สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 48 เกิดอะไรขึ้น
บทที่ 48 เกิดอะไรขึ้น
บทที่ 48 เกิดอะไรขึ้น
คนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือลู่เจี๋ยหรงและแม่ของเธอ
ครอบครัวของลู่ฉิวเยว่หันมองหน้ากันด้วยความมึนงง ลู่เจี๋ยหรงหาพวกเธอเจอได้อย่างไร?
ไม่ควรมีใครรู้เรื่องบ้านหลังนี้
ลู่เจี๋ยหรงและแม่ของเธอไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรทั้งนั้น พวกเธอเพียงแค่แอบได้ยินว่าฉินซือเอาโทรทัศน์สีมาส่งมอบให้คนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ แล้วพวกเธอจะไม่เข้าใจเรื่องราวได้อย่างไร
ฉินซือไม่ได้เป็นเจ้าหนี้ของลู่ฉิวเยว่จริง ๆ ครั้งก่อนเขาหลอกให้ป้าลู่กลัวจนหนีไป ในความเป็นจริงนั้น เขากับครอบครัวของลู่ฉิวเยว่สนิทสนมกันมาก และดูท่าทางน่าจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันในอีกไม่ช้าด้วย!
ลู่ฉิวเยว่โกหกพวกเธอ!
ป้าลู่โกรธแค้นมาก โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าพวกเธอแม่ลูกแทบจะต้องร่อนเร่อยู่ข้างถนน ในขณะที่ครอบครัวของลู่ฉิวเยว่ได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่ และยังมีโทรทัศน์สีให้รับชม
หญิงวัยกลางคนดวงตาร้อนผ่าวด้วยความอิจฉา
นี่คือโทรทัศน์ภาพสี เป็นของหายากที่แม้แต่คนรวยในตัวเมืองก็ยังหาไม่ได้ ถ้าเธอได้โทรทัศน์สีเครื่องนี้กลับไปที่หมู่บ้าน ทุกคนจะต้องเคารพเธออย่างแน่นอน
เมื่อนึกภาพว่าทุกคนจะต้องชื่นชมและเคารพเธอมากแค่ไหน ป้าลู่ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะต้องเอาโทรทัศน์สีเครื่องนี้กลับไปให้ได้
“น้องเขย น้องสะใภ้ นี่วันรวมญาติกันใช่ไหม บรรยากาศชื่นมื่นเชียวนะ” ป้าลู่ยิ้มแย้มแกล้งทำตัวอ่อนหวาน ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านโดยไม่ต้องรอให้ใครเชิญ
แม่ของลู่ฉิวเยว่มีสีหน้าเย็นชา แต่เธอก็ไม่พูดอะไรออกมาเพราะต้องการรักษาหน้าสามี และนี่ก็เป็นเทศกาลตรุษจีน ถ้าเธอไล่สองแม่ลูกคู่นี้ออกไป ก็ไม่รู้ว่าคนที่หมู่บ้านจะมองครอบครัวของเธออย่างไร
แม่ของลู่ฉิวเยว่ไม่อยากให้สามีของตนเองถูกแทงข้างหลังและกลายเป็นที่นินทาของชาวบ้านเมื่อกลับไปที่หมู่บ้านอีกครั้ง
การที่แม่ของลู่เจี๋ยหรงมาที่นี่ในวันนี้ย่อมมีจุดมุ่งหมายบางอย่างอยู่ในใจ ถ้าถูกขับไล่กลับไปโดยทันที เธอก็คงต้องกลับไปที่หมู่บ้านและเอาเรื่องนี้ไปป่าวประกาศเพื่อใส่ร้ายพ่อของลู่ฉิวเยว่ หลังจากนั้นครอบครัวของลู่ฉิวเยว่ก็คงไม่สามารถสู้หน้าใครได้อีกในอนาคต
“ทีวีเครื่องนี้สวยจังเลย คุณย่าใหญ่เพิ่งไม่สบายเมื่อไม่กี่วันก่อน ได้แต่นอนอยู่บนเตียงทุกวัน เห็นบ่น ๆ ว่าอยู่บ้านก็เบื่อมาก ยิ่งไปกว่านั้น คุณย่าใหญ่ก็รักเธอมาโดยตลอดเลยนะ ชางหลิน เธอไม่คิดจะมอบทีวีเครื่องนี้ให้กับคุณย่าใหญ่บ้างหรือไง?” ป้าลู่ยิ้มแย้มหยอกเย้าพ่อของลู่ฉิวเยว่เหมือนกับว่าเป็นคนสนิท เหมือนไม่เคยมีปัญหาบาดหมางกันมาก่อน
แม่ของลู่ฉิวเยว่หัวเราะเยาะตอบกลับไปอย่างเย็นชา “เฉินต้าหัว เธอจะเอาโทรทัศน์กลับไปดูเองใช่ไหม? เธอแค่เอาชื่อของคุณย่าใหญ่มาอ้าง เธอมันหน้าไม่อาย! พวกเธอทำกับเราเจ็บแสบกี่ครั้งแล้ว พวกเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเราอีกแล้ว ไปเล่นตลกที่อื่นซะ!”
ป้าลู่ไม่คิดเลยว่าตั้งแต่ที่ครอบครัวของลู่ฉิวเยว่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมือง แม่ของลู่ฉิวเยว่ก็ดุร้ายมากกว่าในอดีตหลายเท่า หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงไว้หน้าผู้อื่น แต่ในตอนนี้เธอไม่ไว้หน้าใครอีกแล้ว
ป้าลู่โกรธจนหน้าดำหน้าแดงขึ้นมาทันที
ตอนแรกลู่ฉิวเยว่ยืนมองด้วยความเยือกเย็น ไม่ได้คิดจะห้ามปรามแม่ของตนแม้แต่น้อย
แต่เมื่อเธอหันไปเห็นสายตาของลู่เจี๋ยหรงที่กำลังจ้องมองฉินซือด้วยสายตาที่มีเจตนายั่วยวนอย่างชัดเจน ลู่ฉิวเยว่ก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที
“ลู่เจี๋ยหรง เธอมองอะไรไม่ทราบ? คุณฉินไม่ใช่ผู้ชายที่เธอจะอ่อยได้ตามข้างทางทั่วไปนะ เช็ดน้ำลายของตัวเองหน่อยสิ”
ตอนแรกเธอเข้าใจว่าลู่เจี๋ยหรงตั้งใจจะมาก่อกวน แต่กลายเป็นว่าลู่เจี๋ยหรงตั้งใจมายั่วยวนฉินซือต่างหาก
ไม่ใช่ว่าลู่เจี๋ยหรงจะไม่ทราบเรื่องนั้น เธอให้ความสนใจฉินซือมานานแล้ว เพียงแต่รู้ดีว่าเขาเป็นคนที่ไม่ควรไปมีปัญหาด้วยเด็ดขาด ที่ผ่านมาลู่เจี๋ยหรงเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ อย่างเจียมตัว
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
ในเมื่อไม่มีผู้ชายคนไหนต้องการเธออีกต่อไป ลู่เจี๋ยหรงก็พร้อมที่จะเสี่ยงโดยไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว
อย่างมากก็แค่ถูกปฏิเสธ
อีกอย่าง เธอไม่จำเป็นต้องให้ลู่ฉิวเยว่เข้ามาขัดขวาง บางทีฉินซืออาจจะตกหลุมรักเธอเองก็เป็นได้
ลู่เจี๋ยหรงแกล้งเดินเข้าไปหาฉินซือด้วยความเขินอาย “คุณฉินคะ ฉันคือลู่เจี๋ยหรง…”
ทุกคนในห้องต่างก็ถูกดึงดูดความสนใจไปยังเจ้าของเสียงอ่อนหวานจนน่าขนลุกนั้น พวกเขาหันไปมองเป็นสายตาเดียวกัน ลู่เจี๋ยหรงไม่มียางอายเลยจริง ๆ เผลอครู่เดียวก็กำลังจะเข้าไปถึงตัวฉินซือแล้ว
ฉินซือจ้องมองด้วยความขยะแขยง ตอนนี้เขากำลังอยู่ในบ้านตระกูลลู่ จึงไม่สมควรแสดงความโกรธออกมา ดังนั้นเขาจึงถอยห่างออกมาจากลู่เจี๋ยหรงโดยไม่รู้ตัว
ฉินซือรู้สึกสงสารครอบครัวของลู่ฉิวเยว่มาก ตอนนี้แม่ของเธอกำลังโกรธมากจนไม่ไว้หน้าสามีอีกต่อไป เธอวิ่งไปหยิบไม้กวาดมาไล่ตีสองแม่ลูกลู่เจี๋ยหรงโดยไม่ห่วงอีกแล้วว่าสามีจะสามารถกลับไปที่หมู่บ้านได้อีกหรือไม่
“ออกไปจากที่นี่ซะ! ออกไปให้พ้น! อย่ามายุ่งกับแฟนของลูกสาวฉันนะ! ไปซะ! ไสหัวไป!”
แม่ของลู่ฉิวเยว่ใช้ไม้กวาดไล่ตีพวกของลู่เจี๋ยหรงจนออกไปนอกบ้าน
หน้าไม่อาย!!!
ป้าลู่คิดไม่ถึงว่าตนเองจะถูกไล่ออกมาจากบ้านในวันตรุษจีนเช่นนี้ จึงยืนตะโกนด่าอยู่หน้าบ้าน
แม่ของลู่ฉิวเยว่ไม่สนใจ เธอปิดประตูใส่หน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ใยดี การมีญาติพี่น้องเลวร้ายเช่นนี้ถือเป็นโชคร้ายแปดชั่วโคตรจริง ๆ
บรรยากาศในห้องนั่งเล่นเกิดความอึดอัดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่
แม่ของลู่ฉิวเยว่ถอนหายใจ หลังจากนั้น เธอก็ฝืนยิ้มออกมา
“เมื่อตอนเช้า เยว่เยว่ออกไปซื้อไพ่มา 2 สำรับพอดีเลยใช่ไหม ในเมื่อทุกคนก็มารวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว เรามาเล่นไพ่กันดีกว่า” เธอพูดอย่างอ่อนโยนและเดินกลับเข้าไปในห้องครัวเพื่อนำของหวานออกมา 2 จาน
ขนมเปี๊ยะที่ลู่ฉิวเยว่ทำขึ้นมานั้นมีรูปร่างตามมาตรฐาน มันมีสีส้มแดงขนาดพอดีคำ ดูน่ารักและน่าอร่อยในเวลาเดียวกัน
เมื่อเข้าไปใกล้ จมูกก็จะได้กลิ่นหอมของขนมเปี๊ยะขึ้นมาทันที เลขาหวังซึ่งเพิ่งรับประทานอาหารไปจนเต็มท้องก็ยังคงอดหยิบมาชิมหนึ่งชิ้นไม่ได้
อืมมม…อร่อยมาก!
[ค่าความสุข: +1, +1 …]
เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้น ในที่สุดลู่ฉิวเยว่ก็กลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง
เธอยิ้มออกมา “จริงด้วยสินะคะ นานมากแล้วที่พวกเราไม่ได้เล่นไพ่กัน ไหน ๆ วันนี้พวกเราก็มารวมตัวกันแล้ว พวกเรามาสนุกกันหน่อยดีกว่า”
ไม่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอจงใจหรือเปล่า แต่พวกท่านก็ปฏิเสธ พวกเขาบอกว่าอยากจะเป็นคนดูมากกว่า วงไพ่จึงมีแต่เธอ ฉินซือ เลขาหวัง และหวังเซวียนเซวียนเท่านั้นที่นั่งเล่นด้วยกัน
หลังจากชนะมาหลายรอบติดกัน ในที่สุดลู่ฉิวเยว่ก็ทนไม่ไหว เธอแอบเตะขาฉินซือใต้โต๊ะอย่างช่วยไม่ได้ “คุณเป็นอะไรเนี่ย!”
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เลขาหวังจะแอบส่งไพ่มาให้เธอตลอด ทำให้ลู่ฉิวเยว่เล่นกี่รอบก็ชนะทุกรอบ สงสารก็แต่เพียงหวังเซวียนเซวียนเท่านั้นที่ต้องมาแพ้โดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรเลย
ลู่ฉิวเยว่จ้องมองไปที่ลูกพี่ลูกน้องของตนเอง เธอรู้สึกตลกจนต้องยกมือปิดปากกลั้นขำ พ่อแม่ของเธอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ต้องกลั้นหัวเราะเช่นกัน
“คุณทำอะไรของคุณ! ตั้งใจเล่นหน่อยสิ” ฉินซือพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แต่ก็ต้องก้มหน้าเพื่อกลั้นยิ้มเช่นกัน
แม้ว่าเขาจะถูกลู่ฉิวเยว่ดุ แต่การดุของเธอก็ทำให้หัวใจของฉินซือรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมาชอบกล
ในขณะที่ลู่ฉิวเยว่กำลังจะเตะขาเขาอีกครั้ง เธอก็ได้ยินเสียงแม่พูดขึ้นมาจากข้างหลังว่า “แม่ได้ยินว่าพวกของลู่เจี๋ยหรงไม่ได้เช่าห้องอยู่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว พวกเธอย้ายกลับไปที่หมู่บ้านลู่เจี๋ยเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่เห็นว่าทางคุณย่าใหญ่ไม่ยอมให้พวกเธอเข้าบ้านไปร่วมงานตรุษจีน ลูกว่าพวกเธอจะไปอยู่ที่ไหนกันนะ? พวกเธอคงไม่ได้มาฉลองตรุษจีนด้วยการนอนข้างถนนแน่ ๆ พวกเธอไม่มีวันทำแบบนั้นเด็ดขาด…”
ลู่ฉิวเยว่ขมวดคิ้วแล้วก็นึกถึงบ้านหลังเก่าของตนเองขึ้นมา!
ก่อนที่พวกเธอจะย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมือง บ้านใหม่ของพวกเธอในหมู่บ้านเยว่เหลียงเพิ่งจะได้รับการซ่อมแซมใหม่ คุณลุงของเธอเป็นคนเก็บกุญแจเอาไว้ แต่สองแม่ลูกคู่นั้นอาจจะไปที่หมู่บ้านเยว่เหลียงและไปสร้างปัญหาให้กับคุณลุงก็เป็นได้
คุณลุงมีอายุมากแล้ว ฃแถมยังเป็นคนใจอ่อน อาจจะหลงกลสองแม่ลูกคู่นั้นได้ง่าย ๆ
ครอบครัวของลู่ฉิวเยว่ไม่ได้กลับไปที่นั่นนานแล้ว คงได้เวลาที่จะกลับไปเยี่ยมหมู่บ้านเยว่เหลียงแล้วสิ ลู่ฉิวเยว่อยากจะไปดูว่าบ้านของตนเองยังอยู่ดีไหม
เธอเกิดลางสังหรณ์อัปมงคลขึ้นมาว่าแม่ลูกคู่นั้นคงไม่ยอมปล่อยบ้านของเธอไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน