สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 72 พัฒนาตู้เย็น
บทที่ 72 พัฒนาตู้เย็น
บทที่ 72 พัฒนาตู้เย็น
อีกอย่าง การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะเปิดขึ้นในเดือนตุลาคมในปีนี้ ยังเหลือเวลาอีกครึ่งปี ลู่ฉิวเยว่รอได้ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน
ฉินซือพยักหน้า เขาไม่เกลี้ยกล่อมเธออีกต่อไป ลู่ฉิวเยว่เป็นคนมีความมุ่งมั่น เธอจะทำสิ่งที่เธอตัดสินใจแล้วเท่านั้น ในฐานะคนรัก เขาทำได้เพียงสนับสนุนและเขาจะไม่เอาความคิดของตนเองไปครอบงำเธอเด็ดขาด
“เอ๊ะ? นั่นมันร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้านี่นา” ลู่ฉิวเยว่จ้องมองออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์ “ฉินซือ หยุดรถก่อน”
ชาติที่แล้วเธอเคยเห็นร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้ามานับไม่ถ้วน แต่ในชาตินี้เธอแทบไม่เคยเห็นร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย ดังนั้นเธอจึงรู้สึกสงสัยและอยากจะเข้าไปดู
ฉินซือจอดรถเทียบข้างถนน
ทั้งสองคนเดินเข้าไปในร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ภายในร้านมีคนไม่มาก นอกจากผู้จัดการร้านกับพนักงานทำความสะอาดหญิงแล้ว ก็มีเพียงชายหนุ่มหญิงสาวอีกสองคนเท่านั้นที่เป็นลูกค้า ดูเหมือนพวกเขาต้องการจะมาซื้อพัดลม
ผู้จัดการร้านกำลังพูดถึงข้อดีของพัดลมไฟฟ้าโดยไม่ทันสังเกตว่ามีลูกค้าคู่ใหม่เดินเข้ามาแล้ว
ลู่ฉิวเยว่ยิ้มรับให้กับพนักงานหญิงที่เดินเข้ามาหา ก่อนที่เธอจะกวาดสายตามองผลิตภัณฑ์ที่วางขายอยู่ภายในร้าน
มีโทรทัศน์รุ่นเก่าถูกตั้งอยู่ตรงกลาง ซึ่งขัดเงาจนมันวับยิ่งกว่ากระจก เงาของเธอสะท้อนอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์ แต่สิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดก็คือตู้เย็นที่ตั้งอยู่ข้างกัน มันเป็นตู้เย็นสีเขียว ได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่ายและมีเอกลักษณ์มากสำหรับยุคสมัยนี้
เมื่อเห็นผู้จัดการร้านเดินเข้ามา ลู่ฉิวเยว่ก็ถามขึ้นทันทีว่า “ฉันขอเปิดดูด้านในหน่อยได้ไหมคะ?”
ผู้จัดการร้านเป็นชายร่างอ้วนหน้าตาใจดี เขาพยักหน้าส่งยิ้มเมื่อได้ยินคำขอ “ได้สิครับ”
แล้วเขาก็เปิดตู้เย็นพร้อมกับอธิบายสรรพคุณไปด้วย “ตู้เย็นของเรานำเข้ามาจากต่างประเทศ คุณภาพดีมาก สามารถเก็บของสดใหม่ได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผัก หรือผลไม้ ถ้าคุณซื้อกลับไป ต่อให้อาหารค้างคืนก็ไม่ต้องกลัวว่าอาหารจะเสียอีกแล้ว เพียงแค่นำมาแช่ในตู้เย็นและเอามาอุ่นใหม่อีกครั้งในวันต่อมา อาหารก็จะกลับมาสดใหม่เหมือนเดิม…”
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า ก่อนจะหันไปมองข้าวของเครื่องใช้อื่น ๆ
ในที่สุดเธอก็เดินไปอยู่หน้าจักรเย็บผ้าเครื่องหนึ่ง แม่ของเธอชอบจักรเย็บผ้าและเอาแต่บอกว่าอยากจะซื้อไว้ที่บ้านสักหลังหนึ่ง วันนี้เธอได้เจอจักรเย็บผ้าแล้ว ถ้าซื้อกลับไปฝากแม่ แม่ของเธอก็คงไม่ต้องทนอยู่บ้านเบื่อ ๆ อีกต่อไป
ลู่ฉิวเยว่จ่ายเงินและทิ้งที่อยู่เอาไว้ ผู้จัดการบอกว่าจะจัดส่งให้ก่อนมืด
ลู่ฉิวเยว่ออกมาจากร้านพร้อมกับฉินซือ
เมื่อเขาขับรถไปถึงหน้าบ้านของตระกูลลู่ ฉินซือก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “โรงงานผมก็ผลิตตู้เย็นเหมือนกันนะ คุณภาพดีกว่าที่คุณเห็นเมื่อกี้อีก เดี๋ยวผมจะให้เลขาหวังส่งมาให้คุณสักเครื่องก็แล้วกัน”
ลู่ฉิวเยว่รีบส่ายหน้าตอบกลับไป “ฉันแค่สงสัยค่ะ ฉันไม่ได้อยากจะซื้อมันหรอก”
ตู้เย็นในยุคนี้เสียงดังมากเกินไป แม่ของเธอเป็นคนหูไว ถ้าเธอจะซื้อตู้เย็นเอาไว้ที่บ้าน แม่ของเธอคงนอนไม่หลับแน่ ๆ ยิ่งไปกว่านั้น หากแช่แข็งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นปัญหาในการทำความสะอาดมากเท่านั้น
หลังรับประทานอาหารเสร็จ หวังเซวียนเซวียนก็กำลังจะกลับเข้าห้องไปศึกษาเรื่องเครื่องยนต์กลไกต่อ แต่ลู่ฉิวเยว่ก็หยุดเขาเอาไว้ก่อน “มาคุยกันที่ห้องพี่แป๊บนึงสิ”
หวังเซวียนเซวียนพยักหน้าและเดินตามหลังเธอไป
“หาเก้าอี้นั่งได้เลย” ลู่ฉิวเยว่ยิ้มอย่างอ่อนโยน หยิบสมุดโน๊ตออกมาจากลิ้นชักขณะพูด
หลังจากกลับมาจากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า เธอก็วาดภาพนี้ขึ้นมา มันเป็นโครงสร้างของตู้เย็นในยุคนี้ ส่วนภาพที่ถูกวาดอยู่ด้านล่าง เป็นภาพของตู้เย็นที่ถูกสร้างขึ้นในยุคต่อไป
หวังเซวียนเซวียนมีพรสวรรค์ด้านเครื่องยนต์กลไก วันนี้เธอสงสัยว่าตนเองจะช่วยให้เขาพัฒนาตู้เย็นได้หรือไม่ ถ้าเขาสามารถทำได้สำเร็จ ตำแหน่งของเขาในโรงงานก็จะยิ่งสูงกว่านี้อย่างแน่นอน และเขาก็อาจจะกลายเป็นวิศวกรหลักประจำโรงงานด้วยซ้ำ
แม้ว่าหวังเซวียนเซวียนจะงงกับคำสั่งของพี่สาว แต่เขาก็นั่งลงอย่างเชื่อฟัง
“เธอคิดว่าตู้เย็นในโรงงานของเธอเป็นยังไงบ้าง?” ลู่ฉิวเยว่หัวเราะออกมา
เมื่อได้ยิน หวังเซวียนเซวียนก็มีดวงตาเป็นประกายด้วยความสนใจขึ้นมาทันที “ในท้องตลาดมีตู้เย็นอยู่มากมายเลยครับ แต่ผมว่าตู้เย็นของโรงงานเราสมควรถูกจัดเป็น 1 ใน 10 ตู้เย็นที่ดีที่สุดของประเทศได้อย่างไม่อายใคร อย่างแรก พวกเราใช้วัสดุที่มีคุณภาพ…”
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า หวังเซวียนเซวียนทำงานอยู่ในฝ่ายค้นคว้าและพัฒนาประจำโรงงาน สิ่งที่เขาดูแลอยู่ไม่ใช่ตู้เย็น แต่เขาก็มีความรู้เรื่องโครงสร้างของตู้เย็นอยู่ในสมอง จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้
“ถ้าอย่างนั้น เธอคิดว่าตู้เย็นควรจะถูกพัฒนาไปยังไงบ้างในอนาคต?” ลู่ฉิวเยว่ถามต่อไปด้วยรอยยิ้ม หัวใจของเธอรู้สึกคาดหวัง เธอปรารถนาให้เขาเสนอไอเดียที่ทำให้ดวงตาของเธอต้องเปล่งประกาย
หวังเซวียนเซวียนตอบคำถามออกมาสมกับการคาดหวังของเธอ เขาอธิบายโดยละเอียดว่า “ในเรื่องของการพัฒนาตู้เย็นในอนาคต เราควรทำให้ตู้เย็นกินไฟน้อยลง ถ้าแผนกพัฒนาตู้เย็นในโรงงานของเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ มันก็จะเป็นการแก้ปัญหาสำคัญให้กับลูกค้าเช่นกัน เพราะมันจะทำให้ลูกค้าประหยัดเงินได้มากเลยครับ และเมื่อถึงตอนนั้น ตู้เย็นของเราก็คงจะกลายเป็นตู้เย็นที่ขายดีเป็นอันดับ 1 ของประเทศ นอกจากนี้เราต้องพัฒนาเรื่องความเย็นและการส่งเสียงรบกวน…”
ลู่ฉิวเยว่รู้อยู่แล้วว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอมีพรสวรรค์เรื่องเครื่องยนต์กลไก แต่เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้
เธอยิ้มและชมเชยออกมา “ใช่แล้ว เธอคิดว่าปัญหาพวกนี้จะแก้ไขได้ยังไงบ้าง?”
หวังเซวียนเซวียนทำหน้านิ่วและรู้สึกเศร้าใจ เขาพยายามค้นคว้าข้อมูลที่มีทุกอย่างแล้ว เขาอาจจะมีความคิดบางอย่าง แต่ก็ยังหาวิธีแก้ไขไม่ได้อยู่ดี
“ตอนนี้ผมยังไม่มีวิธีครับ” เขาส่ายหน้า
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า เธอนำภาพที่เธอวาดให้เขาดู มันเป็นภาพที่มีรายละเอียดยิบย่อย หวังเซวียนเซวียนสามารถเรียนรู้มาได้ถึงระดับนี้แล้ว เขาจะต้องเข้าใจโดยที่เธอไม่ต้องอธิบายอะไรอีก
“นี่คืออะไรครับ?” หวังเซวียนเซวียนมีดวงตาเป็นประกายราวกับพบเจอขุมสมบัติ เขาปรารถนาที่จะถ่ายภาพวาดทั้งสองภาพนี้เอาไว้เหลือเกิน
หวังเซวียนเซวียนไม่แปลกใจอีกต่อไปแล้วว่าทำไมพี่สาวถึงถามเขาเกี่ยวกับตู้เย็น ปรากฏว่าพี่สาวมีความคิดแก้ไขอยู่แล้วนั่นเอง และถ้าเธอบอกเขาออกมาก่อน เธอก็คงไม่รู้ว่าเขามีความรู้อยู่ในระดับไหน เพราะถ้าเขาโง่เขลามากเกินไป ภาพวาดทั้งสองภาพนี้ก็จะไม่มีประโยชน์เลย
เมื่อเห็นแววตาชื่นชมของหวังเซวียนเซวียน ลู่ฉิวเยว่ก็รู้สึกแปลก ๆ เธอมีพรสวรรค์น้อยมากเมื่อเทียบกับหวังเซวียนเซวียน ลู่ฉิวเยว่อาศัยเพียงความรู้จากโลกอนาคตมาเขียนเป็นภาพวาดเท่านั้น แล้วเธอจะกล้ารับความชื่นชมของเขาได้อย่างไร
“เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าควรทำอะไรต่อไป?” ลู่ฉิวเยว่หัวเราะออกมา
ใบหน้าของหวังเซวียนเซวียนซีดขาวด้วยความตกตะลึง “มันจะเป็นไปได้เหรอครับ? ภาพที่พี่วาดออกมาพวกนี้ ผม…”
ลู่ฉิวเยว่โบกไม้โบกมือ “ฉันไปเกี่ยวอะไรด้วย? ฉันแค่ให้คำแนะนำเธอเท่านั้น ฉันไม่เข้าใจการพัฒนาหรือการวิจัยค้นคว้าอะไรหรอก ฉันไม่เข้าใจเรื่องแผงวงจรพวกนั้นด้วย ฉันมีแค่เปลือกนอก ยังจำเป็นต้องใช้ความสามารถในการวิเคราะห์และพัฒนาจากเธออยู่ดี”
หวังเซวียนเซวียนน้ำตาไหลออกมา “พี่ใจดีกับผมจังเลย”
นับตั้งแต่ที่เขาลาออกจากโรงเรียน หวังเซวียนเซวียนก็มาอาศัยอยู่ที่บ้านของลู่ฉิวเยว่ ทุกคนในครอบครัวของเธอใจดีกับเขามาก นอกจากให้ที่อยู่ที่กินกับเขาแล้ว ตอนนี้ลู่ฉิวเยว่ยังมาช่วยเหลืองานของเขาอีก
ลู่ฉิวเยว่ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเมื่อเห็นแววตาเคารพชื่นชมของหวังเซวียนเซวียน เธอโบกมืออีกครั้ง “ไม่เป็นไร เธอเอากลับไปศึกษาต่อเถอะ ช่วยผลิตตู้เย็นคุณภาพดีมาให้พี่ใช้งานให้เร็วที่สุดก็พอ”
หวังเซวียนเซวียนพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น “ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังครับ” หลังจากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อศึกษาภาพวาดทั้งสองภาพนั้นต่อไป
ลู่ฉิวเยว่ส่ายหัวด้วยความรู้สึกเศร้า หวังเซวียนเซวียนเป็นคนมีพรสวรรค์ แต่ความรู้พื้นฐานยังไม่แน่นมากพอ การพัฒนาตู้เย็นคงไม่เกิดขึ้นในเวลาเพียง 1-2 แน่นอน
ที่เธอมอบภาพวาดทั้งสองภาพนั้นให้เขาก็เพราะอยากจะมอบทิศทางการค้นคว้าให้ก่อนเป็นลำดับแรก และเธอก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่าเขาจะสามารถพัฒนาตู้เย็นได้จริง ๆ