สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 5 ความผิดพลาด (รีไรท์)
บทที่ 5 ความผิดพลาด (รีไรท์)
บทที่ 5 ความผิดพลาด (รีไรท์)
“แกเป็นใครมาจากไหน อย่ามาสะเออะเรื่องของคนอื่น” ผู้อํานวยการสวีชี้ไปที่ผู้เข้ามาใหม่
พูดยังไม่ทันจบ ฉินซือก็จับข้อมือของเขาแน่นแล้วออกแรงบิดอย่างแรง ผู้อำนวยการสวีได้แต่กรีดร้องราวกับหมูถูกเชือด
ฉินซือขมวดคิ้ว เตะเข้าที่ข้อพับของเข่า ทำเอาผู้อำนวยการสวีถึงกับเข่าอ่อน
“ออกไปซะ” ฉินซือกัดฟัน มองเขาอย่างเย็นชา
ผู้อำนวยการสวีเห็นว่าตนเองเจอปัญหาเข้าแล้ว จึงรีบตะเกียกตะกายวิ่งหนีอุดตะลุด
ลู่ฉิวเยว่รีบร้อนกล่าวว่า “ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณมากจริง ๆ”
ฉินซือยังคงมสีหน้าไร้อารมณ์ เขาไม่แม้แต่จะหันมามองหญิงสาว ทำเพียงเอ่ยเสียงเบา “ไม่เป็นไร รีบออกไปเถอะ”
ลู่ฉิวเยว่หยิบกล่องใส่สาลี่หิมะตุ๋นยาจีนออกมาจากเบาะหลังของรถสามล้อ จากนั้นยัดเข้าไปในมือของฉินซือ “ฉันไม่มีอะไรตอบแทนคุณ นี่คือสาลี่หิมะตุ๋นยาจีนที่ฉันทำขึ้นเอง คุณเก็บเอาไว้กินเถอะ”
หญิงสาวไม่รอให้อีกฝ่ายปฏิเสธ เธอรีบถี่รถสามล้อออกไปทันที ฉินซือจึงส่งกล่องบรรจุสาลี่หิมะตุ๋นยาจีนให้เลขาหวัง ทั้งสองไม่ได้กลับไปที่โรงแรม แต่มุ่งหน้ามาที่หน้าประตูโรงงานเครื่องจักรแห่งหนึ่ง
เมื่อวานนี้เลขาหวังได้สอบถามอย่างชัดเจนแล้วว่าลูกสะใภ้ของพ่อครัวโรงแรมซื้อโร่วเจียโม๋ที่นี่
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรอมานานกว่าครึ่งวันแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าคนขายโร่วเจียโม๋จะมา ฉินซือเริ่มไอออกมาอย่างหงุดหงิด
เลขาหวังพูดทันทีว่า “วันนี้อากาศนี้แห้ง คุณชายน่าจะลองกินสาลี่หิมะตุ๋นยาจีนดูนะครับ”
ฉินซือขมวดคิ้วอย่างต่อต้าน
“กินอันนี้ดีกว่ากินยานะครับ” เลขาหวังแนะนําต่อไป เพราะเสียงไอของฉินซือฟังดูไม่สบายมากจริง ๆ
ชายหนุ่มได้แต่รับสาลี่หิมะตุ๋นยาจีนมาและกัดไปหนึ่งคํา เลขาหวังตั้งใจจะเก็บอีกกล่องไว้กินเอง แต่ก่อนที่เขาจะเปิดกิน เขาก็ถูกฉินซือแย่งไปอย่างรวดเร็ว เลขาหวังได้แต่ทำตาค้าง มองฉินซือกินสาลี่หิมะตุ๋นยาจีนจนหมดอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
“คนที่ทำสาลี่หิมะตุ๋นยาจีนเป็นคนคนเดียวกับที่ทำโร่วเจียโม๋ ผมอยากเชิญเธอมาเป็นแม่ครัวของผม” ฉินซือพูดอย่างมั่นใจ น้ำเสียงมีความยินดีมากขึ้น
“หมายความว่าเราต้องตามหาผู้หญิงคนเมื่อกี้เหรอครับ” เลขาหวังรีบร้อนสอบถาม
พอทั้งสองหันกลับมาอีกครั้ง ก็ไม่รู้ว่าลู่ฉิวเยว่หายไปทางไหนแล้ว ทั้งเจ้านายและลูกน้องจึงได้แต่กลับโรงแรมด้วยความผิดหวัง แต่หญิงสาวที่กำลังเดินทางกลับบ้านได้รับค่าความสุขอีก 100 แต้ม วันนี้เธอได้แต่ให้สาลี่หิมะตุ๋นยาจีนกับผู้ชายที่ช่วยตัวเองไว้ คาดว่าเขาคงจะกินมันไปแล้ว
“ทําไมค่าความสุขของเขาถึงสูงขนาดนี้ แล้วทำไมระบบถึงคำนวณคะแนนแบบนี้ล่ะ เพราะว่าเขาหล่องั้นเหรอ” ลู่ฉิวเยว่พึมพํา
เมื่อกลับถึงบ้านของคุณลุง ลุงและป้าสะใภ้ก็รุมถามทันทีว่า “เป็นไงบ้าง ผู้อำนวยการเปลี่ยนใจไหม?”
เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หญิงสาวก็รู้สึกเดือดดาลขึ้นมาทันที เธอเล่าเรื่องที่สวีต้าหลินและลู่เจี๋ยหรงจงใจตัดราคาเพื่อแย่งคำสั่งซื้อไปอย่างไม่คิดจะปิดบัง
“ใช่เรื่องที่ไหนกัน ลู่เจี๋ยหรงชั่วเกินไปแล้ว แย่งคู่หมั้นของลูกไปยังไม่พอ ยังมาแย่งคำสั่งซื้อของพวกเราไปอีก” แม่ของลู่ฉิวเยว่โกรธมาก
“ช่างมันเถอะ พวกเราขายราคาต่ำขนาดนั้นไม่ได้หรอก พวกเขาขายได้ก็ให้ขายไปเถอะ” คุณลุงพูดพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ลุงไม่ต้องคิดมากนะคะ เอาเป็นว่าลุงไปเก็บสาลี่พวกนั้นมาดีกว่า เดี๋ยวหนูจะเอาไปต้ม ทำเป็นสาลี่เชื่อมใส่กระป๋องขายหน้าโรงงานเอง” ลู่ฉิวเยว่กล่าวอย่างความกระตือรือร้น
แม้ว่าลูกสาลี่ของคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านเยว่เหลียงจะขายไม่ออก แต่ลู่ฉิวเยว่ต้องหาทางระบายสาลี่ของที่บ้านออกไปให้ได้
“ดีเหมือนกัน เดี๋ยวลุงจะเอาไปเร่ขายตามข้างทางด้วย ขายได้เท่าไหร่ก็ถือว่าเท่านั้น” คุณลุงกล่าว
ทั้งครอบครัววุ่นวายขึ้นอีกครั้ง เว้นแต่พ่อของลู่ฉิวเยว่ที่ขาแข้งไม่ค่อยดี เดินไม่สะดวกจึงต้องอยู่บ้าน
ครั้งนี้ลู่ฉิวเยว่ทําโร่วเจียโม๋ 300 ชิ้นและทําสาลี่เชื่อมน้ำตาลมากกว่า 100 กระป๋อง
หลังจากกินอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น เธอและแม่ก็มาตั้งแผงขายของที่หน้าโรงงานเครื่องจักรตามปกติ เมื่อจัดแจงรถเข็นเสร็จ คนงานในโรงงานเครื่องจักรก็แห่กันมาแล้ว
“น้องสาว ทําไมเมื่อวานเธอไม่มา ฉันกินโร่วเจียโม๋ของเธอแล้วรู้สึกมีแรงทํางานทั้งวัน คิดถึงโร่วเจียโม๋ของเธอจะแย่แล้ว”
“ฉันได้กินของที่เธอทำแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่าจริง ๆ ครั้งนี้ฉันจะซื้อ 5 ชิ้น เอากลับบ้านให้เมียกับลูกชิมด้วย”
“วันนี้ฉันมีสาลี่เชื่อมน้ำตาลมาขายด้วยนะ ถ้าซื้อโร่วเจียโม๋ 2 ลูก ฉันจะแถมสาลี่เชื่อมน้ำตาลให้อีก 1 กระป๋องจ้ะ” ลู่ฉิวเยว่พูดทันที
“ฝีมือของเธอดีขนาดนี้ สาลี่เชื่อมน้ำตาลต้องอร่อยแน่นอน ลุงขอชิมกระป๋องหนึ่งก่อน” คนแรกที่เข้าคิวคือคุณลุงคนเดิม
ในขณะที่ลู่ฉิวเยว่ทําโร่วเจียโม๋ คุณลุงก็เปิดกระป๋องสาลี่เชื่อมน้ำตาลขึ้นดื่ม เพียงดื่มไปคำแรก คุณลุงก็รู้สึกชื่นใจแล้ว
“น้ำเชื่อมอันนี้ก็อร่อยมาก ดื่มไปแล้วไม่แสบคอแถมสดชื่นด้วย ลุงจะซื้อเพิ่มอีกสองสามกระป๋อง ค่อย ๆ ดื่มระหว่างทำงาน” คุณลุงขอซื้อ 5 กระป๋องในคราวเดียว
หากซื้อโร่วเจียโม๋ 2 ลูกจะแถมสาลี่เชื่อมน้ำตาล 1 กระป๋อง คนข้างหลังจึงซื้อโร่วเจียโม๋ 2 ลูกเช่นกัน หลังลู่ฉิวเยว่จัดแจงแผงขายของอีกครั้ง สาลี่เชื่อมน้ำตาลก็ขายหมดเกลี้ยง
“นี่ ๆ ขายหมดแล้วเหรอ” ลูกค้าคนสุดท้ายคือพ่อครัวของโรงแรมที่รีบร้อนวิ่งเข้ามา “จะทําอย่างไรดีล่ะ ถ้าไม่ได้โร่วเจียโม๋กลับไป พวกเราต้องเดือดร้อนแน่!”
พ่อครัวคนนั้นร้อนรนจนแทบจะร้องไห้
“สาวน้อย ยังเหลือโร่วเจียโม๋อีกไหม ไม่งั้นคุณต้องไปที่ครัวของเราและทําให้สักสองสามอัน ถ้าไม่มีโร่วเจียโม๋แล้วคุณชายจะอยู่ต่อได้อย่างไร พวกเราต้องตกงานแน่” พ่อครัวพูดอย่างใจจดใจจ่อ
ลู่ฉิวเยว่เห็นเขาพูดจาวนไปวนมาจึงพูดว่า “คุณลุง ใจเย็น ๆ นะคะ นี่มันเรื่องอะไรกัน ค่อย ๆ พูดก็ได้ค่ะ”
พ่อครัวพูดด้วยความร้อนรน “ผมเป็นหัวหน้าพ่อครัวของโรงแรมดาวแดง โรงแรมของเราได้ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติคนหนึ่ง นายอําเภอกำชับว่าจะต้อนรับให้ดีเพราะอยากให้เขามาลงทุนสร้างโรงงานในเขตของเรา แต่แขกคนนั้นจู้จี้จุกจิกมาก พ่อครัวหลายคนไม่สามารถทําอาหารที่เขาชอบกินได้แม้จะทำทุกอย่างแล้วก็ตาม เขาชอบแต่อาหารที่คุณทำเท่านั้น คืนนี้นายอําเภอจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำ แม้ว่าเราจะเตรียมโต๊ะอย่างพิถีพิถัน แต่ก็กลัวเขาจะไม่กิน เลยตั้งใจมาซื้อโร่วเจียโม๋ของคุณเผื่อเอาไว้ แต่คุณขายมันหมดแล้วเนี่ยสิ…”
ได้ยินดังนั้น ลู่ฉิวเยว่ก็พูดทันทีว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็เป็นแม่ครัวเก่าอยู่แล้ว เอาอย่างนี้เถอะ ถ้าคุณสบายใจ ฉันช่วยทําอาหารสำหรับจัดโต๊ะนี้ให้คุณ รับรองว่าเขากินแล้วต้องพอใจอย่างแน่นอน”
“จริงเหรอ คุณก็เคยทำงานอยู่ในครัวเหมือนกันเหรอ ไม่แปลกใจเลยที่ฝีมือของคุณดีขนาดนี้ ถ้าเขาพอใจในฝีมือของคุณจริง ๆ ผมยอมจ่ายเงิน 100 หยวนให้คุณเลย!”