หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 199 หัวใจเต้นแรง
เจี่ยนอี๋นั่ว ยิ้มและเดินไปที่ข้างเจี่ยนซวง ในขณะที่ดูเจี่ยนซวงตกปลาอย่างเงียบๆ เธอก็ให้ความสนใจกับเด็กหญิงตัวเล็กๆที่เล่นอยู่ข้างๆเธอ แต่ดูเหมือนว่าเจี่ยนซวงจะตกปลาได้แย่มาก หลังจากนั่งอยู่ริมบ่อน้ำเป็นเวลานาน เจี่ยนซวงก็ยังตกปลาไม่ได้สักตัว เมื่อเวลาผ่านไปเจี่ยนซวงยังคงบิดตัวอยู่บนเก้าอี้ เหงื่อออกที่หน้าผาก
เมื่อชายแก่ถือบาร์บีคิวออกมา เจี่ยนซวงรีบเช็ดเหงื่อและพูดว่า: “แม่ ทำไมตกไม่ได้สักตัวเลย”
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่เบ็ดตกปลา ส่ายหัวและยิ้ม: “แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แม่ตกปลาไม่เป็น”
ชายแก่ถือบาร์บีคิวและเดินไปที่ด้านข้างของเจี่ยนซวง ถามด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน: “มีอะไรหรอ?”
เจี่ยนซวงย่นจมูกและตาแดง: “ปลาพวกนี้รังแกหนู ไม่โผล่มาเลยสักตัว”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “มันก็รู้ว่าถ้าโผล่ขึ้นมาต้องตายแน่ๆ ถูกลูกกิน ก็เลยไม่กล้าออกมา ปลามันจะรังแกหนูได้ยังไง? ลูกนั่นแหละรังแกพวกมัน แต่ทำไม่สำเร็จ”
เจี่ยนซวงที่กำลังจะร้องไห้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอีกครั้ง เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเจี่ยนอี๋นั่ว โค้งริมฝีปากของเธอและพึมพำเบาๆกับเจี่ยนอี๋นั่ว
จากนั้นเจี่ยนซวงก็ขมวดคิ้วไปที่ชายแก่และถามว่า: “คุณปู่ จะทำยังไงดีคะ?”
ชายแก่เงยหน้ามองคันเบ็ดแล้วส่ายหัว:“วันนี้ยังไม่ได้ให้อาหารปลาเลย พวกมันน่าจะติดเบ็ดง่ายสิ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้างั้นกินนี่ก่อนละกัน กินอิ่มแล้วอาจจะมีปลามาติดเบ็ดก็ได้”
เจี่ยนซวงเหลือบมองไปที่เบ็ดตกปลา ใบหน้าของเธอไม่เต็มใจเล็กน้อย แต่เธอได้กลิ่นบาร์บีคิว เจี่ยนซวงหันหน้าไปมองบาร์บีคิว กลิ่นหอม จากนั้นเธอก็วางเบ็ดตกปลา แล้วเดินไปที่โต๊ะและเริ่มกิน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เจี่ยนซวงก็หยิบบาร์บีคิววิ่งไปหาเจี่ยนอี๋นั่วด้วยรอยยิ้มและพูดว่า: “แม่……อันนี้อร่อยมาก อร่อยกว่าร้านหน้าโรงเรียนอีก แม่ลองชิมสิ”
เจี่ยนอี๋นั่วถอนหายใจอย่างโล่งอกด้วยรอยยิ้ม พยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม: “มันอร่อยจริงๆ ลูกกินเถอะ”
เจี่ยนซวงได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดแบบนี้ ก็เลยเด็กไปหาผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นและเริ่มกินบาร์บีคิวด้วยกัน เจี่ยนอี๋นั่วกำลังช่วยภรรยาของชายแก่ แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะบอกว่าเจี่ยนอี๋นั่วเป็นแขกและไม่ต้องช่วย แต่เจี่ยนอี๋นั่วไม่ชินกับการนั่งเฉยๆแล้วให้คนอื่นมาดูแล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอคุ้นเคยกับการดูแลตัวเอง
เมื่อเด็กทั้งสองอิ่ม ชายแก่ก็นั่งลง ค่อยๆย่างเนื้อและพูดคุยอย่างสบายๆ กำลังพูดถึงคือละครโทรทัศน์ล่าสุดและเหตุการณ์ของประเทศที่ห่างไกล หลังจากที่คุยกันอย่างเฉื่อยชา เจี่ยนอี๋นั่วก็คุ้นเคยกับครอบครัวนี้มากขึ้น
ชายแก่มองไปเจี่ยนซวงที่หยิบเบ็ดตกปลาขึ้นมาอีกครั้งและอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพูดว่า: “เด็กคนนี้มีนิสัยดื้อรั้นมาก เธอต้องตกปลาให้ได้”
เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้: “นิสัยดื้อรั้นของเธอ กำจัดไม่หานจริงๆ……พ่อของเธอและฉันเป็นคนที่อ่อนโยนและเชื่อฟัง ฉันต้องปวดหัวมากกับนิสัยดื้อรั้นของเธอ”
ชายแก่รินน้ำผลไม้หนึ่งแก้วให้เจี่ยนอี๋นั่วและพูดด้วยรอยยิ้ม: “บางครั้งก็เป็นเรื่องดีที่ดื้อรั้น ถ้าเธอมีเป้าหมาย เธอจะไปต่อและเธอจะทำบางสิ่งให้ลุล่วง”
“ ถ้าเป้าหมายผิดล่ะ?” เจี่ยนอี๋นั่วถอนหายใจเบาๆ :“ บางครั้งการรู้ว่าจะยอมแพ้กับอะไรก็เป็นทักษะเช่นกัน”
เมื่อพูดแบบนี้เจี่ยนอี๋นั่วก็รู้สึกได้ถึงมีเม็ดฝนตกลงมาที่หลังมือ เจี่ยนอี๋นั่วลูบหลังมือของเธอ เช็ดเม็ดฝนและพูดอย่างรวดเร็ว: “ดูเหมือนฝนกำลังจะตก?”
ชายแก่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าทันทีและพูดอย่างรีบร้อน: “ไม่ใช่หรอก แต่ตกแล้ว รีบเก็บของเข้าไปข้างในเถอะ…….”
เจี่ยนอี๋นั่วรีบพูดว่า: “ฉันช่วยเอง”
หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบ เธอและครอบครัวชายแก่ก็ช่วยกันย้ายข้าวของ บาร์บีคิวทั้งหมดไปที่ห้องครัวทันที หลังจากที่เก็บทุกอย่างเข้ามา ฝนก็ตกหนัก เจี่ยนอี๋นั่วสะบัดเม็ดฝนบนร่างกายของเธอ มองดูรอบๆ ปรากฏว่าไม่เห็นเจี่ยนซวง
“ซวยแล้ว เหยียนเหยียนยังตกปลาอยู่แน่เลย!” เจี่ยนอี๋นั่วพูดขึ้นมา และรีบหยิบร่มเดินออกจากห้องครัวทันที เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่ด้านข้างบ่อน้ำและตกตะลึงทันที เจี่ยนซวงกำลังตกปลา แต่เธอไม่ได้สัมผัสกับฝนเลยเพราะเจี่ยนซวงมีคนถือร่มให้ คนที่ถือร่มกลับกลายเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ “คุณชาย” ที่ซ่อนตัวอยู่ชั้นสอง
คุณชายสวมชุดดำแม้ว่าฝนจะตกแต่เขาก็ยังคงใส่แว่นกันแดดและหน้ากากอนามัย เขาอยู่ในรถเข็นโดยมีผ้าห่มหนาๆที่ขา จับรถเข็นด้วยมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือร่ม ท่ามกลางฝนที่กำลังตกหนักเขาโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย พยายามวางร่มบนศีรษะของเจี่ยนซวงให้มากที่สุด ในขณะที่ร่างกายส่วนใหญ่ของเขาอยู่นอกร่ม เปียกไปหมดทั้งตัว
เจี่ยนซวงหลบตัวอยู่ใต้ร่มและไม่โดนฝนเลย เธอหันศีรษะและพูดกับคุณชายสองสามคำด้วยรอยยิ้ม เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเธอคุยกัน แต่เห็นคุณชายพยักหน้าเล็กน้อย ราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง เจี่ยนซวงก็ปรับคันเบ็ดทันที ไม่มีความคิดใดๆเธอเดินไปที่บ่อน้ำอย่างรวดเร็ว ยื่นร่มรีบกางบนศีรษะของคุณชาย
เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วด้วยความประหลาดใจ จากนั้นก็รีบลดศีรษะลงและพูดว่า :”สวัสดี”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “สวัสดี เมื่อวานฉันเสียมารยามมาก ขอโทษด้วยนะ ฉันยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลย คุณชื่อ……”
“ฉันชื่อ……ฉันชื่อจู๋……” คุณชายตอบด้วยเสียงแหบแห้ง
“จู๋?” เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วและอดไม่ได้ที่จะถามอย่างสงสัย: “จู๋สะกดตัวไหนหรอ?”
คุณจู๋ยื่นมือออกและเขียนคำว่า “จู๋” ในอากาศด้วยนิ้วที่ยาวและซีดของเขา: “คำนี้”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “ชื่อพิเศษมาก เหมือนของฤาษีในนวนิยายศิลปะการต่อสู้”
คุณจู๋พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก้มหัวลงทันทีและมองไปที่ผิวน้ำที่เป็นระลอกคลื่นที่โดนฝน พื้นน้ำที่สงบในอดีตมีความผันผวนทำให้ผู้คนรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
คุณจู๋ไม่พูดและเจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ คุณจู๋ถือร่มให้เจี่ยนซวง ส่วนเจี่ยนอี๋นั่วถือร่มให้คุณจู๋ยืนอยู่ท่ามกลางสายฝน ผ่านไปสักพักก็ยังไม่มีคนเรียกพวกเขา
จนกระทั่ง เจี่ยนซวงยืนถือคันเบ็ดหัวเราะ: “แม่ หนูตกปลาได้แล้ว! แม่ดูสิ!”
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่ปลาบนเบ็ด ปลาของเจี่ยนซวงยังคงดิ้นรนเพื่อหลบหนี ยื่นมือออกไปลูบหัวของเจี่ยนซวงทันทีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ อืม ลูกสาวแม่ เก่งจริงๆ”
เจี่ยนซวงยิ้มอย่างเขิน ๆ และพูดว่า: “ต้องขอบคุณ คุณชายคนนี้ ฮิฮิ ไม่งั้นหนูคงตกปลาไม่ได้หรอก เขาพูดมีเหตุผลมาก ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ นอกซะจากจะใช้วิธีการที่ผิด ดูสิ ตอนนี้หนูทำได้แล้วใช่ไหม?”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและมองไปที่คุณจู๋ พูดเบาๆว่า: “ขอบคุณค่ะ”
คุณจู๋ไม่ได้พูด เขาเอาแต่มองลงไปที่บ่อน้ำและพูดว่า: “ฝนตกแล้ว ถ้านานกว่านี้ถนนในชนบทคงเดินทางลำบาก เธอเอาปลาตัวนี้รีบกลับบ้านเถอะ”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นี่เป็นปลาที่คุณเลี้ยง…… ”
คุณจู๋พูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบแห้ง: “เอาไปเถอะ นี่คือปลาที่ลูกสาวเธอตกได้ มันเป็นของเธอแล้ว”
เจี่ยนซวงกระพริบตาทันทีและมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว กระซิบถาม: “แม่ เราเอาปลาตัวนี้กลับบ้านได้ไหม?”
เจี่ยนอี๋นั่วเหลือบมองไปที่คุณจู๋ เธอต้องการเห็นการแสดงออกของคุณจู๋ แต่เธอไม่สามารถเห็นใบหน้าของคุณจู๋ได้ เจี่ยนอี๋นั่วทำได้เพียงยิ้มและพยักหน้าให้เจี่ยนซวง: “อืม เราเอาปลาตัวนี้กลับบ้านได้”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ ก็หันไปมองคุณจู่และพูดว่า:” งั้นเรากลับก่อนนะ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่ดี”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดในขณะที่กวักมือเรียกเจี่ยนซวง เจี่ยนซวงวิ่งไปใต้ร่มของเจี่ยนอี๋นั่วทันทีและพูดด้วยรอยยิ้ม: “แม่ คืนนี้เราได้กินซุปปลาแล้ว แถมหนูเป็นคนตกได้ ปลาดีๆแบบนี้แม่อย่าเป็นคนทำดีกว่า ให้ป้าข้างบ้านทำให้แล้วแบ่งให้เธอ ดีไหม?”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพยักหน้า ยกมือขึ้นแตะหัวของเจี่ยนซวง พูดด้วยรอยยิ้ม: “ปลาที่ลูกตกได้ ให้ลูกเป็นคนจัดการ”
เจี่ยนซวงกระโดดขึ้นทันที: “สุดยอดไปเลย!”
เจี่ยนอี๋นั่วบอกเจี่ยนซวง: “บอกลาคุณจู๋ก่อน”
“อ้อ……ลาก่อนนะคะ…..คุณจู๋” เจี้ยนซวงพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็เอาปลาและเดินไป หลังจากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็พูดขึ้น: “ลาก่อน” และเดินจากไปพร้อมเจี่ยนซวง
เจี่ยนอี๋นั่วพาเจี่ยนซวงไปที่ห้องครัว หาถุงมาใส่ปลา จากนั้นเดินออกจากห้องครัว เมื่อเดินไปที่สนามหญ้า เจี่ยนอี๋นั่วก็หันศีรษะและมองไปที่บ่อน้ำและเห็นว่าคุณจู๋ยังคงอยู่ข้างบ่อน้ำด้วยร่มและรถเข็นไม่รู้ว่ากำลังมองอะไร
เจี่ยนอี๋นั่วรีบยิ้มและพูดกับชายแก่ที่ออกมาส่งเธอ: “สุขภาพของเขาไม่ค่อยดี คุณลุงไปเตือนให้เขารีบเข้าบ้านเถอะ”
เมื่อชายแก่ได้ยินคำพูดของเจี่ยนอี๋นั่ว เขาก็ผงะไปชั่วขณะและในที่สุดดวงตาของเขาก็เป็นสีแดง เขาก็พยักหน้าแรงๆ : “โอเค โอเค ฉันจะไปบอกเขาเอง”
แม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะรู้สึกว่าพฤติกรรมของชายแก่ค่อนข้างแปลก แต่เธอไม่รู้ว่ามีอะไรแปลก เธอจึงทำได้เพียงยิ้มและพูดคำอำลา: “งั้นฉันไปก่อนนะ”
เจี่ยนซวงที่กำลังถือปลาตัวใหญ่ที่เธอตกได้ในมืออีกข้าง ยกมืออีกข้างโบกลาชายแก่: “ลาก่อนคุณปู่”
เจี่ยนอี๋นั่วและเจี่ยนซวง ยิ้มและเดินออกจากคฤหาสน์ หลังจากที่พวกเธอเดินออกไปยังคงเห็นชายแก่โบกมือลาพวกเธอ เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและหันไปมองชายแก่ จากนั้นโบกมือ ยิ้มแล้วถามเจี่ยนซวง: “วันนี้เป็นยังไงบ้าง สนุกไหม?”
เจี้ยนซวงพยักหน้าทันทีและพูดด้วยรอยยิ้ม: “มีความสุข มีความสุขมาก แม่ คุณชายคนนั้นเก่งมาก เขาบอกหนูแค่สองสามคำ ก็ทำให้หนูจับปลาได้”
“ลูกไม่กลัวเขาหรอ?” เจี่ยนอี๋นั่วถามด้วยรอยยิ้ม
เจี่ยนซวงพยักหน้าก่อน แล้วส่ายหัว: “ตอนแรกก็กลัว สักพักก็หายกลัว เขาไม่ทำร้ายหนูหรอก”