หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 160 ฉันเป็นทวดของเธอ
เจี่ยนอี๋นั่วพาเจี่ยนซวงกลับถึงบ้าน ก็มีสายโทรเข้าจากซวีอี้เฟยทันที เจี่ยนอี๋นั่วไม่รับสายของซวีอี้เฟยและวางสาย แต่โทรศัพท์ยังคงดังอยู่ เสียงดังจนเจี่ยนซวงรำคาญ เบะปาก ขมวดคิ้วและมองไปที่ เจี่ยนอี๋นั่วและถอนหายใจ: "แม่ แม่เจอคนผู้ชายเลวแล้ว"
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วมองไปที่เจี่ยนซวงและถามว่า: "ลูกไปรู้คำนี้มาจากที่ไหน? ลูกรู้ว่าอะไรคือผู้ชายเลวหรอ?"
เจี่ยนซวงยื่นนิ้วก้อยออกเพื่อคลิกทีวีและพูด: "ซวงซวง เรียนรู้จากทีวี ทีวีเรียกเรียกคนแบบนี้ว่าผู้ชายเลว"
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะ: "งั้นแม่จะสอนวิธีจัดการกับคนพวกนี้ ดีไหม?"
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อรับสาย ซวีอี้เฟยรีบพูดขึ้นในอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์: "ขอโทษนะ อี๋นั่ว ตอนนั้นฉันหุนหันเกินไป ฉันรอเธอมาตลอดหลายปีและฉันไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนเลย ฉันเลยพูดไม่คิดออกไปแต่จิตใจของฉันดีมาก ฉันดูแลเธอได้จริงๆ อยากดูแลซวงๆ ฉันแค่กังวลมากไปหน่อย”
เจี่ยนอี๋นั่วยกปากขึ้นและหัวเราะเบาๆ : "ฉันไม่มีความคิดที่จะคบกับเธอต่อไป อย่าโทรหาฉันอีก ฉันมีเรื่องต้องจัดการอีกมากมาย อย่ามาเสียเวลาของฉัน”
ซวีอี้เฟยขัดคำพูดของเจี่ยนอี๋นั่วทันทีและพูดอย่างรวดเร็ว: "เจี่ยนอี๋นั่ว ฉันว่าเธอยังไม่ได้คิดดีๆ ไม่ควรใช้เกณฑ์ก่อนหน้านี้ในการเลือกผู้ชาย เธอไม่ใช่คนเมื่อก่อนแล้ว เธอไม่ใช่ลูกคุณหนูของตระกูลเจี่ยน เธอไม่ได้เป็นที่ชื่นชมของผู้ชายในโรงเรียนอีกต่อไป เธอเพิ่งได้รับการปล่อยตัวจากคุกและมีลูกติด ฉันกำลังมองหาแฟน มีคนที่บริสุทธิ์มากมาย ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นผู้หญิงพวกนั้นเต็มใจที่จะอยู่กับฉัน แต่ฉันยังคงเลือกเธอเพราะฉันชอบเธอ ถ้าเธอปฏิเสธฉัน เธอจะไม่มีทางเจอกับผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างฉัน ฉันจะให้โอกาสเธออีกครั้ง พรุ่งนี้ พรุ่งนี้เราไปกินข้าวอีกครั้ง ดีไหม?”
เจี่ยนอี๋นั่วหายใจเข้าลึกๆ: "ฉันบอกแล้วว่าฉันปฏิเสธเธอ"
ซวีอี้เฟยรีบพูดขึ้นว่า: "นั่นเป็นเพราะเธอยังไม่ได้คิดดีๆ อี๋นั่วอย่าหยิ่งผยองเกินไป เธอคิดถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเธอสิ เอาอย่างงี้ พรุ่งนี้ฉันจะไปรับเธอ เธอเตรียมตัวให้พร้อม พรุ่งนี้เราไปกันสองคนตามลำพัง อย่าพาลูกเธอไปด้วย หาคนดูแลไว้เลยก็ดี บางทีเธออาจจะไม่กลับไป”
"ซวีอี้เฟย เธอพูดแบบนี้ เธอกำลังบังคับฉันนะ”เจี่ยนอี๋นั่วพูดอย่างเย็นชา:"ฉันรู้หน่วยงานของเธอ ถ้าเธอโทรหาฉันอีกครั้ง ฉันจะโทรหาตำรวจว่าเธอกำลังรังควานฉันและฉันจะไปหาหัวหน้าหน่วยของเธอ ฉันว่าเธอคงไม่อยากเป็นตัวตลกในที่ทำงานหรอกมั้ง?”
ซวีอี้เฟยขมวดคิ้วทันทีและพูดอย่างเย็นชา: "เจี่ยนอี๋นั่ว เธอกล้าหรอ? เธอไม่กลัวคนอื่นจะหัวเราะเยาะเธอหรอ?"
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะและพูดว่า: "ฉันมาถึงขนาดนี้ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวแล้ว ถ้าเธอไม่อาย ก็ลองโทรมาอีกนะ!"
เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบและวางสายโทรศัพท์ หลังจากนั้นซวีอี้เฟยก็ไม่กล้าโทรหาเจี่ยนอี๋นั่วอีก เจี่ยนซวงปรบมือ ยิ้มทันทีและพูดว่า: “ว้าว…..ผู้ชายเลวๆถูกไล่ออกไปแล้ว……”
เจี่ยนซวงพูดจบ โทรศัพท์ของเจี่ยนอี๋นั่วก็ดังขึ้นอีกครั้ง เจี่ยนซวงทรุดลงทันที: "แม่ คนเลวอีกแล้วหรือเปล่า……"
เจี่ยนอี๋นั่วเหลือบมองไปที่หมายเลขผู้โทรและพูดด้วยรอยยิ้มทันที: "ไม่ต้องกังวล เป็นสายของแม่เล่อเล่อ"
จากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วก็รับสายเหอหลวนเล่อ เหอหลวนเล่อรีบถามว่า: "อี๋นั่ว เธอกำลังทำอะไรอยู่? ทำไมเพิ่งรับสาย?”
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะและพูดว่า: "ไม่มีอะไร เธอมีอะไรหรือเปล่า?"
เหอหลวนเล่อยิ้มอย่างรวดเร็วและพูดว่า: "อืม ฉันจะบอกว่าฉันเปลี่ยนที่ตั้งร้านให้เธอ ฉันไม่เชื่อว่าคนพวกนั้นจะเลิกตามก่อกวนเธอ"
เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยรอยยิ้ม: "ไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอก ฉันว่าจะเปิดร้านขนมที่ร้านเดิม ฉันไม่อยากหนี ต่อให้จะมีคนพยายามก่อกวนฉัน แต่ฉันก็ไม่อยากหนีอีกแล้ว”
"แต่คนที่สนามสกุลเยี่ยคนนั้นไปแล้วไม่ใช่หรอ?" เหอหลวนเล่อหยุดชะงัก จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม: "แต่ไปแล้วก็ดี อี๋นั่วเธอลองดูสิ ตอนนี้ฉันดีกับเธอที่สุดแล้ว ฉันอยู่เคียงข้างเธอมาตลอด หมิงจูอะไรคนนั้นก็ทำไม่ได้ ฉันหนะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพยักหน้าเบาๆ เจี่ยนอี๋นั่วคิดในใจ: ใช่ ในบรรดาผู้คนที่เจอ เหอหลวนเล่อเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่คบฉันโดยไม่หวังผลประโยชน์ ตอนนี้เวลาผ่านไปนานแล้วฉันไม่ได้เป็นเยนอี๋นั่วคนเดิมอีกต่อไป แต่เหอหลวนเล่อยังปฏิบัติกับฉันเหมือนเดิม หายากมากจริงๆ
เจี่ยนอี๋นั่วพูดขึ้นทันที: "ใช่ หลายปีมานี้เธออยู่เคียงข้างฉันมาตลอด ไม่อย่างนั้นฉันไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ ฉันเป็นคนโชคดีที่มีเธอ ขอบคุณนะ"
เหอหลวนเล่อได้ยินเจี่ยนอี๋นั่วพูดแบบนี้ "ฮิฮิ" หัวเราะและพูดเบาๆว่า: "จริงๆเลยนะ พูดแบบนี้ตลอด พูดแบบนั้นราวกับว่าฉันกำลังไล่เธอเพื่อให้เธอสรรเสริญ ฉันรู้สึกอายนะเนี่ย ถ้าเธอยังอยากเปิดร้านที่เดิม งั้นก็ช่างเถอะ แต่ฉันติดต่อโรงเรียนแห่งใหม่ไว้ให้ซวงซวง โรงเรียนอนุบาลนี้เพื่อนของฉันเป็นคนเปิดเอง คงไม่เกิดอะไรขึ้นอีกแน่นอน วันนี้พาซวงซวงไปดูกันไหม? รวดพาเธอไปดูสภาพแวดล้อมก่อน ถึงฉันจะไม่ชอบเยี่ยหมิงจูผู้หญิงคนนั้น แต่มีผู้หญิงคนนั้นอยู่ก็ช่วยดูแลเธอได้บ้าง ตอนนี้เธอไปแล้ว เธอต้องหาคนใหม่มาอีกคน ยังมีเรื่องที่ร้านต้องจัดการอีกเยอะเลย”
เจี่ยนอี๋นั่วหัวเราะและพูดว่า: “โอเค เอาตามที่เธอบอกเลย”
เหอหลวนเล่อยิ้มและพูดว่า: "งั้นถ้าถึงเวลาฉันจะไปรับนะ"
หลังจากที่เหอหลวนเล่อพูดจบ ก็วางสายโทรศัพท์ เจี่ยนอี๋นั่วก็หันไปพูดกับ เจี่ยนซวงทันที: "ซวงซวง แม่พาซวงซวงไปโรงเรียนอนุบาลได้แล้ว ซวงซวงจะได้ไปเล้นกับเพื่อนๆที่โรงเรียน"
เจี่ยนซวงยกมือเล็กๆของเธอทันทีและพูดด้วยรอยยิ้ม: "อืม เยี่ยมเลย ซวงซวงจะได้ไปเล่นกับเพื่อนแล้ว!"
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้ว ทำอะไรไม่ถูกและพูดว่า: "ซวงซวง ไปเล่นกับเพื่อนๆ แต่ห้ามไปแย่งของเล่นเพื่อนนะ ลูกไปที่โรงเรียนห้ามรังแกเพื่อนเข้าใจไหม”
เจี่ยนซวงกระพริบตาและตอบเบาๆ: "อืม…… "
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและแตะศีรษะของเจี่ยนซวง พร้อมพูดว่า:"แต่ถ้าคนอื่นกลั่นแกล้งลูก ลูกต้องรู้วิธีที่จะต่อสู้กลับและเมื่อลูกต่อสู้เธอต้องมีความรอบคอบและอย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อน เมื่อลูกพบปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ลูกต้องรู้วิธีที่จะต่อสู้กลับ ต้องรู้วิธีขอความช่วยเหลือ รู้ไหม? อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ทำอะไรไม่ได้ ซวงซวงต้องมีเหตุผล"
เจี่ยนซวงพยักหน้าทันที: "อืม ซวงซวงจะไม่ปล่อยคนที่กลั่นแกล้งได้อย่างแน่นอน หึ กล้ารังแกซวงซวงหรอ?"
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่เจี่ยนซวง ยกมือขึ้นแตะหัวของเจี่ยนซวง เจี่ยนอี๋นั่วไม่เคยต้องการทำให้เจี่ยนซวงเป็นเด็กที่ได้รับการปกป้องมาตลอด เธอไม่ต้องการให้เจี่ยนซวงคิดว่าโลกทั้งใบเป็นคนดีและไม่อยากให้เจี่ยนซวงคิดว่าทุกคนจะเต็มไปด้วยความเมตตา ในการเป็นมนุษย์เธอควรเลือกที่จะปกป้องตัวเองก่อน เจี่ยนอี๋นั่วเธอต้องจากเจี่ยนซวงไปในวันหนึ่ง เธออยากให้เจี่ยนซวงดูแลตัวเองได้
เจี่ยนซวงต้องมีความสามารถและความกล้าหาญที่จะปกป้องตัวเองซึ่งต้องได้รับการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก
เหอหลวนเล่อมาถึง และพาเจี่ยนอี๋นั่วกับเจี่ยนซวงไปที่โรงเรียนอนุบาลแห่งใหม่ สิ่งอำนวยความสะดวกของโรงเรียนอนุบาลใหม่ดีกว่าเดิม เมื่อเห็นเครื่องเล่นต่างๆเจี่ยนซวง ก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากของเธอและตะโกนว่า: "ว้าว……สวยจัง……ซวงซวงชอบสไลด์"
เหอหลวนเล่อเอียงศีรษะและพูดกับเจี่ยนซวง: "โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้เป็นโรงเรียนอนุบาลสองภาษา ซวงซวงสามารถปูพื้นฐานภาษาอังกฤษได้ดีที่นี่ แม้ว่าเธอจะเคยสอนเธอมาบ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับเด็กคนอื่นๆ ซวงซวงของเรา ห้ามแพ้คนอื่น! ฉันจะสมัครเรียนเปียโนและเต้นรำให้ซวงซวงด้วย ฉันจะทำให้ซวงซวงเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย "
เจี่ยนซวงขมวดคิ้วหันไปมองเจี่ยนอี๋นั่วและพูดด้วยปากที่เรียบ: "แม่ แม่เล่อเล่อน่ากลัวจัง"
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดกับเหอหลวนเล่อ: "ไม่ต้องรีบหรอก ค่อยๆดูว่าลูกชอบอะไร”
เจี่ยนอี๋นั่วไม่สนว่าเจี่ยนซวงได้เรียนรู้อะไรหรือว่าเจี่ยนซวงจะกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่มีพรสวรรค์ในการเล่นเปียโน หมากรุก การประดิษฐ์ตัวอักษรและการวาดภาพ เจี่ยนอี๋นั่วให้ความสำคัญกับการปลูกฝังบุคลิกภาพของเจี่ยนซวงมากกว่า อย่างอื่นค่อยๆฝึกได้
เหอหลวนเล่อผู้ซึ่งต้องการให้เจี้ยนซวงเป็นสุภาพสตรีที่มีชื่อเสียงถอนหายใจด้วยความผิดหวังและถามเจี่ยนซวง: "เป็นยังไงบ้าง? ซวงซวงชอบโรงเรียนอนุบาลนี้ไหม?"
เจี่ยนซวงพยักหน้า เพื่อแสดงว่าเธอชอบโรงเรียนอนุบาลนี้มาก แม้ว่าเจี่ยนอี๋นั่วและเหอหลวนเล่อจะจากไป เจี่ยนซวงก็โบกมือให้เจี่ยนอี๋นั่วอย่างแรงและพูดว่า "แม่ แม่เล่อเล่อ มารับซวงซวงช้าๆก็ได้นะ ซวงซวงอยากเล่นที่โรงเรียนก่อน!”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและโบกมือให้เจี่ยนซวงก่อนจะหันไปจากไป เจี่ยนซวงเฝ้าดูเจี่ยนอี๋นั่วจากไป เจี่ยนซวงก็ประกบปากและพูดเบาๆ: "อันที่จริง ซวงซวงอยากให้แม่มารับเร็วๆ!"
เจี่ยนซวงพูดพลางก้มศีรษะลงและขยี้ตาแดง ในเวลานี้คนแก่คนหนึ่งเดินเข้ามาและถามว่า: "เธอคือซวงซวงหรือเปล่า?"
เจี่ยนซวงขยี้ตา ทำหน้ามุ่ยและมองไปที่คนแก่อย่างระมัดระวัง: "คุณเป็นใคร แม่ไม่ให้หนูคุยกับคนแปลกหน้า"
คุณนายเหลิ่งเหล่ไปที่เจี่ยนซวงและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ฉันเป็นทวดของเธอ"
เจี่ยนซวงกระพริบตาและถามอย่างสงสัย: "ทวดคืออะไร?"
คุณนายเหลิ่งยิ้มและพูดว่า: "เป็นย่าของพ่อเธอ"
"ย่าของพ่อซวงซวง?" เจี่ยนซวงเบิกตากว้างและมองไปที่คุณนายเหลิ่ง พูดอย่างรีบร้อน: "ถ้าอย่างนั้นคุณรู้จักพ่อของซวงซวงหรอ? คุณเรียกพ่อมาหาซวงซวงสิ เรียกเขามาหาแม่”