สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 302 เกาะวงแหวนเงิน
บทที่ 302 เกาะวงแหวนเงิน
บทที่ 302 เกาะวงแหวนเงิน
ตอนนี้ฉู่เหินแข็งทื่อไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงนั้นมันแข็งจนทนไม่ไหวแล้ว! ทุกวันมันแข็งเหมือนเหล็กทำให้เขากระสับกระส่ายนั่งไม่ติด โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านเส้นเลือดในดวงตาสองข้างเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง ทำให้เสี่ยวชิงเห็นแล้วก็ปวดใจ แต่สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะสมจะแก้ไขปัญหาเท่าไร
หากไม่ใช่เพราะสถานที่ไม่เหมาะสม เสี่ยวชิงไม่ถือสาที่จะช่วยฉู่เหินแก้ไขปัญหานี้ แม้ว่าข้อเสียของวิชานี้จะค่อนข้างชัดเจน แต่ผลคือพลังของฉู่เหินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วันฉู่เหินก็มาถึงขีดสุดของขั้นเต๋าระดับกลางแล้วอีกไม่กี่ก้าวก็จะเข้าสู่ขั้นเต๋าระดับสูงอย่างแท้จริง!
ฉู่เหินคิดว่าหลังจากเขากลับไปได้คงทะลวงขั้นเต๋าไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดช่วงล่างทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงต้องทำจิตใจให้นิ่งสงบแล้วโคจรพลังรอบตัว ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถหันเหความสนใจไปทางอื่นทำให้เขาคลายความเจ็บปวดลงได้
ระหว่างทาง ด้วยป้ายอาญาสิทธิ์ของเผ่าท้องทะเล ทำให้ฉู่เหินเดินทางอย่างสบายใจ ตอนนี้เขาพอรู้ที่ซ่อนของพวกโจรสลัดแล้ว ตามที่กองทหารกุ้งและปูในมหาสมุทรได้บอกเขามา ในทะเลตงไห่มีสถานที่ที่เรียกว่าเกาะวงแหวนเงิน ทหารกุ้งและปูเห็นพวกโจรเข้าไปในเกาะ
เกาะวงแหวนเงินอยู่ห่างออกไปประมาณ 10 ไมล์และเกาะแห่งนี้มีป่าทึบ ดังนั้นการซ่อนคน 18,000 คนบนเกาะนี้จึงง่ายมาก ฉู่เหินต้องการจัดการทั้งหมดให้สิ้นซากที่เกาะนี้ ไม่ให้พวกมันไปก่อกวนคนอื่นได้อีก
เมื่อพูดถึงเกาะวงแหวนเงิน มันก็อยู่ไม่ไกลจากที่เขาอยู่ตอนนี้เลย เขาขี่ราชาฉลามพิษไม่นาน พออยู่ในรัศมีเกาะเขาก็เลือกที่จะว่ายน้ำไปแทน
เมื่อฉู่เหินมาที่นี่ก็รู้เลยว่าที่นี่อันตรายจริง ๆ มันง่ายต่อการป้องกันและยากที่จะโจมตีถึงแม้ว่านี่จะเป็นเกาะก็ตาม มันมีหน้าแนวผาสำหรับป้องกันถึงสามแห่ง ถ้าเข้าจากฝั่งตรงข้ามแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ดังนั้นการเข้าเกาะที่ง่ายที่สุดก็คือด้านหน้าของเกาะเท่านั้น! ที่ทางด้านหน้าเขาเคยสำรวจอย่างละเอียดแล้ว ฉู่เหินรู้สึกว่าที่นี่มีอันตรายซ่อนอยู่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องมีการซุ่มโจมตีอยู่อย่างแน่นอน!
หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว ฉู่เหินก็ตัดสินใจ เขาจะแกล้งทำเป็นเข้าไปในเกาะ แต่ไม่ได้เข้าไปลึกจะเดินไปรอบ ๆ บริเวณด้านหน้าแทนในขณะเดียวกันเขาจะสร้างกับดักฝังเอาไว้ในดิน และทุกอันเขาจะทำเครื่องหมายเอาไว้ หลังจากอันสุดท้ายถูกฝังเสร็จแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของฉู่เหิน
เขาโบกมือเบา ๆ ไม่นานกระต่ายต้องสาปก็ปรากฏบนไหล่ของเขา
“เสี่ยวหง ฉันจะให้นายจัดการที่นี่ นายมีพลังเท่าไรก็ใส่ให้เต็มที พยายามสาปเกาะแห่งนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลย!” หลังจากกระต่ายได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้า มันปลดปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมา แต่ถึงอย่างนั้นมันครอบคลุมได้แค่ ⅓ ของเกาะทั้งหมด แต่แค่นี่ก็เพียงพอแล้ว
หลังจากทำการสาปแช่งครั้งแล้วครั้งเล่าเสี่ยวหงรู้สึกร่างกายเหนื่อยล้า ฉู่เหินเลยเก็บมันไว้ในแหวนมิติ ตอนเขาสร้างกับดักเสร็จก็หันหลังออกจากเกาะไปทันที!
เข้าไปข้างหน้าตรง ๆ มันโง่สิ้นดี ยิ่งถ้ารู้อยู่แล้วว่าจะมีการซุ่มโจมตีข้างในจะเข้าไปทำไม หรือคิดว่าเขาโง่? แม้ว่าเกาะแห่งนี้จะมีหน้าผาสามด้าน แต่ฉู่เหินมีกระเรียนอวกาศมาด้วย นกตัวนี้พาเขาขึ้นไปบนฟ้าได้ เรื่องอะไรต้องเข้าไปด้านหน้า
ฉู่เหินที่นั่งอยู่บนกระเรียนอวกาศก็ลอยขึ้นไปบนหน้าผาที่สูงที่สุดที่ของเกาะวงแหวนเงิน! ส่วนราชาฉลามพิษหลายตัวนั่น ฉู่เหินให้พวกมันรอรับคำสั่งจากเขา!
ต้องบอกว่าเกาะแห่งนี้สูงมากจริง ๆ น่ากลัวว่ามันจะสูงกว่าระดับน้ำทะเลหลายพันเมตร เขาไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมภูเขาสูงขนาดนี้ถึงกว้างแค่เพียงไม่กี่ 10 ไมล์ มันไร้เหตุผลสิ้นดี
ครู่ต่อมานกสองตัวก็บินอยู่เหนือสุดของเกาะ เมื่อมองจากด้านบนฉู่เหินก็อดตกใจไม่ได้! ภูเขาทั้งลูกนั้นเป็นรูปทรงกรวย และส่วนล่างของภูเขานั้นเล็กมาก แต่ยิ่งสูงมากเท่าไรมันก็จะกว้างขึ้นเท่านั้น อย่างน้อยตอนที่เขายืนอยู่บนกระเรียนอวกาศและมองลงไปฉู่เหินก็รู้สึกว่าเกาะนี้ใหญ่นับร้อยกว่าไมล์
เดิมทีเขาวางแผนที่จะปล่อยให้กระเรียนอวกาศบินไปทั่วเกาะ แต่ทันทีที่เขาเห็นแบบนี้ เขาก็รู้สึกหวาดกลัวและล้มเลิกความคิดนี้อย่างรวดเร็ว! เขาสั่งให้นกสองตัวนี้อย่าส่งเสียง จากนั้นจึงลงไปที่ด้านหนึ่งของหน้าผาอย่างเงียบ ๆ
ฉู่เหินเดินลงมาจากนกแล้วยื่นมือออกไปช่วยพยุงเสี่ยวซิง เธอยิ้มแล้วกระโดดลงบนพื้นอย่างมั่นคง! เมื่อฉู่เหินยืนอยู่ที่มุมหน้าผาเขาก็พบว่าตัวเองประเมินค่าเกาะวงแหวนเงินต่ำไป
เหตุผลที่เกาะวงแหวนเงินดูจากภายนอกไม่ได้ใหญ่มากนักเพราะมีการสร้างค่ายกลรอบล้อมเอาไว้ ทำให้เกาะขนาดใหญ่จึงเล็กมากเมื่อดูจากสายตาคนภายนอก
อย่างน้อยวิธีนี้ด้วยพลังในปัจจุบันฉู่เหินก็ยังไม่สามารถทำได้ เห็นได้ว่าคนที่สร้างค่ายกลนี้จะต้องเก่งกาจกว่าฉู่เหินหลายเท่านัก ยิ่งเห็นแบบนี้ ฉู่เหินจึงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น
เมื่อเดินไปข้างหน้าด้วยความระมัดระวังไม่นานก็มีม่านแสงสีขาวปรากฏ ฉู่เหินตรวจสอบมันอย่างถี่ถ้วนถึงได้รู้ว่านี่ก็คือค่ายกลรูปแบบหนึ่ง แม้เขาจะไม่เคยจัดการค่ายกลนี้มาก่อนและก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนด้วยเช่นกันว่ามันคืออะไร แต่หลังจากที่เขาพิจารณามันสักพักแล้ว เขาก็พบว่าค่ายกลนี้ไม่น่าเป็นปัญหามากนัก
หลังจากบอกให้ทุกคนรู้ ฉู่เหินก็นั่งขัดสมาธิลงข้าง ๆ ค่ายกลแล้วเริ่มทำการวิเคราะห์ค่ายกลอย่างละเอียด หลังจากเขาตรวจสอบเสร็จแล้ว เขาก็ต้องตกใจ เพราะค่ายกลนี้มันล้ำลึกมาก ภายในไม่เพียงแต่มีกับดักฆ่าคน เกราะป้องกัน มนต์มายา ครบทุกอย่างในค่ายกลเดียว แต่ยังมีหนึ่งอย่างที่เขาไม่เข้าใจ
ในเมื่อค่ายกลนี้ทำให้เกาะใหญ่ ๆ ดูเล็กมากงั้นมันก็ต้องใช้หลังมหาศาล เขาไม่รู้ว่าค่ายกลชนิดนี้ใช้พลังงานชนิดใด แต่ฉู่เหินรู้สึกว่ามันคล้ายกับกระเรียนอวกาศหลังจากคิดเรื่องนี้แล้วเขาก็หรี่ตาลง
ค่ายกลนี้คล้ายกับกระเรียนอวกาศหรือว่ามันจะเป็นพลังงานจากอวกาศ? วิชาแบบนี้ในโลกจอมยุทธ์ยังด้อยพัฒนานัก แม้แต่ในทวีปลึกลับตามที่ฉู่เหินรู้มีคนน้อยมากที่จะทำแบบนี้ได้ ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมาก็ไม่มีใครทำแบบนี้มาก่อน
ผู้มีพลังอวกาศและกาลเวลา ฟังยังไงก็ดูแปลกมาก บุคคลแบบนี้หาได้ยาก เป็นระดับที่ฉู่เหินไม่อาจต่อสู้ด้วยได้เลย เพราะอีกฝ่ายสามารถเปลี่ยนเวลาได้ ลองนึกภาพว่าอีกฝ่ายอยู่ห่างออกไป 10,000 ไมล์สิ แม้คุณจะทุ่มสุดแรงยังไงก็ไม่อาจทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย
เพราะเหตุนี้ คนที่มีความสามารถด้านเวลาจึงน่ากลัว หากสู้กับคนปกติเมื่อชกไปอีกฝ่ายก็จะเจ็บ แต่ถ้าชกคนที่เปลี่ยนเวลาได้พรุ่งนี้หมัดที่ชกไปก็อาจจะยังอยู่ที่เดิม โอ้พระเจ้า ถ้ามีวันหนึ่งเจอคนแบบนี้ เขาต้องรีบหนีให้ไกลสัก 10,000 ไมล์หรือแม้กระทั่งหลายแสนไมล์ยิ่งดี
ชายคนที่สร้างค่ายกลนี้ควบคุมพื้นที่และเวลาได้ มันเป็นวิชาต้องห้าม เมื่อมีจอมยุทธ์พยายามเรียนรู้วิชาความสามารถนี้ พวกเขาจะถูกจับให้อยู่ภายใต้การควบคุมหรือถูกสังหารทันที
ว่ากันว่าหมื่นปีก่อน ทวีปลึกลับมียอดฝีมือคนหนึ่งฝึกวิชาเกี่ยวกับเวลา ตอนที่เริ่มฝึกเขาก็ถูกตามล่าแต่ก็หนีไปได้เขาซ่อนตัวอยู่หลายร้อยปีจนเขาสำเร็จวิชา เขาเลยกลับไปล้างแค้น และกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในใต้หล้า ว่ากันว่าเขาฆ่าล้างบางกลุ่มจอมยุทธ์ที่เก่งกาจที่สุดแห่งยุคภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
แสดงให้เห็นว่าคนที่มีพลังอวกาศนั้นน่ากลัวเพียงใด! แต่ฉู่เหินโชคดีที่มีนกกระเรียนอวกาศอยู่ข้างกาย ถึงแม้ว่ากระเรียนอวกาศจะถูกมีพลังง่ายๆแค่ควบคุมพื้นที่ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้ว่าวิชานี้มันเป็นยังไง ผู้คนเองก็ไม่ได้เกรงกลัวมัน เพราะนกกระเรียนอวกาศไม่อาจฝึกตนให้ถึงขั้นสูงได้ มันเป็นขีดจำกัดทางสายเลือด!