สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 180 บ่อน้ำ
บทที่ 180 บ่อน้ำ[รีไรท์]
บทที่ 180 บ่อน้ำ[รีไรท์]
เจ้าเสือทุ่งหน้าไปยังแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างหน้า เพราะตอนนี้มันกระหายน้ำเป็นอย่างมาก หลังจากที่ตรวจสอบแล้วว่ารอบข้างไม่มีศัตรู มันจึงกินน้ำ
อย่างไรก็ตามเมื่อมันดื่มน้ำ มันก็รู้สึกว่าแม่น้ำนี้มันแปลก ๆ เพราะว่ามันให้ผลแบบเดียวกันกับผลไม้ที่ล้างพิษได้ เมื่อคิดได้แบบนั้นเจ้าเสือก็แทบจะหยุดหายใจไปทันที
จากนั้นมันก็เอาหัวจุ่มลงไปในน้ำ แล้วเริ่มมองไปรอบ ๆ บ่อน้ำนี้ไม่ปกติจริง ๆ ด้วย แต่มันก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันผิดปกติตรงไหน แต่สิ่งที่แน่นอนคือตราบใดที่ฉู่เหินได้น้ำ มันจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องพิษในร่างกายได้แน่นอน
ถ้ามันเป็นผลไม้หรืออะไรก็ตามที่คล้ายกัน เจ้าเสือคงจะเอามันกลับไปได้ ทว่าดันเป็นน้ำเสียนี้สิ ถึงแม้มันจะไม่สามารถเอาน้ำกลับไปได้ แต่มันสามารถไปเอาตัวฉู่เหินมาแช่น้ำได้นี้
หลังจากคิดได้ดังนั้นเจ้าเสือก็เดินไปอย่างมีความสุข ตอนนี้ฉู่เหินดูดีขึ้นมาก แม้ว่าร่างกายนั้นจะเหลือพิษอยู่ก็ตาม แต่ตอนนี้เปลวไฟในกายของเขาก็กำลังเผาผลาญอยู่ ถ้าสารพิษที่เหลืออยู่นั้นไม่รุนแรงเกินไปอีกสักพักคงจะสลายไปจนหมด
ฉู่เหินเพียงแค่ต้องการเวลาอีกสักหน่อย เขาเชื่อว่าตัวเองยังสามารถจัดการพิษได้อยู่ อย่างไรก็ตามการเผาผลาญในร่างก็ทำงานได้ดีมากขึ้น ซึ่งเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของกิเลนได้ชัดเจนมากขึ้นในร่างกายของตัวเอง
จากการเจ็บเพราะพิษนั้นได้ทำให้เขารู้ความสามารถของพลังกิเลนที่แท้จริง พลังกิเลนนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการฝึกฝน แล้วด้วยความรู้ของฉู่เหินได้มาก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จในระดับสูงได้
ช่องว่างระหว่างสวรรค์และนรก มีเพียงแค่กิเลนเท่านั้นที่จะสามารถผ่านมันไปได้ ไม่ว่าบุคคลอื่นจะก้าวหน้าหรือหยุดนิ่ง เขาก็ไร้คู่แข่งทั้งสิ้น สถานการณ์เป็นเหมือนท้องฟ้าอันยิ่งใหญ่ มหาสมุทรที่ไร้ขอบเขต สัตว์ในตำนานที่สูงส่งและเทียบเท่ากับมังกรที่เล่าขานกันมาช้านาน ราชาแห่งสัตว์ร้ายทั้งปวง!
ในตอนนี้ฉู่เหินได้เข้าใจวิชากิเลนมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ใบหน้าของเขากลับซีดลงเรื่อย ๆ จนดูน่าเป็นกังวลกว่าก่อนหน้านี้มาก ซึ่งโชคดีที่เจ้าเสือวิ่งกลับมาพอดี หลังจากพูดสั้น ๆ มันก็แบกฉู่เหินขึ้นหลังของมันแล้วมุ่งตรงไปยังแม่น้ำ
ราชางูเซียงซีที่กำลังติดพันอยู่กับการต่อสู้ของฉู่เฟิงสังเกตได้ถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง การต่อสู้นั้นยืดเยื้อจนมันเองเริ่มที่จะกังวล แต่ในเวลานี้ลึก ๆ ในใจของมันก็รู้สึกกระวนกระวาย ทว่าเมื่อเห็นสัตว์ป่าตัวนั้นแสดงอาการร้อนรน ความหวาดกลัวที่เพิ่งก่อขึ้นเมื่อครู่ก็สงบลง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัตว์ร้ายนั้นโยนฉู่เหินลงไปในแม่น้ำ แม้ว่าความยุ่งยากจะเกิดขึ้นในใจ แต่เมื่อเห็นสีหน้าซีดขาวของอีกฝ่ายก็รู้แล้วว่าเวลาของอีกฝ่ายเกรงว่าจะเหลือไม่นานแล้ว
กิเลนนั้นมีทั้งแข็งและอ่อน แบ่งเป็นพลังหยินและพลัง หยาง เป็นตัวแทนแห่งจักรวาลทั้งสองด้าน ถ้าไม่พบพลังหยินของกิเลนแล้วละก็ การฝึกฝนพลังกิเลนจะไม่สามารถฝึกจนถึงขั้นบรรลุได้อีกตลอดกาล
ตอนที่ร่างของฉู่เหินนั้นลงไปในน้ำ กระแสพลังนั้นเริ่มไหลเข้ามายังตัวเขา เป็นความอ่อนโยนราวกับอยู่ในอ้อมกอดของมารดา
สายน้ำนั้นอ่อนโยน เหมือนกับพลังหยินของกิเลน
ในตอนนี้ฉู่เหินได้รับรู้ว่า หยินหยางนั้นไม่ได้กำเนิดมาอย่างโดดเดี่ยว ความก้าวหน้าของหยินและหยางนั้นเป็นแก่นแท้ของเต๋า ทุกสิ่งในโลกนี้เป็นเช่นนั้น และเกือบจะทันที ความเข้าใจของฉู่เหินนั้นก็มากขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้าราชางูเซียงซีรู้ว่าการปล่อยให้ฉู่เหินลงไปแช่ในน้ำนั้นจะทำให้ฉู่เหินได้ประโยชน์ขนาดนี้ เกรงว่าจะต้องขัดขวางเป็นแน่ แต่น่าเสียดายที่คงจะไม่ทันเสียแล้ว
ภายในบ่อน้ำนี้ ฉู่เหินสามารถตระหนักได้ถึงพลังกิเลน เหมือนกับว่ากำลังจะเปลี่ยนเป็นคนละคนก็ไม่ปาน
แม้ว่าเขากำลังนอนอยู่ตรงนี้ แต่ร่างกายเหมือนว่ากำลังลอยสูงขึ้นฟ้า นี้เป็นความรู้สึกที่มีแค่ราชันเท่านั้นที่รู้สึก คนทั่วไปจะรู้สึกได้ถึงพลังงานที่แผ่ออกมาอย่างหนึ่งเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ฉู่เหินได้รับรู้ถึงความหมายของวิชากิเลนได้อย่างแท้จริงแล้ว ถ้าแค่นี้ก็แล้วไปเถอะ แต่ทว่ามันกำลังทำให้ผู้พบเห็นเกิดหวาดกลัวขึ้นมา เพราะในตอนนี้กำลังมีใบไม้จำนวนมากล้อมรอบฉู่เหินอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน
แม้ว่าใบไม้นั้นจะเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าแต่ก็รู้สึกได้ถึงอันตรายบางอย่าง ในเวลานี้หากมีปรมาจารย์อยู่ที่นี้ พวกเขาก็คงจะกำลังตาค้างอ้าปากอยู่แน่ๆ เพราะว่าฉู่เหินในตอนนี้พัฒนาวิชาจนมาถึงขั้นไร้น้ำหนักได้แล้ว แม้ว่าวิชานั้นจะคล้ายกัน แต่มีประสิทธิภาพต่างกันอย่างมาก
ถ้าฉู่เหินพึ่งวิชาหนักอย่างเดียวก็สามารถก้าวผ่านไปได้ แต่หากเขามีพลังกิเลนด้วยเขาจะทรงพลังเป็นอย่างมาก
ราชางูเซียงซีนั้นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วมองไปทาง ฉู่เหินที่อยู่ในน้ำ เขาไม่สามารถเป็นฝ่ายโดนข่มไปได้มากกว่านี้แล้ว เขาต้องเร่งหาทางแก้ปัญหานี้ซะ
ทันใดนั้นระหว่างการต่อสู้ของราชางูเซียงซีและฉู่เฟิง ราชางูเซียงซีได้พุ่งตัวออกเสมือนล่าถอย ทำให้ฉู่เฟิงเข้าสู่สภาวะการป้องกัน แต่แล้วราชางูเซียงซีก็พุ่งตรงไปยังฉู่เหินพร้อมดาบของตน
ในเวลานี้นั้นดาบคดโค้งเหมือนลำตัวของงูนั้นได้รับการกระตุ้นจนแข็งแกร่งถึงขีดสุด ตอนนี้ใบหน้าราชางูเซียงซีมีรอยยิ้มชั่วร้าย มันต้องการที่จะฆ่าฉู่เหินด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว! ฉากนี้เกิดขึ้นเร็วมากจนไม่ปล่อยให้ใครมีโอกาสเตรียมใจ
เมื่อพวกเขาเห็นการโจมตีของราชางูเซียงซีนั้นมันก็สายเกินไปแล้ว สัตว์ทั้งสามนั้นโกรธเกรี้ยวอย่างมากและคำรามออกมา และรีบพุ่งเข้าหาราชางูเซียงซีอย่างสุดกำลัง แต่น่าเสียดายที่เซียงซีไม่ได้เห็นพวกมันอยู่ในสายตา และรีบพุ่งตัวไปหาฉู่เหินทันที ฉู่เหินจะต้องตาย!
“ตายซะ!” เสียงร้องอันน่าหวาดกลัวที่กะจะข่มขวัญของอีกฝ่ายดังขึ้น ดาบอสรพิษนั้นพุ่งเข้าไปที่ตำแหน่งหัวใจของฉู่เหิน แม้แต่เวลานี้รอยยิ้มนั้นยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าของราชางูเซียงซี แล้วถึงแม้ว่าจะมีสัก 10 ชีวิตก็ไม่อาจที่จะรอดไปจากดาบเล่มนี้ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากที่แทงเข้าไป เหตุการณ์ที่น่าตกใจนั้นก็เกิดขึ้นจนได้ ดาบและร่างของเขานั้นถูกตรึงเอาไว้กลางอากาศโดยไม่สามารถขยับไปไหนได้ แม้แต่จะเปิดปากพูดก็ทำไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่!?
ระหว่างที่ตัวเขาลอยอยู่นี้เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย การที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ทำให้รู้สึกแย่สุดๆ
หลังจากผ่านไปไม่นานนัก ฉู่เฟิงและสัตว์ทั้งสามก็มารวมกันอยู่ที่ฉู่เหิน พวกมันนั้นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะว่านายของพวกมันในตอนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กันคนละโลก
และเมื่ออยู่ในสถานที่นี้ ทุกอย่างนั้นจะไร้น้ำหนัก แม้ว่าจะไม่เข้าใจเหตุผล แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไป
ในขณะนี้เวลาดูเหมือนจะหยุดลง มีเพียงดวงตาที่งุนงนของสัตว์ทั้งสามกับฉู่เฟิงเท่านั้นที่เหลืออยู่ และดวงตาของราชางูเซียงซีที่แสดงความไม่เชื่อว่าตัวเองจะตาย!