สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 125 เนื้อเกือบจะเข้าปากเสือ
บทที่ 125 เนื้อเกือบจะเข้าปากเสือ
เธอยกมือชี้หน้าลู่ฉิวเยว่ด้วยความเหยียดหยามราวกับว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงเศษขยะไร้ค่า
ฉินซือรู้สึกรำคาญใจเกินบรรยาย เขาหัวเราะเยาะตอบกลับไปว่า “ฉิวเยว่มาจากบ้านนอกแล้วจะทำไม? อย่างน้อยก็พึ่งพาความสามารถของตนเองในการดำรงชีวิต ไม่ได้อาศัยกินบุญเก่าของครอบครัวมีชีวิตที่สุขสบายสักหน่อย!”
คำพูดของเขาไม่ต่างจากมีดกรีดลงบนหัวใจของจ้าวซูซิน ใบหน้าของเธอซีดขาว มือสั่นเทา
เมื่อได้ยินคำนั้น ลู่ฉิวเยว่ก็อมยิ้มขึ้นมาทันที จ้องมองไปที่ใบหน้าของจ้าวซูซินก่อนที่เธอจะพูดออกไปเช่นกัน “ใช่แล้ว ฉันเป็นแค่ผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่ง แต่ในอนาคตฉันจะมาเปิดร้านอาหารอยู่ในเมือง แล้วก็จะไม่มีวันทิ้งพี่ฉินซือของเธอไปไหนเด็ดขาด”
จ้าวซูซินโกรธแค้นจนพูดอะไรไม่ออก นิ้วมือที่ชี้หน้าลู่ฉิวเยว่สั่นไม่หยุด
ฉินซือหยุดชะงักให้กับคำพูดของลู่ฉิวเยว่ เขาจ้องมองหญิงคนรักที่อยู่ตรงหน้าอย่างใกล้ชิด ความปรารถนาปรากฏขึ้นในแววตา ถ้าไม่ใช่ว่ากำลังอยู่ในที่สาธารณะ เขาก็อยากจะดึงเธอเข้ามาจูบเหลือเกิน
เมื่อเห็นจ้าวซูซินมีสีหน้าไม่สู้ดี ลู่ฉิวเยว่ก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะดึงตัวฉินซือเดินออกไป
ชายหนุ่มยังคงมีความสุข ปล่อยให้เธอเดินจูงมือไปพร้อมกับยิ้มกว้าง
ฉินซือมีความสุขไปจนถึงช่วงเย็น เขานั่งอ่านเอกสารอยู่ในห้อง แต่ก็ไม่สามารถสงบใจได้อีกแล้ว หลังจากใช้ความคิดอยู่เล็กน้อย เขาก็เปลี่ยนรองเท้าและเดินไปที่ห้องของลู่ฉิวเยว่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ตอนที่ลู่ฉิวเยว่ออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ได้ยินเสียงเคาะประตู จึงเลิกคิ้วสูงและถามว่า “ใครคะ?”
“ผมเอง” ฉินซือไอออกมาเล็กน้อย
หลังจากนั้น ลู่ฉิวเยว่ก็เปิดประตูให้เขาเข้ามา
“คุณต้องการอะไร?”
ฉินซือหัวเราะออกมาเล็กน้อย “ทำไมล่ะ? ถ้าไม่มีอะไร ผมมาหาคุณไม่ได้หรือไง?”
หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็เอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูในมือของลู่ฉิวเยว่มาเช็ดหัวให้หญิงสาว เขาเคยทำเช่นนี้มาก่อนแล้ว ครั้งนี้เขาเริ่มชำนาญ ไม่ได้ดึงผมเธอเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แถมยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้รับการนวดอีกด้วย
ลู่ฉิวเยว่มีดวงตาเป็นประกายอย่างมีความสุข เธอนั่งลงบนโซฟาและหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว
ฤดูร้อนท้องฟ้าจะมืดช้า ดวงอาทิตย์ยังคงลอยตัวอยู่แถวภูเขา แสงแดดสีส้มส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างของห้องพักสะท้อนลงบนใบหน้าของหญิงสาว ยิ่งทำให้เธอดูงดงามมากขึ้น
เธอสวยงามจนเกินกว่าจะเป็นความจริง
เมื่อจ้องมองไปที่ริมฝีปากกลีบกุหลาบคู่นั้น ฉินซือก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้
ลู่ฉิวเยว่รู้สึกถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่ริมฝีปากของเธอ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย และค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ
ความรู้สึกบางอย่างแผ่ซ่านในปากอย่างอบอุ่น ใบหน้าของชายคนนั้นอยู่ใกล้แค่เอื้อม
เธอหลับตาลงอีกครั้ง มือค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปที่คอของฉินซือ
เมื่อรู้สึกถึงการตอบสนองของหญิงสาว ฉินซือก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง กอดเธอแน่นขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะบรรยากาศดีมาก เขาจึงเริ่มคิดไปถึงสิ่งอื่นที่มากกว่านี้
มือใหญ่ที่คล่องแคล่วสอดเข้าไปในชายเสื้อของลู่ฉิวเยว่และสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความนวลเนียนของผิวกาย
พวกเขารู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าสถิตขึ้นมาทันใดจนทำให้ตัวสั่น ลู่ฉิวเยว่กัดฟันของเธออย่างหนักเพื่อกลืนเสียงครางที่ไม่ชัดเจนกลับเข้าไปในลำคอของเธอ
“ฉิวเยว่…”
ฉินซืออดไม่ได้ที่จะเรียกเธอเบา ๆ เสียงแหบแห้งของเขาทำให้ลู่ฉิวเยว่คิดว่าสิ่งที่เขากระซิบไม่ใช่ชื่อของตนเอง แต่เป็นถ้อยคำแห่งความรักที่น่าประทับใจ
“ผมขอนะ?”
เขาโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของเธอ ลมหายใจแผ่วเบาที่รดลำคอของลู่ฉิวเยว่ทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้ และก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อย
ฉินซือกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน เขาจ้องมองเธอเป็นเวลานาน อยากจะกลืนหญิงสาวลงท้อง การพยักหน้านี้เกือบจะฆ่าเขา และเขาก็อุ้มเธอเดินไปที่เตียงโดยทันที
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก!” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างไม่ถูกกาลเทศะ มันทำลายความงงงวยในห้องให้สลายหายไป
ฉินซือขมวดคิ้วพลางวางลู่ฉิวเยว่ลงบนเตียงอย่างอ่อนโยน อยากจะจูบเธออย่างสิ้นหวัง และทำสิ่งที่เขาเพิ่งทำต่อไป
ตอนนี้เขารู้สึกอึดอัดมาก ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจว่าใครจะอยู่ข้างนอก
แต่ถึงอย่างนั้น คนข้างนอกก็ยังคงเคาะประตูอย่างไม่ลดละ
ลู่ฉิวเยว่ก็สูญเสียอารมณ์ความปรารถนาของเธอเช่นกัน เธอผลักไหล่ของฉินซือ “ไปเปิดประตูได้แล้ว ดูหน่อยเถอะว่าเกิดอะไรขึ้น”
ฉินซือขมวดคิ้วและเดินไปอย่างไม่เต็มใจภายใต้การผลักไสของลู่ฉิวเยว่อย่างต่อเนื่อง
เขาเกลียดคนที่มาเคาะประตูในเวลานี้จริง ๆ!
“พี่ฉินซือ”
เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คือจ้าวซูซิน ชายหนุ่มก็ยิ่งมีสีหน้าเคร่งขรึมมากขึ้น เขาอยากจะจับเธอโยนออกไปนอกโรงแรมเหลือเกิน
“มีเรื่องอะไร?” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ความเย็นชาของเขาทำให้จ้าวซูซินอดรู้สึกเสียใจจนน้ำตาไหลอย่างน่าสงสารไม่ได้
เธอเงยหน้ามองเขาด้วยความระมัดระวัง “พี่ออกไปข้างนอกกับฉันได้ไหม? ฉันมีเรื่องจะบอกพี่?”
หัวใจของฉินซือกระตุกวูบ ในสายตาของเขามีแต่หญิงสาวที่อยู่ในห้องเท่านั้น เขาจึงกระแทกประตูปิดอย่างแรง ไม่สนใจสีหน้าของหญิงสาวที่มาเคาะประตูเลยสักนิด
“ไสหัวไปซะ!”
น้ำเสียงที่โกรธเคืองของเขาทำให้จ้าวซูซินสะดุ้งโหยง ใบหน้าของเธอซีดขาว เมื่อนึกถึงเสียงอันแหบแห้งของฉินซือเมื่อสักครู่นี้ เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที แล้วนั่นก็ยิ่งทำให้สีหน้าของจ้าวซูซินโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น
หัวใจเธอเต็มไปด้วยความหึงหวง
ฉินซือเป็นของเธอ แล้วนังแพศยาลู่ฉิวเยว่กล้ามาแย่งผู้ชายของเธอไปได้อย่างไร?
“พี่ฉินซือ ฉันมีเรื่องจะพูดกับพี่จริง ๆ นะ” จ้าวซูซินเคาะประตูอย่างไม่ยอมแพ้ พยายามเรียกฉินซือออกมา
“เธอเรียกคุณอยู่นะ” เมื่อเห็นชายหนุ่มทำท่าจะพุ่งเข้ามาหาตนเองอีกครั้ง ลู่ฉิวเยว่ก็รีบยกมือจับผ้าห่มแน่นไม่ยอมปล่อย และยิ้มด้วยความเยาะเย้ย
ฉินซือต้องการจะดึงผ้าห่มออก แต่ก็ถูกหญิงสาวถีบออกมาก่อน เขาจ้องมองลู่ฉิวเยว่ด้วยความหมดหวัง ปรารถนาจะให้เธอใจอ่อน
ลู่ฉิวเยว่หัวเราะในลำคออย่างเย็นชา ก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น “ฉันไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว คุณกลับไปนอนเถอะ”
หลังจากนั้น เธอก็ทิ้งตัวลงนอนหลับตาสนิทหน้าตาเฉย
ฉินซือไม่มีทางเลือกนอกจากหอมแก้มเธอและกลับออกมา
แต่เขาก็ไม่ได้กลับห้องของตัวเอง เขาเดินลงบันไดไปชั้นล่างด้วยความหงุดหงิดใจ
เมื่อจ้าวซูซินเห็นเขากำลังเดินลงมา เธอก็นึกว่าเขาลงมาตามคำเรียกร้องของเธอ จึงเดินเข้าไปหาอย่างมีความสุข
“พี่ฉินซือ ฉันกำลังรออยู่พอดีเลย”
ปัง!
ฉินซือไม่สนใจเธอ เขาเดินไปตบเคาน์เตอร์อย่างแรง ก่อนจะพูดด้วยความขุ่นเคืองใจว่า “โรงแรมมีสิทธิ์อะไรให้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ากับคนอื่น?”
พนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์หยุดชะงัก เมื่อเห็นจ้าวซูซินเดินตามหลังเขาเข้ามา พนักงานหญิงก็เข้าใจโดยทันที
เธอรู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันใด เธอไม่ควรเห็นแก่เงินที่ผู้หญิงคนนี้มอบให้เลย
“คุณฉินคะ ฉันจะไล่เธอไปเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะ!” พนักงานหญิงโค้งคำนับให้กับฉินซือ พยายามไม่มองตาจ้าวซูซิน ภายในไม่ถึง 1 นาทีต่อมา ยามสองคนก็รีบวิ่งเข้ามากระชากลากตัวจ้าวซูซินออกไปจากโรงแรมทันที
หลังจากนั้น ยามก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูเหมือนกับว่าถ้าเธอกล้าเข้าไปอีก พวกเขาก็จะโยนเธอออกมาอีกเช่นกัน จ้าวซูซินจึงทำได้เพียงเดินกลับออกไปด้วยความโกรธแค้นสุดขีดเท่านั้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฉินซือก็รู้สึกหายโกรธลงเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เนื้อเกือบจะเข้าปากเสือเมื่อสักครู่นี้ เขาก็อดเสียดายไม่ได้จริง ๆ แม้แต่มองเสาหินที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ของโรงแรม เขาก็รู้สึกแสบตาไปหมดแล้ว
ไม่รู้เลยว่าโอกาสดี ๆ แบบนี้จะมาอีกเมื่อไหร่
ฝ่ามือของเขายังรู้สึกได้ถึงความอ่อนนุ่มของผิวกายเธอ ฉินซือใจลอย สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เขาได้แต่พลิกไปพลิกมาจนนอนไม่หลับเลยตลอดทั้งคืน