สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 6 แสดงความสามารถ (รีไรท์)
บทที่ 6 แสดงความสามารถ (รีไรท์)
บทที่ 6 แสดงความสามารถ (รีไรท์)
100 หยวนถือเป็นราคาที่สูงทีเดียวในปี 1980
สิ่งที่ลู่ฉิวเยว่ขาดมากที่สุดในตอนนี้ก็คือเงิน เธอจึงตอบตกลงแต่โดยดี จากนั้นหญิงสาวก็เดินตามหัวหน้าพ่อครัวกลับไปที่โรงแรมดาวแดง
“ทุกคน นี่คือแม่ครัวลู่ ฉันเชิญตัวเธอมาเป็นแม่ครัวพิเศษเพื่อทำอาหารค่ำประจำวันนี้ ขอให้ทุกคนช่วยเหลือเธอ จะได้เป็นการรักษาหน้าที่การงานของพวกเราด้วย” หัวหน้าพ่อครัวกล่าวทันที
“เชฟ คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า คุณก็รู้ว่าอาหารสำหรับคืนนี้สำคัญมาก ทำไมคุณถึงมอบหน้าที่สำคัญให้เธอ แม่ครัวคนนี้ยังอายุน้อยอยู่เลยนะ!”
“ใช่แล้ว! พวกเราเป็นแม่ครัวมากประสบการณ์ที่ทำอาหารมากว่าสิบปี คุณชายต้องไม่พอใจแน่ ๆ ถ้าคุณปล่อยให้สาวน้อยที่ไหนไม่รู้มาทำอาหาร หรือว่าคุณอยากให้พวกเราตกงานกันหมด”
หัวหน้าพ่อครัวพูดอย่างเย็นชา “คุณทำอาหารมากว่าสิบปีแล้ว แต่ทำอะไรออกมาคุณชายก็กินไม่ได้เลยสักอย่าง! ส่วนโร่วเจียโม๋ของสาวน้อยคนนี้น่ะ คุณชายทานแล้วชอบ ฉันรับรองว่าคุณชายจะต้องพอใจอย่างแน่นอน”
“เธอรู้แค่วิธีทำโร่วเจียโม๋เท่านั้นแหละ จะไปรู้วิธีทำอาหารอย่างอื่นได้ไง! คุณชายฉินเคยแต่กินอาหารดี ๆ ให้แม่ครัวหน้าใหม่มาทำอาหารแบบนี้ งานเลี้ยงในคืนนี้ได้พังไม่เป็นท่าแน่ ๆ”
แม้จะได้ยินเสียงที่ไม่มั่นใจของบรรดาพ่อครัวแม่ครัวเหล่านี้ ลู่ฉิวเยว่ก็ไม่ได้แสดงความกลัวแม้แต่น้อย แต่กลับพูดอย่างใจดีว่า “ฉันยังเด็ก ทุกคนเลยไม่มั่นใจในตัวฉันสินะ ถ้าอย่างนั้นเรามาแข่งความสามารถกันดีไหมคะ?”
คำพูดอันมั่นอกมั่นใจของลู่ฉิวเยว่ทำให้หนึ่งในพ่อครัวตะคอกเสียงเย็นชา เขาหยิบแตงกวาออกมา จากนั้นแสดงทักษะการใช้มีดของตนเอง ทักษะการใช้มีดของเขาดีที่สุดในบรรดาพ่อครัวทุกคนที่นี่ ลีลาจึงดุเดือดไม่น้อย เขาหั่นแตงกวาให้มีขนาดเท่ากันด้วยความรวดเร็ว
“เป็นอย่างไรบ้างล่ะ สาวน้อย เธอมีทักษะการใช้มีดไหมล่ะ?”
“คุณไม่ได้แสดงทักษะการใช้มีดเพื่อแข่งขัน แต่ตั้งใจทำให้คนอื่นอับอายอย่างนั้นเหรอ?”
หัวหน้าพ่อครัวได้ยินแล้วก็สบถอย่างไม่พอใจ ส่วนลู่ฉิวเยว่สุ่มหยิบมีดทำครัวออกมาพร้อมกับหยิบเต้าหู้ออกมา 1 ชิ้น จากนั้นเธอก็เริ่มหั่นเต้าหู้ด้วยความใจเย็น จนกระทั่งเห็นเธอหั่นเต้าหู้เป็นเส้น ๆ พ่อครัวอีกคนหนึ่งก็หัวเราะแล้วพูดว่า
“คุณหั่นเต้าหู้เป็นเส้นแบบนี้ ทักษะการใช้มีดแบบไหนกันเนี่ย”
ลู่ฉิวเยว่นำอ่างน้ำใสออกมาแล้วใส่เต้าหู้ที่ถูกหั่นอย่างประณีตลงไป ทันใดเต้าหู้ก้อนนั้นก็บานออกเหมือนดอกไม้ในสายน้ำ มันเป็นเต้าหู้เส้นบางเหมือนด้ายที่เอาเข็มมาร้อยได้!
ทุกคนตกใจในทันที!
“นี่คือเต้าหู้เหวินซี*[1]! ถึงอาหารจานนี้จะเป็นที่นิยม แต่เชฟส่วนใหญ่ก็ทำได้แค่ฉีกเต้าหู้ ทำให้มันบานเหมือนดอกไม้ไม่ได้ เส้นเต้าหู้เหมือนร้อยเข็มได้เลยนะเนี่ย! แล้วใครจะชนะได้ล่ะ ฉันไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เห็นทักษะการใช้มีดที่น่าทึ่งขนาดนี้มาก่อนในชีวิต! เธอยังเด็กอยู่เลย! สุดยอดมาก!” พ่อครัวคนอื่นชมทันที
ทว่าบางคนยังคงไม่เชื่อใจจึงพูดขึ้นว่า “สิ่งสำคัญในการทำอาหารในค่ำคืนนี้คือการปรุงรสและการใช้ความร้อน ไม่ใช่แค่ทักษะการใช้มีด”
พ่อครัวคนเดิมเปิดไฟทันที เขาปรุงไตแกะทอดกรอบด้วยทักษะที่ประณีตที่สุด ลู่ฉิวเยว่ไม่พูดอะไร เธอทำหมูสามชั้นทอดกรอบที่ซับซ้อนกว่า หลังจากปรุงอาหารทั้งสองจานแล้ว พ่อครัวที่ชิมอาหารก็ได้แต่นิ่งเงียบ พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตั้งแต่พวกเขาทำอาหารมากว่าสิบปี ทักษะการทำอาหารและทักษะการใช้มีดของพวกเขายังด้อยกว่าหญิงสาวในวัยยี่สิบต้น ๆ คนนี้!
ไม่ว่าจะเนื้อสัมผัส ความร้อน หรือแม้แต่รสชาติของหมูสามชั้นทอดกรอบนี้ ยอดเยี่ยมหมดทุกอย่าง!
ไม่แปลกใจเลยที่เธอจะทำโร่วเจียโม๋ได้อร่อยกว่าอาหารที่พวกเขาทำ!
“มีใครไม่เชื่อฝีมือของเธออีกบ้างไหม ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว เราจะร่วมมือกับแม่ครัวลู่อย่างเต็มที่ในการเตรียมอาหารมื้อนี้” หัวหน้าพ่อครัวกล่าวทันที
พ่อครัวคนเก่งคนเดิมไม่กล้าพูดอีกต่อไป
“ว่าแต่คุณชายฉินมีของโปรดอะไรบ้างไหม ฉันจะได้เตรียมตัวเอาไว้ก่อน” ลู่ฉิวเยว่มองไปที่หัวหน้าพ่อครัว หัวหน้าพ่อครัวจึงตอบด้วยสีหน้าขมขื่น “ของโปรดเหรอ? เขาอยู่ที่นี่ได้หลายวันแล้วแต่เพิ่งจะกินโร่วเจียโม๋ของคุณไปแค่ 2 ชิ้นเท่านั้น ที่ผ่านมาเขาเอาแต่กินโจ๊กและน้ำเปล่า เป็นคนที่เรื่องมากในการกินมากที่สุดเลยล่ะ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หัวหน้าพ่อครัวพูด ลู่ฉิวเยว่ก็พูดทันที “ดูเหมือนว่าแขกคนนี้ม้ามกับกระเพาะไม่ดี เขาคงจะร่างกายอ่อนแอนิดหน่อย พวกเราคงต้องทำอาหารสองสามอย่างที่ช่วยเรียกน้ำย่อยและกระตุ้นการทำงานของม้ามนะคะ”
ลู่ฉิวเยว่คิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดถึงรายการอาหารที่ตนจะทำ “ก่อนอื่นทำซุปเต้าหู้เหวินซีเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย เพื่อกระตุ้นการทำงานของกระเพาะให้ดีขึ้น จากนั้นทำสับปะรดเปรี้ยวหวาน หมูเปรี้ยวหวาน และปลาเปรี้ยวหวาน ตามด้วยหัวหอมผัดไข่เค็ม ไก่ตุ๋น ขาหมูซีอิ๊ว ไก่เผ็ดสัก 2 จานที่มีรสชาติเข้มข้นกว่า หมูสามชั้นทอด และสุดท้ายก็เป็นอาหารหวานอีกสักสองสามอย่าง”
“ตกลง พวกเราจะเชื่อฟังเธอก็ได้” เมื่อเห็นว่าลู่ฉิวเยว่พูดอย่างชัดเจนและมีเหตุผล บรรดาพ่อครัวแม่ครัวที่ต่อต้านเธอก่อนหน้านี้ก็ยินดีรับคำสั่งอย่างไม่มีข้อแม้ ลู่ฉิวเยว่จึงเริ่มทำงานอย่างเต็มที่ทันที เพราะอีกไม่นานงานเลี้ยงอาหารค่ำก็จะเริ่มขึ้นแล้ว
ฉินซือหรือคุณชายฉินที่ทุกคนกำลังพูดถึงอยู่ในเวลานี้ ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจอาหารเย็นในครั้งนี้เลย แต่หัวหน้าพ่อครัวสัญญาอยู่หลายครั้งว่าจะต่อแถวซื้อโร่วเจียโม๋มา เขาจึงมาที่นี่อย่างไม่เต็มใจ
เมื่ออาหารเย็นมาเสิร์ฟ เขากลับไม่เห็นโร่วเจียโม๋
“โร่วเจียโม๋อยู่ไหน” ฉินซือถามพลางมองหัวหน้าพ่อครัวอย่างไม่เข้าใจ หัวหน้าพ่อครัวพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “คุณชายฉิน คุณจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอนถ้าคุณลองชิมอาหารตรงหน้า”
ใบหน้าของฉินซือยังคงเย็นชา เขารู้สึกว่าตนเองกำลังถูกหลอก
นายอำเภอมองเขาอย่างมีความหวัง แต่ชายหนุ่มอดส่ายหน้าไม่ได้เพราะเขาจะไม่ลงทุนที่นี่
ฉินซือทำได้เพียงฝืนชิมซุปเต้าหู้ ทว่าหลังจากซดเข้าไปหนึ่งคำ ชายหนุ่มก็หยุดไม่ได้อีกต่อไป!
อร่อย! อร่อยทุกจาน!
เขาไม่เคยกินอาหารที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน! เวลานี้สีหน้าเย็นชาของฉินซือหายไปหมดแล้ว เขากินข้าวสองชามใหญ่ติดต่อกัน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้ว่าความอิ่มเป็นอย่างไร!
ที่ผ่านมาเขาเบื่ออาหารพวกนี้จริง ๆ
ไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนว่าเขาจะมีวันนี้!
“ผมอยากพบพ่อครัว” ฉินซือพูดอย่างหนักแน่นหลังจากวางตะเกียบลง เขาต้องการจ้างพ่อครัวคนนี้ด้วยเงินเดือนสูงที่สุดเพื่อให้มาเป็นพ่อครัวส่วนตัว เขาจะได้กินอาหารพวกนี้ทุกวัน
ในห้องครัว ลู่ฉิวเยว่กำลังทำความสะอาดห้องครัว หลังจากถอดผ้ากันเปื้อนแล้ว เธอก็สามารถกลับบ้านได้หลังจากได้รับเงินค่าจ้าง
ทว่าหัวหน้าพ่อครัววิ่งหน้าตั้งกลับมา พูดกับเธออย่างตื่นเต้นว่า “เชฟลู่ คุณชายฉินต้องการพบคุณที่ด้านนอก! อาหารที่คุณทำอร่อยมากจริง ๆ! เขากินอาหารที่คุณทำหมดเกลี้ยงเลยล่ะ!”
[2] เต้าหู้เหวินซี คือ เมนูอาหารที่แสดงทักษะการใช้มีด เป็นซุปเต้าหู้ที่ต้องหั่นเต้าหู้ให้เป็นเส้น เมื่อวางลงไปในน้ำซุป เส้นจะเรียงตัวเหมือนลายดอกไม้