สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 121 การแข่งขันทำอาหาร
บทที่ 121 การแข่งขันทำอาหาร
ฉินซือรู้สึกเศร้ามาก แต่เขาก็รู้ดีเช่นกันว่านี่ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะลู่ฉิวเยว่
บรรยากาศระหว่างพวกเขาค่อนข้างแปลกประหลาด คล้ายกับเกิดความเย็นชาขึ้นมาอย่างกะทันหัน หวังเซวียนเซวียนที่เดินตามไปทางด้านหลังพลอยรู้สึกอึดอัดตามไปด้วย
ตำแหน่งของบ้านเช่าอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พวกเขาใช้เวลา 10 นาทีก็เดินถึง
บ้านเช่าในเมืองหลวงเป็นบ้านอิฐก่อปูนดูแข็งแรงทนทาน ไม่ใช่บ้านดินเหมือนชนบทที่พวกเขาจากมา
แต่บ้านเช่าที่นี่ไม่มีรั้วกั้นเลยสักนิด มีแค่การนำเชือกมาขึงบอกอาณาเขตเอาไว้ ซึ่งทำให้ลู่ฉิวเยว่สงสัยในความปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง
“ต้องการห้องพักใช่ไหมจ๊ะ?” ผู้หญิงที่นั่งประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์มีสายตาเฉียบแหลมและโบกมือเรียกลู่ฉิวเยว่ตั้งแต่ยังเดินมาไม่ถึง
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้ารับและเดินเข้าไปหา
“เปิดกี่ห้องดีจ๊ะ?” หญิงผู้นั้นหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ใช้สายตาจ้องมองกลุ่มคนอย่างพิจารณา
“สองห้องค่ะ!”
“ห้องพักราคา 3 หยวนต่อคืน สองห้องก็ราคา 6 หยวน” หญิงผู้นั้นยิ้มแย้มอย่างอ่อนหวาน “วางแผนจะอยู่กันกี่วันจ๊ะ?”
ลู่ฉิวเยว่กำลังจะนำเงินออกมาจ่ายและให้คำตอบ แต่ตอนนั้นฉินซือก็จับแขนเธอและกระซิบถามข้างหูว่า “คุณอยากจะอยู่ที่นี่จริง ๆ เหรอ?”
ลู่ฉิวเยว่พยักหน้าอย่างหนักแน่นและตอบว่า “ใช่!”
“ผมได้ยินมาว่าบ้านเช่าแบบนี้หัวขโมยเยอะจะตาย มันไม่ปลอดภัยเลยนะ” ฉินซือขมวดคิ้วและกระซิบข้างหูเธอด้วยสีหน้าเป็นกังวล
ลู่ฉิวเยว่กลืนน้ำลาย หญิงสาวเริ่มลังเล ประตูห้องพักในบ้านหลังนี้ต่างก็ทำขึ้นมาจากไม้กระดาน หน้าต่างก็ไม่มีมุ้งลวดเหล็กดัดกันขโมย ดูแล้วมีขโมยบุกเข้ามาได้ง่ายมากจริง ๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ ดวงตาของฉินซือก็เป็นประกาย รีบเกลี้ยกล่อมเธอต่อไปว่า “ทำไมคุณไม่ไปพักที่โรงแรมล่ะ ที่นั่นความปลอดภัยดีกว่าที่นี่ ผมมีเพื่อนทำโรงแรมอยู่ ยังไงก็ได้ส่วนลดพิเศษ พอเอาส่วนลดมาหักแล้ว ราคาก็เท่ากับบ้านเช่าแบบนี้เลย”
“นั่นสิพี่ ผมว่าฟังพี่ฉินดีกว่านะ” หวังเซวียนเซวียนก็พยายามช่วยพูดอีกคน
ลู่ฉิวเยว่กัดฟันตอบว่า “งั้นก็ได้!”
เธอและหวังเซวียนเซวียนไม่คุ้นเคยกับชีวิตในเมืองหลวง หากพักอยู่ในโรงแรมก็น่าจะปลอดภัยกว่า อย่างน้อยเธอก็ไม่ต้องมาปวดหัวกลัวว่าจะมีขโมยมาขึ้นห้อง
ทำไมลูกค้าถึงกลับออกไปแล้วนะ?
เมื่อเห็นกลุ่มคนเดินกลับออกไป ผู้หญิงที่นั่งประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ก็เงยหน้ามองด้วยความพิศวง เธอไม่รู้เลยว่าบ้านเช่าของตนเองมีภาพลักษณ์ที่เลวร้ายขนาดไหน
ในชาติที่แล้ว ลู่ฉิวเยว่เคยเห็นโรงแรมมาแล้วมากมาย และเธอก็เข้าไปพักเสมอเวลาเดินทางไปทำธุรกิจ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นโรงแรมในชาตินี้
มันเป็นตึกสูงสามชั้นผนังสีขาว ด้านในประดับหลอดไฟสีขาวที่แตกต่างไปจากหลอดไฟสีส้มที่ใช้ตามบ้านเรือนผู้คนทั่วไป และนั่นก็ทำให้ในห้องโถงของโรงแรมแลดูกว้างใหญ่สว่างไสวเหลือเกิน
ถ้าไม่ได้เห็นพวกโถกระเบื้องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ เธอก็คงนึกว่าตัวเองได้กลับมาที่ศตวรรษที่ 21 อีกครั้ง
“คุณฉินต้องการห้องพักหรือคะ?” พนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์ทางด้านหน้าเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของฉินซือ ดวงตาจึงเป็นประกายระยิบระยับและรีบวิ่งเข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
ฉินซือพยักหน้าเล็กน้อยและจ้องมองไปยังลู่ฉิวเยว่ที่ยืนอยู่ข้างกาย
เธอยิ้มแล้วตอบว่า “ใช่ค่ะ ฉันอยากได้ห้องพักสักสองห้อง”
“คุณฉินเป็นเพื่อนกับผู้จัดการของเรา งั้นฉันจะคิดคืนละ 3 หยวนเท่านั้น คุณผู้หญิงรับราคานี้ได้ไหมคะ?” พนักงานหญิงยิ้มเล็กน้อยและถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
ลู่ฉิวเยว่เลิกคิ้วสูงด้วยความประหลาดใจ เธอไม่คิดจริง ๆ ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ฉินซือพูด
“รับได้ค่ะ ขอสองห้องนะคะ” ลู่ฉิวเยว่ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและเรียบง่าย
พวกเขาพูดคุยก่อนมาถึงว่าจะหาเวลาไปเดินชมเมืองหลวงสักหน่อย โดยเฉพาะหวังเซวียนเซวียนที่สนใจอยากจะเที่ยวดูร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองหลวง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อมาถึงเมืองหลวงจริง ๆ แล้ว หวังเซวียนเซวียนก็รู้สึกเหนื่อยล้าและหิวโหย ไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะออกไปเดินชมเมืองได้อีกแล้ว สุดท้ายจึงต้องเปลี่ยนแผนการทั้งหมด ค่อยออกไปเดินชมเมืองกันอีกทีเมื่อมีเวลาว่างแล้วกัน
ลู่ฉิวเยว่ต้องทนนอนอยู่ในรถไฟมาถึงสองวัน เธอไม่รู้สึกอยากรับประทานอาหารเลยแม้แต่น้อย และด้วยความที่เธอมีทักษะการทำอาหารเป็นเลิศ เธอไม่สามารถรับประทานอาหารของโรงแรมได้ เธอจึงตัดสินใจซื้อโจ๊กมารับประทานให้พออิ่ม ก่อนที่จะหลับไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ลู่ฉิวเยว่ก็รีบจัดกระเป๋าและขึ้นรถโดยสารไปยังสถานที่แข่งขันทันที
“ทำไมคุณต้องตามมาด้วยเนี่ย?” ลู่ฉิวเยว่พูดด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินตามหลังมา
เมื่อคืนนี้ ฉินซือไม่ได้กลับบ้านของตัวเองด้วยซ้ำ เขาอยู่ค้างคืนที่โรงแรมในห้องเดียวกับหวังเซวียนเซวียนอย่างหน้าไม่อาย
“แฟนผมกำลังจะไปแข่งทั้งที ผมไปดูไม่ได้หรือไง?” ฉินซือตอบกลับมาด้วยความภาคภูมิใจเหลือเกิน
หลังจากนั้น เขาก็โน้มตัวมาข้างหน้าและโอบไหล่เธอเบา ๆ “อีกอย่าง ผมมีรถนะ ให้ผมพาคุณไปก็ได้ คุณจะได้ไม่ต้องมาเบียดกับคนอื่นบนรถเมล์แบบนี้”
“รถเหรอ? คุณไปเอารถมาจากที่ไหนอีก?” ลู่ฉิวเยว่มองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ ไม่ต้องสงสัยอีกแล้วที่เมื่อคืนนี้เธอไม่เห็นหน้าเขาเลย นั่นก็เพราะเขาแอบไปหารถยนต์อยู่นี่เอง
ลู่ฉิวเยว่พยายามกล่อมไม่ให้เขาตามไปด้วย แต่เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมฟังจริง ๆ เธอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมให้เขาตามมา
ฉินซือสั่งให้เลขาหวังตามไปดูแลหวังเซวียนเซวียนเพื่อที่จะได้ไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น และเขาจะได้มาคอยให้กำลังใจลู่ฉิวเยว่อย่างเต็มที่
สถานที่จัดการแข่งขันการทำอาหารถูกจัดขึ้นในหอประชุมขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวางมากกว่า 600 ตารางเมตร
อาจเป็นเพราะมีการโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ การแข่งขันในครั้งนี้จึงโด่งดังมาก ลู่ฉิวเยว่ยังไม่ทันลงจากรถโดยสาร เธอก็เห็นคนกลุ่มใหญ่เดินเข้าไปในหอประชุมเช่นเดียวกับนักข่าวอีกจำนวนมาก
ครอบครัวของผู้เข้าแข่งขันไม่ได้รับอนุญาตให้ตามเข้าไปด้วย แต่ไม่รู้เลยว่าฉินซือไปเอาบัตรเชิญมาจากที่ไหน เขาจึงเดินเข้าไปได้อย่างราบรื่น แถมยังได้ที่นั่งแถวหน้าสุดภายในหอประชุมอีกด้วย
ทันทีที่ลู่ฉิวเยว่หันกลับไปมอง เธอก็จะได้พบเห็นกับใบหน้าที่หล่อเหลาและเคร่งขรึมของเขาทันที
แต่เธอก็ไม่ได้จ้องมองเขามาก ลู่ฉิวเยว่รีบตั้งสติอยู่ที่การแข่งขัน เมื่อเธอมาถึงในวันนี้ เธอก็ได้รับทราบว่ามีผู้เข้าแข่งขันมากถึง 120 คน แต่ละคนต่างก็เป็นผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการคัดเลือกมาจากมณฑลต่าง ๆ
ถึงแม้ว่าในชาติที่แล้ว ลู่ฉิวเยว่จะชนะการแข่งขันทำอาหารมามากมาย แต่เธอก็ไม่กล้าประมาทเป็นอันขาด
วันนี้จะเป็นการแข่งขันด่านแรก ซึ่งจะต้องแข่งกันทั้งหมดสามรอบ สองรอบแรกสามารถคัดผู้เข้าแข่งขันออกไปได้มากที่สุด และในที่สุดก็เหลือผู้เข้าแข่งขันเพียง 10 คนเท่านั้น
การแข่งขันในรอบสุดท้ายเข้มข้นมาก สิ่งที่ลู่ฉิวเยว่เลือกทำคือมะเขือยาวตุ๋นราดซอส
น้ำซอสสีส้มถูกราดลงไปบนมะเขือยาวสีม่วง สะท้อนประกายกับแสงไฟระยิบระยับ กลิ่นหอมหวลนั้นทำให้บรรดาผู้ชมที่อยู่ใกล้ ๆ ถึงกับต้องสูดดมและกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
มะเขือยาวมีรสชาติหวานอ่อนนุ่มละลายในปาก แม้แต่นักวิจารณ์ที่เลือกกินมากที่สุดก็ยังอดชื่นชมไม่ได้
ทุกคนยิ้มออกมาด้วยความพอใจ พวกเขาไม่เคยรับประทานมะเขือยาวตุ๋นราดซอสอร่อยขนาดนี้มานานแล้ว
“หมายเลข 3 ได้ไป 9.8 คะแนน!”
“หมายเลข 3 ได้ไป 9.6 คะแนน!”
“หมายเลข 3…”
เมื่อเห็นกรรมการขานคะแนนออกมา บรรดาคนดูในหอประชุมก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมมะเขือยาวตุ๋นราดซอสถึงได้คะแนนสูงขนาดนั้น? มันจะต้องอร่อยขนาดไหนกันนะ!
พิธีกรยิ้มออกมาเล็กน้อย กำลังจะประกาศให้ลู่ฉิวเยว่ได้คะแนนอันดับ 1 แต่ก็ถูกใครบางคนขัดจังหวะขึ้นในวินาทีต่อมา
“ผมขอคัดค้าน!” หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันที่ตกรอบไปก่อนหน้านี้ตะโกนขึ้นมาด้วยความไม่พอใจทันที “ก็แค่มะเขือยาวตุ๋นราดซอสธรรมดา ทำไมถึงได้คะแนนเยอะขนาดนั้น?”
วันนี้เขาทำเมนูปลากระรอกนึ่งมะนาว ทักษะการแล่เนื้อปลาของเขาแม่นยำ การควบคุมอุณหภูมิไฟอยู่ในเกณฑ์สมบูรณ์แบบ หน้าตาอาหารก็น่ารับประทาน แล้วทำไมถึงเอามาเทียบกับมะเขือยาวตุ๋นราดซอสธรรมดา ๆ แบบนี้ไม่ได้เลย? หรือว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กเส้นของกรรมการ?
ในเวลาเดียวกันนี้ กลุ่มผู้ชมก็เริ่มสงสัยขึ้นมาเช่นกัน และนั่นก็ทำให้เกิดเสียงโห่ขึ้นมาโดยทันที