สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 89 โรงงานของเหอเฉียนเฉียน
บทที่ 89 โรงงานของเหอเฉียนเฉียน
บทที่ 89 โรงงานของเหอเฉียนเฉียน
เมื่อจ้าวซูซินได้ยินว่าไม่มีหวังเรื่องการแต่งงาน เธอก็ยิ่งเศร้าเสียใจมากขึ้น น้ำตาไหลนองเต็มใบหน้า และเธอก็ยิ่งโกรธแค้นลู่ฉิวเยว่มากกว่าเก่า ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนั้น ฉินซือก็คงแต่งงานกับเธอไปแล้ว
ลู่ฉิวเยว่เป็นคนเข้ามาแย่งชิงฉินซือไปจากเธอ!
แม่ของจ้าวซูซินอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พ่อของเธอก็ห้ามเอาไว้ เขาจิบน้ำชาและพยักหน้าให้กับพ่อของฉินซือ “ตอนนี้เสี่ยวซินของเราอารมณ์ไม่ดีแล้ว พวกฉันคงต้องขอตัวกลับก่อน”
หลังจากพูดจบ เขาก็พาภรรยาและลูกสาวเดินทางกลับ
เมื่อกลับมาถึงบ้านตระกูลจ้าว จ้าวซูซินก็วิ่งหนีเข้าไปในห้องและร้องไห้เสียงดังออกมาทันที
พ่อของเธอยิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม เขามีลูกสาวแค่คนเดียว ในอดีต เขาทนเห็นจ้าวซูซินร้องไห้ไม่ได้แม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ คนเป็นพ่อคิดไม่ถึงเลยว่าลูกสาวของตัวเองจะหลงรักฉินซือถึงเพียงนี้
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้วขณะพูดกับภรรยาว่า “คุณไปบอกลูกหน่อยสิ ร้องไห้ให้ตายก็ไม่มีประโยชน์แล้ว ฉินซือมีแฟนอยู่แล้ว เราไปบังคับให้พวกเขาเลิกกันไม่ได้หรอก”
แม่ของจ้าวซูซินทำปากยื่น เธอเดินขึ้นบันไดไปด้วยความขัดใจ ทำไมต้องเป็นเธอที่ขึ้นไปพูดกับลูกทุกครั้งนะ คนเป็นพ่ออย่างเขาไม่เคยเข้ามาพูดอะไรเลย
ในเวลาเดียวกันนี้ เมื่อครอบครัวตระกูลจ้าวกลับไป แม่ของฉินซือก็โทรไปรายงานเรื่องราวทุกอย่างให้ชายหนุ่มฟัง
“เข้าใจแล้วครับ” ฉินซือพยักหน้าก่อนจะวางสาย
“ฉันทำให้คุณมีปัญหาหรือเปล่า?”
ลู่ฉิวเยว่แวะมาเอาของที่บ้านของฉินซือพอดี เมื่อเธอได้ยินเรื่องราวทั้งหมด หญิงสาวก็เป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย
ตระกูลจ้าวกับตระกูลฉินเป็นเพื่อนกันมานาน พวกเขามีผลประโยชน์ร่วมกันหลายเรื่อง ความสัมพันธ์ของทางผู้ใหญ่ก็เป็นไปด้วยดี เรื่องของเธออาจจะทำให้ทั้งสองครอบครัวเกิดความแตกแยกกันขึ้นมาได้ และมันก็คงส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานของฉินซือด้วยเช่นกัน
ฉินซือส่ายศีรษะ “คุณไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจัดการเอง”
ลู่ฉิวเยว่ถอนหายใจออกมา
ฉินซือไม่อยากให้เธอคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “โรงงานผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของพวกเรากำลังจะเลือกทำเลที่ตั้งโรงงานกันแล้วนะ อีกไม่นานก็คงได้ก่อสร้างกันแล้ว”
“หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนการว่าจ้างและฝึกคนงาน” ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า ธุรกิจอาหารจะทำเพียงผิวเผินไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องทำอย่างระมัดระวัง รวมถึงการเลือกคนงานด้วยเช่นกัน
ถ้ารับคนงานมาโดยไม่คัดเลือกก่อน ก็อาจจะทำให้โรงงานเกิดปัญหาใหญ่ในอนาคตขึ้นได้
เมื่อพูดถึงเรื่องโรงงาน ลู่ฉิวเยว่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนเองไม่ได้ไปดูร้านขายยาหลายวันแล้ว เธอไม่ทราบเลยว่ากิจการเป็นอย่างไรบ้าง ดังนั้นในบ่ายวันนี้ เธอจึงเดินทางไปที่ร้านขายยาทันที
“อ้าว คุณลู่กลับมาแล้วเหรอครับ” ลุงเซิงยิ้มกว้างทันทีเมื่อเห็นหน้าเธอ เขากำลังจะจัดระเบียบสมุนไพรจีนในร้าน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้มีลูกค้าเยอะมาก จังหวะที่กำลังจะหันมาจัดสมุนไพรต่อไป หญิงสาวก็ปรากฏตัวขึ้นพอดี
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า เมื่อเห็นว่ากิจการร้านขายยาจีนเป็นไปด้วยดี เธอก็ยิ้มด้วยความพอใจ ดูเหมือนว่าลุงเซิงจะดูแลกิจการได้เป็นอย่างดีในระหว่างที่เธออยู่ที่หมู่บ้านเยว่เหลียง
อย่างไรก็ตาม ลู่ฉิวเยว่อารมณ์ดีได้ไม่นาน ลุงเซิงก็เดินมาตามเธอที่ร้านอาหารในเย็นวันนั้น
ขี้ผึ้งแก้ปวดที่ขายในร้านขายยาหมดไปนานแล้ว ลุงเซิงอยากจะให้เธอช่วยผลิตขึ้นมาใหม่ให้เร็วที่สุด
นั่นหมายความว่าหญิงสาวต้องนอนดึกอีกแล้ว!
เมื่อลุงเซิงกลับไป ลู่ฉิวเยว่ก็ยกมือเกาศีรษะด้วยความหงุดหงิด รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตนเองต้องรีบหาโรงงานผลิตขี้ผึ้งให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่งั้นเธอก็ต้องอดหลับอดนอนเป็นเวลาหลายคืน ซึ่งร่างกายคงรับไม่ไหวแน่ ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าครับพี่?” เมื่อเห็นใบหน้าของพี่สาวดูไม่สบายใจ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
“มีสิ!” ลู่ฉิวเยว่ถอนหายใจออกมา “พี่หาโรงงานทำขี้ผึ้งอยู่เนี่ย แต่ก็หาไม่ได้สักที”
หวังเซวียนเซวียนมีดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “ครอบครัวของแฟนผมรับทำอยู่นะครับ แต่พวกเขามีแค่โรงงานเล็ก ๆ ถ้าพี่ไม่รังเกียจ ลองคุยดูไหมครับ”
พูดจริงเหรอ?
ลู่ฉิวเยว่เคยเจอแฟนสาวของหวังเซวียนเซวียนมาแล้ว เด็กคนนั้นท่าทางเป็นคนดี ครอบครัวของเธอก็น่าจะเป็นคนดีเหมือนกัน
เธอตบไหล่เด็กหนุ่ม “เธอทำให้พี่นอนหลับได้สนิทใจแล้ว เธอเป็นดาวนำโชคของพี่จริง ๆ”
หวังเซวียนเซวียนยกมือเกาหัวด้วยความเขินอาย
หวังเซวียนเซวียนคุยเรื่องนี้กับแฟนสาวของตนเองในตอนกลางคืน แฟนสาวของเขาเห็นด้วยและนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับพ่อแม่ของเธอ หลังจากนั้น เด็กสาวก็แจ้งให้ลู่ฉิวเยว่ไปเยี่ยมชมโรงงานในวันพรุ่งนี้ ถ้าลู่ฉิวเยว่พอใจ ก็ค่อยมาคุยเรื่องการว่าจ้างกันอีกที
ลู่ฉิวเยว่กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง เธอนั่งรถโดยสารประจำทางไปที่โรงงานของเด็กสาวในเช้าวันต่อมา
แต่ก่อนที่จะลงจากรถ สามีภรรยาคู่หนึ่งก็เข้ามาทักทายเธอ พวกเขาคือพ่อแม่ของเหอเฉียนเฉียน หน้าตาพวกเขาดูใจดีมาก
ลู่ฉิวเยว่ยิ้มพร้อมกับทักทายพวกเขาว่า “สวัสดีค่ะ ฉันเป็นพี่สาวของหวังเซวียนเซวียน”
“ฉันได้ยินลูกสาวพูดถึงคุณอยู่ตลอด บอกว่าคุณเป็นผู้หญิงเก่ง เปิดร้านอาหารใหญ่โต ลูกสาวฉันนับถือคุณมากเลยนะคะ” แม่ของเหอเฉียนเฉียนพึงพอใจในตัวหวังเซวียนเซวียนที่จะกลายเป็นว่าที่ลูกเขยในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง ญาติผู้พี่ของเขาอย่างลู่ฉิวเยว่ก็ดูเหมือนจะเป็นคนดีเช่นกัน
“คุณป้าชมกันเกินไปแล้วค่ะ” ลู่ฉิวเยว่หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย เธอกับเหอเฉียนเฉียนเพิ่งเคยพบกันเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่เธอไม่คิดเลยว่าเด็กสาวจะชื่นชมเธอขนาดนี้
“เข้าไปดูสภาพแวดล้อมในโรงงานก่อนเถอะครับ” พ่อของเหอเฉียนเฉียนยิ้มพร้อมกับเปิดประตูโรงงานด้วยตนเอง
เดิมทีโรงงานแห่งนี้เคยรับจ้างผลิตขี้ผึ้งอยู่แล้ว เมื่อประตูโรงงานถูกเปิดออก กลิ่นยาจีนก็ลอยออกมาทันที ลู่ฉิวเยว่สูดดมและรู้สึกมีความสุข
โรงงานมีขนาดเล็กมาก มีพื้นที่เพียง 300 ตารางเมตรเท่านั้น แต่สภาพแวดล้อมค่อนข้างดี บนพื้นปูด้วยแผ่นไม้กระดานแข็งที่ทำความสะอาดเรียบร้อยจนสะท้อนกับแสงไฟเป็นประกายแวววาว
ข้าวของทุกอย่างภายในโรงงานได้รับการจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ลู่ฉิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความพอใจ เธอหันกลับไปมองหน้าพ่อของเหอเฉียนเฉียน “ทำไมวันนี้ถึงไม่มีคนอยู่ในโรงงานเลยคะ?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของชายวัยกลางคนก็เศร้าสลดขึ้นมาทันที เขาถอนหายใจ ก่อนจะตอบว่า “โรงงานของเราเป็นโรงงานเล็ก ๆ ที่ไม่มีชื่อเสียง ก็เลยไม่ค่อยมีคนมาจ้างเท่าไหร่ครับ สินค้าชุดสุดท้ายที่เราผลิตเสร็จไปก็หลายวันแล้ว ตอนนี้เรายังไม่มีงานใหม่ ก็เลยต้องปิดโรงงานไปก่อน”
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า เธอเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
“ถ้าคุณลู่พอใจในโรงงานของเรา งั้นมาคุยเรื่องสัญญากันเลยดีไหมครับ?” พ่อของเหอเฉียนเฉียนหัวเราะออกมา
พวกเขาสามีภรรยาเป็นคนดูแลความสะอาดในโรงงานแห่งนี้ด้วยตนเอง เพราะฉะนั้น เขาจึงมั่นใจในสภาพแวดล้อมของโรงงานเป็นอย่างยิ่ง
“ร้านขายยาของฉันยังไม่ได้ต้องการทำขี้ผึ้งในจำนวนที่มากมายอะไร แต่ถ้าฉันอยากจะทำสัญญาจ้างงานระยะยาว คุณลุงคิดว่ายังไงบ้างคะ?” ลู่ฉิวเยว่ยิ้มตอบกลับไป
พ่อแม่ของเหอเฉียนเฉียนรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว นี่ถือเป็นข้อเสนอที่ดีมากสำหรับพวกเขาในตอนนี้
ลู่ฉิวเยว่พูดออกไปอีกครั้งว่า “สำหรับความร่วมมือของพวกเรา ฉันอยากให้พวกเราแบ่งกันตามยอดขาย ฉันได้ 80% พวกคุณได้ 20% แต่สูตรทำขี้ผึ้งของฉันต้องเก็บเป็นความลับสูงสุดนะคะ”
ในที่สุด ทั้งสองฝ่ายก็มีความคิดเห็นตรงกันและลงนามในสัญญาจ้างงานครึ่งปี เพื่อลองดูก่อนว่ากิจการจะไปได้ดีหรือไม่ ถ้าครบกำหนดระยะสัญญาแล้วกิจการยังคงราบรื่น พวกเขาก็จะทำสัญญากันใหม่อีกครั้ง
เมื่อตอนที่เดินทางกลับ ลู่ฉิวเยว่ไม่ได้ลงรถที่ป้ายรถประจำทางใกล้บ้าน แต่เธอลงจากรถโดยสารห่างออกมาอีกช่วงถนนหนึ่ง เธอเดินไปที่ร้านขายของและซื้อกระดาษแก้วสำหรับการห่ออาหารมาชุดใหญ่ กระดาษทุกแผ่นเป็นสีน้ำตาลอ่อน เธอตั้งใจจะนำกลับไปห่อเมล็ดแตงโม
ในช่วงหลัง พ่อแม่ของเธอบ่นเสมอว่าอยู่บ้านเบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ หลายครั้งถึงกับบอกว่าจะออกไปหางานทำข้างนอกแล้ว ดังนั้นเธอจึงตั้งใจจะให้พ่อแม่ได้ขายเมล็ดแตงโมทอดโดยการตั้งแผงรถเข็นข้างทาง แต่เนื่องจากยังไม่ทราบว่าคนในอำเภอจะนิยมรับประทานเมล็ดแตงโมทอดหรือไม่ ลู่ฉิวเยว่จึงตัดสินใจจะลองขายด้วยจำนวนเล็กน้อยก่อน
เมื่อกลับไปถึงบ้าน เธอก็ปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อแม่ พวกท่านตอบตกลงและรีบออกไปขายเมล็ดแตงโมทอดในเช้าวันต่อมาอย่างมีความสุข
ลู่ฉิวเยว่ทั้งรู้สึกเหนื่อยใจและตลกขบขันในเวลาเดียวกัน