันร้ายอีกแล้ว
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและเอียงศีรษะมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง: “จะจัดการยังไง? ที่นี่มีกล้องที่คอยดูเรา24ชั่วโมง เมื่อเกิดอะไรขึ้นจะมีคนมาปกป้องเราทันทีงั้นหรอ?”
เหลิ่งเซ่าถิงมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วและกระพริบตาช้าๆ
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วทันที จ้องไปที่เหลิ่งเซ่าถิงและถามด้วยความประหลาดใจ: “ดูท่าทางเธอแล้ว ที่นี่มีกล้องติดไว้จริงสินะ?”
เมื่อเห็นเหลิ่งเซ่าถิงไม่ตอบ เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วแน่นขึ้น: “ถ้างั้น……ตอนนี้ก็…… ”
เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ เธอก็ลุกขึ้นทันที หันไปมองรอบๆ : “ตอนนี้ก็มีคนกำลังดูเราอยู่?”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดและมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง หน้าแดงและพูดอย่างประหม่า: “ถ้างั้นเมื่อคืน……เมื่อคืนก็ถูกถ่ายไว้สิ?”
ใบหน้าของเจี่ยนอี๋นั่วแดงมาก เมื่อเธอนึกถึงตอนที่กำลังทำอะไรกับเหลิ่งเซ่าถิงแล้วมีคนดูอยู่
เหลิ่งเซ่าถิงลดเสียงลงอย่างรวดเร็วและอธิบายอย่างนุ่มนวล: “ไม่ต้องห่วง วิดีโอจะถูกลบโดยอัตโนมัติ เมื่อพวกเขาพบสิ่งที่ไม่ควรดู พวกเขาจะทำเหมือนไม่เห็นอะไร”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและพูดว่า: “ไม่ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่ควรดูไม่ควรดู ถ้างั้นทำไมไม่ให้พวกเขามาอยู่กับเราเลยล่ะ ”
เจี่ยนอี๋นั่วพูด พร้อมยกมือขึ้นปิดหน้า: “ฉันรู้สึกเหมือนเป็นนางเอกหนังโป๊เลย”
เหลิ่งเซ่าถิงยกมือขึ้นแล้วลูบใบหน้าของเจี่ยนอี๋นั่วและพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “งั้นฉันก็เป็นพระเอกหรอ?”
เจี่ยนอี๋นั่วเอียงศีรษะของเธอ ขมวดคิ้วมองเหลิ่งเซ่าถิงและบ่นพึมพำ: “ทำไมเธอถึงดูมีความสุข? นี่ควรเป็นเรื่องที่ดีใจหรอ? ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้มัน……”
เหลิ่งเซ่าถิงหัวเราะและพูดว่า: “ฉันใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดหลายปี ฉันเลยไม่รู้สึกว่ามันเป็นปัญหา ไม่คิดว่าเธอจะคิดมากขนาดนี้……”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและเอียงศีรษะมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง: “หลายปีมานี้ เธอใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดเลยหรอ?”
เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้าเบาๆและพูดรอยยิ้มว่า:“ แบบนี้แหละ ไม่งั้นฉันคงตายไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้โชคดีตลอด บนโลกนี้ยังมีคตทรยศมากมาย ไม่งั้นฉันจะได้รับบาดเจ็บแบบนี้หรอ?”
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง ก้มหน้าขมวดคิ้วและพูดว่า: “เธอมีชีวิตแบบนี้มาตลอด แล้วตอนนี้ฉันรู้สึกอึดอัดมาก มันทำให้เธอคิดว่าฉันเป็นคนเรื่องมากใช่ไหม?”
เหลิ่งเซ่าถิงจูบหน้าผากของเจี่ยนอี๋นั่วเบาๆและพูดด้วยรอยยิ้ม: “เธอทำดีที่สุดแล้ว แต่จริงๆแล้วฉันก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ฉันเคยอยู่คนเดียวมาก่อนและฉันไม่ได้รู้สึกอะไรและไม่ได้คิดอะไร จนตอนนี้อยู่กับเธอ ฉันจะเตือนพวกเขาให้อย่าดูฉากพวกนั้น ”
เจี่ยนอี๋นั่วเม้มริมฝีปาก ขมวดคิ้ว พูดด้วยใบหน้าเศร้า: “ถึงพวกเขาจะถูกเตือนให้อย่าดู แต่พวกเขาก็รู้อยู่ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
เหลิ่งเซ่าถิงขมวดคิ้วด้วยความลำบากใจ: “ใช่ แล้วมันจะทำยังไงล่ะ?”
“แต่ก็……” เจี่ยนอี๋นั่วเหลือบมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง: “แต่คำพูดของเธอดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถือว่าเป็นเด็กดี……”
เหลิ่งเซ่าถิงก้มศีรษะลงและหัวเราะเบาๆ: “ แน่นอน ตั้งแต่เมื่อก่อนถึงตอนนี้ ฉันมีเธอคนเดียว”
เหลิ่งเซ่าถิงพูดถึงตรงนี้ ขมวดคิ้วและพูดอย่างหดหู่: “ไม่เหมือนเธอ มีผู้ชายมาจีบมากมาย”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่เหลิ่งเซ่าถิง พูดด้วยรอยยิ้ม: “ใช่ รอบตัวฉันมีผู้ชายมากมาย แถมยังมีคนที่เธอส่งมาด้วย แต่ทำไม่สำเร็จ เช่นเฉิงอะไรคนนั้น……”
เมื่อได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงคำว่า “เฉิง” เหลิ่งเซ่าถิงก็รู้ว่าสิ่งที่เจี่ยนอี๋นั่วกำลังจะพูดถึงคือเฉิงเว่ยหราน เหลิ่งเซ่าถิงยกมือขึ้นทันทีเพื่อหยุดสิ่งที่เจี่ยนอี๋นั่วจะพูดอย่างรวดเร็ว: “ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้ว่าฉันผิด”
เมื่อเหลิ่งเซ่าถิงพูดและเขาก็ไอสองสามครั้งและพูดว่า: “ดูสิ ฉันไม่สบาย ฉันไม่อยากพูดถึงอดีตแล้ว โอเคไหม?”
เจี่ยนอี๋นั่วเหล่ไปที่เหลิ่งเซ่าถิง: “ถ้ารู้ว่าผิด งั้นเรื่องที่ผ่านมาแล้วฉันก็จะไม่พูดถึง ตอนนี้เธอบอกให้พวกเขาปิดตาก่อนได้ไหม? ฉันอยากจูบเธอ”
เหลิ่งเซ่าถิงผงะครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดปุ่ม ยิ้มและพูดกับเจี่ยนอี๋นั่วว่า: “จัดมาเลย”
เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆเข้าหาเหลิ่งเซ่าถิง กดริมฝีปากของเหลิ่งเซ่าถิงเบาๆและพูดด้วยรอยยิ้ม: “กินยา แล้วนอนหลับพักผ่อน เดี๋ยวฉันจะมาดูอีกรอบ”
ทันทีที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอก็ลุกขึ้นยืนทันที เหลิ่งเซ่าถิงพยายามจับมือเจี่ยนอี๋นั่ว แต่เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและหลีกเลี่ยง เจี่ยนอี๋นั่วถอยกลับไปที่ประตู พูดด้วยรอยยิ้ม: “เธอรีบนอนพักผ่อน ถ้าหายแล้ว เดี๋ยวฉันจะลองพิจราณาดูอีกครั้ง”
เหลิ่งเซ่าถิงพยักหน้า หลับตาอย่างเชื่อฟังและหลับไปบนเตียง เจี่ยนอี๋นั่วเฝ้าดูเหลิ่งเซ่าถิงหลับไปและออกจากห้องของเหลิ่งเซ่าถิงด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็ไปหาลั่วหยางและเจี่ยนซวง และเอาอาหารมาให้เหลิ่งเซ่าถิง เพื่อกินยาในมื้อเย็น เหลิ่งเซ่าถิงอาการหนัก กินยาเสร็จก็หลับไปอีก เจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่ได้กวนเขา
เจี่ยนอี๋นั่วคลุมผ้าห่มให้เหลิ่งเซ่าถิง จากนั้นออกจากห้องของเหลิ่งเซ่าถิง กลับไปที่ห้องของเจี่ยนซวงและหลับไปพร้อมกับเจี่ยนซวง ก่อนเข้านอนเจี่ยนซวงจับมือของเจี่ยนอี๋นั่วอย่างประหม่าและพูดด้วยความตื่นตระหนก: “แม่ กลางคืนแม่ห้ามหนีออกไปนะ หนูจับมือแม่ไว้แล้ว แม่ต้องกอดซวงซวงไว้จนกว่าซวงซวงจะตื่น”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและจูบหน้าผากของเจี่ยนซวง พูดด้วยรอยยิ้ม: “ซวงซวงไม่ต้องห่วง คืนนี้แม่ไม่ไปไหนแล้ว”
จากนั้นเจี่ยนซวงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอพิงศีรษะของเธอบนหน้าอกของเจี่ยนอี๋นั่วและกระซิบ: “แม่ห้ามโกหกซวงซวงนะ ต้องกอดซวงซวงทั้งคืน”
เจี่ยนอี๋นั่วกอดเจี่ยนซวง พูดด้วยรอยยิ้ม: “จนกว่าซวงซวงจะโต แม่จะกอดซวงซวงไม่ปล่อยเลย”
เจี่ยนซวงที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นได้ยินคำพูดของเจี่ยนอี๋นั่วและส่ายหัวทันที: “ไม่ แม่ต้องบอกว่าจะไม่มีวันไปจากซวงซวง! ซวงซวงไม่อยากโต ซวงซวงอยากให้แม่อยู่กับซวงซวงตลอดไป”
เจี่ยนอี๋นั่วไม่ตอบ เธอรู้ว่าสำหรับเจี่ยนซวงที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นคง เธอจะกลัวสิ่งที่เธอพูด เด็กจะโตขึ้นไม่ช้าก็เร็ว แต่เจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่ต้องการหลอกลวงเจี่ยนซวง เธอไม่พูดอะไรเกี่ยวกับการอยู่กับ เจี่ยนซวง เจี่ยนอี๋นั่วกอดเจี่ยนซวงแน่นและพูดเบาๆว่า: “นอนเถอะ”
เจี่ยนซวงกระตุกจมูกและพยักหน้าเบาๆ : “โอเค”
หลังจากเจี่ยนซวงพูดจบ เธอเก็พิงแขนของเจี่ยนอี๋นั่วและหลับตาลง เจี่ยนอี๋นั่วกอดเจี่ยนซวงและค่อยๆหลับตา เธอหลับไปจนถึงเที่ยงคืน เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกหนาวขึ้นมาทันที เธอขมวดคิ้วและดึงผ้าห่ม แต่เจี่ยนอี๋นั่วหาผ้าห่มไม่เจอ ลืมตาครึ่งหลับตื่นขึ้นช้าๆ ชำเลืองมองไปที่ข้างๆ ด้วยสัญชาตญาณ แต่ไม่เห็นเจี่ยนซวง
เจี่ยนอี๋นั่วลุกขึ้นทันทีและรีบตะโกน: “เจี่ยนซวง……เจี่ยนซวง……ลูกอยู่ไหน?”
เจี่ยนอี๋นั่วตะโกนและเดินออกจากห้อง เธอวิ่งไปที่ห้องของเหลิ่งเซ่าถิงอย่างรวดเร็วและเคาะประตู: “เซ่าถิง ตื่น เจี่ยนซวงหายไป”
เจี่ยนอี๋นั่วเคาะประตูเป็นเวลานาน แต่ไม่ได้ยินการตอบสนอง เจี่ยนอี๋นั่วเปิดประตูทันทีและเห็นเลือดสีแดงสดทั่วพื้น เหลิ่งเซ่าถิงนั่งอยู่บนเตียงด้วยดวงตาที่เบิกกว้างโดยมีมีดแทงอยู่ที่หน้าอกของเขาและเลือดสีแดงสดก็ไหลออกมาจากหน้าอกของเขาอย่างต่อเนื่อง ริมฝีปากที่เธอเคยจูบมาก่อนตอนนี้ซีดและไร้สีเลือด
“ไม่!” เจี่ยนอี๋นั่วปิดปากของเธอและล้มลงกับพื้น: “ไม่ เป็นไปไม่ได้!”
“อี๋นั่ว เธอเลือกเหลิ่งเซ่าถิงตลอด เขามีอะไรดี? เขารักเธอมากกว่าฉันหรอ?” เสียงแหบและเย็นชาดังขึ้นจากด้านหลังเจี่ยนอี๋นั่ว
เจี่ยนอี๋นั่วหันกลับไปทันที แต่ไม่มีใครเห็น เจี่ยนอี๋นั่วตะโกนทันที: “ใคร?”
“แม้ว่าเหลิ่งเซ่าถิงจะปลอมเป็น ‘คุณจู๋’ เธอก็ยังจำเขาได้ ยังรักเขาได้ แล้วทำไมเธอถึงจำฉันไม่ได้?” เสียงที่แหบแห้งดังขึ้นในหูของอี๋นั่ว “ ทำไมเธอถึงจำฉันไม่ได้? พูดสิ เธอควรโดนลงโทษหรือเปล่า?”
เจี่ยนอี๋นั่วก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ดวงตาของเธอเบิกกว้าง: “เธอคือ…..เธอคือ เหลิ่งหมิงอัน?”
“อืม ในที่สุดเธอก็จำฉันได้……ฮิฮิ…… ” เสียงหัวเราะของเหลิ่งหมิงอันเย็นชาและขมขื่น
นอกจากเสียงหัวเราะของเหลิ่งหมิงอันแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วยังได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กๆ ไม่เพียงแต่เสียงร้องไห้ของเจี่ยนซวงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลั่วหยาง เจี่ยนอี๋นั่วรีบตะโกน: “ซวงซวง ลั่วหยาง……”
หลังจากร้องไห้ เจี่ยนอี๋นั่ววิ่งไปที่หน้าต่าง เธอเห็นร่างของชายร่างสูงและผอมในความมืดแสงจันทร์ที่เลือนราง ส่องสว่างใบหน้าของชายคนนั้น เขามีตาเพียงข้างเดียวและตาอีกข้างกลวง ดวงตาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวจ้องมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วด้วยความเกลียดชัง เขาพูดด้วยเสียงแหบ: “เหลิ่งเซ่าถิงถูกฆ่าตายแล้ว ตอนนี้ลูกสองคนของเธอก็สมควรตาย! เมื่อพวกเขาตาย เรามาแต่งงานและให้กำเนิดลูกกันเถอะ ฉันบอกแล้วว่าจะแต่งงานกับเธอ…..อี๋นั่ว……ฉันรักเธอ…….”
หลังจากพูดจบ เหลิ่งหมิงอันก็โยนเด็กทั้งสองที่กำลังร้องไห้ออกไปนอกหน้าต่าง
เจี่ยนอี๋นั่วตะโกนออกมา: “อย่า!”
เจี่ยนอี๋นั่วลุกขึ้นพร้อมกับตะโกน แสงแดดยามเช้าตกใส่เธอ แต่มันไม่สามารถทำให้เจี่ยนอี๋นั่วอบอุ่นได้เลย เธอตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้และยังมีน้ำตาบนใบหน้าของเธอ
มันคือความฝัน? ทำไมความฝันถึงน่ากลัวแบบนี้?
เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า? ตอนนี้เธออยู่ไหน?
เจี่ยนอี๋นั่วที่ตื่นขึ้นมา ตัวสั่น หันศีรษะช้าๆและมองไปที่ด้านข้างของเธอ เห็นว่าเจี่ยนซวงไม่ได้นอนข้างเธอจริงๆ เจี่ยนอี๋นั่วตกตะลึงในทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้าง น้ำตายังคงไหลออกมาจากดวงตาของเธอและเลือดทั่วร่างกายของเธอดูเหมือนจะแข็งตัวทันที
ซวงซวง หายไป?