สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 246 มีคนอาหารเป็นพิษในร้านอาหาร
บทที่ 246 มีคนอาหารเป็นพิษในร้านอาหาร
“โอ้ คราวนี้มีอาหารจานใหม่” ผู้จัดการหลี่มองดูอาหารจานใหม่ ที่พนักงานเสิร์ฟนำมาด้วยความประหลาดใจ หลายจานเป็นอาหารที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน ทุกคนต่างหยิบตะเกียบคีบอาหารเหล่านั้นขึ้นมาลิ้มรส ทุกอย่างรสชาติดีมาก
อาหารโบราณบางจานถูกปรับปรุง ทำให้อร่อยกว่าเดิมทั้งด้านเนื้อสัมผัสและรสชาติ
ทุกคนมองลู่ฉิวเยว่ด้วยความชื่นชม และพึงพอใจมากยิ่งขึ้น
“ถ้าเราร่วมมือกัน คุณลู่จะทำอย่างไรกับการฝึกพ่อครัวเหรอครับ?” มีคนถาม
พวกเขาชื่นชอบอาหารอร่อยที่ร้านของลู่ฉิวเยว่ และหวังว่าคุณภาพของอาหารในห้างสรรพสินค้าจะเป็นคุณภาพเดียวกัน พวกเขาคงไม่พอใจแน่ หากมีพ่อครัวที่ไม่เก่งไปประจำสาขาอื่น
ลู่ฉิวเยว่รับประกันว่า “พ่อครัวที่ได้รับการฝึกอบรมจากร้านอาหารของเรา ต้องผ่านการรับรองก่อน จึงจะสามารถส่งไปประจำสาขาอื่นได้ และหลังจากผ่านคุณสมบัติแล้ว จะต้องทำงานในร้านอาหารเป็นเวลาครึ่งปีด้วยค่ะ”
ในที่สุดทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ และเริ่มหารือเรื่องความร่วมมืออย่างเป็นทางการ
พวกเขาพูดคุยกันจนถึงห้าโมงเย็น ก่อนที่จะจากไป พวกเขานัดหมายเพื่อเซ็นสัญญา ซึ่งลู่ฉิวเยว่ก็เตรียมพร้อมสำหรับความร่วมมือแล้ว
แต่ก่อนที่จะทันได้เซ็นสัญญา ปัญหาก็เกิดขึ้นอีกครั้งในร้านอาหาร
ตอนเที่ยง ลู่ฉิวเยว่เพิ่งรับประทานอาหารกลางวันกับฉินซือเสร็จ ทันใดนั้นโทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ?” ลู่ฉิวเยว่เอื้อมมือไปรับสาย
“พี่ลู่ ท่าไม่ดีแล้วครับ มีคนรายงานร้านอาหารของเรา บอกว่าหลังจากมีคนมากินอาหารที่ร้านของเรา พวกเขาก็อาหารเป็นพิษ ตอนนี้มีนักข่าวอออยู่เต็มหน้าร้านแล้วครับ” เสี่ยวจางที่ร้านอาหารตื่นตระหนก และมีเสียงดังมาจากที่นั่นด้วย
สีหน้าลู่ฉิวเยว่กลายเป็นตึงเครียด ขณะปลอบใจเขา “ไม่ต้องตกใจ ฉันจะไปที่นั่นเดี๋ยวนี้”
หลังจากได้รับคำตอบแล้ว ลู่ฉิวเยว่ก็วางสายโทรศัพท์ ก่อนเอื้อมมือไปหยิบเสื้อคลุมบนโซฟา แล้ววิ่งออกไป
ฉินซือฟังอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงสวมเสื้อคลุมตามออกไป “ผมจะขับรถไปส่งคุณที่นั่น”
เมื่อเธอขึ้นรถ สีหน้าของลู่ฉิวเยว่ก็สงบลง เธอควบคุมร้านอาหารอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด จึงไม่น่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าเป็นความผิดของร้านอาหารจริง ๆ เธอก็ทำได้เพียงตรวจสอบให้ละเอียด และจ่ายเงินชดเชย
เมื่อพวกเขามาถึงที่นั่น ลู่ฉิวเยว่ก็เปิดประตูรถลงจากรถ ฉินซือจับมือเธอแล้วดึงกลับไป ก่อนเอื้อมมือออกไปหยิบผ้าพันคอที่เขาหยิบมาด้วยเมื่อครู่นี้ มาพันไว้รอบคอของเธอ “มันจะไม่มีปัญหาอะไร”
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า จากนั้นทั้งสองก็ลงจากรถด้วยกัน
คนจำนวนมากรวมตัวกันที่หน้าร้าน รวมถึงนักข่าวหลายคนที่พกกล้องมาด้วย เนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวาย ทุกคนในร้านอาหารจึงออกไป
“สวัสดีค่ะ ฉันคือคนดูแลร้านอาหารนี้” ลู่ฉิวเยว่เดินเข้าไปพูด
เมื่อเห็นเธอปรากฏตัว เหล่าสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยหลายคนก็ตื่นเต้น แล้วชี้หน้าด่าเธอว่า “ร้านอาหารของคุณไร้จิตสำนึกที่สุด!”
“ร้านอาหารไร้ยางอายแบบนี้ควรปิดไปซะ ต่อไปพวกคุณทุกคนต้องจับตาดูให้ดี อย่าให้คนหน้าซื่อใจคดเหล่านี้หลอกได้!” ชายวัยกลางคนพูดกับกลุ่มคนที่อยู่ข้างนอก
“ดูสิว่าลูกชายของฉันทรมานแค่ไหน เขาทั้งท้องเสียและอาเจียน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณจะรับมือได้ไหม” หญิงวัยกลางคนรีบวิ่งเข้ามา
ฉินซือยืนข้างหน้าลู่ฉิวเยว่ “ทุกคนโปรดใจเย็นก่อนครับ เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น พวกเราเองก็กังวลมากเหมือนกันครับ แต่เรายังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดเจน หากเป็นความผิดของเราจริง ๆ เราก็ต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุดครับ”
ลู่ฉิวเยว่ออกมาปลอบพวกเขา “พวกคุณไม่ต้องกังวลนะคะ เราจะแจ้งตำรวจให้มาสืบสวนเรื่องนี้ หากเป็นความผิดของเรา เราจะรับผิดชอบแน่นอนค่ะ”
นักข่าวต่างตื่นเต้นกว่าสมาชิกในครอบครัวคนป่วยอีก เมื่อเห็นพวกเขามา ก็รีบกรูกันเข้ามาสัมภาษณ์ทันที ด้วยท่าทางค่อนข้างก้าวร้าว
“ความจริงของเรื่องนี้คืออะไรก็ยังไม่ได้ตรวจสอบ ถามฉันไปก็ไม่มีประโยชน์ ปล่อยให้ตำรวจจัดการดีกว่าค่ะ” ลู่ฉิวเยว่ขมวดคิ้ว และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์
เธอได้โทรแจ้งสถานีตำรวจระหว่างทางมาที่นี่แล้ว ใกล้เวลาที่ตำรวจจะมาถึงแล้ว
ทันทีที่เธอพูดจบ ตำรวจสองคนก็เดินเข้ามา
ลู่ฉิวเยว่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดกับพวกเขา และแน่นอนว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หนึ่งในคนที่บอกว่าอาหารเป็นพิษ เดินไปมารอบร้านอาหารหลายครั้ง ด้วยท่าทางผิดปกติ ราวกับว่าเขากำลังมองหาโอกาสทำอะไรสักอย่าง
ดูเหมือนว่าเขาจงใจสร้างปัญหา
ลู่ฉิวเยว่หรี่ตาลง เธอเคยจัดการกับเรื่องแบบนี้มามากแล้ว ตอนนี้เธอจึงไม่ตื่นตระหนกเลย
“พี่ลู่” ทันใดนั้นมีคนดึงแขนเสื้อของเธอ
ลู่ฉิวเยว่หันไปถามด้วยความสงสัยว่า “มีอะไร?”
พนักงานเสิร์ฟที่ดึงแขนเสื้อของเธอชี้ไปข้างนอก “ข้างนอกมีผู้ชายคนหนึ่งต้องการพบพี่ครับ”
ลู่ฉิวเยว่มองออกไป ปรากฏว่าเป็นหลีเหนียน เธอแปลกใจเล็กน้อย เพราะช่วงนี้เธอไม่ได้ขอให้เขาไปสืบอะไร ทำไมเขาถึงมาตามหาเธอ เป็นไปได้ไหมว่าเขากำลังตามหาฉินซือ?
เธอมองฉินซือ แต่เขาส่ายหน้า
ทั้งสองออกไปด้วยกัน
เมื่อมีตำรวจอยู่รอบตัว สมาชิกในครอบครัวคนป่วยก็ไม่กล้าสร้างปัญหา และออกไปอย่างสงบ
พวกเขาเดินเลี่ยงออกมาไกล เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ลู่ฉิวเยว่จึงถามด้วยความสงสัยว่า “มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
หลีเหนียนเผยรอยยิ้มขี้เล่น แล้วพูดว่า “เดาสิว่าผมเจออะไร?”
“นายพูดมาตรง ๆ เลย เจออะไร” ฉินซือพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด แล้วเตะเขา
“นายนี่มันน่าเบื่อจริง ๆ” หลีเหนียนกลอกตามองฉินซือด้วยความหงุดหงิด แล้วหันไปมองลู่ฉิวเยว่ด้วยรอยยิ้ม “ผมค้นพบความลับของเหลียงซิงแล้ว คุณต้องการซื้อมันไหมครับ?”
ลู่ฉิวเยว่เลิกคิ้วแสดงความสนใจ
ธุรกิจของหลีเหนียนเป็นไปได้ด้วยดี ครั้งนี้เขามาทันเหตุการณ์ที่ร้านอาหารพอดี บางทีข่าวนี้อาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ด้วย สุดท้ายชายคนนั้น ‘เหลียงซิง’ ก็ล้มเหลวในการสร้างปัญหาครั้งที่แล้ว บางทีครั้งนี้อาจเป็นฝีมือของเขาด้วยก็ได้
“เท่าไหร่คะ?” ลู่ฉิวเยว่หัวเราะเบา ๆ
หลีเหนียนคลี่ยิ้ม แล้วชูสามนิ้ว “300 ครับ”
“ราคาข่าวของนายแพงขึ้นเรื่อย ๆ นะ” ฉินซือมองหน้าเขา แต่ยังคงหยิบเงิน 300 ออกมาจากกระเป๋าเงิน แล้วส่งให้เขา
หลีเหนียนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ขอบคุณครับพี่ใหญ่” ตอนนี้สายตาหงุดหงิดของเขาหายไปโดยสิ้นเชิง แล้วบอกว่า “คนมีเงินจะทำอะไรก็ได้”
เขารีบเอื้อมมือไปหยิบรูปถ่ายสองสามรูปออกมาจากกระเป๋า ซึ่งเป็นรูปถ่ายการพบปะของเหลียงซิงกับใครบางคน
คนในรูปไม่ใช่ใครอื่น นอกจากคนที่เพิ่งบอกว่าอาหารเป็นพิษ
ลู่ฉิวเยว่หยิบรูปถ่ายมาดู ก่อนจะนึกเย้ยหยัน แล้วใส่มันลงในกระเป๋าก่อนขอบคุณหลีเหนียน
หลีเหนียนหัวเราะ แล้วพูดด้วยสีหน้าประจบประแจง “พี่สะใภ้ อย่าลืมอุดหนุนธุรกิจของผมในครั้งต่อไปด้วยนะครับ”
ลู่ฉิวเยว่ตอบรับ แล้วนำรูปกลับไปที่ร้านอาหารกับฉินซือ
“พวกคุณไปไหนกันมา?” ตำรวจไม่ค่อยพอใจ ขณะนี้กำลังสืบสวนกันอยู่ เมื่อจะถามคำถามทั้งสองคน ก็เห็นว่าพวกเขาหายไปแล้ว
ลู่ฉิวเยว่ขอโทษเขา จากนั้นล้วงเข้าไปในกระเป๋าเพื่อหยิบรูปถ่ายออกมา “เมื่อกี้นี้มีคนส่งภาพถ่ายมาให้เราค่ะ”
สีหน้าของตำรวจจริงจังขึ้นทันทีที่เห็นใบหน้าคุ้นเคยในภาพถ่าย
“ชายคนนี้ชื่อเหลียงซิง ฉันเคยมีข้อขัดแย้งกับเขา ตอนที่ฉันเข้าร่วมการแข่งขันทำอาหาร ฉันสงสัยว่าเรื่องนี้เกิดจากการที่เขาใส่ร้ายฉันค่ะ” ลู่ฉิวเยว่ชี้ไปที่เหลียงซิงในภาพแล้วอธิบาย