สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 227 คู่สามีภรรยาสกุลเหอมาขโมยของ
บทที่ 227 คู่สามีภรรยาสกุลเหอมาขโมยของ
“นังเด็กนั่นเป็นตัวปัญหา!” ผู้เป็นแม่โกรธมาก “ไม่ได้การ ฉันต้องทำให้นังเด็กไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำสำนึกเสียบ้าง!”
ฝ่ายพ่อเหอก็โกรธมากขึ้น เมื่อทั้งคู่คิดได้ดังนั้น ก็ตัดสินใจบุกไปที่ร้านอาหารของลู่ฉิวเยว่ด้วยตัวเอง
แต่เมื่อทั้งสองคนมาถึงร้านอาหาร ก็ยิ่งโมโหกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าภายในร้านคึกคักมากเสียจนที่นั่งเกือบเต็ม
พวกเขาตกงาน แต่ลู่ฉิวเยว่กลับเจริญรุ่งเรือง เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร!
เมื่อเห็นทั้งสองคนยืนอยู่ที่หน้าประตูเป็นเวลานาน พนักงานเสิร์ฟก็เข้ามาทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายพี่สาว ต้องการรับเมนูอะไรดีครับ?”
“กินอะไรล่ะ! จะกินอาหารร้านพวกแกไปทำบ้าอะไร!” คุณนายเหอโมโหมากจนตวาดใส่พนักงานเสิร์ฟ แล้วจูงสามีจากไป
เธอไม่มีวันยอมให้ลู่ฉิวเยว่ได้รับเงินจากเธอแม้แต่แดงเดียว
พนักงานเสิร์ฟมองพวกเขาเดินจากไปด้วยความงุนงง แล้วกลับเข้าไปในร้าน
คนประหลาดสองคนนั้นคืออะไรกัน?
คู่สามีภรรยาสกุลเหอที่จากไปไม่ได้กลับบ้าน แต่เดินไปมารอบ ๆ ร้านอาหาร และทำเครื่องหมายด้วยก้อนหิน
พวกเขาไม่ทราบว่าลู่ฉิวเยว่เห็นทุกการกระทำของพวกตนแล้ว
กลางดึก มีเงาดำสองร่างเข้ามาใกล้กำแพงหลังร้านอาหารครอบครัวลู่
คุณนายเหอใช้ไฟฉายส่องไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ในที่สุดก็พบตำแหน่งที่ทำเครื่องหมายไว้เมื่อตอนบ่ายวันนี้ เธอดีใจและรีบโบกมือให้สามี “ตรงนี้!”
สามีรีบเดินเข้ามา ทั้งสองคนมองหน้ากัน จากนั้นก็นำกล่องไม้ผุพังมาวาง แล้วเหยียบขึ้นไปบนกำแพง
ในไม่ช้า ทั้งสองคนก็กระโดดลงมาจากกำแพง เข้าไปในสวนหลังร้านอาหาร
แต่บริเวณที่ฝ่ายสามีกระโดดลงมานั้น มีก้อนหินอยู่หลายก้อน เขาจึงรู้สึกเหมือนก้นของตัวเองแทบจะหัก เพราะหินเหล่านี้ มันเจ็บปวดมากเสียจนเขาร้องไม่ออก
ส่วนภรรยาก็สะดุ้ง แล้วรีบฉุดเขาลุกขึ้นอย่างแรง จากนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปในร้านอาหารท่ามกลางความมืดมิด
ผ่านไปสักพักก็พบเคาน์เตอร์ในที่สุด ฝ่ายสามีเม้มปาก ขณะที่หยิบค้อนขนาดเล็กซึ่งเตรียมมาออกจากถุงผ้า และกำลังจะทุบลงไป ทันใดนั้น เสียงผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังมาจากด้านหลังในความมืด “พวกคุณกำลังทำอะไรกัน?”
ทั้งสองคนตกใจจนแทบสิ้นสติ
ทันใดนั้น ตำรวจก็ปรี่ตรงมาในความมืด แสงไฟสว่างวาบเมื่อคนเปิดสวิตช์ และเมื่อเห็นตำรวจอยู่เบื้องหน้า สามีภรรยาสกุลเหอยิ่งตระหนกกว่าเดิม
การลักเล็กขโมยน้อยในยุคนี้มีกฎบังคับอย่างเข้มงวด หากบรรดาเพื่อนบ้านหรือบุคคลใกล้ชิดพบเห็น คนคนนั้นย่อมได้รับโทษและถูกดูแคลนตลอดชีวิต
ตำรวจมองด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณสองคนมาทำอะไรที่นี่ตอนกลางดึก ขโมยของเหรอ?” พูดจบ เขาก็หยิบกุญแจมือออกมาจากกระเป๋า
“เปล่าครับ พวกเราไม่ได้ขโมยอะไรนะครับ ผมลืมของไว้ที่นี่ตอนมากินข้าวกลางวัน” ผู้เป็นสามีเหงื่อเย็นเต็มหน้าผาก
ทางภรรยารีบกล่าวเสริม “ใช่ค่ะ วันนี้เราทำของหายที่นี่ เป็นของที่มีค่ามาก จึงเกรงว่าถ้าเจ้าของร้านรู้ จะไม่ยอมคืนให้เรา เลยมาตามหากันเองค่ะ”
ตำรวจไม่พบหลักฐานอะไร แล้วจะเชื่อคำโกหกที่ไม่แนบเนียนแบบนี้ได้อย่างไร จึงใส่กุญแจมือพวกเขา แล้วพูดว่า “ถ้ามีอะไรจะพูด ก็ไปอธิบายที่โรงพักเถอะครับ”
คุณนายเหอไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เมื่อถูกใส่กุญแจมือ เธอก็แทบจะเป็นลม
ทันใดนั้นเธอก็เห็นลู่ฉิวเยว่ยืนอยู่ข้าง ๆ จึงน้ำตาไหลอาบหน้า แล้วเริ่มอ้อนวอนเธอ “สาวน้อย เราผิดไปแล้ว ขอโทษจริง ๆ ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ”
“ใช่ ดูสิว่าคนตรงหน้าแก่เกินกว่าจะติดคุกแล้ว และวันนี้เราก็ไม่ได้ขโมยอะไรใช่ไหม?” ผู้เป็นสามีก็ขอร้องลู่ฉิวเยว่ด้วย
ลู่ฉิวเยว่ยืนกอดอก ราวกับกำลังรับชมละคร
จู่ ๆ เหอคุนเฟิ่งก็บุกเข้ามาจากด้านนอกในเวลานี้ เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เธอก็รู้สึกปวดหัวปรี๊ด
เธอเพิ่งตื่นตอนกลางคืน และพบว่าพ่อแม่ของเธอไม่อยู่บ้าน เมื่อนึกได้ว่าพวกเขาวางแผนจะไปที่ร้านอาหารของลู่ฉิวเยว่ในบ่ายวันนี้ เธอไม่เข้าใจว่าแผนการของพวกเขาคืออะไร จึงรีบตามมาดู แต่คาดไม่ถึงว่าจะช้าไป
เธอมองหน้าตำรวจสองสามคน พ่อแม่ของเธอ จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของลู่ฉิวเยว่ หญิงสาวเดินเข้าไปหาด้วยความรู้สึกผิด จนไม่ต้องการแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “ฉิวเยว่ เธอปล่อยพ่อแม่ของฉันไปได้ไหม? ฉันสัญญาว่าจะไม่มีครั้งต่อไปอีก”
ขณะที่พูด เธอยังรู้สึกละอายใจ
แต่ลู่ฉิวเยว่ขมวดคิ้วมองเธอ ก่อนหันไปวิจารณ์คู่สามีภรรยาสกุลเหอ “ดูสิ พวกคุณทุบตีดุด่าเธอทุกวัน แถมยังจะขายตัวเธอด้วยซ้ำ แต่เธอกลับกำลังขอร้องเพื่อช่วยพวกคุณ มีลูกสาวแสนดีขนาดนี้ ทำไมพวกคุณถึงกล้ารังแกเธออีก!”
“ต่อไปพวกเราจะทำดีกับเธอ” คุณพ่อเหอทำหน้ารู้สึกผิด แต่ในใจกลับไม่ยินยอม ถ้าไม่ใช่เพราะเด็กคนนี้ไม่ยอมแต่งงานกับลูกชายของผู้บังคับบัญชา เรื่องทุกอย่างก็คงจะไม่เกิดขึ้น
คุณนายเหอคิดว่าเหอคุนเฟิ่งร่วมมือกับลู่ฉิวเยว่ ไม่อย่างนั้นแผนในการสอนบทเรียนแก่ลู่ฉิวเยว่คงไม่รู้ถึงหูคนอื่นหรอก
ไม่ว่าในใจของทั้งคู่จะเดือดดาลแค่ไหน ก็ไม่กล้าแสดงความไม่พอใจต่อหน้าลู่ฉิวเยว่ตอนนี้
ลู่ฉิวเยว่ยืนกอดอก “วันนี้ฉันจะปล่อยพวกคุณไปก็ได้ ถ้าพวกคุณต้องการ แต่ต้องทำสัญญากับฉันว่าพวกคุณจะตัดความสัมพันธ์กับเหอคุนเฟิ่ง และจะไม่ครอบงำความคิดของเธออีก”
เมื่อคุณนายเหอได้ยินดังนั้น ก็ไม่พอใจอย่างมาก เธอเลี้ยงดูเหอคุนเฟิ่งมาตั้งหลายปี และหวังให้เธอแต่งงานกับคนอื่นเพื่อแลกกับเงินสินสอด หากยอมตัดความสัมพันธ์ เธอก็ไม่ต่างกับตะกร้าไม้ไผ่ตักน้ำไม่ใช่เหรอ?
“ลู่ฉิวเยว่ ทำไมเธอชั่วร้ายขนาดนี้ จะมายุ่งกับครอบครัวของคนอื่นได้ยังไง?”
คุณพ่อเหอพยักหน้า “ใช่ พวกเราเลี้ยงดูเธอมาตั้งหลายปี แม้จะไม่ได้ให้กำเนิดเธอก็ตาม แล้วจะมาให้ตัดความสัมพันธ์ได้ยังไง?”
ลู่ฉิวเยว่ยิ้มเยาะ ก่อนจะหันไปพูดกับตำรวจว่า “ถ้าอย่างนั้น คุณตำรวจช่วยพาพวกเขาออกไปด้วยค่ะ”
ตำรวจหลายคนรีบรุดไปข้างหน้า พวกเขาไม่ชอบคู่สามีภรรยาที่ขายลูกสาวของตัวเองอยู่แล้ว
คู่สามีภรรยาสกุลเหอผงะ และรีบไปซ่อนตัวอยู่หลังเคาน์เตอร์ เมื่อเห็นว่าพวกตนกำลังจะถูกจับกุม คุณพ่อเหอก็กล่าวทั้งที่กัดฟันว่า “ตัดก็ตัด!”
ลู่ฉิวเยว่ยกยิ้ม ยิ่งปล่อยเวลานานขึ้น อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก เธอรีบหยิบปากกาและกระดาษจากเคาน์เตอร์ แล้วพูดว่า “มาเขียนจดหมายยกเลิกการรับบุตรบุญธรรมตอนนี้เลยค่ะ เนื่องจากมีตำรวจหลายคนอยู่ที่นี่ พวกเขาสามารถเป็นพยานได้”
ตำรวจช่วยปลดกุญแจมือ
เดิมทีคุณพ่อเหออยากจะบอกว่าขอเป็นวันหลัง แล้วค่อยหาทางกลับคำ แต่ลู่ฉิวเยว่กลับใช้วิธีนี้ในตอนนี้ เขาจึงจำใจต้องเขียน
คุณนายเหอที่อยู่ด้านข้างจ้องเหอคุนเฟิ่งด้วยสายตาดุร้าย แต่เมื่อสบสายตาเย็นชาของลู่ฉิวเยว่ เธอจึงต้องเซ็นชื่อบนกระดาษอย่างไม่เต็มใจ
“ซื่อสัตย์ตั้งแต่แรกก็จบแล้ว” ลู่ฉิวเยว่เอื้อมมือไปหยิบมาดู ก่อนจะมอบให้เหอคุนเฟิ่ง
คู่สามีภรรยาสกุลเหอไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป หลังจากเขียนเสร็จ ก็เดินออกไปข้างนอกทันทีด้วยสีหน้าโกรธจัด
ลู่ฉิวเยว่มองอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็มองไปทางอื่น
“ฉิวเยว่ ครั้งนี้ขอบคุณมากนะ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะหลุดพ้นได้ยังไง” ใบหน้าของเหอคุนเฟิ่งเต็มไปด้วยความขอบคุณ เธอโค้งคำนับลู่ฉิวเยว่ด้วยใจจริง