สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 117 คำขอโทษ
บทที่ 117 คำขอโทษ
เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับความถูกต้องเสมอมาและเขาจะไม่ยอมมีลูกสาวไร้จิตสำนึกแบบนี้เด็ดขาด!
ถ้อยคำอันรุนแรงนั้นทำให้คนเป็นแม่มีสีหน้าไม่ดีนัก แต่เธอก็ไม่ได้ช่วยแก้ต่างแทนลูกสาวแต่อย่างใด
ฉินเซียวถูกดุจนเกือบร้องไห้ ทำได้เพียงวิ่งหนีออกมาจากบ้านอย่างเศร้า
“เป็นยังไงบ้าง? คุณไปซื้อมาแล้วหรือยัง?” ฉินเซียวเปิดประตูกลับเข้าไปในบ้านและพบว่าสามีกำลังเดินเข้ามาหาด้วยความร้อนรน
เธอส่ายหน้าตอบกลับไป “ยังเลย”
ม่อป๋อซงมีสีหน้าผิดหวังทันที
“งั้นเอาแบบนี้…พวกเราไปขอโทษลู่ฉิวเยว่ดีไหม?” ตอนที่รับประทานอาหารเย็น ทั้งสองฝ่ายต่างก็อารมณ์เสีย ไม่มีใครหยิบจับตะเกียบจนผ่านไปเนิ่นนาน ม่อป๋อซงจึงได้พูดออกมาก่อน
ฉินเซียวเม้นริมฝีปากแน่น ก่อนจะพยักหน้าในที่สุด การซื้อขี้ผึ้งทาแก้ปวดในครั้งนี้เกี่ยวพันกับอนาคตของสามีเธอ หญิงสาวจึงไม่กล้าเมินเฉยเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด
ในตอนนี้ ฉินเซียวรู้สึกสำนึกเสียใจขึ้นมาแล้ว เธอไม่ควรไปหาเรื่องลู่ฉิวเยว่เลย ไม่อย่างนั้นวันนี้เธอก็คงไม่ต้องมานั่งเศร้าอยู่แบบนี้หรอก
เช้าวันต่อมา ฉินเซียวใช้เครื่องสำอางกลบรอยดำคล้ำที่ใต้ตา คว้ากระเป๋าออกจากบ้าน ส่วนสามีก็ขับรถพาเธอตรงไปที่โรงพยาบาล
ในห้องพักของโรงพยาบาล ลู่ฉิวเยว่กำลังนั่งรับประทานข้าวอยู่กับพ่อแม่อย่างมีความสุข บรรยากาศอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง
แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ลู่ฉิวเยว่วางชามกระเบื้องในมือลงและลุกขึ้นไปเปิดประตู เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย เธอก็มีสีหน้าเย็นชาโดยทันที หญิงสาวยกมือกอดอก พูดกับคนที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับฉินซืออยู่หลายส่วนว่า “พวกคุณสองคนมาทำอะไรที่นี่คะ?”
น้ำเสียงเหยียดหยามนั้นทำให้สีหน้าของฉินเซียวแทบจะตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง เธอกัดฟันตอบไปว่า “พวกเรามาขอโทษ”
“ขอโทษ?” ลู่ฉิวเยว่หัวเราะเยาะ “หน้าเชิดขนาดนี้ไม่เหมือนมาขอโทษเลยนะคะ เหมือนมาเก็บหนี้มากกว่า”
ม่อป๋อซงไอออกมาเล็กน้อยด้วยความอับอาย พลางกระตุกชายเสื้อฉินเซียวเพื่อบอกให้เธอใจเย็นลง
แต่อย่างไรก็ตาม ฉินเซียวยังคงมีสีหน้าไม่ชอบใจดังเดิม เธอกัดฟันและไม่พูดอะไรออกมาอีก
“เป็นแบบนี้จนได้สิน่า” ม่อป๋อซงไม่มีทางเลือกนอกจากขยับเข้ามาเองและพูดด้วยความจริงใจ “เรื่องเมื่อวันก่อนเป็นความผิดของพวกเราเองครับ พวกเราไม่ควรไปที่บ้านคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต พวกเราไม่ควรหนีออกมาหลังจากที่ทำให้คุณลุงต้องตกบันไดโดยไม่ได้ตั้งใจ หวังว่าคุณลู่ฉิวเยว่จะให้อภัยพวกเรานะครับ”
พูดจบแล้ว เขาก็กระตุกชายเสื้อฉินเซียวให้เธอพูดบ้าง
ฉินเซียวเพิ่งจะถูกลู่ฉิวเยว่เหยียดหยามไปเมื่อสักครู่ ตอนนี้จะสามารถพูดอะไรออกมาอีกได้อย่างไรล่ะ?
ลู่ฉิวเยว่หัวเราะเยาะออกมา “ถ้าไม่ได้อยากจะมาขอโทษอย่างจริงใจก็ไม่ต้องมาหรอกค่ะ”
“เธอคิดว่าฉันอยากมาหรือไง? ถ้าเธอไม่ได้ไปยุ่งกับฉินซือ เรื่องวุ่นวายพวกนี้จะเกิดขึ้นไหม?”
ฉินเซียวถูกคนอื่นต่อว่ามาตลอดสองวันนี้ เธออารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นหญิงสาวจึงหมุนตัวเดินกลับออกไป
ก็แค่ยาขี้ผึ้งแก้ปวด เธอไปซื้อมาจากร้านขายยาเองก็ได้ ไม่เห็นต้องได้รับคำอนุญาตจากลู่ฉิวเยว่สักหน่อย!
ม่อป๋อซงถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ยิ้มอย่างขออภัยให้แก่ลู่ฉิวเยว่ เขาวางกระเช้าของขวัญลงหน้าห้องพัก ก่อนจะรีบวิ่งตามภรรยาไปทันที
“ฉิวเยว่?”
เสียงแม่เรียกอย่างอ่อนโยนดังขึ้นด้านหลัง ลู่ฉิวเยว่ใช้เท้าเขี่ยกระเช้าของฝากคนป่วยออกไปให้พ้นประตู ก่อนจะเดินกลับไปยิ้มให้แม่
เนื่องจากการปรากฏตัวของสองสามีภรรยาเมื่อสักครู่ บรรยากาศในห้องพักจึงแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง
แม่ของลู่ฉิวเยว่ส่ายหน้าด้วยความเศร้า
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แม่ อย่าคิดถึงเรื่องนั้นเลย” ลู่ฉิวเยว่พูดด้วยรอยยิ้ม “อีกไม่นานหนูก็จะไปแข่งทำอาหารที่ปักกิ่งแล้ว ถึงตอนนั้น แม่ได้มีความสุขแน่นอน”
คนเป็นแม่รับคำเบา ๆ ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันนี้ ฉินเซียวกับม่อป๋อซงขับรถตรงไปที่ร้านขายยา ลุงเซิงต้อนรับลูกค้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย ต้องการยาจีนแก้ปัญหาใดหรือครับ?”
ฉินเซียวกำลังจะตอบออกไปก็ได้ยินเสียงเด็กสาวดังขึ้นข้างกาย
“คุณนี่เอง!” วันนี้ในร้านขายยามีลูกค้าเนืองแน่น ซูซูจึงมาช่วยงานชั่วคราว แต่เธอไม่คิดเลยว่าเมื่อเดินเข้าประตูมาก็จะได้พบกับใบหน้าที่คุ้นเคย “ใช่แล้วค่ะ ผู้หญิงคนนี้นี่แหละที่ไปพูดไม่ดีกับคุณลู่ถึงในร้านอาหารเมื่อวันก่อน”
เมื่อลุงเซิงได้ยินเช่นนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาก็หายไปทันที เขาจ้องมองคู่สามีภรรยาตรงหน้าด้วยแววตาเย็นชา เขาได้ยินเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้พูดจาไม่ดีถึงลู่ฉิวเยว่มาแล้ว ตอนแรกที่ได้ยิน ชายชราก็โกรธมาก เพราะลู่ฉิวเยว่เป็นคนที่เขาเคารพหมดหัวใจ
ซูซูพูดเสียงดัง นอกจากจะทำให้สีหน้าของฉินเซียวกับม่อป๋อซงเปลี่ยนไปแล้ว แม้แต่ลูกค้าคนอื่น ๆ ที่อยู่ในร้านขายยาจีนก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน พวกเขาหันมามองด้วยความสงสัย ทำเอาสองสามีภรรยารู้สึกอับอายคนขึ้นมาทันที
“ร้านนี้ไม่ต้อนรับพวกคุณ!” ซูซูพูดออกมาด้วยความเย็นชา ผู้หญิงคนนี้ดูถูกเจ้านายของเธอ แต่อยากจะมาซื้อยาในร้านของเจ้านายเธออีกเนี่ยนะ? พวกเขาหน้าด้านเกินไปแล้วจริง ๆ
“ใครจะสนล่ะ!” ใบหน้าของฉินเซียวมีสีเขียวปัด ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าพวกเขาคงไม่ยอมขายขี้ผึ้งทาแก้ปวดให้แก่เธอแน่ ๆ ดังนั้นเธอจึงรีบลากสามีออกไปนอกร้านอย่างรวดเร็ว
แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ ฉินเซียวกวักมือเรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินอยู่ห่างออกไปไม่ไกลให้เข้ามาหา
“ซื้อขี้ผึ้งแก้ปวดเหรอคะ?”
เมื่อได้ยินว่าตนเองกำลังจะต้องทำอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็มีสีหน้าประหลาดใจขึ้นมาทันที ร้านขายยาอยู่ไม่ไกล แล้วทำไมสามีภรรยาคู่นี้ไม่เข้าไปซื้อด้วยตัวเอง? หรือว่าพวกเขาจะหลอกลวงอะไรเธอ?
แต่หญิงสาวก็พยักหน้า ยื่นมือออกไปรับเงินที่ฉินเซียวส่งมาให้ ถ้าเธอซื้อขี้ผึ้งทาแก้ปวดกลับมาให้พวกเขาได้สำเร็จ เธอก็จะได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 10 หยวน
จังหวะที่ฉินเซียวกำลังจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ผู้หญิงคนนั้นก็รีบวิ่งกลับมาอีกครั้ง
“คุณลุงในร้านบอกว่าไม่มีขี้ผึ้งแก้ปวดเหลือแล้วค่ะ พวกเขาจะเก็บเอาไว้ให้ลูกค้าประจำเท่านั้น ไม่มีขายให้ลูกค้าใหม่อีกแล้ว!”
“ว่าไงนะ?!” ฉินเซียวกัดฟันกรอด ร้านขายยาจีนมีกฎแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? นี่ต้องเป็นลูกไม้ของลู่ฉิวเยว่ที่ไม่ยอมขายให้เธอแน่นอน!
สุดท้าย ฉินเซียวและสามีก็ทำภารกิจไม่สำเร็จ พวกเขากลับบ้านด้วยความหมดหวัง
ในคืนนั้น ณ บ้านตระกูลฉิน
ฉินเซียวแทบจะสำลักความขมขื่นตายเมื่อเล่าให้คนเป็นแม่ฟังว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง
“หนูไปขอโทษแล้วนะ แต่ลู่ฉิวเยว่ยังคงใจดำอยู่ดี ทำเหมือนหนูติดหนี้เธออยู่เป็นหมื่นหยวนงั้นแหละ ให้ตายเถอะ หนูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมฉินซือถึงไปหลงรักผู้หญิงแบบนี้ได้”
แม่ของเธอหันมองเธอด้วยแววตาเย็นชา “ถ้ามีคนผลักพ่อลูกตกบันไดแบบนั้นบ้าง ลูกจะโกรธไหมล่ะ? ทำไมลูกไม่ลองถามตัวเองดู?”
คนเป็นแม่รู้ดีว่าลูกสาวของตนเองอารมณ์ร้อน ดังนั้นจึงไม่มีทางไปขอโทษอย่างจริงใจแน่นอน และก็สมควรแล้วที่ลู่ฉิวเยว่จะไม่ให้อภัย
สมควรแล้วที่ฉินเซียวจะต้องมานั่งทุกข์ใจอยู่อย่างนี้
ฉินเซียวพูดมาถึงตรงนี้ก็ต้องเบะปากด้วยความไม่พอใจ ขนาดแม่ของเธอก็ยังไปเข้าข้างลู่ฉิวเยว่เลยเหรอ? นับตั้งแต่ที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวขึ้นมา ทุกคนก็เปลี่ยนไปกันหมด
“ลูกสมควรโดนแบบนี้แล้ว!” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ คุณแม่ฉินก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที เนื่องจากสิ่งที่ลูกสาวของเธอได้ทำลงไป ทำให้ลู่ฉิวเยว่เมินเฉยต่อฉินซือเป็นเวลาหลายวันแล้ว เธอดูออกเลยว่าหลายวันที่ผ่านมาลูกชายตรอมใจขนาดไหน
เขาแทบไม่รับประทานอาหารเลย ใบหน้าซูบผอม น้ำหนักลดลงไปหลายกิโล
“อย่าคิดถึงเรื่องนี้อีกเลย ลู่ฉิวเยว่กำลังจะไปแข่งทำอาหารที่ปักกิ่ง คงไม่ได้กลับมาอีกนาน” คนเป็นแม่พูดต่อไปด้วยสีหน้าเย็นชาจนเกือบจะแสดงออกถึงความขุ่นเคืองใจด้วยซ้ำ
อย่าว่าแต่ลู่ฉิวเยว่จะโกรธเลย ขนาดเธอเองก็โกรธลูกสาวตัวเองเหมือนกัน
“ว่าไงนะคะ?!” เมื่อได้รับทราบข่าวนั้น ฉินเซียวก็รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างยิ่ง เจ้านายของสามีเธอกำลังจะมาในอีกไม่กี่วันแล้ว พวกเธอจะทำอย่างไรดีถ้าลู่ฉิวเยว่ไม่อยู่?
ม่อป๋อซงก็จ้องมองมาที่เธอด้วยความร้อนใจเช่นกัน