หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 150 ฉันไม่ใช่เมียน้อย
วันรุ่งขึ้นทันทีที่เจี่ยนอี๋นั่วนำเจี่ยนซวงออกจากบ้าน เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เหมือนคนอื่นๆกำลังเฝ้าดูเธอและเจี่ยนซวงอยู่ พวกเขากระซิบนินทา เจี่ยนซวงกระพริบตาหันไปมองเจี่ยนอี๋นั่ว พูดด้วยน้ำเสียงเบา: "คุณแม่คะ ทำไมพวกเขามองเราตลอดเวลาแบบนั้นล่ะคะ?"
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่สายตาจ้องมองที่ไร้ความปรานีของผู้คนรอบ ๆ ตัว เธอขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม: "อย่าสนใจพวกเขาเลยจ๊ะ พวกเราเดินตรงไปข้างหน้า ไม่เป็นไรลูก”
เจี่ยนซวงยิ้มและพยักหน้า: "ค่ะ วันนี้ซวงซวงจะไปฟังคุณน้าเล่านิทานให้ฟัง และเธอยังเล่นเปียโนได้อีกด้วย คุณน้าเก่งมากจริงๆค่ะ คนที่แบ่งปันอาหารและผักกับเธอล้วนเป็นคุณน้า ในอนาคตซวงซวงก็ต้องเป็นเหมือนคุณน้านะคะดูแลเด็กๆ และแบ่งเค้กส่วนที่ใหญ่ที่สุดให้ซวงซวงกิน! จากนั้นก็แบ่งให้กับเด็ก ๆ ที่ดีกับหนูนะคะ "
“ถ้าหากซวงซวงและเพื่อนของซวงซวงกินเค้กก้อนโตทั้งหมดนั้นจนหมด ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีเพื่อนคนไหนเชื่อฟังซวงซวงแล้ว ถ้าหากต้องการควบคุมเพื่อนๆ ต้องให้เพื่อนคนที่เชื่อฟังที่สุดกิน และให้เค้กชิ้นที่ใหญ่ที่สุด พวกเขาต้องการกินเค้กชิ้นใหญ่ที่สุด ก็จะเชื่อฟังอย่างดี ”เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เจี่ยนซวงพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ถ้าเด็ก ๆ บางคนไม่ชอบกินเค้ก หนูก็มอบของเล่นที่สนุกที่สุดให้กับเขาแล้วเขาก็จะเชื่อฟังหนูด้วย!"
เจี่ยนอี๋นั่วพยักหน้าจูงมือเจี่ยนซวงจนถึงหน้าโรงเรียนอนุบาล เจี่ยนซวงกำลังจะเดินเข้าไปในโรงเรียน ทันใดนั้นหญิงวัยกลางคนก็รีบวิ่งออกมาขวางเจี่ยนซวงและเจี่ยนอี๋นั่ว เธอเป็นครูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ เธอขมวดคิ้วมองเจี่ยนอี๋นั่วและพูดว่า :“"ฉันขอโทษด้วยนะคะ คุณไม่สามารถส่งลูกสาวของคุณมาเรียนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้อีกแล้วนะคะ .”
หลังจากหยุดชะงักไปเล็กน้อย เจี่ยนอี๋นั่วก็ถามพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ :“เกิดอะไรขึ้นคะ?เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ?"
หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วและพูดว่า:“เกิดอะไรขึ้นหรือคะ คุณควรจะรู้ดีที่สุดนะคะ เรื่องในอดีตของคุณเขารู้กันไปทั่วแล้วค่ะ ผู้ปกครองหลายคนไม่ยอมให้ลูกสาวของคุณเรียนที่นี่อีกต่อไป ถ้าหากลูกสาวของคุณยังเรียนอยู่ที่นี่ พวกเขาก็จะลาออก ฉันไม่สามารถเลือกคุณคนเดียวแล้วทำให้คนอื่นลาออกไปหมดแบบนี้ไม่ได้หรอกนะคะ ?”
เจี่ยนอี๋นั่วทำหน้าคิ้วขมวดพร้อมถามว่า:“มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่?”
หญิงวัยกลางคนมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วอย่างดูถูกเหยียดหยาม และพูดอย่างเย็นชา: "คุณไม่รู้จริงๆเหรอ คุณยังแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกนะ ? คุณ คุณเป็นเมียน้อยและทำลายครอบครัวของคนอื่น คุณยังเคยติดคุกมาแล้ว เด็กที่ถูกสั่งสอนจากผู้หญิงอย่างคุณ จะทำให้เด็กคนอื่น ๆ เสียไปด้วย แล้วฉันจะปล่อยให้ลูกสาวของคุณเรียอยู่ที่นี่ต่อไปได้อย่างไร?”
"คุณแม่คะ…… เกิดอะไรขึ้นคะ?อะไรคือเมียน้อยคะ? พวกเขาจะไม่เอาซวงซวงแล้วใช่ไหมคะ ?ไม่ให้ซวงซวงเรียนโรงเรียนอนุบาลนี้แล้วใช่ไหมคะ?ซวงซวง ทำอะไรผิดหรือเปล่าคะ?" เจี่ยนซวงเงยหน้าขึ้นมองเจี่ยนอี๋นั่วด้วยน้ำเสียงที่เบา
เจี่ยนอี๋นั่วลูบแก้มของเจี่ยนซวงและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ไม่มีอะไรจ๊ะ พวกเขาอาจจะเข้าใจอะไรผิดพลาด รอให้คุณแม่อธิบายกับพวกเขาสักครู่ เรื่องทั้งหมดจะผ่านไปด้วยดีนะคะ”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบก็เหล่ตามองไปที่หญิงวัยกลางคน ขมวดคิ้วและพูดว่า :“คุณได้ยินข่าวลืออะไรมาเหรอคะ? ฉันพูดกับคุณไว้ตอนนี้เลยนะคะ ว่าฉันไม่เคยทำลายชีวิตแต่งงานของใครทั้งนั้น และฉันไม่เคยเป็นเมียน้อยของใครอีกด้วย!ซวงซวงเป็นลูกสาวของฉัน ในสิ่งที่คุณพูดมา คุณต้องกล่าวคำขอโทษ คุณต้องกล่าวคำขอโทษให้ฉันและลูกของฉัน !”
หญิงวัยกลางคนมองเจี่ยนอี๋นั่วตาขวาง หัวเราะพูดขึ้นว่า:“ฝันไปเถอะ ?ฉันต้องกล่าวคำขอโทษให้คุณและลูกของคุณเนี่ยนะ? เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว และเด็กก็ใช้นามสกุลของคุณอีกด้วย มันต้องเป็นลูกนอกสมรสอย่างแน่นอนใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้ยังกล้าหยิ่งยโส โอหังต่อหน้าฉันเหรอ! ฉันจะไม่กล่าวคำขอโทษ แล้วคุณจะทำอะไรได้? "
เจี่ยนอี๋นั่วยกโทรศัพท์ขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ฉันเพิ่งบันทึกสิ่งที่คุณพูดไปเมื่อกี้นี้ ถ้าหากคุณไม่กล่าวคำโทษ ฉันจะฟ้องคุณในข้อหาดูหมิ่นและใส่ร้ายฉัน ฉันมีหลักฐานว่าสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไปไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่นิดเดียว คุณเปิดโรงเรียนอนุบาลใช่ไหม ฉันคิดว่าคุณคงไม่อยากให้คนอื่นเห็นนิสัยแย่ๆแบบนี้หรอกใช่ไหมคะ? และฉันได้เซ็นสัญญากับคุณก่อนหน้านี้ ฉันตกลงให้ลูกสาวของฉันเรียนโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งปี แต่คุณกลับผิดสัญญา ต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นสองเท่า คุณโปรดเตรียมค่าเสียหายไว้ให้พร้อมและโดยเร็วที่สุดมิฉะนั้นฉันจะฟ้องคุณพร้อมกับการละเมิดสัญญาแน่นอน "
หญิงวัยกลางคนจ้องมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่วด้วยดวงตาของเธอเบิกกว้างและพูดตะกุกตะกัก: "คุณ คุณผู้หญิง……ต้องการ …… ต้องการอะไร? คุณต้องการอะไร?"
เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "ฉันอยากให้คุณขอโทษลูกสาวของฉัน เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่คุณให้ลูกสาวของฉันออกจากโรงเรียน ไม่ใช่ความผิดของเรา"
หญิงวัยกลางคนสูดหายใจเข้าลึก ๆ จ้องมองเจี่ยนอี๋นั่วตาขวาง กระตุกมุมปากครวญครางเหมือนยุง และพูดอย่างคลุมเครือ: "ฉันขอโทษ"
เจี่ยนอี๋นั่วก้มมองลงไปที่เจี่ยนซวงและถามด้วยเสียงหัวเราะเบา ๆ :“ซวงซวง หนูได้ยินคำขอโทษจากเธอแล้วหรือไม่จ๊ะ?"
เจี่ยนซวงหน้ามุ่ยแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง: "ไม่ได้ยินค่ะ!"
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและมองไปที่หญิงวัยกลางคนและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ได้โปรดพูดเสียงดังกว่านี้หน่อยค่ะ ลูกสาวของฉันฉันไม่ได้ยินคำขอโทษจากคุณค่ะ"
หญิงวัยกลางคนหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยความโกรธ แล้วตะโกนออกมาเสียงดังว่า: "ฉันขอโทษ!"
เจี่ยนอี๋นั่วหันหน้าไปมองที่เจี่ยนซวง ยิ้มและถามว่า :“ครั้งนี้หนูได้ยินแล้วหรือยังจ๊ะ?”
เจี่ยนซวงแตะที่จมูก ค่อยๆพยักหน้าๆ:“ได้ยิน……ได้ยินแล้วค่ะ……”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มแล้วถามเจี่ยนซวง:“แล้วหนูจะให้อภัยเธอไหมคะ?”
เจี่ยนซวงส่ายหัวไปมา:“ไม่ให้อภัยค่ะ”
“ ถ้าอย่างนั้นหนูยังต้องการที่จะเสียเวลากับเธออีกต่อไปคะ และรอฟังคำขอโทษจากเธอต่อไปอีกไหมคะ?” เจี่ยอี๋นั่วถามเจี่ยนซวงด้วยรอยยิ้ม
เจี่ยนซวงส่ายหัวไปมา:“หนูอยากไปหาคุณแม่หมิงจูค่ะ หนูไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วค่ะ”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและลูบที่หัวของเจี่ยนซวงพร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม: "ถ้าอย่างนั้นดีเลย เมื่อแม่ได้รับค่าเสียหายแล้วแม่จะพาหนูไปจากที่นี่นะคะ"
เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้าขึ้นยิ้มและมองไปที่หญิงวัยกลางคน: "โปรดคืนค่าเสียหายให้แก่เราด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ!"
หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วและมองไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว กัดฟันของเธอและพูดว่า:“ถ้าฉันไม่คืนล่ะ?"
"ถ้าอย่างนั้นก็เรียนโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ต่อไปสิคะ……”เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวด้วยรอยยิ้ม: "ฉันได้ยินมาว่าบางคนจะลาออกจากโรงเรียนอนุบาล สาเหตุเป็นเพราะเราสองคนแม่ลูก ถ้าอย่างนั้นก็เป็นเรื่องดีเลย ต่อไปนี้ซวงซวงก็จะสามารถเล่นของเล่นได้มากขึ้น”
"ว้าว ……”เจี่ยนซวงปรบมือและหัวเราะทันที: "เยี่ยมมากเลยค่ะ ซวงซวงชอบเล่นของเล่นมากที่สุดเลยค่ะ และ ซวงซวงยังสามารถกินเค้กชิ้นใหญ่ที่สุดอีกด้วย!"
"โอเค!" หญิงวัยกลางคนกัดฟันและมองไปที่เจี่ยนซวงและเจี่ยนอี๋นั่ว พูดอย่างรำคาญ: "ถือว่าคุณร้ายกาจ! ฉันจะเอาเงินคืนให้พวกคุณเดี๋ยวนี้!"
เมื่อหญิงวัยกลางคนพูดจบ เธอก็หันหลังไปทันที รอยยิ้มบนใบหน้าเล็ก ๆ ของเจี่ยนซวงค่อยๆปิดลงทันที ทำหน้ามุ่ยตาแดงและน้ำเสียงสะอื้นถามเจี่ยนอี๋นั่ว:“คุณแม่คะ……แท้จริงแล้วพวกเขาไม่ชอบซวงซวงใช่ไหมคะ ดังนั้นพวกเขาจึงอยากให้ซวงซวงไป?”
เจี่ยนอี๋นั่วส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ไม่ใช่ค่ะ เป็นความผิดของพวกเขา พวกเขาคิดว่าคุณแม่เป็นคนเลว และคุณว่าซวงซวงเป็นลูกของคุณแม่ ก็ต้องเป็นลูกที่เลวอย่างแน่นอน แต่ว่าคุณแม่ไม่ใช่คนเลวหรอกนะคะ?”
เจี่ยนซวงร้องไห้และส่ายหัวทันที: "ไม่ค่ะ…… ซวงซวงไม่ใช่เด็กเลวนะคะ……”
"ดังนั้นเป็นความผิดของพวกเขา" เจี่ยนอี๋นั่วเช็ดน้ำตาของซวงซวง และพูดด้วยรอยยิ้ม: "เพราะพวกเขาทำผิด พวกเขาจึงจ่ายค่าชดเชยให้กับเรา เพราะพวกเขาทำผิด พวกเขาจึงต้องกล่าวขอโทษให้กับเรา พวกเขาอาจไม่ชอบเรา แต่มันไม่ได้หมายความว่าเป็นความผิดของพวกเรา แม่เลี้ยงของสโนว์ไวท์ไม่ชอบสโนว์ไวท์ พี่สาวของซินเดอเรลล่าก็ไม่ชอบซินเดอเรลล่าเช่นกัน นั่นเป็นความผิดของสโนว์ไวท์และซินเดอเรลล่าหรือเปล่าคะ?”
เจี่ยนซวงใช้แรงเช็ดน้ำตาและพูดด้วยน้ำเสียงเบา:“ไม่ใช่ค่ะ มันไม่ใช่ความผิดของซินเดอเรลล่าและสโนว์ไวท์เพราะแม่เลี้ยงและพี่สาวของพวกเธอเป็นคนเลว เพราะพวกเขาเป็นคนไม่ดี จึงไม่ชอบคนดี ซวงซวงเป็นเด็กดี และคุณแม่ก็เป็นคนดี ดังนั้นลูกที่ไม่ดีและคุณแม่ของเด็กที่ไม่ดี จะไม่ชอบซวงซวงและคุณแม่ของซวงซวง”
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มสักครู่ ยกมือขึ้นเพื่อเช็ดน้ำตาของเจี่ยนซวง และพูดด้วยรอยยิ้ม: "ในเวลานี้หนูสามารถเข้าใจได้แบบนี้ และเมื่อหนูเติบโตขึ้นแล้ว จะมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มีข่าวดีจะบอกซวงซวงด้วยนะ เพราะโรงเรียนอนุบาลนี้จะจ่ายค่าชดเชยให้พวกเรา ดังนั้นคืนนี้แม่จึงสามารถซื้ออาหารที่อร่อยๆให้กับซวงซวงกินแล้ว คุณแม่ทำกับข้าวไม่เป็น เดี๋ยวให้คุณแม่หมิงจูทำเมนูซุปซี่โครงฟักเขียว?ดีไหมคะ?”
เจี่ยนซวงปรบมือทันทีและพูดด้วยรอยยิ้ม: "โอเคค่ะ!"
เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วได้รับค่าตอบแทนแล้ว ในขณะที่กำลังหันกลับไป อารมณ์ของเจี่ยนซวงก็กลับมาเป็นปกติแล้ว เธอถึงกับยืนพิงอยู่ข้างกายเจี่ยนอี๋นั่ว กระพริบตาและกระซิบว่า: "คุณแม่คะ ในอนาคตหนูจะไปเรียนโรงเรียนอนุบาล และพยายามไม่ให้พวกเขาขับไล่ซวงซวงอีกแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราก็จะมีเงินมากมายอีก”
"มีคนมากมายที่ไหนกัน จะไม่ชอบซวงซวงและคุณแม่ละคะ " เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและลูบหัวของเจี่ยนซวงและพูดด้วยรอยยิ้ม
เจี่ยนอี๋นั่วพาเจี่ยนซวงเดินไปที่ร้านขนมด้วยกัน แต่ยังเดินไปไม่ถึงร้านขนม โทรศัพท์มือถือของเจี่ยนอี๋นั่วดังขึ้นและเธอก็รับสายทันที และยิ้มให้กับเยี่ยหมิงจูที่โทรมา :“ฮาโหล พี่หมิงจูเหรอคะ? มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?"
เยี่ยหมิงจูพูดด้วยน้ำเสียงเบา: "หน้าร้านเกิดเรื่องแล้ว มีคนใช้สีเขียนนอกร้าน"
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วมองลงไปที่เจี่ยนซวง จากนั้นยิ้มแล้วถามว่า:“เหรอ เขียนคำว่าอะไร?"
"เมียน้อย หน้าด้าน!" เยี่ยหมิงจูถอนหายใจเฮือก :“มีคนเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"
เจี่ยนอี๋นั่วยิ้มและพูดว่า: "อาจจะ แต่มีแนวโน้มว่าจะมีคนอื่นจงใจทำเรื่องนี้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่เข้าร้านแล้ว รอสักพัก ฉันค่อยโทรศัพท์ให้เธอนะ”
หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ ก้มลงยิ้มให้เจี่ยนซวงแล้วพูดว่า:“ แจ้งข่าวดีให้ซวงซวงทราบนะคะ ขนมในร้านของเราขายหมดแล้ว วันนี้เราสามารถพักผ่อนได้หนึ่งวัน คุณแม่พาซวงซวงไปสวนสนุกดีไหมคะ ? ให้รางวัลเนื่องจากเมื่อกี้ซวงซวงเข้มแข็งมากๆ ซวงซวงไม่ได้ร้องไห้ต่อหน้าครูใหญ่เลย เก่งจริงๆเลย!”
เจี่ยนอี๋นั่วปรบมือของเธอทันทีและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ว้าว……ไปสวนสนุกกันเถอะ! หนูอยากเล่นม้าหมุนคะ"
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่เจี่ยนซวง เหล่ตามองด้วยรอยยิ้ม ยกมือขึ้นแล้วลูบหัวเจี่ยนซวงเบา ๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม: "โอเค วันนี้ซวงซวงสามารถเล่นได้ทุกอย่างให้สะใจไปเลย! อยากเล่นอะไรก็เล่นอย่างนั้น อีกทั้งจะอนุญาตให้กินสายไหมสองอัน แต่ว่าพรุ่งนี้หนูต้องเป็นเด็กดีและเชื่อฟังนะคะ และต้องไม่กินลูกอมอีก”
แววตาเจี่ยนซวงใสปิ้งจ้องไปที่เจี่ยนอี๋นั่ว ยิ้มแล้วพยักหน้าตอบรับอย่างดีใจสุดๆ