สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 194 แม้จะอยากตายก็ยังทำไม่ได้!
บทที่ 194 แม้จะอยากตายก็ยังทำไม่ได้![รีไรท์]
บทที่ 194 แม้จะอยากตายก็ยังทำไม่ได้![รีไรท์]
ทันใดนั้นชายชราก็เอาหน้ากากออกมาแล้วสวมใส่มันทันที ไม่นานหน้ากากก็แตกสลายเป็นชิ้น ๆ หลังจากนั้นเพียงชั่วพริบตา พลังดวงดาวภายในตัวชายชราก็ฟื้นฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉู่เหินคาดเดาได้เลยว่านี่น่าจะเป็นไม้ตายก้นหีบของชายชรา
หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว ฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ฮ่าฮ่า อยากจะฆ่าฉันสินะ ถ้างั้นฉันก็จะเป็นคนปลิดชีพพวกแกเอง!”
หลังจากคิดได้แบบนี้ฉู่เหินก็ไม่รอช้า สิบนิ้วของเขาประกบเข้าหากันและมีหนึ่งนิ้วชี้ออกมา จากนั้นก็ปรากฏเป็นคลื่นแสงสีขาว มันคือดัชนีกิเลน! มันแข็งแกร่งกว่าครั้งที่แล้วมาก ทั้งหมดนี้เพราะดัชนีกิเลนของเขาเข้าสู่ขั้นบรรลุแล้ว!!
พลังดัชนีกิเลนซัดเข้าที่หน้าอกของชายชราโดยตรง แต่ฉู่เหินก็ต้องตกใจเพราะในจังหวะที่ดัชนีกิเลนทะลวงหน้าอกอีกฝ่าย คลื่นพลังก็ได้ระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ ฉู่เหินได้แต่ถอนหายใจออกมา
“ปรมาจารย์คนนี้แตกต่างจากคนอื่นมาก! ยิ่งไปกว่านั้นผิวหนังของเขายังแข็งแกร่งยิ่งกว่าเพชรซะอีก”
ชายชราแม้จะทนรับการโจมตีของฉู่เหินได้ แต่ไม้ขักขระของเขาถึงขีดจำกัดแล้ว เลือดของเขาบิดเป็นเกลียวอยู่ในลำคอราวกับกำลังจะทะลักออกมา แต่เขาก็ไม่คิดที่จะแสดงความอ่อนแอหรอก! ถ้ากระอักเลือดออกมาตอนนี้ ความพยายามทั้งหมดจะสูญเปล่า ชายชราจะมีหน้าไปพบคนอื่น ๆ ได้ยังไง
แต่การที่เขาจะอดทนเอาไว้ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่ ในตอนนั้นเองที่ชายชราได้ยินฉู่เหินกำลังบ่นพึมพำ เมื่อได้ยินคำดังกล่าว ความโกรธของชายชราก็ปะทุออกมาพร้อมส่งเสียงคำราม เขากระอักเลือดออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว
หลังจากที่กระอักเลือดออกมาแล้ว โล่พลังงานก็แตกสลายไปในพริบตา กระบี่จากค่ายกลก็พุ่งฟันทั้งสามจนเห็นกระดูก
บาดแผลจากกระบี่บาดลึกลงจนเห็นกระดูกด้านใน ความสิ้นหวังปรากฏในดวงตาของพวกเขาเหล่านั้น สายตาของพวกเขามองไปยังทางเข้าที่ห่างออกไปก่อนที่จะหันมามองฉู่เหิน ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าไม่มีทางออกไปได้ แต่ก่อนตายพวกเขาต้องเอาไอ้บ้านี้ลงนรกไปด้วยให้ได้!!
“ฆ่ามัน!” สิ้นเสียงกู่ร้อง ทั้งสามก็พุ่งเข้าใส่ฉู่เหินแล้วใช้ทุกอย่างที่มีออกมา ฉู่เหินที่ซ่อนตัวอยู่ในระยะไกลมองพวกเขาด้วยความตื่นเต้น แม้เขาจะรู้ว่าต้องกลายเป็นแบบนี้ แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ ชายหนุ่มถอยกลับไปที่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว
มันมีอุปสรรคมากมายในค่ายกลนี้ แม้ว่าทั้งสามจะอยู่ไม่ห่างจากฉู่เหิน แต่การจะเข้าให้ถึงตัวฉู่เหินนั้นยากมาก ที่สำคัญที่สุดก็คือฉู่เหินสามารถเข้าออกค่ายกลนี้ได้อย่างอิสระ ขณะที่คนพวกนี้ได้แต่ดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง
ไม่นาน อาการบาดเจ็บบนร่างกายของพวกเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเขาต้องตายเพราะพิษบาดแผลก่อนที่จะฆ่าฉู่เหินได้แน่ ๆ
นัยน์ตาของชายชราเริ่มเปล่งประกายสีแดง จากนั้นก็เริ่มพูดบางอย่างลับ ๆ กับทั้งสอง ความสิ้นหวังปรากฏตัวบนใบหน้าของพวกเขาเพราะรู้แล้วว่าคราวนี้มันอาจจะเป็นหายนะจริง ๆ แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ต้องฆ่าฉู่เหินให้ได้ก่อนตาย!
ไม่นานทั้งสามคนก็ตัดสินใจได้แล้ว ผู้ที่วรยุทธ์สูงส่งที่สุดคือชายชราจากนั้นอีก 2 คนก็พอๆ กัน ดังนั้นชายทั้งสองจึงปกป้องชายชราจากกลุ่มอัศวินแห่งแสงผู้นี้แบบแลกชีวิต จนกระทั่งในที่สุดชายชราก็มาถึงเบื้องหน้าของฉู่เหินแล้ว!
ทั้งสามต่างคิดเหมือนกันว่าด้วยพลังยุทธ์ของพวกเขา หากพวกเขาต้องการฆ่าฉู่เหินแล้วละก็ขอแค่พวกเขาอยู่ใกล้อีกฝ่ายมากพอย่อมทำได้โดยง่าย ชายชราใช้ไม้เท้าขักขระในมือของเขา แน่นอนว่ามันคือสมบัติระดับลับสุดยอด ในตอนที่ไม้เท้านั่นกำลังจะถูกใช้งานก็ได้มีลำแสงเปล่งประกายออกมาและดูเหมือนว่าจะมีสัตว์ร้ายคำรามออกมาด้วย
ในจังหวะเดียวกันกับที่ฉู่เหินถอยตัวเองหนีออกมา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงลมที่พัดผ่านด้านหลังของเขา ตอนนี้ฉู่เหินสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของอีกฝ่ายแล้ว เขารู้ดีว่าถ้าเขาไม่รีบทำอะไรสักอย่างเขาจะต้องตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบอีกฝ่ายในตอนนี้ โดยเฉพาะเมื่อดูจากความเร็วที่ไล่ตามมา นี้คือการโจมตีที่สุดยอดที่สุดของอีกฝ่าย แต่ถ้าเขาไม่ตอบโต้มันกลับไปอย่างจริง ๆ จัง ๆ ละก็ เขาจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่ ๆ
ดวงตาของฉู่เหินจับจ้องแล้วจากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม “ฮ่าฮ่า ในเมื่อพวกแกอยากตายกันนักละก็ ฉันจะจัดให้!”
จากนั้นฉู่เหินก็วิ่งด้วยความรวดเร็ว แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ใช้พลังดวงดาวเข้าไปในแขนตัวเอง จากนั้นร่างของเขาก็ค่อย ๆ ช้าลงอย่างมีเลศนัย
ชายชราจากกลุ่มอัศวินแห่งแสงที่ไล่หลังเขามาตอนนี้เริ่มหงุดหงิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเขายังไล่ตามอยู่แบบนี้อีกไม่นานเขาจะต้องตายเพราะค่ายกลแน่ ๆ แต่เมื่อเขาเห็นฉู่เหินวิ่งช้าลง ชายชราก็ดีใจมากและใช้ไม้เท้าซัดไปที่ฉู่เหิน
แม้ว่าเขาจะใช้พลังเพียงแค่ 8 ส่วน แต่มันก็ทรงพลังมากพอที่จะฆ่าเหล่าผู้มีพลังขั้นยอดฝีมือได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
ในตอนนี้ฉู่เหินแทบจะหยุดเดินแล้ว แต่จู่ ๆ เขาก็หมุนตัว หมัดของเขาถูกซัดกลับไปพร้อมกับพลังดวงดาวที่อยู่ในแขนของเขา
“โฮกกก!” ทันใดนั้นฉู่เหินก็เหวี่ยงแขนพร้อมเสียงกู่ร้องของสัตว์ร้าย เงาของหมัดฉู่เหินรวมตัวกันกลายเป็นกิเลนที่สง่างามพุ่งทะยานออกมาจากร่างของชายหนุ่ม
น่าเสียดายที่กิเลนตัวนี้ปรากฏแค่ส่วนหัว แต่ถึงกระนั้นมันก็ยิ่งใหญ่พอที่จะบดบังรัศมีของภูเขาและสายน้ำ! ส่วนหัวของกิเลนตัวนี้กลายร่างจากคลื่นพลังจากขนาดเท่าฝ่ามือใหญ่ขึ้น ๆ จนขนาดเท่าอ่างล้างหน้าก็ไม่ปาน
และด้วยเหตุผลอะไรก็มิทราบได้ คลื่นพลังนี้มีความหนาแน่นสูงมาก เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา แม้แต่ชายชราจากอัศวินแห่งแสงเองก็ยังตอบโต้ไม่ทัน และเมื่อชายชราตั้งสติได้ หัวกิเลนก็ได้กระแทกเข้ากับไม้เท้าของเขาแล้ว
ทั้งสองต่างก็คิดอย่างเดียวกันคือลงมือครั้งนี้ต้องฆ่าสังหารให้สิ้นซาก!!
แต่แล้วร่างเงาของกิเลนก็สยบพลังของไม้เท้าลงได้ จากนั้นทุกอย่างก็เงียบกริบและไม้เท้าก็หล่นลงสู่พื้นด้วยเสียงอันดังก้อง
แต่ทว่าหัวของกิเลนก็ไม่ได้ลดความเร็วลงเลย มันยังพุ่งเข้าใส่หน้าอกของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงดังสนั่น ชายชรากระอักเลือดออกมาเมื่อเขาก้มลงไปมองที่หน้าอกของตัวเองก็พบว่ามีรูขนาดเท่าอ่างล้างหน้าปรากฏขึ้น
ชายชราอ้าปากและจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่สุดท้ายก็พูดไม่ออก เมื่อไร้พลังชีวิตต้นไม้ก็ยังต้องร่วงหล่น ไม่มีทางที่คนเราเมื่อตัวเกือบขาดครึ่งตัวจะสามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้
ปรมาจารย์ทั้งสองที่คอยคุ้มกันชายชราจนได้ไปไล่ล่า ฉู่เหินต่างก็ตกใจสุดขีด พวกเขากลัวเสียจนทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกพวกเขากำลังจะตายอยู่แล้ว แต่เมื่อพวกเขามีความหวังว่าก่อนที่พวกเขาจะตาย พวกเขาจะได้เห็นภาพที่รอคอย นั้นคือ ศพของฉู่เหินที่นอนจมกองเลือด! แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้มันคือสิ่งพวกเขาไม่เคยคาดคิดจริง ๆ!!
ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองคนก็ถูกจัดการด้วยค่ายกลกระบี่ ทั้งสองคนพากันก่นด่าสาปแช่งอยู่ในใจ “ท่านย่ามันเถอะ เจ้าสารเลวนี้มันไม่ใช่แค่ยอดฝีมือแล้ว ดูความสามารถในการต่อสู้ของมันสิ อย่างน้อยก็ขั้นปรมาจารย์หรือไม่ก็ยิ่งกว่านั้น นี้พวกเราต้องมาตายที่นี่จริง ๆ งั้นเหรอ พวกข้าไม่…!”
ฉู่เหินมองย้อนกลับไปยังปรมาจารย์ตะวันตกทั้งสามที่ถูกค่ายกลกระบี่สังหารก็ยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้! หลังจากที่สงบจิตใจลงได้แล้วเขาก็เดินกลับมาเก็บสมบัติทั้งหมดของคนพวกนี้ไป บอกตามตรงเขารู้สึกว่าต้องใช้ไม้เท้านี่อย่างระมัดระวัง เพราะแค่มองก็รู้สึกได้เลยว่ามันต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!!