สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 512 เย้ยหยัน
บทที่ 512 เย้ยหยัน
บทที่ 512 เย้ยหยัน
ฉู่เหินเพิ่งจะมาถึงที่นี่ ก็มีคนด้านข้างแนะนำให้ฟังเสร็จสรรพ ! ไม่ต้องถามว่าใครแนะนำ ก็คือหลิวฮุ่ยคนนั้นนั่นแหละ ชายคนนี้ดูเหมือนจะรู้เรื่องทุกอย่างในพรรควายุอัสนี ! เขาเล่าอย่างออกรสออกชาติให้ฉู่เหินฟัง !
ตอนที่ฉู่เหินต่อแถวรออยู่นั้น ก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นข้างหู ! เป็นเสียงที่ทำให้เขารู้สึกรำคาญหูเป็นอย่างมาก เพราะชายหนุ่มนั้นเกลียจเจ้าหมอนี้ !
“โอ้โห เจอกันอีกแล้วนะ ไม่น่าเชื่อจริง ๆ อาศัยความสามารถของแกตอนนี้ ทำไมไม่รีบไสหัวกลับบ้านไปซะ ! โตขนาดนี้แล้วยังมีพลังวรยุทธ์แค่นี้เองเหรอ แค่มองก็รู้แล้วว่าแกไม่มีพรสวรรค์ ! ฉันว่าแกกลับไปเถอะ ก่อนที่ฉันจะเชือดแกทิ้งเหมือนเต้าหู้นิ่ม ๆ ! ”
เสียงนั้นพูดมาอย่างเย้ยหยันพร้อมกับรัวหัวเราะไปด้วย ! ฉู่เหินที่ได้ยินเสียงนั้นกระแทกหูก็ขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะมองไปทางต้นเสียง ! สุดท้ายเขาก็พบว่าเจ้าของเสียงน่ารังเกียจนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าคนแซ่หลิวที่เป็นหลายของหลิวซานพีคนนั้น ! แต่ฉู่เหินขี้เกียจจะสนใจอีกฝ่ายแล้ว เลยทำเป็นไม่ได้ยินไปเสีย !
ฉู่เหินสามารถทำเป็นไม่ได้ยินได้ก็จริง ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่คิดอย่างนั้น พอเขาเห็นว่าฉู่เหินไม่ตอบโต้ก็ยิ่งได้ใจ พูดสิ่งที่ไม่น่าฟังยิ่งขึ้นไปอีก จนทำให้ฉู่เหินขมวดคิ้วด้วยรู้สึกรังเกียจหมอนี้เป็นเท่าตัว !
ถ้าที่นี่ให้ลงมือได้ล่ะก็ เขาจะไม่ลังเลเลยที่จะพุ่งตัวไปต่อยอีกฝ่ายจนตาย ! ถ้ายังให้คนแบบนี้อยู่ต่อไปบนโลกนี้ นั่นคงจะเป็นหายนะของโลกแล้ว !
“ลูกพี่ แม้ว่าที่นี่เขาจะไม่ให้ฆ่ากัน แต่จะลงมือทำร้ายคนอื่นสักหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ! ขอเพียงแค่ไม่ให้เอิกเกริกนนักก็ไม่มีใครสนใจแล้ว” หลิวฮุ่ยเข้าใจว่าฉู่เหินคิดอะไรอยู่ เลยกระซิบเสียงเบาๆให้ได้ยินแค่ 2 คน ! คำพูดของเขานั้นเป็นการเตือนให้ฉู่เหินอย่าลงมือก่อน ชายหนุ่มนั้นจะต้องทำให้เหมือนกำลังป้องกันตัวอยู่ !
“ไอ้หย๋า ต้นสนใหญ่ จะนกอะไรก็มีหมด เมื่อกี้ที่กลั้นเอาไว้ไม่พูดอะไรเพราะจะดูว่าแกจะพูดอะไรที่มันสร้างสรรค์บ้าง แต่พูดไปพูดมากลับมาแต่ลมตดหาสาระไม่ได้สักอย่าง ! ” ฉู่เหินพูดไปก็หัวเราะไป !
พอได้ยินที่ฉู่เหินพูด หลิวฮุ่ยก็อดที่จะอุทานออกมาว่าลูกพี่สุดยอด ! ไม่ได้ แม้ว่าจะไม่ได้พูดเจ็บแสบอะไร ! แต่ดูจากนิสัยของอีกฝ่ายแล้ว ! ถ้าได้ยินประโยคนี้ไปต้องอดไม่ไหวแน่ ๆ ! ถ้าเขากล้าลงมือก่อน ถ้างั้นความซวยก็จะตกมาอยู่ที่ตัวเขาเอง ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อหลานของหลิวซานพีได้ยินที่ฉู่เหินพูด เขาก็พลันมีโทสะขึ้นมาในทันที !
“นี้แกพูดพล่ามอะไรห๊ะ ! ”
“นั้นต้องถามแกเองแล้วล่ะ แกพล่ามอะไรฉันก็พล่ามเหมือนแกนั่นแหละ ! ” เมื่อฉู่เหินพูดจบ คนรอบ ๆ ก็พากันหัวเราะตามทันที ! ทว่าในเวลาเดียวกัน ฉู่เหินก็ได้แอบทำเหงื่อปลอมขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนคิดว่าพลังของฉู่เหินนั้นไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้ !
ฉู่เหินยืนปะทะคารมกับคนแซ่หลิว ทำให้ทั้ง 9 คนที่นอนหลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมามอง ! จากนั้นพวกเขาก็มองฉู่เหินอย่างชื่นชม แต่ก็ทำเพียงแค่นั้น
“แกแส่หาที่ตายเองนะ ! ” คนแซ่หลิวนั้นเป็นคนหัวร้อนง่ายอยู่แล้ว ไม่งั้นก็คงไม่ทำเรื่องที่ไม่ฉลาดง่าย ๆ แบบนี้หรอก ! ที่จริงตอนที่เขาพูดจายั่วยุอยู่นั้น ผู้อาวุโสรอบ ๆ ก็หันมามองเขาหมดแล้ว ทั้งสายตาที่มองก็ยังเป็นแววตาตำหนิอีกด้วย !
“ขอเตือนว่าแกอย่าทำผิดกฎโดยไม่ได้รับอนุญาตซะล่ะ ไม่งั้นตอนที่รับเลือกเข้าพรรคสถานะของแกจะไม่ค่อยดีเท่าไร ! ” พอทุกคนได้ยินดังนั้นก็คิดว่าฉู่เหินเริ่มกลัวซะแล้ว ! แต่พวกเขาไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วชายหนุ่มนั้นกำลังขุดกับดักอันใหญ่ให้อีกฝ่ายอยู่ !
“จะลงโทษฉันก็ต้องดูว่าลุงฉันจะยอมหรือเปล่า ไม่รู้หรือไงว่าลุงฉันเป็นใคร ขอบอกแกให้รู้ไว้ ลุงฉันก็คือหลิวเทียนฉี ! ” คนรอบข้างไม่รู้ว่าหลินเทียนฉีคือใคร แต่ผู้อาวุโสที่ยืนเรียงรายอยู่นั้น พอได้ยินชื่อนี้หัวสมองก็หมุนทันที เพราะพวกเขารู้ว่าคนคนนี้ยั่วโมโหไม่ได้ !
หลังจากหลิงฮุ่ยได้ยินชื่อนี้ ดวงตาก็หรี่เล็ก กระซิบข้างหูฉู่เหินว่า “ลูกพี่ อดทนได้ก็อดทนก่อนเถอะ เจ้านี้น่ะไม่เท่าไรหรอก แต่ลุงและปู่ของมันน่ะไม่ใช่ ! แท้ที่จริงแล้ว 3 ผู้อาวุโสใหญ่ของพรรคก็คือปู่ของมัน ! ”
พอได้ยินดังนั้นดวงตาฉู่เหินก็หรี่แคบลง จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งจะรู้ว่าทำไมตอนแรกจางซานเฟิงถึงบอกพวกเขาว่าพยายามอย่ายั่วโมโหกับคนพวกนี้ ! ที่แท้ก็เพราะความเส้นใหญ่ของชายคนนี้นี่เอง แต่แล้วทำไมละ ? จะให้คนอย่างเขาซ่อนตัวอยู่แต่ในพรรควายุอัสนีเหรอ ต้องเข้าใจว่าก่อนหน้านั้นฉู่เหินได้ไปยั่วโมโหลุงคนนั้นก่อนแล้ว !
คิดหรือว่าศัตรูจะปล่อยตัวเองไป ไม่ว่าจะซ้ายหรือขวาก็ต้องโดนรับโทษ ถ้าเป็นแบบนั้นไม่สู้ถือโอกาสนี้ลงมือซะเลย ! ยิ่งไปกว่านั้นฉู่เหินก็มีไพ่ตายเก็บไว้อยู่แล้ว อย่าลืมสิว่าเขามีอัคคีสังสารวัฏอยู่น่ะ !
“คนที่ออกมาใช้ชีวิตข้างนอกแล้วยังพึ่งบารมีญาติตัวเองแบบนี้ ฉันเห็นแล้วรู้สึกน่าสมเพช ! นี่แกเป็นง่อยเสียจนยืนด้วยลำแข้งของตัวเองไม่ได้หรือไง ! ” คำพูดยั่วโมโหของฉู่เหิน สามารถเพิ่มอารมณ์โกรธให้กับอีกฝ่ายได้จริง ๆ !
ต่อมาก็เห็นเพียงชายคนนั้นมองฉู่เหินอย่างโกรธแค้น ด้วยไม่รู้จะทำยังไงดี ! ยิ่งมองที่ฉู่เหิน เขาก็ยิ่งมั่นใจว่าชายหนุ่มตรงหน้านั้นไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว !
“แกนี้ไม่รู้จักเจียมตัวเลยนะ แกก็ออกจะหน้าตาดี คิดไม่ถึงว่าเรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ได้ ! ต่อให้พรสวรรค์แกดี แต่บ้านรวมดาราของพวกเราจะไม่ขอรับแกเข้ามาเป็นลูกศิษย์เด็ดขาด ! คนหมา ๆ แบบแกก็เป็นได้แค่กากเดนเท่านั้นแหละ ! ” คนที่มีหน้าที่รับศิษย์เข้าบ้านของบ้านรวมดาราพูดขึ้นพร้อมทั้งมองฉู่เหินด้วยสายตาดูถูก !
“ถ้าคนของบ้านรวมดาราเป็นแบบคุณที่รู้จักแค่เลียขาคนอื่นล่ะก็ ฉันก็รู้แล้วว่าบ้านนี้เป็นสถานที่แบบไหน เพราะงั้นให้ตายฉันก็ไม่ไม่อยู่หรอก ! ” พอฉู่เหินพูดจบ คนรอบ ๆ ที่ได้ยินก็พากันอึ้งไปตาม ๆ กัน กระทั่งเสียงนกยังไม่ได้ยิน ! พวกเขาคิดไม่ถึงว่าฉู่เหินจะใจกล้าถึงขนาดด่ากระทั่งลูกศิษย์อย่างเป็นทางการแบบนี้ !
ไม่เพียงเท่านี้ กระทั่งบ้านรวมดาราก็ถูกฉู่เหินด่าไปแล้วด้วย ! ขณะที่ทุกคนกำลังกังวลใจอยู่นั้น คนที่นอนอยู่เพียงกลุ่มเดียวในที่นี้ก็พลันหันมองมาด้วยสายตาชื่นชม ! แน่นอนว่าบ้านวายุของพวกเขาไม่กลัว 4 บ้านที่เหลือ เพราะว่าพวกเขามีเพียง 9 คนเท่านั้น ดังนั้นถ้าอีกฝ่ายกล้ายั่วโมโห ถ้างั้นพวกเขาก็ไม่เกรงใจแล้วนะ !
ในพรรควายุอัสนี พวกเขาทั้ง 9 คนเป็นดั่งเทพมรณะ ! ใครก็ตามที่พบเจอเทพมรณะ คนผู้นั้นจะต้องรีบหลบให้ไกลเท่านั้น ต้องเข้าใจว่าพวกเขามีบุณคุณความแค้นต่อบ้านทั้ง 4 เพราะทั้ง 4 บ้านทำกับพวกเขาเกินไป แม้แต่พ่อครัวแม่บ้านพวกเขายังเอาไปด้วย นี้ทำให้พวกเขาทั้ง 9 โกรธมาก !
เมื่อก่อนเคยมีเจ้าคนจากบ้านรวมดาราคนหนึ่งมาทำเรื่องวุ่นวายในบ้านวายุ ! สุดท้ายก็โดนพวกเขาทั้ง 9 จับได้ ก่อนจะพาส่งไปที่บ้านรวมดารา และทิ้งท้ายด้วยการที่พวกเขาทั้ง 9 คนเข้าไปตีคนของบ้านรวมดาราไปชุดหนึ่ง !
เดิมทีทุกคนคิดว่าคนพวกนั้นต้องได้รับโทษ แต่คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะจบไปเสียเฉย ๆ ทำให้หัวหน้าบ้านรวมดารารู้ตัวว่าเขานั้นซวยเข้าให้แล้ว ! หลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ก็ไม่มีใครกล้าหาเรื่องบ้านวายุอีก ในสายตาพวกเขา บ้านวายุนั้นคล้ายกับงูพิษ ที่กล้าฉกคนกลับเมื่อถูกยั่วยุ ! ดังนั้นจึงเรียกได้เต็มปากเลยว่าพวกเขาคือเทพมรณะอย่างแท้จริง !
“หนุ่มน้อย นายเบื่อชีวิตตัวเองแล้วใช่ไหม ถึงได้กล้าด่าบ้านรวมดาราของพวกเรา ! ” ใบหน้าของคนจากบ้านรวมดาราคนนั้นอาบไปด้วยรังสีฆ่าฟัน เขาพูดกับฉู่เหินด้วยทีท่าข่มขู่
“โปรดอย่าเข้าใจผิด คนที่ฉันด่ามีแค่คุณคนเดียว ไม่ใช่บ้านรวมดารา ! คนอย่างแกน่ะเหรอที่จะสามารถเป็นตัวแทนของบ้านรวมดาราได้ ! ” ฉู่เหินพูดออกมาจากใจ ! ซึ่งถ้าประโยคนี้เข้าหูหัวหน้าบ้านรวมดาราล่ะก็ เกรงว่าอนาคตเขาคงดับอนาถแล้ว !
“ไอ้เด็กนี้ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ! ยังไม่ทันเข้าพรรคอย่างเป็นทางการ แต่กับกล้าพูดกับศิษย์ในพรรคอย่างนี้แล้ว ! แกนี่มันไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ! คนธรรมดา ๆ อย่างแก บ้านรวมดาราของเราไม่รับแกไว้หรอก ! ” คนบ้านรวมดาราประกาศเสียงแข็ง !