หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 124 ไม่มีโชค
"หากว่าคุยเสร็จแล้วก็วางสายซะ" ผู้คุมที่อยู่ด้านข้างอี๋นั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เจี่ยนอี่นั่วสูดหายใจ เธอเม้มริมฝีปากจากนั้นก็ค่อยๆก้มศีรษะลง แต่เธอไม่สามารถวางโทรศัพท์ลงไปได้ เธอเงยหน้าขึ้นและมองผู้คุมด้วยสายตาแดงก่ำ "ฉันสามารถโทรอีกครั้งได้ไหม? เมื่อกี้ เมื่อกี้ฉันอาจโทรผิดเบอร์ ฉันนั้นมึนงงอยู่บ่อน ฉันอาจกดเบอร์ผิด"
"เธอไม่ได้โทรผิด เธอโทรไปยังเบอร์ที่ได้ให้ฉันไปเมื่อกี้นี้ แล้วฉันก็ได้รับการยืนยันแล้ว เธอพูดว่าชายคนนั้นชื่อเหลิ่งเซ่าถิง" ผู้คุมกล่าวด้วยเย็นชา
เจี่ยนอี๋นั่วมองไปที่ผู้คุม จากนั้นเธอก็หลั่งน้ำตา เธอกระพริบตาและพยายามอย่างหนักที่จะกลั้นน้ำตาไว้ แต่เธอไม่สามารถควบคุมได้ เหมือนกับว่าเธอเตือนตัวเองอยู่ในใจเสมอว่าต้องมีเหตุผลที่เหลิ่งเซ่าถิงทำแบบนี้ แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวด
ผู้คุมเฝ้าดูเจี่ยนอี๋นั่ว เขาถอนหายใจเบาๆและน้ำเสียงของเขาก็เบาลงเล็กน้อย "ตอนนี้เธอตกอยู่ในสถานการณ์นี้แล้ว มันไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดที่คุณทำหรือ? หากเธอสามารถปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่เนิ่นๆ เธออาจยังมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง"
เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาลง เธอยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่มุมปากของเธอจากนั้นเธอก็เช็ดน้ำตาและกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า "ฉันรู้แล้ว ขอบคุณผู้คุม"
หลังจากที่เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบเธอก็อดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาอีกครา ผู้คุมเองก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอีกครั้ง เขาถอนหายใจอีกครั้งและตบหลังเจี่ยนอี๋นั่วเบาๆ "ในสถานการณ์แบบนี้ เรามักจะเห็นการคิดริเริ่มต้น ไม่ว่าจะกำจัดเด็กไปหรือเก็บเด็กเอาไว้ เธอก็ต้องเตรียมพร้อมสภาพจิตใจ เราเองก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีและจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือเธอ"
เจี่ยนอี๋นั่วเม้มริมฝีปากและพยักหน้าร้องไห้ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเธอนั้นจะอ่อนแอได้ขนาดนี้ เธอไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้เลย เธอไม่สามารถควบคุมมันได้เลยแม้แต่น้อย
เมื่อเจี่ยนอี๋นั่วกลับเข้ามายังห้องขัง เธอนั้นได้ร้องไห้จนดวงตาของเธอบวมและแดงก่ำ คนอื่นๆที่มองเจี่ยนอี๋นั่วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและพวกเธอนั้นก็ไม่กล้าที่จะถามอะไรมากนัก เยี่ยหมิงจูที่กำลังเอนกายอยู่บนเตียง เมื่อเห็นเจี่ยนอี๋นั่วเธอก็รีบลุกจากเตียงและประคองให้เจี่ยนอี๋นั่วมานอนพักบนเตียงของเธอ
จากนั้นเยี่ยหมิงจูก็ขอน้ำร้อนจากผู้คุมและชุบกับผ้าเช็ดหน้า เตรียมที่จะเช็ดหน้าให้กับเจี่ยนอี๋นั่ว เจี่ยนอี๋นั่วรีบรับผ้าเช็ดหน้าและกล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า "ฉันทำเอง…"
เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวพลางหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดหน้าจากนั้นก็เช็ดมือของเธอ เยี่ยหมิงจูก็รีบมอบน้ำร้อนให้กับเจี่ยนอี๋นั่ว เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม "ดื่มน้ำอุ่นหน่อย ปรับอารมณ์ของเธอก่อนแล้วทุกอย่างจะค่อยๆผ่านไป ตอนนี้เธอเป็นแม่คนแล้ว อย่าร้องไห้เลย ยิ่งร้องไห้ยิ่งทำลายสุขภาพ"
เจี่ยนอี๋นั่วเม้มริมฝีปาก เธอพยักหน้าช้าๆจากนั้นหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มน้ำ น้ำอุ่นกระจายความเย็นในหัวใจของอี๋นั่ว น้ำตาของเธอค่อยๆหยุดไหลและอารมณ์ของเธอก็ค่อยๆสงบลง
"เป็นอะไรไปล่ะ? ผู้ชายคนนั้นพูดอะไรไม่ดีเหรอ?" เยี่ยหมิงจูมองอี๋นั่วและถามเบาๆ
เจี่ยนอี๋นั่วกัดริมฝีปากล่างแล้วพยักหน้า เธออดไม่ได้ที่จะกล่าว "เขา เขาไม่ยอมรับเด็กคนนี้ ไม่ต้องการเด็กคนนี้"
"แม้ว่าจะมีผู้ชายจำนวนมากที่ไม่มีจิตสำนึก แต่เมื่อมองอี๋นั่วแล้วเธอเป็นคนที่เก่ง เป็นผู้หญิงที่มีประสบการณ์ ผู้ชายที่เธอเลือกไม่น่าจะแย่จนเกินไปหรอก มีความเข้าใจผิดอะไรกันหรือเล่า? หรือว่าผู้ชายคนนั้นมีเรื่องอะไรที่ลำบากหรือไม่?"
เยี่ยหมิงจูยิ้มและปลอบโยนเธอ "ฉัน ฉันน่ะสัมผัสได้ ฉันมองเธอแล้วก็รู้สึกว่าเธอน่ะเป็นคนที่โชคดีบางทีเธออาจโชคร้ายมาบ้าง แต่เธอจะมีชีวิตที่ราบรื่นในอนาคตอย่างแน่นอน"
หลังจากที่เยี่ยหมิงจูพูดแบบนี้ นักโทษหญิงคนอื่นๆในห้องขังก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ "เธอน่ะเหรอ? สัมผัสได้ ฉันก็สัมผัสได้ว่าเธอโดนผู้ชายหลอกเอาเงินจำนวนมากไปน่ะสิจากนั้นก็เลยต้องมาเข้าคุก? 953ยังไม่มีกำหนดออก ชีวิตหลังจากนี้ราบรื่น? เอาอะไรมาราบรื่น? จะได้รับการปล่อยตัวอีกกี่ปีเหรอ?"
เยี่ยหมิงจูพราดพรวดขึ้นในทันที เธอตะโกนเสียงดังว่า "พวกแกจะเข้าใจอะไร ฉันมองได้แค่ผู้หญิงเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ชายฉันก็เลยโดนหลอกไง!"
นักโทษหญิงคนอื่นถือโอกาสเล่าให้ฟังว่าหมิงจูนั้นโดนผู้ชายหลอกได้อย่างไร ใช้วิธีอย่างไรในการยักยอกเงินจากนั้นจึงได้มาเข้าคุก เรื่องราวถูกเล่าอีกครั้ง เยี่ยหมิงจูกระทืบเท้า เธอหน้าแดงเกินกว่าจะเถียงได้
จนกระทั่งผู้คุมเดินมาเคาะราวเหล็กและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "พอได้แล้ว อย่าก่อกวน ในตอนนี้มีแค่พวกเธอที่เสียงดัง"
ภายในห้องขังก็เริ่มเงียบอีกครั้ง เยี่ยหมิงจูนั่งลงด้านข้างเตียงของอี๋นั่ว มองเธอที่อารมณ์เย็นลงมากแล้ว เยี่ยหมิงจูยิ้มและกล่าวว่า "บ้านของฉันส่งอาหารมาให้อีกแล้วล่ะ เธอรับไปสิ"
"ทำไมดีกับฉันถึงขนาดนี้?" เจี่ยนอี๋นั่วที่อารมณ์เย็นลงมากแล้วเงยหน้ามองเยี่ยหมิงจูและถาม
เยี่ยหมิงจูอดไม่ได้ที่ะจยิ้ม "จะเพราะอะไรอีกล่ะ? เป็นเพราะฉันเองก็มีน้องสาว พ่อแม่ของฉันจากไปอย่างรวดเร็ว ฉันเลี้ยงเธอจนเธอเติบโต แม้แต่ตอนที่เธอท้องและคลอดลูก ฉันเองนี่แหละที่เป็นคนเลี้ยงดู ของเหล่านี้นั้นล้วนแต่เป็นเธอนั่นแหละที่เป็นคนส่งให้ แม้ว่าฉันจะทำผิดพลาดแต่เธอก็ไม่ได้ละทิ้งฉันแถมยังบอกอีกว่าเมื่อฉันออกไปให้ไปอยู่กับเธอ ฉันน่ะ พบรักกับแฟนที่ไม่ดีโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำอะไรผิดพลาดด้วยความสับสน แต่โชคดีที่ฉันมีน้องสาวของฉัน ฉันจึงรอดมาได้ ไม่งั้น ฉันเองก็คงคิดอยากตายไปแล้วเหมือนกัน เมื่อฉันพบเธอ ฉันก็นึกถึงน้องสาวของฉัน ฉันอดไม่ได้จริงๆที่จะทำดีกับเธอ เธอกับน้องสาวของฉันนั้นคล้ายกันมาก ทั้งบอบ แลดูบอบบาง แต่ก็เจ้าอารมณ์"
"ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง เธอเองก็มีน้องสาว…" เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวถึงตรงนี้ เธอก็ค่อยๆละสายตาและกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า เธอเองก็เคยมีน้องสาว ถึงแม้ว่าตอนนี้น้องสาวของเธอได้จากไปแล้ว แต่เจี่ยนอี๋นัวเองก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของการเป็นพี่สาว
เยี่ยหมิงจูเหลือบมองอี๋นั่ว เธอเปิดฝากล่องและส่งให้กับอี๋นั่ว "ผ่านอารมณ์ที่อ่อนแอมาแล้ว เหนื่อยจนหิวหรือยัง? เธอกินสักคำสองคำก่อนเถอะ แต่ไม่ต้องกินเยอะ อันนี้มันมีสารกันบูด เมื่อกี้ฉันได้ยินพวกผู้คุมคุยกันว่าหากว่าอยากจะคลอดลูกจริงๆก็ต้องจัดเตรียมอุปกรณ์อาหารต่างๆอย่างดี น่าจะมีการใช้จ่าย ฉันสามารถจ่ายให้เธอก่อนได้"
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วทันที "ฉันไม่…"
เยี่ยหมิงจูยิ้มและส่ายหน้า "อย่ามาไม่ ฉันก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น ที่ฉันจ่ายให้ก่อนเนี่ยก็เพราะว่าฉันเองก็สามารถกินกับเธอได้ ฉันรู้ว่าเธอไม่มีญาติแล้ว แม้ว่าจะมีคุณเหอคนนั้นมาเยี่ยม เธอก็ไม่อยากที่จะเรียกร้องอะไร แล้วเธอคนนั้นก็ดูเป็นคนที่ไม่ได้มีความคิดละเอียดอ่อน เราอาศัยอยู่ในห้องขังเดียวกันนี่คือพรหมมิขิตแล้ว เมื่อพวกเราออกไปจากที่นี่ บางทีฉันอาจต้องการความช่วยเหลือจากเธอก็ได้"
"แต่ฉันนั้นไม่สามารถออกไปได้" เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วมองเยี่ยหมิงจู
เยี่ยหมิงจูยิ้มและกล่าวว่า "ไอยา อย่าคิดมากขนาดนั้นเลย แค่เพียงเธอเชื่อมั่นทุกอย่างก็จะดีแค่นี้ก็โอเคแล้ว"
เจี่ยนอี๋นั่วเงยหน้ามองเยี่ยหมิงจู เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยและพยักหน้าช้าๆ เธอยังคงเชื่อในเหลิ่งเซ่าถิง เชื่อว่าเหลิ่งเซ่าถิงพูดแล้วก็จะต้องทำ แม้จะไม่ใช่ความตั้งใจเดิมของเขา นอกเหนือจากนี้เจี่ยนอี๋นั่วเองก็ไม่สามารถหาเหตุผลอื่นๆที่จะทำให้เธอเชื่อต่อไปได้
"ขอบคุณ.." เจี่ยนอี๋นั่วก้มศีรษะและกล่าว
เจี่ยนอี๋นั่วลูบท้องของเธอเบาๆ แม้ว่าเด็กคนนี้จะทำให้คนในตระกูลเหลิ่งหันมาเพ่งเล็งเธออีกครั้ง แต่เจี่ยนอี๋นั่วก็ไม่สามารถที่จะทิ้งเด็กคนนี้ไปได้ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอกำลังท้อง การเอาเด็กออกไปไม่เคยอยู่ในตัวเลือกของเจี่ยนอี๋นั่วเลย เจี่ยนอี๋นั่วพยายามอย่างเต็มความสามารถเพื่อที่จะเก็บเด็กคนนี้ไว้ ให้เด็กคนนั้นคลอดมาอย่างปลอดภัย เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าการตัดสินใจของเธอนั้นจะต้องรู้สึกผิดกับเด็กคนนี้มากถ้าให้เขาคลอดที่นี่
ขอโทษด้วย ขอให้ลูกอภัยในความเห็นแก่ตัวของแม่ด้วย เจี่ยนอี๋นั่วลูบท้องของเธอและคิดในใจ
"อะไรนะ? ท้อง?" คุณนายเหลิ่งที่กำลังดื่มชากล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจ
"ใช่ ได้รับการยืนยันแล้วว่าท้อง น่าจะประมาณสองเดือนแล้ว" ชายวัยกลางคนกำลังยืนรายงานให้กับคุณนายเหลิ่ง เขาโค้งคำนับเล็กน้อยให้กับคุณนายเหลิ่งและกล่าวด้วยความเคารพ
คุณนายเหลิ่งหรี่สายตาและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "แล้วเหลิ่งเซ่าถิงเป็นไงบ้าง? เขารู้เรื่องเด็กหรือยัง?"
"รู้แล้ว" ชายวัยกลางคนตอบ "แต่เขาไม่ยอมรับเด็กคนนี้แถมยังให้เจี่ยนอี๋นั่วกำจัดเด็กด้วย แล้วก็เขาสงสัยว่าเป็นลูกของเหลิ่งหมิงอันหรือว่าลูกของใคร"
คุณนายเหลิ่งหัวเราะขึ้น "นี่สิถึงจะเป็นหลานชายของฉัน"
ชายวัยกลางคนเดินเข้ามาหาคุณนายเหลิ่งและถามเบาๆ "คุณนาย เด็กคนนี้ต้องการกำจัดหรือเปล่า?"
คุณนายเหลิ่งขมวดคิ้วและคิดอยู่นาน เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม "หากว่าเป็นลูกของคนอื่นก็ควรกำจัดไป ฉันไม่อยากให้ตระกูลเหลิ่งมีลูกนอกคอก แต่หากเป็นลูกของอี๋นั่ว ฉันก็ไม่อยากกำจัด ใครจะรู้ว่าภายในใจของเซ่าถิงกำลังคิดอะไร? ช่วงนี้แม้ว่าเขาจะทำทุกอย่างตามความตั้งใจของฉัน แต่ฉันก็รู้สึกวู่วามอยู่เสมอฉันควรจะมีการ์ดลับอยู่ในมือ ฉันแก่แล้วฉันจะดูแลพวกเขาได้นานแค่ไหน? ถ้าฉันไม่มีความมั่นใจอยู่ในกำมือ ฉันก็จะไม่สบายใจ ในเมื่อเจี่ยนอี๋นั่วท้องแล้วก็ปล่อยให้เธอท้องไป รอไปก่อน รอดูว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย หากเป็นเด็กหญิงก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ แต่หากเป็นเด็กชายก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง"
คุณนายเหลิ่งกล่าวและหลับตาลง "ฉันไม่สามารถเฝ้ามองดูลูกๆหลานๆของฉันใช้ชีวิตอยู่ด้านนอกได้"
เมื่อคุณนายเหลิ่งกล่าวเช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา "เจี่ยนอี๋นั่วคนนี้ก็น่าสนใจดี ตกอยู่ในสถานการณ์นี้แล้วยังสามารถติดต่อกับตระกูลเหลิ่งได้อีก แต่น่าเสียดายที่อารมณ์ของเธอนั้นไม่ดีนัก เซ่าถิงเองก็ให้ความสนใจแก่เธอมากยิ่งขึ้น ท้ายที่สุดมันไม่เหมาะกับความคิดของฉัน ไม่อย่างนั้นการรักษาเธอไว้สำหรับฉันก็ไม่มีประโยชน์อะไร"
"ผู้หญิงที่ชื่อเจี่ยนอี๋นั่วนั้นโชคดีไม่พอที่ไม่เหมาะสมจะเป็นหลานสะใภ้ของคุณ" ชายวัยกลางคนกล่าว
คุณนายเหลิ่งยิ้มจากนั้นเธอก็พยักหน้า "ใช่แล้ว เธอเป็นคนที่ไม่มีโชคจริงๆ บางทีความโชคดีเล็กน้อยของเธอที่มีผลต่อเซ่าถิงก่อนหน้านี้ก็คงหมดไปแล้วและทำให้เขาได้สติขึ้น"