สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 177 ร้านขายยาโด่งดัง
บทที่ 177 ร้านขายยาโด่งดัง
ลู่ฉิวเยว่ได้รายชื่อยาสมุนไพรที่ตนเองต้องการเรียบร้อยแล้ว
วันต่อมา เธอก็จัดการไปซื้อหาสมุนไพรตามรายชื่อที่จดเอาไว้ และอีกไม่กี่วันต่อมา เธอก็สั่งให้ถังเยว่มาทำงานในร้านขายยาได้ทันที
สมุนไพรที่เป็นยาบำรุงหลากหลายชนิดจะถูกจำหน่ายด้วยการห่อใส่กระดาษแก้ว หลายชนิดเป็นยาจีนที่ผู้คนมักจะซื้อไปใส่ทำอาหาร ลู่ฉิวเยว่จึงไม่ต้องกลัวเลยว่าจะขายไม่ได้
“คุณลู่ครับ เท่านี้ก็น่าจะพอแล้วใช่ไหมครับ?” ถังเยว่นั่งห่อตังกุยใส่ตะกร้าไม้ไผ่ที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ได้จำนวนหนึ่งก็หันมาถามลู่ฉิวเยว่
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้า “น่าจะพอแล้วค่ะ” หลังจากพูดจบ เธอก็เดินออกไปจากร้าน ในใจกำลังวางแผนว่าร้านของเธอสมควรหาสมุนไพรอีกหลายชนิดมาเพิ่มเติมสักหน่อย เพื่อที่ผู้คนจะได้มาซื้อหาสมุนไพรได้หลากหลายมากขึ้น
ในบ่ายวันนั้น ลู่ฉิวเยว่ออกไปซื้อสมุนไพรมาเพิ่มเติมให้แก่ร้านของตนเอง แต่หญิงสาวก็ต้องเกิดความเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย ปรากฏว่าสมุนไพรหลายชนิดที่เธอต้องการซื้อหามาเพิ่มเติมนั้นมีราคาแพงมาก ร้านขายยาของเธอเพิ่งเปิดใหม่ หญิงสาวไม่อยากจะทุ่มเงินมากเกินไปเพราะมันเสี่ยงที่เธอจะขาดทุนได้ง่าย ๆ
แต่ช่างมันเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ลู่ฉิวเยว่กัดฟันและซื้อสมุนไพรราคาแพงเหล่านั้นมาในที่สุด
เมื่อร้านขายยาของเธอเปิดให้บริการ บรรดาผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นลูกค้าประจำของเธอก็แวะเวียนมาอุดหนุนไม่ขาดสาย หลังจากที่ได้ยินว่าลู่ฉิวเยว่ย้ายร้านมาเปิดใหม่
“โอ๊ะ เพิ่มสมุนไพรมาอีกหลายอย่างเลยนี่นา” หญิงชราที่เคยช่วยไล่เทศกิจให้ลู่ฉิวเยว่อดอุทานออกมาไม่ได้เมื่อเดินเข้ามาสำรวจภายในร้านขายยา
เมื่อลู่ฉิวเยว่เห็นหน้าหญิงชรา เธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ขอบคุณที่มาช่วยอุดหนุนนะคะ ป้าหลี่”
หลังจากพูดจบแล้ว หญิงสาวก็เดินกลับเข้าทางหลังร้าน ก่อนจะเดินกลับออกมาพร้อมกระปุกยาจำนวนหนึ่ง “นี่คือสมุนไพรเม็ดบำรุงร่างกายที่ร้านของฉันทำมาขายใหม่ค่ะ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุมาก คุณป้าลองนำกลับไปกินที่บ้านดูนะคะ”
ลู่ฉิวเยว่ทำสมุนไพรบรรจุแคปซูลเหล่านี้ขึ้นมาตามสัดส่วนที่ทางการอนุญาตในยุคนี้ องค์ประกอบแต่ละอย่างปลอดภัยสำหรับการรับประทานและยังให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย
หญิงชรายิ้มกว้างด้วยความดีใจ พร้อมกับรับกระปุกยาเอาไว้แต่โดยดี “ขอบคุณมากนะ ฉิวเยว่”
“นอกจากนี้ฉันยังมียาสำหรับแก้ปวดท้อง แก้ปวดหัว และยาอีกหลายชนิดเลยค่ะ คุณป้าช่วยไปกระจายข่าวบอกเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ” ลู่ฉิวเยว่ไอออกมาเบา ๆ รู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย
หญิงชรารับคำด้วยความแจ่มใส “แน่นอนอยู่แล้ว ฉันบอกได้เลยว่าคนเฒ่าคนแก่ทุกคนชื่นชอบร้านขายยาของเธอมาก”
อาจเป็นเพราะว่าหญิงชรามีความสามารถในการประชาสัมพันธ์ดีเยี่ยม กอปรกับลู่ฉิวเยว่มีฐานลูกค้าอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง และยาที่จำหน่ายอยู่ในร้านของเธอก็ให้ผลการรักษาที่ดีเยี่ยม เพียงไม่นาน ร้านขายยาของเธอก็มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ บางคนถึงกับยอมเดินทางไกลมาซื้อยาแค่ไม่กี่กระปุกด้วยซ้ำ…
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลู่ฉิวเยว่ก็กระตือรือร้นที่จะลองทำยาอีกหลายชนิดออกมาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นยาแก้ไอ ยาแก้เจ็บคอ และยาแก้โรคภูมิแพ้
ถังเยว่ยิ่งรู้สึกชื่นชมเธอมากกว่าเดิม ตอนแรกเขานึกว่าตนเองจะได้มาทำงานอยู่ในร้านขายยาเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ชายหนุ่มคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ ลู่ฉิวเยว่มีความรู้เรื่องสมุนไพรเป็นเลิศ และกลายเป็นเขาเองที่ต้องเรียนรู้จากเธออีกมาก
“พักสักหน่อยแล้วไปหาอะไรกินที่ร้านอาหารกันเถอะค่ะ” เมื่อเห็นว่าตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงตรงแล้ว ลู่ฉิวเยว่จึงเดินมาตามถังเยว่
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณหมอหนุ่มทำงานได้เป็นอย่างดี เขารอบคอบและระมัดระวัง ลู่ฉิวเยว่พอใจในการทำงานของเขาเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีปัญหาอะไรในช่วงหลัง เธอก็คิดว่าจะแต่งตั้งเขาเป็นคุณหมอประจำร้านอย่างถาวร
ถังเยว่รีบเก็บของอย่างรวดเร็ว เมื่อปิดประตูร้านเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินไปที่ร้านอาหารพร้อมกับลู่ฉิวเยว่
เดิมทีคุณหมอหนุ่มจะนำอาหารกลางวันใส่กล่องมารับประทานคนเดียวอยู่หลังเคาน์เตอร์ แต่ต่อมา ลู่ฉิวเยว่ก็บอกว่าเขาควรไปรับประทานอาหารกับคนอื่น ๆ ที่ร้านของเธอ เพราะยิ่งมีคนเยอะมากเท่าไหร่ บรรยากาศก็ยิ่งสดใสมากเท่านั้น
ถังเยว่เดินตามหญิงสาวไปติด ๆ ในหัวใจรู้สึกตื้นตันใจเป็นอย่างมาก
ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารกลางวันด้วยกันนั้น ทั้งสองคนก็พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาร้านขายยา
ถังเยว่คิดอะไรบางอย่างอยู่เล็กน้อย สุดท้ายก็พูดออกมาด้วยความลังเลใจ “คุณลู่ ผมว่าเราลองเปลี่ยนรูปแบบการประชาสัมพันธ์ร้านดูหน่อยดีไหมครับ?”
“หมายความว่ายังไงคะ?” ลู่ฉิวเยว่วางตะเกียบในมือลงและนั่งหลังตรงทันที
“ตอนนี้การประชาสัมพันธ์ร้านของเราจะเป็นแบบลูกค้าบอกกันปากต่อปาก แต่ผมรู้สึกว่ามันยังช้าเกินไปอยู่ดี” เมื่อพูดถึงเรื่องการพัฒนาร้านขายยา ถังเยว่ก็มีสีหน้าขึงขังขึ้นมาในทันใด “ผมว่าเราน่าจะลงโฆษณาบ้างดีไหมครับ?”
ดวงตาของลู่ฉิวเยว่เป็นประกาย “หมายความว่า…เราควรแจกใบปลิวหรือลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ใช่ไหมคะ?” นี่เป็นวิธีการที่ดีไม่น้อยเลย
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ลู่ฉิวเยว่ก็เขียนใบปลิวด้วยมือของตัวเอง การเขียนใบปลิวไม่มีอะไรซับซ้อน เธอแค่เขียนชื่อร้านของตนเองเป็นตัวบรรจงอยู่กลางหน้ากระดาษ แล้วก็เขียนรายชื่อยาที่มีจำหน่ายเพียงในร้านของเธอเท่านั้นลงไปด้วยจำนวนหนึ่ง
เมื่อนำใบปลิวไปพิมพ์ทำสำเนา พวกเขาก็ไม่สามารถนำไปแจกได้ด้วยตัวเอง เพราะต่างคนต่างก็มีงานทำ ลู่ฉิวเยว่จึงว่าจ้างคนกลุ่มหนึ่งให้คอยช่วยเดินแจกใบปลิวบริเวณถนนด้านนอก
ในยุคสมัยนี้ ไม่ค่อยมีใครประชาสัมพันธ์ด้วยวิธีนี้สักเท่าไหร่ ผู้คนจึงเกิดความสนใจขึ้นมาทันที และข้อความที่อยู่บนใบปลิวก็น่าสนใจมาก เกือบทุกคนที่ได้รับใบปลิวก็จะกลายเป็นลูกค้าใหม่ในร้านของลู่ฉิวเยว่ กิจการร้านขายยาของเธอจึงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อยอดขายในร้านขายยาดีขึ้นเรื่อย ๆ ลู่ฉิวเยว่อดยิ้มออกมาอย่างมีความสุขไม่ได้ และเธอก็ต้องมาช่วยบรรจุสมุนไพรใส่ห่อให้แก่ลูกค้าในทุก ๆ วัน
ตอนแรกหวังเซวียนเซวียนก็มาช่วยงานที่ร้านขายยาเช่นกัน แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มต้องค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับเครื่องจักรกลครั้งสำคัญ เธอจึงสั่งไม่ให้เขามาช่วยงานที่ร้านขายยาอีกแล้ว และเขาก็ไม่ต้องทำงานในร้านอาหารอีกเช่นกัน เพราะเธออยากจะให้เขาไปศึกษาตำราอย่างจริงจังอยู่ที่บ้านพัก
“พี่ครับ อย่างน้อยก็ให้ผมอยู่เฝ้าร้านอาหารเถอะ” หวังเซวียนเซวียนพูดด้วยความหมดหวัง เมื่อเห็นลู่ฉิวเยว่ขนย้ายข้าวของของตนเองออกมาจากห้องนอนในร้านอาหาร
ลู่ฉิวเยว่โบกมือปฏิเสธ เธอเดินหิ้วกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ออกมาจากห้องของเขา “นายไม่ต้องเป็นห่วง กลับไปท่องตำราอยู่ที่บ้านนั่นแหละดีแล้ว ทำคะแนนได้อันดับดี ๆ เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาอยู่ที่ร้านก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นว่าไม่สามารถคัดค้านพี่สาวได้ หวังเซวียนเซวียนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมตกลงและรับคำด้วยความมุ่งมั่นว่า “ได้เลยครับ ผมจะตั้งใจให้เต็มที่!”
…
ณ บ้านตระกูลฉิน ฉินเซียวพาสามีของเธอกลับมาที่บ้านอีกครั้ง
“แม่คะ หนูกลับมาเยี่ยมแล้วค่ะ” เมื่อฉินเซียวเดินเข้ามาในประตูบ้าน เธอก็นั่งลงบนโซฟาและกอดแขนผู้เป็นแม่ด้วยความรักใคร่
“แน่ใจนะว่ากลับมาเยี่ยมแม่จริง ๆ?” คนเป็นแม่ถามด้วยความสงสัย หลังจากถูกดุไปเมื่อครั้งที่แล้ว ลูกสาวของเธอก็ไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมบ้านอีกเลย แต่ถึงอย่างไรฉินเซียวก็เป็นลูกสาวของเธอ คุณแม่ฉินจึงสั่งให้ป้าแม่บ้านทำอาหารจานโปรดให้หญิงสาวโดยทันที
“แน่ใจสิคะ” ฉินเซียวยิ้มอย่างอ่อนโยน
คุณแม่ฉินหลงเชื่อหมดหัวใจ แต่เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น คำพูดของฉินเซียวก็ทำให้สีหน้าของเธอต้องเปลี่ยนไป
“แม่ช่วยขอสูตรทำแผ่นแปะแก้ปวดของลู่ฉิวเยว่ให้หนูหน่อยได้ไหมคะ?” เจ้านายของสามีเธอชื่นชอบแผ่นแปะแก้ปวดของลู่ฉิวเยว่เป็นอย่างยิ่ง ชื่นชอบมากกว่าขี้ผึ้งที่เคยใช้งานในอดีตเสียอีก ฉินเซียวจึงหวังว่าจะใช้สูตรทำแผ่นแปะแก้ปวดนี้เป็นขั้นบันไดในการช่วยให้สามีได้เลื่อนตำแหน่ง
คุณแม่ฉินไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะยังคงเป็นคนเห็นแก่ผลประโยชน์ขนาดนี้ เธอจึงมองหน้าด้วยสายตาเย็นชา “ฉินเซียว นี่แกไม่ได้เรียนรู้อะไรจริง ๆ เลยสินะ! แม่จะบอกอะไรให้แล้วกัน ไม่มีทางเด็ดขาด นี่เป็นสูตรลับประจำครอบครัวของฉิวเยว่ เลิกคิดถึงเรื่องนี้ได้แล้ว ไม่งั้นแม่จะตีแกให้ตาย!”
เมื่อคุณพ่อฉินได้ยินคำพูดของลูกสาว เขาก็โยนหนังสือพิมพ์ในมือทิ้งไปและพูดด้วยความเดือดดาลใจว่า “ฉินเซียว ทำไมแกถึงได้มีจิตใจสกปรกแบบนี้ หน้าไม่อายที่สุด! ไสหัวไปเลยนะ! ออกไปจากที่นี่ซะ! ตระกูลฉินของเราไม่มีลูกสาวแบบแก!”