หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 101 ฉันยังคงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ
พยาบาลพิเศษตอบกลับอย่างไว:“ฉันไม่กล้าพูดโกหกกับคุณหนูเจี่ยนแน่นอนค่ะ คุณหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ?หรือเป็นเพราะฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่าคะ?”
เจี่ยนอี๋นั่วหน้าคิ้วขมวดพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตกใจ :“ไม่มีค่ะ คุณไม่ได้พูดอะไรผิดไปค่ะ ฉันแค่ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ”
เจี่ยนอี๋นั่วรีบกุมมือและบีบเข้าหากันด้วยความประหม่าเล็กๆ พูดคำซ้ำๆว่า:“ฉัน……ฉันต้องขอบคุณคุณมากจริงๆค่ะ”
“คุณหนูเจี่ยนคะ คุณเป็นอะไรไปคะ?”พยาบาลพิเศษถามด้วยน้ำเสียงเบา
เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยน้ำเสียงเบาว่า:“ไม่มีอะไรคะ วันนี้ก็แค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยแค่นั้นเอง”
“ถ้าอย่างนั้นคุณหนูเจี่ยนรีบพักผ่อนเถอะค่ะ ดิฉันขอวางสายก่อนนะคะ เมื่อดิฉันถึงต่างประเทศเมื่อไหร่ ดิฉันจะส่งเบอร์โทรศัพท์ให้คุณหนูทันทีนะคะ ถ้าหากคุณอยากจะถามอะไร ก็สามารถติดต่อกับดิฉันได้ตลอดค่ะ ถ้าหากดิฉันรู้เรื่องอะไรดิฉันจะบอกคุณหนูอย่างละเอียดแน่นอนค่ะ”พยาบาลพิเศษกล่าวด้วยความจริงใจ
เจี่ยนอี๋นั่วได้ฟังคำพูดของพยาบาลพิเศษก็คิ้วขมวดพยักหน้าตอบรับ:“รบกวนคุณแล้วนะคะ”
เมื่อได้ยินเสียงปลายสายกดวางสาย เจี่ยนอี๋นั่วยังคงถือมือถือไว้และหน้าคิ้วขมวด นั่งเหม่ออยู่บนเตียง จนมีคนรับใช้มาเคาะเรียกอยู่หน้าประตูห้องเบาๆ:“คุณหญิงคะ คุณหนูเหอมาหาคุณค่ะ”
เจี่ยนอี๋นั่วหน้าคิ้วขมวดครุ่นคิดสักครู่ ค่อยๆนึกออกว่าคนที่คนรับใช้พูดถึงคุณหนูเหอนั้นเป็นใคร มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นเหอหลวนเล่อคนที่เคยอ้างว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ เวลานี้เจี่ยนอี๋นั่วอารมณ์หงุดหงิดและเบื่อหน่ายมาก จึงไม่มีอยากคุยกับเหอหลวนเล่อเลย เธอทำหน้าคิ้วขมวดพูดด้วยน้ำเสียงเข้มว่า:“ตอบกลับเธอด้วยว่า ฉันไม่อยาก ……”
“เธอไม่อยากเห็นหน้าฉันเหรอ?”ทันใดนั้นเสียงของเหอหลวนเล่อตะโกนเสียงดังจากด้านนอกห้อง:“เจี่ยนอี๋นั่ว เธออยู่ด้วยกันกับพี่เซ่าถิงของฉันแล้ว ฉันยังไม่คิดที่จะเลิกคบกับเธอก่อนเลย นี่เธอกล้าไม่สนใจฉันเหรอ เธอทำแบบนี้มันเกินไปไหม!”
เจี่ยนอี๋นั่วได้ยินคำพูดของเหอหลวนเล่อแล้ว รีบลุกขึ้นเดินไปที่ประตูห้อง เปิดประตูห้องออก ก็เห็นเหอหลวนเล่อยืนอยู่หน้าประตูห้อง เจี่ยนอี๋นั่วหันไปคุยกับคนรับใช้ว่า:“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ตามกฎระเบียนของตระกูลเหลิ่ง เหอหลวนเล่อยังไม่ได้รับอนุญาตก็ถือวิสาสะขึ้นมาชั้นบนคฤหาสน์แล้วยังมายืนอยู่ตรงหน้าห้องของเธอและเหลิ่งเซ่าถิงได้อย่างไรกัน?
คนรับใช้รีบตอบกลับอย่างมีมารยาทว่า:“เป็นเพราะคุณชายรองสั่งให้ดิฉันพาคุณหนูขึ้นมาค่ะ”
เหลิ่งหมิงอันอีกแล้ว!
เจี่ยนอี๋นั่วหน้าคิ้วขมวดและในใจคิดสาปแช่งเหลิ่งหมิงอันอยู่ จากนั้นเจี่ยนอี๋นั่วหันหน้ามองไปทางเหอหลวนเล่อ :“ขอโทษนะคะ คุณหนูเหอ เวลานี้ฉันไม่มีอารมณ์ต้อนรับใครทั้งนั้น เวลานี้ฉันรู้สึกเหนื่อยมากแล้ว ……”
“ฮึม ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอมาต้อนรับฉัน และฉันดูแลตัวเองได้”เหอหลวนเล่อพูดไปด้วยพร้อมเดินเข้าห้องไปด้วย
เหอหลวนเล่อเดินเข้าไปในห้อง เหลือบมองเตียงในห้องก็ตาร้อนผ่าวด้วยความอิจฉา“ฉันได้ยินมาว่าเธอและพี่เซ่าถิงออกไปเที่ยวด้วยกันหลายวัน ฉันคิดว่าเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน แต่ผลสุดท้ายเธอกลับมาแย่งผู้ชายที่ฉันรักที่สุดไป เธอทำเกินไปแล้วจริงๆ”
เจี่ยนอี๋นั่วหน้าคิ้วขมวดจ้องมองเหอหลวนเล่อ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“คุณหนูเหอคะ คุณหนูเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ ฉันไม่เคยเป็นเพื่อนรักกับคุณหนูค่ะ และฉันก็ไม่ได้แย่งเหลิ่งเซ่าถิงไป และเขาก็ไม่ได้เป็นของใครทั้งนั้น ”
“เรื่องมันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอเป็นฝ่ายผิด นี่เธอยังกล้ามาโมโหใส่ฉันอีกนะ!”เหอหลวนเล่อตะโกนเสียงดัง ฮึม:“ที่ฉันมาที่นี่ เป็นเพราะต้องการรักษามิตรภาพระหว่างเรา แต่เธอกลับไม่มีเยื่อใยเลย!”
“คุณหนูเหอคะ ฉันต้องขอบคุณคุณหนูเหอมากๆคะที่ลดตัวมาเป็นเพื่อนกับฉัน แต่ว่าเราไม่เหมาะกับการเป็นเพื่อนจริงๆค่ะ ถ้าหากคุณหนูเหอรู้สึกว่าฉันไร้มารยาท ถ้าอย่างนั้นฉันก็หมดหนทางค่ะ ตอนนี้ฉันมีเรื่องที่ต้องทำเยอะมาก และไม่มีเวลามาเล่นบทเพื่อนที่แสนดีกับคุณหนูหรอกนะคะ ”เจี่ยนอี๋นั่วพูดด้วยหน้าตาคิ้วขมวด
เหอหลวนเล่อเม้มริมฝีปาก ตาแดงก่ำพูดว่า:“เจี่ยนอี๋นั่วเธอรู้ไหมว่าเธอทำเกินไปแล้ว!ก่อนหน้านี้ฉันได้ข่าวที่เธอนอนค้างคืนกับพี่เซ่าถิง ฉันรู้ตั้งนานแล้ว เดิมทีฉันตั้งใจว่าจะไม่สนใจเธออีกแล้ว เพราะไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่แย่งพี่เซ่าถิงของฉันไป ล้วนเป็นศัตรูกับฉัน แต่ว่าหลังจากนั้นฉันได้ข่าวว่าคุณพ่อของเธอหายตัวไปและถูกลักพาตัว และฉันก็ทนไม่ไหวเลยช่วยออกตามหาอีกแรง ไม่ใช่เพราะต้องการอะไร เป็นเพราะเธอเป็นเพื่อนรักคนแรกของฉัน คนอื่นเกลียดชังฉัน แต่เธอกลับช่วยเหลือฉัน คุณพ่อของเธอหายตัวไป ฉันแค่รู้สึกว่าฉันจะอยู่เฉยไม่ได้ ถึงแม้เวลานั้นฉันตัดสินใจจะเลิกคบกับเธอแล้ว เมื่อฉันได้ข่าวว่าสถานที่ที่คุณพ่อของเธอหายตัวไปมีคนชอบไปถ่ายรูปแถวนั้นบ่อยๆ และฉันยังสงสัยว่าในขณะที่มีคนถ่ายรูปอยู่นั้น อาจมีคนเห็นคุณพ่อของเธอก็ได้ ฉันใส่ส้นสูงวิ่งเพื่อไปหาข่าวที่ชมรมถ่ายภาพโดยเฉพาะ ตอนนี้ได้ข่าวว่าเธอกลับมาแล้ว ถึงแม้ในหัวใจของฉันจะรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องที่เธอออกไปเที่ยวกับพี่เซ่าถิง แต่ว่าฉันก็ยังเป็นห่วงเธอ และตั้งใจมาดูเธอจริงๆ แต่ผลสุดท้ายเธอกลับไม่สนใจฉัน !””
เหอหลวนเล่อพูดพร้อมร้องไห้ออกมาก เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเหอหลวนเล่อร้องไห้ไม่หยุด อิจฉาเหอหลวนเล่อจากก้นบึ้งหัวใจ ถ้าเธอเหมือนกับเหอหลวนเล่อที่ไม่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านทุกข์นั้นมันคงจะดีไม่น้อย ถึงแม้ในบางครั้งเธอจะทำตัวหยิ่งผยองและน่ารำคาญ และเพียงเพราะคำว่า“เพื่อนรัก”ก็ทำให้ร้องไห้เสียใจขนาดนี้ และสำหรับเจี่ยนอี๋นั่วแล้ว มันยากที่จะทำตัวไร้เดียงสาแบบนี้แล้ว
“ขอโทษนะ”เจี่ยนอี๋นั่วกล่าวคำขอโทษด้วยน้ำเสียงที่เบา:“ฉันไม่รู้ว่าเธอจะทำเพื่อฉันขนาดนี้ เดิมทีฉันคิดว่าเธอคิดจะมาแก้แค้นเอาคืนฉันเท่านั้น สาเหตุเป็นเพราะว่าฉันอยู่ด้วยกันกับเหลิ่งเซ่าถิง”
“แก้แค้นเอาคืนเธอเหรอ”เหอหลวนเล่อเอามือปาดน้ำตาไปด้วย ร้องไห้ไปด้วยพร้อมพูดว่า:“แต่ฉันก็มาดูเธอแล้วนะ และที่ฉันมาหาเธอไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมให้เธออยู่ด้วยกันกับพี่เซ่าถิงหรอกนะ เธอและพี่เซ่าถิงยังไม่ได้จัดงานแต่งงานซะหน่อย และก็ยังไม่ได้ประกาศให้ใครรู้ สำหรับที่นี่พวกเราไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานอย่างเป็นทางการหรอกนะ”
เจี่ยนอี๋นั่วหยิบผ้าขนหนูออกมาจากห้องน้ำผืนหนึ่ง ยื่นให้กับเหอหลวนเล่อ:“เช็คน้ำตาให้แห้งเถอะ”
เหอหลวนเล่อมองที่ผ้าขนหนู รีบหรี่ตาถามด้วยอาการที่เซอร์ไพรส์ว่า:“นี่เป็นผ้าขนหนูของพี่เซ่าถิงเหรอ?”
“ไม่ใช่ นี่เป็นผ้าขนหนูผืนใหม่ ”เจี่ยนอี๋นั่วจะหยิบผ้าขนหนูส่วนตัวของเหลิ่งเซ่าถิงให้กับเหอหลวนเล่อได้อย่างไรกัน?
เหอหลวนเล่อรีบก้มหัวลงด้วยหน้าตาเซ็งๆ แล้วเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูที่มือของเจี่ยนอี่นั่ว เม้มปากพูดขึ้นว่า:“เธอครอบครองพี่เซ่าถิงไว้คนเดียว และในตอนนี้แม้แต่ผ้าขนหนูของเขาก็ไม่ยอมให้เพื่อนรักอย่างฉันใช้ ใจแคบจริงๆเลยนะ”
เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองเหอหลวนเล่ออย่างเซ็งๆ พูดด้วยน้ำเสียงเบา:“ระหว่างเพื่อนรักแล้ว สิ่งเดียวที่แบ่งปันไม่ได้นั้น ก็คือผู้ชาย”
เหอหลวนเล่อเงยหน้ามองไปทางเจี่ยนอี๋นั่ว:“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ยอมรับแล้วสิว่าพวกเราเป็นเพื่อนรักกันแล้ว?”
เจี่ยนอี๋นั่วไม่รู้จะตอบกลับว่าอย่างไรดี ประสบการณ์ โลกทัศน์ ค่านิยมและมุมมองเกี่ยวกับชีวิตของเธอกับเหอหลวนเล่อมันแตกต่างกันมากเกินไป และในสายตาของเจี่ยนอี๋นั่วที่มองเหอหลวนเล่อนั้น ก็เหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ร้องไห้เพื่อเอาของเล่นที่ไม่ได้เป็นของเธอเอง สำหรับคนแบบนี้เป็นเรื่องยากมากที่เจี่ยนอี๋นั่วคิดจะเป็นเพื่อนด้วย และนับประสาอะไรกับการเป็น "เพื่อนที่ดีที่สุด" ล่ะ
และอีกทั้งเธอเคยถูกเฉิงซานซานและฉู่หมิงเซวียนหักหลัง เธอรู้สึกกลัวมากจริงๆกับคำว่า"เพื่อนรัก"
เมื่อเห็นเจี่ยนอี๋นั่วไม่ตอบกลับ เหอหลวนเล่อก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง เหอหลวนเล่อหยิบรูปถ่ายจำนวนมากออกมาจากกระเป๋าเงินของเธอร้องไห้แล้วพูดว่า:“เธอไม่เชื่อใช่ไหมว่าฉันเคยไปช่วยตามหาคุณพ่อของเธอ?ฉันเคยไปตามหาจริงๆนะ นี้คือรูปถ่ายทั้งหมดที่ฉันขอมาจากชมรมถ่ายภาพ กลุ่มชายชราเหล่านั้นซ่อนอยู่ในภูเขาเพื่อถ่ายภาพนก และเศษรูปภาพเหล่านี้พวกเขาทำเหมือนราวกับว่าเป็นของล้ำค่ายังไงยังงั้น รูปภาพเหล่านี้ฉันเสียเงินถึงได้มานะ นี่เป็นรูปภาพทั้งหมดที่ฉันเอามาจากพวกเขา สุดท้ายพึ่งจะซื้อกลับมา ก็บอกว่าคุณพ่อของคุณ……อันที่จริงแล้วไม่ได้มีเพียงแค่รูปภาพเหล่านี้ ฉันยังเดินตามหาตลอดทาง และไม่รู้ว่าคุณพ่อของเธอมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร แล้วฉันก็ค้นหารูปคุณพ่อของเธฮจากอินเตอร์เน็ตแล้วปริ้นออกมา ……”
เจี่ยนอี๋นั่วก้มหัวจ้องมองรูปถ่ายที่เหอหลวนเล่อเอาออกมา หัวเราะพร้อมพยักหน้า:“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อเธอนะ เพียงเพราะว่าฉันรู้สึกว่าฉันต่ำต้อยเกินไปกับคำว่า เพื่อนรัก”
“เป็นเพื่อนกันได้สิ คุณแม่ของฉันได้ข่าวว่าวันนั้นเธอเป็นคนช่วยเหลือฉัน ยังให้ฉันติดต่อกับเธอมากขึ้นเลย คุณแม่ท่านจะพูดว่าฉันไม่ค่อยฉลาดและไม่มีไหวพริบ มักจะถูกคนอื่นทำร้ายได้ง่ายๆ อยากให้ฉันเรียนรู้กับเธอเยอะๆ จะได้รับมือกับพี่สาวคนนั้นได้ เธอคงไม่รู้สินะว่าพี่สาวของฉันคนนั้นเธอทำเกินไปขนาดไหน เธอก็คือลูกสาวนอกสมรสของคุณพ่อฉัน และสุดท้ายเอาความสามารถของตัวเองทำให้คุณพ่อเห็นคุณค่า แล้วยังกล้าทำหน้าทำตาใส่ฉัน และกลั่นแกล้งฉันตลอดมา เห็นได้ชัดว่าฉันไม่เคยทำอะไรให้เธอเลย ก็สร้างเรื่องเอาไปฟ้องคุณพ่อ……”เหอหลวนเล่อเริ่มบ่นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นภายในตระกูลที่ร่ำรวยของพวกเขา
ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละตระกูลก็คงแตกต่างกันไม่มากหรอก แต่ส่วนมากปัญหาที่เกิดขึ้นมักจะเกิดจากพี่น้องแย่งชิงมรดกกันภายในตระกูล ระหว่างสามีภรรยา และลูกนอกสมรส สำหรับในตระกูลเหอหลวนเล่อแล้วคนที่ไม่เอาไหนที่สุดน่าเป็นเธอนั่นแหละ ทำให้คนที่มีความสามารถอย่างลูกนอกสมรสได้รับความเชื่อใจและไว้ใจจากคุณพ่อ
“คุณพ่อของเธอไม่เชื่อใจและไว้ใจเธอ เป็นเพราะว่าเธอไม่มีความสามารถ คุณพ่อท่านมีลูกสาวแค่สองคน แน่นอนว่าท่านต้องเลือกคนที่มีความสามารถเป็นทายาทที่สืบทอดตระกูลได้ ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์ส่วนตัวหรือการคำนึงถึงเรื่องในอนาคต พ่อของเธอก็จะเข้าข้างพี่สาวของเธอมากกว่าแน่นอนอยู่แล้ว”
เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองรูปภาพที่เหอหลวนเล่อให้เธอไปด้วย และพูดไปด้วยว่า:“ถึงแม้ว่าคุณพ่อเธอจะรู้ความจริงว่าพี่สาวของเธอเล่นงานเธอ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้”
ถึงแม้ว่าเหอหลวนเล่อกำลังบ่นรูปภาพเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดองค์ประกอบภาพหรือมุมการถ่ายภาพ แต่ก็ถือว่าเป็นภาพที่ถ่ายออกมาไม่เลว และที่สำคัญภาพถ่ายเหล่านี้เกี่ยวข้องกับคุณพ่อของเธอ เจี่ยนอี๋นั่วก็อดไม่ได้ที่จะมองมันซ้ำๆหลายๆรอบ
เหอหลวนเล่อหน้าคิ้วขมวดร้องไห้พูดขึ้นว่า:“ถ้าอย่างนั้นควรจะทำอย่างไรดี?คุณพ่อและคุณแม่ของฉันสร้างเนื้อสร้างตัวเริ่มต้นจากศูนย์และสองมือเปล่า ตอนนี้คุณปู่และคุณย่าของฉันก็ไม่มีอำนาจอะไรแล้ว และคุณพ่อของฉันก็เข้าข้างแต่พี่สาว นี่ฉันจะต้องยกมรดกทั้งหมดให้พี่สาวที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนอย่างนั้นเหรอ? คุณแม่ของฉันก็เอาแต่สั่งให้ฉันไปทะเลาะกับพี่สาว แต่เมื่อฉันเริ่มทะเลาะ เธอก็ลงมือวางแผนทำร้ายฉันก่อนเสมอ และทำให้คุณพ่อยิ่งรังเกียจฉัน ฉันก็เหลือเพียงสิ่งเดียวนั่นก็คือ การรักพี่เซ่าถิง และสามารถทำให้ฉันรู้สึกอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงรู้สึกว่าการมีชีวิตอยู่ต่อไปก็คงไม่มีความหมายจริงๆ”
“เก็บแรงทั้งหมดในการไล่ตามเหลิ่งเซ่าถิง แล้วเอาแรงทั้งหมดไปลงที่บริษัทดีกว่านะ บริษัทต้าสิงไม่ได้ยิ่งใหญ่เพียงแค่บริษัทเดียวแล้วนะ แน่นอนว่าคุณพ่อของเธอจะต้องทอดทิ้งเธอ เธอก็เลยไปลงกับคนอื่น คุณลุงคุณป้าของเธอก็ไม่ชอบขี้หน้าพี่สาวของเธอใช่ไหม เธอก็ร่วมมือกับพวกเขาสิ และทำให้คุณพ่อยอมรับความสามารถของเธอให้ได้ แต่ถ้าหากความสามารถเธอไม่ถึง และเธออยากเอาชนะแล้วยังอยากได้รับมรดกของตระกูล เธอก็สามารถเลือกการแต่งงาน หาคนมาช่วยเหลือเธอได้ เลือกผู้ชายคนหนึ่งที่ดีต่อเธอ และสามารถช่วยเหลือเธอให้พ้นจากปัญหานี้ได้”เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงนี่ ทันใดนั้นก็หยุดจ้องไปที่รูปถ่ายใบหนึ่ง
เจี่ยนอี๋นั่วจ้องมองไปที่มุมเล็กๆบนรูปภาพใบนั้น แล้วลุกยืนขึ้น เดินไปที่แสงพระอาทิตย์ ภายใต้แสงแดดจ้า เจี่ยนอี๋นั่วค่อยๆดูอย่างละเอียดว่ามุมเล็กๆบนรูปภาพนั้นมันคืออะไร ความหนาวเย็นแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเจี่ยนอี๋นั่วทันที