สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 189 วิธีแก้ปัญหาของลู่ฉิวเยว่
บทที่ 189 วิธีแก้ปัญหาของลู่ฉิวเยว่
ลู่ฉิวเยว่ยืนมองท้องฟ้ายามราตรีอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน ตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว ดวงดาราเต็มฟ้า เป็นภาพที่งดงามเหมือนความฝัน เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ฉินซือจะจัดการปัญหาในเมืองหลวงเสร็จสิ้นแล้วหรือยัง
เมื่อเห็นน้องชายกลับมาบ้าน เธอก็โบกมือเรียกเขา “ได้ข่าวอะไรมาบ้างไหม?”
หวังเซวียนเซวียนรีบเดินเข้ามาหา ลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เธอ และบอกเล่าข้อมูลที่ตัวเองค้นพบมาอย่างชัดเจน
ลูกชายของหลี่เฉียงมีนามว่าหลี่ห่าวเป็นคนงานในฝ่ายเทคนิค บรรจุเข้าทำงานมาหลายปีแล้ว นอกจากทำงานให้โรงงาน เขาก็ยังช่วยมารดาดูแลร้านผักดองอีกด้วย
และร้านผักดองก็ดูเหมือนจะเจริญเติบโตเป็นอย่างดี
ลู่ฉิวเยว่ยกมือถูคางอย่างใช้ความคิด ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับ “นายได้ไปดูร้านขายผักดองของเขาหรือเปล่า?”
หวังเซวียนเซวียนจิบน้ำชาและพยักหน้า “ผมไปดูมาแล้วครับ มันอยู่ทางถนนฝั่งตะวันออก เป็นร้านที่ห้าบนถนนแถบนั้น”
ลู่ฉิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นสูง นึกแผนการขึ้นมาได้ในทันที
“ร้านของพวกเขามีโทรศัพท์ไหม?”
หวังเซวียนเซวียนนึกทบทวนความจำอย่างระมัดระวัง “น่าจะมีนะครับ”
ถ้าอย่างนั้นก็ง่ายเลย ลู่ฉิวเยว่หัวเราะในลำคอเล็กน้อย “เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จัดการให้ ว่าแต่วันพรุ่งนี้นายไม่ต้องไปโรงงานใช่ไหม?”
หวังเซวียนเซวียนส่ายหน้า “ผมได้อยู่บ้านอีกหลายวันเลยครับ”
“ดีมาก เดี๋ยวพี่จะไปร้านขายผักดองของพวกเขา แล้วพี่จะโทรมาหา นายคอยรับโทรศัพท์ให้ดีก็แล้วกัน” ลู่ฉิวเยว่พูด
หวังเซวียนเซวียนตอบตกลงโดยไม่ถามอะไรเพิ่มเติมอีก พี่สาวของเขาคนนี้มีความฉลาดเฉลียว เขาเชื่อมั่นว่าเธอย่อมแก้ไขปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี
ลู่ฉิวเยว่โบกไม้โบกมือและเดินกลับเข้าไปล้างมือ
…
เช้าวันต่อมา ลู่ฉิวเยว่พกซาลาเปาติดตัวไปด้วยสองลูก เธอรับประทานพวกมันระหว่างที่เดินไปยังร้านขายผักดองของตระกูลหลี่
หลี่ห่าวกำลังยืนจัดของอยู่ในร้านและช่วยแม่เก็บเงิน ดูท่าทางเขาก็เอาการเอางานพอสมควร แม่ของเขายุ่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ สองแม่ลูกช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็ง
ลู่ฉิวเยว่กลืนซาลาเปาคำสุดท้ายลงคอ ก่อนจะปัดมือ และเดินเข้าไปภายในร้านอย่างไม่รีบร้อน เธอยิ้มออกมาด้วยความเขินอาย ก่อนจะถามผู้หญิงที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ว่า “พี่สาว ฉันขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมคะ?”
ผู้หญิงคนนั้นขมวดคิ้ว มองลู่ฉิวเยว่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความไม่ไว้ใจ
ลู่ฉิวเยว่รีบนับเงินออกมาจากกระเป๋าห้าสิบเหมา “ฉันขอคุยแค่สามนาทีเท่านั้น ไม่นานหรอกค่ะ”
“ก็ได้” ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองที่เงินห้าสิบเหมา ก่อนจะเอื้อมมือมารับไป “โทรศัพท์ในบ้านฉันเป็นของดีราคาแพง ระวังหน่อยล่ะ ถ้าเธอทำมันพัง เธอจะต้องจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด!”
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
เมื่อมีลูกค้าเข้ามาในร้าน หญิงผู้นั้นก็ไม่ได้สนใจลู่ฉิวเยว่อีก เธอรีบหันไปต้อนรับลูกค้าคนใหม่ทันที
ลู่ฉิวเยว่จัดการโทรกลับไปที่บ้านของเธอ ซึ่งหวังเซวียนเซวียนก็มารับสายอย่างรวดเร็ว
“สวัสดีค่ะ? คุณเฉินเหรอคะ?” ลู่ฉิวเยว่หันมองรอบตัว ยกมือป้องกระบอกโทรศัพท์และกระซิบว่า “ช่างเทคนิคคนที่เราต้องการตัวไปปักกิ่งเมื่อครั้งที่แล้วปฏิเสธค่ะ”
หวังเซวียนเซวียนหยุดชะงักไปทันทีและตอบกลับมาอย่างสมบทบาท “ถ้าอย่างนั้นผมควรทำยังไงดี? ผมอยากได้ตัวคน ๆ นี้นะ”
ลู่ฉิวเยว่มีสีหน้าเศร้าสลด “เสียใจด้วยนะคะคุณเฉิน ฉันทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันหาคนอื่นให้แทนดีไหมคะ โรงไฟฟ้าเฉิงซิงค่อนข้างดังในเมืองของเรา คงหาคนได้ไม่ยากหรอกค่ะ”
แม่ของหลี่ห่าวมีหูที่ไว เมื่อเธอได้ยินคำว่า ‘โรงไฟฟ้าเฉิงซิง’ เธอก็หันมามองลูกชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ และบอกให้เขาช่วยบรรจุผักดองต่อไป ในขณะที่ตนเองแกล้งทำเป็นเดินมาจัดของใกล้ ๆ กับลู่ฉิวเยว่
ปีที่แล้ว เธอกับสามีวางแผนจะให้ลูกชายได้เข้าไปทำงานในเมืองหลวง แต่เจ้าลูกชายตัวแสบกลับขาดทักษะที่ทางโรงงานต้องการ พวกเขาจึงไม่อนุมัติการย้ายตัว
ในเวลาเดียวกันนี้ เธอก็ได้ยินมาว่าโควต้าพนักงานที่จะได้รับการย้ายตัวไปทำงานในเมืองหลวงนั้นตกเป็นของน้องชายแฟนเจ้าของโรงงาน แม่ของหลี่ห่าวจึงไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงสามีเธอจะขัดขวางการย้ายโรงงานของหวังเซวียนเซวียนได้สำเร็จ แต่ตำแหน่งงานก็ยังไม่ได้ตกเป็นของลูกชายเธออยู่ดี
ยิ่งแม่ของหลี่ห่าวคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกขัดใจมากเท่านั้น หลี่เฉียงสามีของเธอช่างไม่ได้เรื่องเสียเลย! แม้แต่เรื่องนี้ก็ทำให้สำเร็จไม่ได้!
ลู่ฉิวเยว่เห็นเธอแกล้งเข้ามาจัดของอยู่ใกล้ ๆ ก็รีบพูดเสียงเบามากกว่าเดิม “คุณเฉินไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันมีตัวเลือกใหม่แล้ว ครั้งนี้ฉันจะจัดการให้ดี ฉันจะไม่ทำให้คุณมีปัญหาอีก เดี๋ยวเมื่อถึงเวลานัด เซี่ยจินกับฉันก็จะไปถึงไม่เกินหกโมงเย็นค่ะ…”
หลังจากนั้น ลู่ฉิวเยว่ก็วางสายโทรศัพท์ เธอยกมือถูจมูกด้วยความเขินอาย พูดกับแม่ของหลี่ห่าวว่า “ขอโทษทีนะพี่สาว ฉันโทรเกินกำหนดไปสองนาที เดี๋ยวฉันให้เงินเพิ่มอีกห้าสิบเหมานะคะ?” เธอพูดพร้อมกับนำเงินออกมาจากกระเป๋า
“ไม่ต้องให้เงินเพิ่มหรอกจ่ะ” แม่ของหลี่ห่าวรีบยิ้มอ่อนโยน เหมือนเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิง
“ขอบคุณมากนะคะ” ลู่ฉิวเยว่แอบยิ้มออกมา ปลางับเหยื่อแล้ว
หญิงเจ้าของร้านรีบเดินเข้ามากระซิบ “เมื่อสักครู่นี้ คุณพูดถึงช่างเทคนิคอะไรเหรอ?”
ดวงตาของลู่ฉิวเยว่มีความกังวล “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไรค่ะ” เธอรีบหมุนตัวและจะเดินออกจากร้านทันที
“ฉันได้ยินที่คุณพูดหมดแล้ว ไม่ต้องมาโกหกเลยนะ!” แม่ของหลี่ห่าวพูดเสียงเข้มและลากเธอเข้าไปในห้องด้านใน
ลู่ฉิวเยว่ไม่สามารถขัดขืนได้จึงต้องตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้อง และจ้องมองอย่างช่วยไม่ได้ “พี่สาวได้ยินผิดแล้วค่ะ” เธอพยายามสะบัดมือแม่ของหลี่ห่าวออกไป
แม่ของหลี่ห่าวกัดฟันกรอด รีบปิดประตูและกดล็อก “เมื่อกี้คุณพูดถึงช่างเทคนิคอะไร? คุณต้องการตัวช่างเทคนิคไปทำงานในโรงงานใช่ไหม?”
เมื่อเห็นว่าลู่ฉิวเยว่พยายามจะหมุนลูกบิดประตู หญิงเจ้าของร้านก็พูดอย่างรวดเร็วว่า “ไม่ต้องห่วง ลูกชายฉันเป็นช่างเทคนิคอยู่ในโรงงานเหมือนกัน ฉันแค่อยากถามคุณว่าคุณจะขายตำแหน่งงานนั้นให้ฉันได้ไหม?”
“งั้นก็รีบพูดสิคะ ทำฉันตกใจกลัวแทบตาย เรื่องนี้คุยกันง่ายมากค่ะ” ลู่ฉิวเยว่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ไม่ได้รีบร้อนที่จะเดินออกไปอีกแล้ว เธอรีบหาเก้าอี้มานั่งลงอย่างรวดเร็ว
แม่ของหลี่ห่าวเดินเข้ามาถามอีกหลายอย่างด้วยรอยยิ้ม
ลู่ฉิวเยว่ตอบกลับไปอย่างระมัดระวัง ไม่มีพิรุธเลยแม้แต่น้อย
“ตำแหน่งงานนี้จะต้องเข้าไปทำงานที่เมืองหลวงค่ะ เงินเดือนสูงมาก ถ้าคุณอยากได้ ฉันขอเงินเท่านี้ก็แล้วกัน” ลู่ฉิวเยว่ยิ้มและชูนิ้วขึ้นมาสามนิ้ว
แม่ของหลี่ห่าวกลืนน้ำลาย ถามด้วยความไม่แน่ใจ “สามร้อยหยวน?”
ลู่ฉิวเยว่กลอกตา “พี่สาว คุณพูดเล่นหรือเปล่า? นี่มันตำแหน่งหัวหน้าช่างเทคนิคเชียวนะ จะสามร้อยได้ยังไง มันต้องสามพันหยวนสิ!”
แม่ของหลี่ห่าวทำหน้าฉงน เงินสามพันหยวนไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย สามารถซื้อบ้านดี ๆ ในตัวเมืองอยู่ได้เลยด้วยซ้ำ
“สามพันหยวนแพงเกินไป ขอสักสองพันได้ไหม?”
ลู่ฉิวเยว่ส่ายหน้าด้วยความหนักแน่น “สามพันก็คือสามพันค่ะ พวกเราหาคนมาทำงานนานแล้ว ฉันไม่ใช่คนที่กำหนดราคาสักหน่อย ถ้าคุณยอมรับราคานี้ได้ ฉันก็จะยอมขายตำแหน่งงานให้คุณ แต่ถ้าจ่ายไม่ไหวก็ลืมไปเถอะค่ะ ยังไงฉันก็มีลูกค้าคนอื่นอยู่แล้ว”
แม่ของหลี่ห่าวได้ยินเช่นนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าหญิงสาวคนนี้พูดคุยกับคนปลายสายเมื่อสักครู่ว่าเธอมีคนที่ต้องการอยู่ในใจเรียบร้อยแล้ว
“เธอไปเอาตำแหน่งงานมาจากไหน?” นี่เป็นเงินก้อนใหญ่ แม่ของหลี่ห่าวถามด้วยความวิตกกังวล ถ้าเกิดผู้หญิงคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นขึ้นมาจะทำยังไง?
ลู่ฉิวเยว่ยกมือตบหน้าอกรับประกันด้วยความมั่นใจ “พี่สาวไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ตำแหน่งงานนี้เป็นของจริงแท้แน่นอนค่ะ”
เธอโน้มตัวเข้ามากระซิบ “ฉันเคยหาคนทำงานตำแหน่งอื่นมาแล้วมากมาย ฉันอยู่ในวงการนี้มาได้สองปีแล้ว ภาพลักษณ์ฉันค่อนข้างดี ถ้าพี่สาวไม่เชื่อ ลองถามคนที่ย้ายที่ทำงานเมื่อปีที่แล้วดูก็ได้”
ลู่ฉิวเยว่แอบหัวเราะเยาะอยู่ในใจ เธอไม่เชื่อหรอกว่าคนตระกูลหลี่จะกล้าไปถามใครเรื่องนี้จริง ๆ
เป็นไปตามคาด แม่ของหลี่ห่าวเริ่มคล้อยตาม สีหน้าของเธอมีความผ่อนคลายมากขึ้น