หนี้รัก วิวาห์จำเป็น - ตอนที่ 43 ก็แค่อยากจะทำร้ายแก
เดินเข้าไปในสถานกักขังที่เย็นวาบ เจี่ยนอี๋นั่วก็มองเห็นเฉิงซานซาน แต่ว่านะไม่ได้เจอกันสองวัน เฉิงซานซานนั้นดูซูบลงไปเยอะเลย พอเธอมองมาที่เจี่ยนอี๋นั่วก็รีบหันร่าง เตรียมที่จะเดินออกไป:“ฉันไม่อยากเจอเขา ฉันไม่อยาก!”
แต่เจ้าหน้าที่กดไหล่ของเฉิงซานซานเอาไว้:“นั่งลง เธอคิดว่านี่ที่เป็นที่อะไร? ที่ๆเธอสามารถอยากเจอก็ได้เจอ ไม่อยากเจอก็ไม่ต้องเจองั้นเหรอ?”
เฉิงซานซานก็เลยนั่งลง เธอจ้องเจี่ยนอี๋นั่วอย่างโหดเหี้ยม:“แกมาทำไม? แกอยากแก้แค้นฉันใช่ไหม? ฉันจะบอกแกให้นะ แกไม่ต้องคิดว่าจะทำร้ายฉันหรอก ลูกของแกก็ไม่มีแล้ว นั่นเป็นสิ่งที่แกสมควรจะได้รับ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของแก ถ้าแกไม่มาพัวพันฉันกับหมิงเซวียน ฉันก็คงไม่อยากจะเอาเด็กในท้องแกออกไปหรอก แล้วฉันก็ไม่ต้องมาอยู่ที่นี่!ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของแก!”
เจี่ยนอี๋นั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย เธอยื่นมือออกไปกลางอากาศลูบเบาๆที่ท้องของเฉิงซานซาน พูดเสียงเบา:“ลูกของฉันก็พอๆกับลูกของเธอนะ ทำไมลูกของฉันถึงถูกฆ่าตาย แต่ลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่ล่ะ?”
เฉิงซานซานรีบปิดท้องไว้ พูดอย่างกังวล:“แก……แกหมายความว่าไง? แกจะทำอะไรกับลูกฉัน? ฉันจะบอกแกให้นะ นี่เป็นสายเลือดแท้ๆของฉู่หมิงเซวียน แต่ลูกของแกมันไม่ใช่!ที่จริงแกไม่มีลูกแล้ว แกก็ไม่ควรมาหาฉันนะ แกควรจะดูว่าสรุปแล้วตัวเองทำอะไรลงไปกันแน่ ฉันกับหมิงเซวียนใช้ชีวิตกันสุขสบายดี ทำไมแกต้องมารบกวนพวกเราอีก? ทำไมแกไม่หายไป? ทำไมแกต้องพัวพันกับพวกเรา? ถ้าหลังจากที่ตระกูลเจี่ยนของพวกแกล้มละลาย แล้วไม่มาให้ฉันกับหมิงเซวียนเห็นหน้า เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นถูกไหม?”
“เหอะๆ……” เจี่ยนอี๋นั่วอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เธอหัวเราะเสียงดัง
สีหน้าเฉิงซานซานก็เปลี่ยนขึ้นมาทันที เธอจ้องเจี่ยนอี๋นั่วแล้วถามอย่างร้อนรน:“แก แกหัวเราะอะไร? แกหัวเราะอะไรเนี่ย?”
เจี่ยนอี๋นั่วยกมือโบกไปมา ปิดที่ท้องแล้วพูดว่า:“ฉันกำลังหัวเราะตัวเอง ฉันถึงกับถ่อมาที่นี่เพื่อถามเธอว่าทำไมต้องทำร้ายฉัน? สำหรับคนแบบพวกเธอแล้ว ไม่ว่าอะไรก็เป็นข้ออ้างในการทำชั่วได้ทั้งนั้น ฉันจะไปขอคำตอบอะไรจากเธอกันนะ? ฉันนี่มันไร้เดียงสาจริงๆเลย ตลกจัง ฮ่าๆๆ……”
เฉิงซานซานตะโกนเสียงดัง:“แก แกกำลังดูถูกฉัน?”
เจี่ยนอี๋นั่วเหลือบมองเฉิงซานซาน อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาแล้วพูด:“เปล่า ฉันไม่ได้กำลังดูถูกเธอ ที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ฉันกำลังขำตัวเองจากใจจริงๆ”
เฉิงซานซานตัวสั่นแล้วเม้มปากแน่น ตะโกนเสียงดัง:“ไม่ว่าแกจะคิดยังไง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของแก แกไม่ควรมาพัวพันกับหมิงเซวียน ฉันไม่สนใจแกตั้งนานแล้ว แต่แกกลับโผล่มารอบตัวหมิงเซวียนอยู่ตลอด แกยังมีหน้ามาบอกว่าแกไม่ได้อยากจะคืนดีกับเขา? แกทำให้เขาลำบากใจเพื่อจะเรียกร้องความสนใจจากเขาล่ะสิ แล้วลูกที่แกมี สรุปแล้วเป็นลูกของใครกันแน่แกก็ไม่พูดให้ชัดเจน ให้ฉันคิดเองว่าลูกของแกเป็นลูกของหมิงเซวียน แกมีลูกของหมิงเซวียน แล้วลูกของฉันจะทำยังไง? แกต้องคิดวิธีที่จะทำให้มีผลกระทบกับหมิงเซวียนแน่ๆ ฉันเลยต้องทำแบบนี้……”
“ทั้งหมดเป็นความผิดของคนอื่น ใช่ไหม?” เจี่ยนอี๋นั่วหรี่ตามองเฉิงซานซานแล้วถามเสียงเย็นชา:“ตอนแรกฉันควรยกทั้งฉู่หมิงเซวียนและสมบัติของตระกูลเจี่ยนให้พวกเธอ แล้วอวยพรให้พวกเธอรักกันนานๆถึงจะดีใช่ไหม ไม่งั้นฉันจะกลายเป็นคนผิด ฉันนี่แหละเป็นคนผิด!เธอฆ่าลูกฉันตายมันก็สมควรแล้ว!พวกเธอหักหลังได้ พวกเธอวางแผนลอบทำร้ายคนได้ ถ้าคนอื่นเขาจะตอบโต้ ก็ล้วนผิดทั้งนั้น บนโลกนี้อนุญาตให้พวกเธอเสพสุข อนุญาตให้พวกเธอมีชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุข คนอื่นควรตายไปให้หมด!ใช่ไหม? นี่เป็นตรรกะของเธอ?”
เฉิงซานซานหายใจเข้าลึกๆ เธอพูดไม่ออกสักคำ คำพูดของเจี่ยนอี๋นั่วคือสิ่งที่เธอคิดอยู่ในใจทั้งหมด แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าน้ำเสียงของเจี่ยนอี๋นั่วไม่ปกติกันนะ ถ้าเธอยอมรับ ก็เหมือนว่าจะไม่ถูก
เฉิงซานซานไม่ได้พูดอะไรออกมา แล้วพึมพำเสียงเบา:“ยังไงซะ……ยังไงซะก็เป็นความผิดของแก……”
เจี่ยนอี๋นั่วหลับตาลง อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา:“งั้นฉู่หมิงเซวียนก็คิดว่าเป็นความผิดของฉันเหรอ? เพราะงั้นเขาถึงบอกเธอให้ผลักฉันลงมา? ไม่ ฉู่หมิงเซวียนไม่โง่ขนาดนั้นหรอก เขาต้องบอกเป็นนัยให้เธอ เขาจะพยายามส่งซิกให้เธอ บอกเธอ ว่าฉันคืออำนาจที่จะคุกคามเธอ ถ้ากำจัดฉัน เธอก็จะมีชีวิตที่สบาย เขาก็จะแต่งงานกับเธอ เขาดูแลคนเก่ง เขาจะยอมรับเธอและลูกของเขา ใช่ไหม?”
“แกรู้ได้ยัง……” เฉิงซานซานเบิกตากว้างมองเจี่ยนอี๋นั่ว เธอไม่คิดว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะเดาออกทุกอย่าง เธอไม่คิดว่าเจี่ยนอี๋นั่วจะเดาความคิดของฉู่หมิงเซวียนได้ขนาดนี้ เธอก็เลยอดไม่ได้ที่จะพูดประโยคนี้ออกมา
หลังจากที่เฉิงซานซานพูดประโยคนั้นออกมา ก็นึกได้ว่าตัวเองพูดผิดไป เลยรีบส่ายหน้าแล้วพูด:“ไม่ แกพูดมั่วซั่ว ไม่ใช่แบบที่แกคิดเลยสักนิด เพราะฉันคิดว่าแกเป็นอุปสรรคต่ออนาคตลูกของฉันต่างหาก ฉันก็เลยต้องผลักแกลงไป……”
“เขาบอกเธอ ห้ามเธอพูดถึงเขาออกมาล่ะสิ? เขาบอกเขาจะช่วยเธอฟ้องร้องคดีอยู่ด้านนอก รอเธอออกไป” เจี่ยนอี๋นั่วหรี่ตามองเฉิงซานซาน:“ฉันจะบอกเธอให้นะ เธอฝันไปเถอะ ของเธอคือเจตนาทำร้ายร่างกาย ทนายของพวกเราคงให้เธอติดคุกสิบปีขึ้นไปนู่น อีกอย่างไม่มีทางให้เธอได้ประกันตัวหรอก”
“เป็นไปได้ยังไง? ฉันตั้งท้องอยู่นะ อีกอย่างนี่ไม่นับว่าเป็นคดีใหญ่สักหน่อย จะตัดสินลงโทษหนักขนาดนั้นได้ยังไง ฉันตั้งท้องอยู่ พวกเขาควรจะมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้างสิ คงไม่มีทางให้ฉันคลอดลูกในคุกหรอก แกไม่ต้องมายุยงเลยนะ หมิงเซวียนเคยบอกว่าเขาจะช่วยฉัน เขาก็จะต้องช่วยฉันแน่ เขา……เขาไม่มีทางโกหกฉัน……” เฉิงซานซานส่ายหน้าอย่างร้อนรน พูดเสียงดัง
“ยัยผู้หญิงโง่ แล้วเธอก็เชื่อคำพูดเขาเนี่ยนะ” เจี่ยนอี๋นั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย มองเฉิงซานซานแล้วส่ายหน้า
เจี่ยนอี๋นั่วพูดจบก็ลุกขึ้นยืน เดินออกมาจากสถานกักขัง เจี่ยนอี๋นั่วได้ยืนยันเรื่องที่ฉู่หมิงเซวียนอยู่เบื้องหลังควบคุมเฉิงซานซานให้ฆ่าลูกของเธอตายจากปากของเฉิงซานซานแล้ว ขอแค่รู้ตรงจุดนี้ก็พอแล้ว เจี่ยนอี๋นั่วไม่ได้ขอให้เฉิงซานซานเป็นพยานบุคคลชี้ตัวฉู่หมิงเซวียนด้วยซ้ำ เพราะต่อให้เฉิงซานซานชี้ตัวฉู่หมิงเซวียน แต่ฉู่หมิงเซวียนก็เป็นแค่คนส่งซิกให้กับเฉิงซานซานเท่านั้น ใช้เป็นหลักฐานว่าฉู่หมิงเซวียนมีความผิดไม่ได้เลยสักนิด ถึงแม้ว่ากฎหมายจะลงโทษอะไรฉู่หมิงเซวียนไม่ได้ แต่เจี่ยนอี๋นั่วสามารถทำได้!
พอเจี่ยนอี๋นั่วเดินออกจากประตูใหญ่ของสถานกักขัง ก็เห็นว่าฉู่หมิงเซวียนจอดรถไว้ข้างทาง หิ้วกล่องเก็บความร้อนเดินมาทางเธอ สายตาของฉู่หมิงเซวียนมองลงมาที่ท้องของเจี่ยนอี๋นั่ว มองท้องของเจี่ยนอี๋นั่วที่ราบเรียบ ฉู่หมิงเซวียนก็เผยรอยยิ้มออกมา:“คุณหนูใหญ่เจี่ยนยังคงรักษาหุ่นได้ดีเหมือนเดิม อย่างนี้สิถึงจะสวยที่สุด คุณไม่เหมาะกับหุ่นที่ตั้งครรภ์จนท้องป่องแบบนั้นหรอก”
ริมฝีปากของเจี่ยนอี๋นั่วสั่นเล็กน้อย ตอนนี้เธอมองฉู่หมิงเซวียนก็เหมือนกับมองศพของลูกเธอ ต่อให้ฉู่หมิงเซวียนคิดว่าพ่อของเธอมีอะไรต้องชำระกับเขา แต่เจี่ยนอี๋นั่วไม่เข้าใจ ทำไมฉู่หมิงเซวียนต้องทำร้ายเธอขนาดนี้? เธอจะมีลูกกับใครเกี่ยวอะไรกับฉู่หมิงเซวียน? ทำไมฉู่หมิงเซวียนถึงยอมให้ลูกแท้ๆของเขาเองเกิดในคุก แล้วบงการเฉิงซานซานให้ผลักเธอลงมา?
“ทำแบบนั้นทำไม?” เจี่ยนอี๋นั่วถามเสียงเย็นชา
“อะไรเหรอ?” ฉู่หมิงเซวียนหัวเราะเบาๆ มองเจี่ยนอี๋นั่วแล้วยิ้ม:“คุณเจี่ยนหมายถึงอะไรเหรอ? ทำแบบนั้นทำไม? ทำไมผมฟังไม่เข้าใจ?”
เจี่ยนอี๋นั่วขมวดคิ้วแล้วตะโกน:“ทำไมต้องให้เฉิงซานซานฆ่าลูกของฉัน?”
ฉู่หมิงเซวียนหรี่ตา ค่อยๆส่ายหน้า:“ทำไมผมต้องทำแบบนั้น ผมไม่ได้ทำนะ อี๋นั่ว ตอนแรกคุณคบกับผม ใช่ว่าจะใส่ร้ายคนอื่นตามใจชอบแบบนี้ได้นะ ใครเป็นคนสอนให้คุณนิสัยไม่ดีแบบนี้เนี่ย? คนๆนั้นเป็นใคร? หรือว่าเขาลึกลับเกินไปใช่หรือเปล่า? เขาหลบๆซ่อนๆไม่กล้าเจอคนแบบนี้ หน้าตาอัปลักษณ์มากใช่หรือเปล่า หรือว่าพิการกันนะ?”
สองวันนี้ฉู่หมิงเซวียนสืบอยู่ตลอดว่าคนที่อยู่ข้างหลังเจี่ยนอี๋นั่วคือใครกันแน่ แต่ไม่ว่าเขาจะสืบยังไงก็ไม่เจอสักที สิ่งเดียวที่เขารู้คือมีผู้ชายคนหนึ่งเซ็นหนังสือยินยอมรับการผ่าตัดให้เจี่ยนอี๋นั่วจริงๆ ทั้งหมดไม่ใช่การคิดเพ้อเจ้อของเขา เบื้องหลังของเจี่ยนอี๋นั่วมีผู้ชายลึกลับจริงๆ
แต่การสืบก็จบอยู่ตรงนี้ ฉู่หมิงเซวียนอยากจะสืบต่อถึงสถานะของผู้ชายคนนั้น กลับสืบอย่างเปิดเผยไม่ได้ พยาบาลที่เคยเจอผู้ชายคนนั้นถูกจัดการแล้ว เอกสารที่ผู้ชายคนนั้นเซ็นชื่อก็ถูกเก็บรักษาไว้อย่างแนบแน่น ราวกับว่าในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้ชายคนนี้ที่เดิมทีลอยโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ ก็ต้องดำลงไปจนสุดทางอีกเพื่อเก็บทุกอย่างไว้ด้านหลัง แค่ฉู่หมิงเซวียนคิดไปถึงว่ามีผู้ชายแบบนี้คบหากับเจี่ยนอี๋นั่ว เขาก็ไม่สบายใจแล้ว
เจี่ยนอี๋นั่วหันหน้ามองฉู่หมิงเซวียน พูดเสียงเบา:“ไม่ว่าเขาจะหน้าตาอัปลักษณ์ หรือพิการ เขาก็ดีกว่าคุณเยอะเลย”
“คุณชอบเขา?” ฉู่หมิงเซวียนกระตุกมุมปากเล็กน้อย แล้วกัดฟันพูด:“คุณชอบผู้ชายคนอื่นได้ยังไง?”
เจี่ยนอี๋นั่วไม่กล้ายอมรับต่อหน้าเหลิ่งเซ่าถิงว่าเธอชอบเขา เพราะประโยคนี้ถ้าได้พูดออกไป เจี่ยนอี๋นั่วก็จะต้องเผชิญกับการหัวเราะเยาะของเหลิ่งเซ่าถิง เจี่ยนอี๋นั่วไม่กล้ายืนยันว่าตอนนี้เธอยังชอบเหลิ่งเซ่าถิงอยู่หรือเปล่า
แต่เจี่ยนอี๋นั่วอยากจะพูดประโยคที่ว่าเธอชอบผู้ชายคนอื่นแล้วต่อหน้าฉู่หมิงเซวียน เจี่ยนอี๋นั่วก็เลยค่อยยิ้มออกมา แล้วพูดเสียงเบา:“ถูกต้อง ฉันชอบเขาแล้ว ที่จริงเขาไม่ได้อัปลักษณ์เลย เขาหล่อมาก หล่อจนคุณไม่สามารถจะจินตนาการได้เลย และเขาก็ไม่ได้พิการ เขาแข็งแรงมาก ร่างกายเขามีแต่ลายเส้นกล้ามเนื้อที่สวยงาม บางครั้งเขาก็เย็นชา บางครั้งกลับเผยให้เห็นความอ่อนโยนที่อยู่ภายใต้ความเย็นชานั้น คนอื่นต่างก็แบกรูปลักษณ์ความอ่อนโยนซ่อนจิตใจที่ชั่วร้าย แต่เขาไม่ใช่ ไม่ใช่เลยจริงๆ……”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาจริงๆ:“ฉันมักจะรู้สึกว่าเขากำลังใช้รูปลักษณ์ที่เย็นชา ซ่อนความอ่อนโยนของเขาไว้ เพราะงั้นฉันเลยชอบเขาล่ะมั้ง ไม่ใช่เพราะเขาหล่อ แต่เป็นเพราะฉันรับรู้ได้ถึงความอ่อนโยนของเขา”
เจี่ยนอี๋นั่วพูดถึงตรงนี้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆออกมา เจี่ยนอี๋นั่วรู้สึกว่าตลกมากจริงๆ เธอคิดนานมากว่าสาเหตุที่ชอบเหลิ่งเซ่าถิงคืออะไร กลับมารู้ตอนที่อยู่ต่อหน้าฉู่หมิงเซวียน!
“ไม่ คุณโกหก!” ฉู่หมิงเซวียนมองเจี่ยนอี๋นั่วด้วยตาแดงก่ำ ตะโกนออกมา:“ไม่ คุณโกหก!คุณไม่มีทางชอบผู้ชายคนอื่น!”