สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 240 เม่ยซานเหนียง
บทที่ 240 เม่ยซานเหนียง
บทที่ 240 เม่ยซานเหนียง
เธอได้แต่ลอบถอนหายใจ เธอไม่คาดคิดว่าตอนนี้เธอถูกรังแกโดยสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ตกลงมาบนหน้าของเธอ เธอทนไม่ได้อีกต่อไป เธอกระอักเลือดออกมาเต็มคำ
ศีรษะของเธอส่ายไปมาก่อนที่เธอจะหมดสติลง
เม่ยซานเหนียงตกอยู่ในอาการโคม่าทำให้ทั่วพรรคกระบี่แห่งเทียนซานพากันวุ่นวายไปหมด แม้แต่ศิษย์พี่ก็รีบออกมาเพื่อดูอาการบาดเจ็บของเธออย่างรวดเร็ว ทั้งพรรคกระบี่เทียนซานเกิดความจราจลในทันใด หลังจากได้เห็นภาพนี้เม่ยซานเหนียงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มบางๆ เธอรู้ว่าในที่สุดโอกาสแก้แค้นของเธอก็มาถึงแล้ว!
ในคุกน้ำ 1 ครั้ง 2 ครั้ง 10 ครั้ง 11ครั้ง พริบตาเดียวกำแพงกั้นขั้นพลังก็ถูกกระแทก 20 ถึง 30 ครั้ง ทุกครั้งที่กำแพงถูกกระแทกมันจะมีรอยร้าวปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้มันดูเหมือนจะถูกทำลายได้ตลอดเวลาในที่สุดก็หลังจากผ่านไปอีกไม่กี่ครั้ง เสียงก็ดังสะท้อนออกมา!
ฉู่เหินรู้สึกถึงพลังขนาดใหญ่ที่เปล่งออกมาจากตัวเขา ลมปราณที่ยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ ฉู่เหินรู้สึกว่าเขารู้สึกแตกต่างจากขั้นเต๋าทั่วไปที่เคยเจอมาอย่างสิ้นเชิง หลังจากการฝึกฝนอย่างยาวนานฉู่เหินก็ทะลวงเข้าสู่ขั้นเต๋าที่เขาใฝ่ฝัน พลังบ่มเพาะภายในร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่องทำให้เขามีความสุขมาก เขารู้สึกว่าพลังดวงดาวในตัวเขาเองก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เกินกว่าที่คนระดับเดียวกันจะเทียบได้
หากเปรียบเทียบผู้ฝึกยุทธขั้นเต๋ากับลำธาร เช่นนั้นตัวเขาในตอนนี้ก็เหมือนทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ช่องว่างความแตกต่างนี้ทำให้เขาต้องอุทานออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้!
ความแตกต่างนี้หาที่เปรียบมิได้ ฉู่เหินไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นขั้นเต๋าเหมือนกันถึงมีช่องว่างความแตกต่างที่ทำให้โลกสั่นสะเทือนได้ขนาดนี้ แต่เมื่อคิดๆ ดูแล้วเรื่องนี้กับระบบเชื่อมโลกาต้องเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน!
ตอนนี้สมรรถภาพทางกายของเขาแข็งแกร่งมากกว่าคนอื่นถึงเท่าตัวตีเป็นค่าพลังได้ตามนี้
ร่างกาย 8 เท่าจากเดิม
ความว่องไว 7 เท่าจากเดิม
พลังดวงดาว 6 เท่าจากเดิม
พลังจิต 9 เท่าจากเดิม
ตอนนี้เท่ากับเขายกระดับพลังขึ้นถึง 8 เท่าจากเดิมถ้าเป็นแบบนี้ เขาถือว่าแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกยุทธขั้นเต๋าคนอื่นมากทีเดียว ช่างวิเศษเสียจริง
เพียงแต่ว่ามันยากที่จะควบคุมพลังเหล่านี้ที่เพิ่มขึ้นมาในทันที เขาต้องทำความคุ้นเคยกับพลังของตัวเองซะก่อน
ฉู่เหินเข้าใจว่าบางสิ่งบางอย่างนั้นก็ไม่ควรที่จะไปเร่งรัด เขาต้องทำตามขั้นตอนและก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว เขาเชื่อว่าวันหนึ่งจะสามารถไปถึงจุดสุดยอดของยอดฝีมือได้ หลังจากสงบสติลงอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ค่อยๆ เก็บพลังกลับเข้าไปตอนนี้ดวงตาของเขายังคงครุ่นคิด เขาจะหนีจากที่นี่ได้ยังไง?
หญิงแก่นั้นน่ากลัวมาก แต่ตอนนี้เขาได้เลื่อนขั้นมาแล้ว ถ้าเขาซ่อนพลังเอาไว้และวางแผนล่วงหน้าดีๆ หญิงแก่ไร้ยางอายนั้นจะต้องได้รับบาดเจ็บบ้างล่ะ
แต่คุกน้ำนี้ได้ถูกคุ้มครองอย่างแน่นหนา ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกไปข้างนอก ขณะที่เขาไตร่ตรองอย่างระมัดระวังเขาก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลกประหลาดอยู่ภายในร่างกายของเขา เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร! หลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียดเขาก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร จึงแต่ยอมแพ้ไป
ในขณะที่ฉู่เหินกำลังคิดหาวิธีการอยู่ ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น เขาก็รู้สึกว่าประตูคุกน้ำถูกเปิดออก ฉู่เหินเงยหน้าขึ้นมอง แม้จะเป็นตอนกลางคืนแต่ฉู่เหินบอกได้เลยว่าคนผู้นี้เป็นผู้หญิง และผู้หญิงคนนี้ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยกับเขามาก ฉู่เหินขมวดคิ้วและมองเธออย่างระแวดระวัง
“เงียบซะ ฉันจะไม่พูดมากล่ะนะ ตอนนี้ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยนายออกไป! ส่วนเหตุผลนั้นนายไม่จำเป็นต้องรู้ ถือเสียว่านายเป็นหนี้ชีวิตของฉันถ้ามีโอกาส ในอนาคตฉันก็หวังว่านายจะตอบแทนฉันด้วยล่ะ”
เสียงของอีกฝ่ายนั้นเยือกเย็นและโหดเหี้ยม แต่ฉู่เหินได้ยินอย่างชัดเจน เสียงนี้เขารู้สึกคุ้นเคยมาก เขาคิดในใจอยู่สักพักสุดท้ายก็นึกออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร!
“เม่ยซานเหนียง นี้ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการหรอกเหรอ ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเธอจะเป็นคนที่มาช่วยฉันวันนี้ น่าประหลาดใจจริงๆ!”
เมื่อฉู่เหินรู้ว่านี้เป็นเสียงของเม่ยซานเหนียง เขาก็อดตกตะลึงไม่ได้ ตอนนี้เม่ยซานเหนียงไม่น่ามาหลอกช่วยเขา เพราะว่าตอนนี้เขาก็เหมือนหมูที่อยู่บนเขียง หากว่าอีกฝ่ายอยากฆ่าเขานั้นมันช่างง่ายดาย เธอไม่จำเป็นที่จะต้องโกหกอะไร เพราะเหตุนี้เขาจึงตกใจมากที่เธอมาช่วยเขาจริงๆ
“ตกใจเหรอ? ทำไมคนอย่างฉันจะทำแบบนี้ไม่ได้หรือไง? ฉันแทบจะทนไม่ไหวที่จะถลกหนังดื่มเลือดของนายอยู่แล้ว แต่ฉันไม่คิดเหมือนกันว่าต้องมาช่วยนาย! ยังไงชีวิตของนายมันก็มีความหมายแต่ฉันจะไม่พูดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ฉันแค่หวังว่านายจะจำได้ว่านายเป็นหนี้ชีวิตฉันครั้งใหญ่?”
เมื่อเม่ยซานเหนียงพูดจบ ร่องรอยแห่งความเศร้าโศกของเธอก็ปรากฏบนใบหน้าอย่างชัดเจน แม้ฉู่เหินจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาก็พยักหน้า เขาคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้ของเม่ยซานเหนียงคงจะไม่ค่อยดีนัก! เหตุผลที่เธอเต็มใจปล่อยเขาไปด้วยตัวเองน่าจะเป็นการเดิมพัน เธอไม่ได้เดิมพันกับตัวเขาในตอนนี้ แต่เป็นกับตัวเขาในอนาคต!
แม้เขาจะไม่เข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นตัวเขา แต่ฉู่เหินรู้สึกว่าบางทีเมื่อเขาเป็นยอดฝีมือจริงๆ มันอาจเป็นเวลาที่จะมาตอบแทนเม่ยซานเหนียง แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้ทำสัญญาหรืออะไรชัดเจน แต่ฉู่เหินก็เข้าใจว่าเขาต้องรักษาสัญญากับอีกฝ่าย เพราะถ้าไม่ได้อีกฝ่ายช่วยเกรงว่าเขาคงจะหนีไปไม่ได้แน่ๆ
“ไม่ว่าเธอจะขออะไรเป็นค่าตอบแทนในวันนี้ ถ้าในอนาคตฉันสามารถทำมันได้โดยไม่ผิดกับจรรยาบรรณของตัวเอง ฉันจะช่วยเธออย่างแน่นอน!” หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉู่เหินก็กล่าวออกมาอย่างจริงจัง
เหตุผลที่เม่ยซานเหนียงเข้ามาที่นี่และพูดไร้สาระกับฉู่เหินอยู่นาน ก็เพื่อรอประโยคนี้ของฉู่เหินนั้นเอง! หากเป็นคนอื่นสัญญากับเม่ยซานเหนียง เธอจะไม่เชื่อและหัวเราะเยาะออกมา แต่ฉู่เหินนั้นแตกต่างกัน เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายคือคนที่รักษาคำพูดทุกคำ ถ้าฉู่เหินสัญญา เธอเชื่อว่าจะไม่มีวันที่อีกฝ่ายจะผิดคำสัญญาในอนาคต
คนที่รู้จักคุณดีที่สุดก็คือศัตรูของคุณ ในตอนที่ฉู่เหินเป็นศัตรูของเม่ยซานเหนียงสามารถพูดได้เลยเธอรู้จักฉู่เหินดี ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนี้เธอคงไม่หูเบาและเชื่อฉู่เหินง่ายๆ หรอก
“ฉันหวังว่านายจะจำสิ่งที่นายพูดในวันนี้ ถ้านายไม่ทำตามสัญญาในอนาคตแม้ว่าฉันจะกลายเป็นผี ฉันก็จะไม่ปล่อยนายแน่!”
เม่ยซานเหนียงพูดออกมาอย่างเปิดเผย ฉู่เหินฉลาดที่จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เขาในใจของเขาคาดเดาเรื่องราวได้แล้ว เกรงว่าผู้หญิงคนนี้คงจะมีอันตรายถึงชีวิต แม้เขาจะไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเก็บความกดดันนี้เอาไว้กับตัว ทั้งๆที่ไปร้องขอการปกป้องจากอาจารย์ของเธอก็น่าจะได้?
‘อาจารย์’ หลังจากนึกถึงคำสองคำนี้ฉู่เหินตัวสั่นเทาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นดวงตาของเขาก็หรี่ลงอย่างรวดเร็ว! หญิงชราผู้ชั่วร้ายนั้นน่ะเหรอ? หรือว่าศัตรูของเม่ยซานเหนียงจะเป็นอาจารย์ของเธอ ไม่อย่างนั้นเธอจะขัดขวางอาจารย์ของเธอทำไม
แม้ว่าเขาจะคาดเดาสถานการณ์โดยรวมได้แล้ว แต่ก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ก็ไม่เป็นไรตอนนี้เขาและปีศาจยัยแก่นั้นก็เป็นศัตรูกันอยู่แล้ว ถ้าพวกเขาพักรบกันมันจะดีที่สุด ในทางตรงกันข้ามด้วยวิธีนี้เขาจะได้รับการสนับสนุนจากเม่ยซานเหนียง ไม่มีข้อเสียอะไรให้คิดมาก
“ถ้าเธอไม่มาช่วยฉัน ฉันคงก็ไม่สามารถทนอยู่กับปีศาจยัยแก่นั้นได้ แม้ว่าพวกเราจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็วพวกเราคงต้องช่วยกัน เมื่อถึงเวลาฉันเองก็จะช่วยเธอเหมือนกัน จริงๆเรื่องพวกนี้ในใจของเธอก็น่าจะรู้ดี”
ประโยคของฉู่เหินนั้นกระแทกหัวใจของเม่ยซานเหนียงเข้าอย่างจัง เหตุผลที่ทำให้เธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะช่วยเหลือฉู่เหินในวันนี้ นั้นก็คือฉู่เหินและอาจารย์ของเธออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ตายไม่เลิกรา เธอเลยคิดว่าฉู่เหินเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะสามารถช่วยเธอได้