สูตรลับแม่ครัวมือทองในยุค80 - บทที่ 116 ตบหน้า
บทที่ 116 ตบหน้า
“ฉินซือ นายกำลังทำให้พี่นายกลัวแล้วนะ!” ม่อป๋อซงชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ เขารู้ว่านี่เป็นความผิดของภรรยา แต่เขาก็ทนเห็นฉินเซียวถูกคนอื่นต่อว่าแบบนี้ไม่ได้
“ใช่ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ” ฉินเซียวขยับไปนั่งติดกับสามี หวังจะเข้าไปหลบอยู่ข้างหลังเขาเหลือเกิน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความเศร้า ฉินซือถึงกับกล้ามาขึ้นเสียงใส่เธอเพราะลู่ฉิวเยว่ ผู้หญิงบ้านนอกคนนั้น!
เมื่อได้ยินพี่สาวตอบกลับมาอย่างไม่สลด ฉินซือก็ยิ่งรู้สึกโกรธเคืองมากกว่าเดิม ใบหน้าของเขาเย็นชาจนน่ากลัว
ถ้าพี่เขาไม่ตั้งใจก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่เธอผลักพ่อของลู่ฉิวเยว่ตกจากบันไดทั้งคน แถมยังวิ่งหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วจะมาบอกว่าไม่ตั้งใจได้อย่างไร!
เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลู่ฉิวเยว่จะเป็นอย่างไรถ้าเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับพ่อของเธอ ลู่ฉิวเยว่อาจจะเกลียดชังเขาไปตลอดชีวิตเลยก็เป็นได้!
นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อแม่ของฉินซือเห็นลูกชายตนเองน่ากลัวถึงเพียงนี้
“ฉินซือ พูดให้มันดี ๆ หน่อย ไม่เห็นต้องโวยวายแบบนี้เลย” แม่ของเขาลุกขึ้นมากระตุกชายเสื้อและบอกให้ลูกชายนั่งลงพูดคุยกันดี ๆ
ฉินซือไม่ได้มีสีหน้าดีขึ้นเลยสักนิด เขายังคงยืนอยู่ที่เดิม ก่อนจะอธิบายเรื่องราวทุกอย่างในวันนี้ที่พี่เขยกับพี่สาวกระทำให้พ่อแม่รับฟังทั้งหมด
“จริงหรือเปล่า?”
คุณพ่อฉินโมโหขึ้นมาทันที ถึงเขาจะถามออกมา แต่เขาก็รู้คำตอบในใจดีอยู่แล้ว ลูกชายของเขาไม่เคยโกหก ถ้าฉินซือบอกเล่าออกมาเช่นนี้ ก็แสดงว่ามันต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน
ส่วนคุณแม่ฉินเองก็ตกตะลึงและโกรธขึ้นมาในเวลาเดียวกัน “แกกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง! แกคิดอะไรอยู่!”
โชคดีที่พ่อของลู่ฉิวเยว่ปลอดภัย ไม่อย่างนั้นการกระทำของลูกสาวเธอคงทำลายตระกูลนี้ลงไปไม่เหลือชิ้นดีแล้ว!
“รีบไปขอโทษพวกเขาเดี๋ยวนี้!!” คนเป็นพ่อพูดด้วยความเย็นชา
เมื่อได้ยินว่าตัวเองต้องไปขอโทษ ฉินเซียวก็มีสีหน้าไม่ชอบใจขึ้นมาทันที จะให้เธอไปขอโทษหญิงบ้านนอกอย่างลู่ฉิวเยว่เนี่ยนะ สู้ให้เธอไปตายยังดีเสียกว่า!
ตอนนี้ฉินเซียวจินตนาการได้เลยว่าหญิงบ้านนอกคนนั้นจะเย้ยหยันเธอขนาดไหนเมื่อเห็นหน้าตน!
“หนูไม่ไป! ถ้าหล่อนไม่มาเกาะแกะฉินซือ เรื่องทั้งหมดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก! นี่ไม่ใช่ความผิดของหนูสักหน่อย!” ฉินเซียวพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
ม่อป๋อซงต้องการจะขอโทษ เรื่องนี้เป็นความผิดของพวกเขา นับตั้งแต่ที่เขากลับมาจากบ้านตระกูลลู่ เขาก็แทบจะไม่พูดอะไรออกมาเลย ชายหนุ่มยังคงรู้สึกผิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้เขากลับยื่นมือออกไปและกระชากภรรยาให้ถอยออกไปจากตนเอง “คุณไปเองนะ! ผมไม่ไปด้วยหรอก!”
“ก็ได้! ไม่ไปใช่ไหม!” ฉินซือที่โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะได้ยินพี่สาวพูดถึงลู่ฉิวเยว่ด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม แต่เมื่อเห็นเธอมีสีหน้าดื้อรั้นไม่ยอมแพ้เช่นนี้ เขาก็ยิ่งโมโหมากไปกว่าเดิม “ฉินเซียว! อีกไม่นานพี่จะต้องไปขอร้องอ้อนวอนเธอแน่นอน!”
จะให้ไปขอร้องอ้อนวอนผู้หญิงบ้านนอกอย่างลู่ฉิวเยว่เนี่ยนะ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร!?
ฉินเซียวหัวเราะออกมาด้วยความเย็นชา รู้สึกเหยียดหยามในหัวใจยิ่งนัก
“ปัง!” ประตูในห้องนั่งเล่นถูกกระแทกปิดอย่างแรง ฉินซือเดินจากไปด้วยความเดือดดาล ถ้าเขาอยู่ที่นี่นานมากไปกว่านี้ เขาคงต้องโมโหจนอกแตกตายเพราะพี่สาวที่ชื่อว่าฉินเซียวอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม คำพูดของฉินซือก็กลายเป็นความจริง เพราะในเช้าวันต่อมา ม่อป๋อซงได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าของเขา
“มีอะไรเหรอ?” ฉินเซียวถามด้วยความสงสัยเมื่อเธอเห็นสามีของตนเองกำลังจะใส่รองเท้าออกไปจากบ้านด้วยความรีบร้อน
ม่อป๋อซงพยักหน้าตอบกลับมา “เจ้านายผมบอกว่าเมื่อคืนนี้ฝนตก วันนี้เขาก็เลยปวดขา เขาอยากให้ผมช่วยซื้อยาทาขี้ผึ้งแก้ปวดไปให้หน่อย”
เขาพบว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเหลือเกิน เพราะปกติหัวหน้าของเขาจะรับประทานยาจากโรงพยาบาลใหญ่มาโดยตลอด ไม่เคยใช้ยาทาขี้ผึ้งจากร้านขายยาเล็ก ๆ แบบนี้มาก่อน แล้วทำไมครั้งนี้เจ้านายถึงให้เขาไปซื้อยาทาขี้ผึ้งนะ? มันจะใช้ได้ผลจริง ๆ เหรอ?
“เอ๋!” ฉินเซียวก็อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจเช่นกัน “เป็นไปได้ยังไง? ดูเหมือนร้านนี้จะดังมากเลยนะ ฉันเคยได้ยินชื่อมาจากที่ไหนสักที่นี่แหละ”
“ดูเหมือนน่าจะชื่อร้านเยว่อันอะไรสักอย่าง” ม่อป๋อซงพูดออกมา
เมื่อได้ยินคำพูดของสามี ฉินเซียวก็แทบจะสำลักผลไม้ที่กำลังรับประทานอยู่ เธอรู้สึกแสบคอ ใบหน้าบิดเบี้ยว
นั่นมันร้านขายยาของหญิงบ้านนอกลู่ฉิวเยว่ไม่ใช่หรือไง เธอเห็นชื่อร้านจากตอนที่ไปร้านอาหารเมื่อครั้งที่แล้ว
เมื่อเห็นสีหน้าของภรรยา ม่อป๋อซงก็หยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะจำได้เช่นกัน
ในตอนนี้ พวกเขาพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
“ผมจะทำยังไงดี? เขาเป็นเจ้านายคนสำคัญด้วย ถ้าผมไม่ทำตามคำสั่งของเขา มีหวังเขาไล่ผมออกแน่!” ม่อป๋อซงพูดด้วยความร้อนรน เจ้านายของเขาเป็นคนอารมณ์ร้ายและขี้หงุดหงิด ชายหนุ่มตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ประจบเอาใจเจ้านาย แต่ดูเหมือนนี่จะกลายเป็นโชคร้ายสำหรับเขามากกว่าโชคดีเสียแล้ว
ทำไมถึงต้องเป็นร้านขายยาของลู่ฉิวเยว่ด้วยนะ?
ม่อป๋อซงรู้สึกปวดหัว อยากจะตบตัวเองสักหลายฉาด
ถ้าพวกเขาไม่ไปก่อเรื่องเอาไว้ที่บ้านตระกูลลู่เมื่อวานนี้ พวกเขาจะต้องมานั่งปวดหัวแบบนี้ได้อย่างไร
ฉินเซียวนั่งลงบนโซฟาด้วยความเจ็บใจ
เธอรู้ว่าสามีตั้งใจจะใช้โอกาสนี้สร้างช่องทางเลื่อนตำแหน่ง เขาพยายามทำงานหนักมาโดยตลอด แต่ในเมื่อทำงานที่บริษัทไม่ค่อยมีโอกาส พวกเขาจึงต้องเดินทางไปทำธุรกิจติดต่อกับต่างประเทศเพื่อหาโอกาสเช่นนี้เอง
แต่ตอนนี้เมื่อมีโอกาสได้เข้าใกล้เจ้านายมาอยู่ในมือแล้ว ถ้าม่อป๋อซงทำภารกิจง่าย ๆ ที่เจ้านายมอบให้ไม่สำเร็จ เขาก็คงหมดโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งอีกต่อไป
“ฉันจะไปหาฉินซือ!” ฉินเซียวกัดฟันใส่รองเท้าและเดินออกจากบ้าน
เมื่อเห็นเช่นนี้ ม่อป๋อซงก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขานึกว่าภรรยาจะเกลียดชังลู่ฉิวเยว่จนไม่ยอมไปขอยาขี้ผึ้งมาให้เขาอีกแล้ว
“ขอบคุณมากนะ เมียจ๋า”
ในบ้านเช่าของฉินซือ
ชายหนุ่มนั่งเงียบอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าเย็นชา เนื่องจากสิ่งที่ฉินเซียวทำเอาไว้ ลู่ฉิวเยว่จึงไม่สนใจเขาเลย เขาไม่รู้อีกแล้วว่าควรทำอย่างไรดี
ในอดีต เธอเป็นคนหนักแน่นและไม่ค่อยผิดใจกับเขาเท่าไหร่ ฉินซือไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องนี้มาก่อน เขาจึงไม่รู้เลยว่าต้องรับมืออย่างไร
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!”
“ใคร?” เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาก็ลุกขึ้นไปเปิดประตูด้วยหน้าตาบูดบึ้งและก็ได้พบกับต้นตอของปัญหาที่ทำให้เขาต้องปวดหัวเช่นนี้
ฉินเซียวยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา ฉินซือก็ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “มีเรื่องอะไร?”
ฉินเซียวถึงกับชะงัก น้องชายของเธอเคยเคารพเธอเสมอมา เธอแทบไม่เคยเห็นเขาทำหน้าแบบนี้มาก่อน ตอนนี้เธอจึงพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
หญิงสาวมีท่าทางละอายใจ เธอพูดออกมาด้วยความเกรงใจว่า “พี่เขยของแกอยากได้ขี้ผึ้งทาแก้ปวดที่ขายอยู่ในร้านขายยาของลู่ฉิวเยว่ แกช่วยไปซื้อมาให้หน่อยได้ไหม?”
ฉินซือหัวเราะเยาะ “ขี้ผึ้งทาแก้ปวด? ยังจะมีหน้าไปซื้ออีกได้ยังไง? เป็นเพราะพี่ พ่อของเธอถึงต้องนอนโรงพยาบาล แทนที่จะไปขอโทษ พี่กลับจะให้ผมไปซื้อยาทาแก้ปวดให้เนี่ยนะ?”
หลังจากพูดจบแล้ว เขาก็กระแทกประตูปิดดังปัง นอกจากฉินเซียวจะไม่ได้ขี้ผึ้งแก้ปวดแล้ว เธอยังถูกปิดประตูใส่หน้าอีกด้วย
ในชีวิตนี้ เธอเกิดมาในตระกูลฉิน ใช้ชีวิตไม่ต่างจากเรือที่ล่องทะเลด้วยความราบรื่นมาตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเผชิญกับคลื่นลมอันรุนแรง ฉินเซียวมีดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าก่อนจะหมุนตัวเดินจากมา
แต่เธอไม่ได้กลับบ้าน เธอขับรถตรงไปที่บ้านตระกูลฉิน
“ลูกต้องไปซื้อด้วยตัวเองสิ แม่ไปไม่ได้หรอก ลูกทำให้พ่อของเธอต้องนอนโรงพยาบาลแบบนั้น แม่จะมีหน้าไปขอซื้อขี้ผึ้งแก้ปวดของพวกเขาได้ยังไง” คนเป็นแม่ส่ายหน้า ก้มหน้าก้มตาคัดแยกผักต่อไปและทำเหมือนลูกสาวเป็นอากาศ
ฉินเซียวถูกปฏิเสธเป็นครั้งที่สองติด ๆ กัน ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ ก็กัดฟันพูดว่า “แม่คะ เรื่องนี้เกี่ยวพันกับหน้าที่การงานของลูกเขยแม่ด้วยนะ แม่จะใจดำแบบนี้ได้ยังไง?”
“เรื่องนั้นพวกเราไม่สนใจหรอก!” คนเป็นพ่อเดินเข้ามาได้ยินเข้าพอดี สีหน้าของเขาเย็นชามากกว่าฉินซือหลายเท่า ทำเอาฉินเซียวตกใจจนหน้าขาวซีด
พ่อของเธอเป็นคนเข้มงวดมาตั้งแต่เธอยังเด็ก เธออาจจะกล้าขอร้องแม่ แต่เธอไม่กล้าขอร้องพ่อเด็ดขาด
คุณพ่อฉินพูดเสียงเข้มว่า “ถ้าแกไม่ไปขอโทษ งั้นพ่อกับแม่ก็จะคิดว่าพวกเราไม่มีลูกสาวก็แล้วกัน!”