สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 164 ไฟนรกใหม่
บทที่ 164 ไฟนรกใหม่[รีไรท์]
บทที่ 164 ไฟนรกใหม่[รีไรท์]
ระหว่างที่ไฟทั้งสองไล่ล่ากัน พวกมันก็พากันพวยพุ่งขึ้นไปบนฟ้า เมื่อเหล่าผู้อาวุโสเห็นแบบนั้น พวกเขาก็กระโดดตามขึ้นไปเพื่อที่จะขัดขวางเปลวไฟทั้งสอง แต่สิ่งที่ทำให้เหล่าผู้อาวุโสต้องพากันเปลี่ยนสีหน้าอีกครั้งก็ปรากฏขึ้น มันคือไอ้แหบ้านั่นที่ขโมยของไปจากพวกเขามาสองครั้งสองคราแล้ว!
พื้นผิวของแหสั่นสะเทือนเล็กน้อย ก่อนที่มันจะห่อหุ้มเปลวไฟทั้งสองนี้เอาไว้ จากนั้นมันก็รีบหนีอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า
ในตอนที่แหแสงม่วงหยินเหล๋ยปรากฏขึ้น ฝูงชนที่มากมายที่อยู่ด้านล่างก็มองเห็นมันเช่นกัน แต่ละคนชี้ไปยังแหที่ลอยอยู่ในอากาศอย่างไม่น่าเชื่อ ใครจะไปจินตนาการได้ละว่าเจ้าแหหัวขโมยนี้จะปรากฏขึ้นอีกครั้งจริง ๆ ดูเหมือนว่าถ้ามันไม่ได้รางวัล 3 อันดับแรกไป มันจะไม่หยุดเด็ดขาด!
ตอนนี้ฉู่เหินเองก็ค่อนข้างหดหู่ใจ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแหแสงม่วงหยินเหล๋ยถึงพุ่งเป้าไปที่พวกคนเหล่านี้ เขาแค่หวังว่าจะสามารถจัดการอะไรบางอย่างกับสถานการณ์ตรงหน้าได้
ฉู่เหินมองเหล่าผู้อาวุโสที่วิ่งเข้ามาหาเขาทีละคนด้วยความบ้าคลั่ง โดยไม่พูดอะไร ชายหนุ่มรีบเก็บแหกลับมาอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ดังนั้นผู้อาวุโสเหล่านี้จึงไม่ได้เตรียมการรับมือใด ๆ ไว้เลย พวกเขาทำได้แค่มองดูเปลวไฟทั้งสองที่ถูกขโมยไปด้วยความโกรธ
“ผู้ถือครองฉู่เหิน ได้รับไฟกิเลนเพลิงพฤกษา สามารถหลอมรวมเข้ากับไฟนรกและกลายเป็นเพลิงโลกันตร์ได้ ผู้ใช้มีโอกาสที่จะเข้าถึงความลับของพลังนี้ เพิ่มค่าประสบการณ์ 300,000 ต้องการอีก 1.85 ล้านเพื่อไปยังขั้นต่อไป”
“ได้รับเพลิงกริฟฟิน หลังจากดูดซับมันแล้วสามารถใช้เป็นไฟหลอมโอสถและอาวุธได้ เพิ่มค่าประสบการณ์ 100,000 ต้องการอีก 1.75 ล้านเพื่อไปยังขั้นต่อไป”
“เจ้าของฉู่เหิน ยอมรับการรวมกับไฟนรกหรือไม่?”
การต่อสู้กับสัตว์ที่กลายพันธุ์ครั้งก่อนด้วยไฟนรกนั้นไม่ใช่อะไรที่ง่ายดายเลย เมื่อฉู่เหินได้ยินว่าไฟนรกสามารถเปลี่ยนให้เป็นเพลิงโลกันตร์ได้ เขาก็เลือกที่จะเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล
หลังจากที่ฉู่เหินพูดว่า ‘ยอมรับ’ ไฟกิเลนเพลิงพฤกษาก็ลอยมาอยู่ตรงหน้าเขาช้า ๆ ในวินาทีที่ไฟทั้งสองแยกจากกัน มันกลัวและสั่นเท่า แม้ว่าไฟอสูรอย่างไฟกิเลนเพลิงพฤกษากับไฟ กริฟฟินจะมีพลังมหาศาล แต่เมื่ออยู่กลางทะเลมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับพวกมันที่จะใช้พลังของตัวเอง ยังไงเสียน้ำทะเลก็สามารถจะฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดาย
ในขณะที่ไฟทั้งสองกำลังเศร้า ฉู่เหินก็ปลดปล่อยไฟนรกออกจากร่าง หลังจากที่ไฟนรกออกมาและเห็นไฟกิเลนเพลิงพฤกษา มันก็ทำท่าราวกับเห็นของกินอันน่าเอร็ดอร่อย! แต่ก่อนที่ฉู่เหินนั้นจะได้พิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้น ไฟนรกก็พุ่งเข้าล้อมรอบไฟกิเลนเพลิงพฤกษาทันที
ทีแรกฉู่เหินคิดว่าไฟกิเลนเพลิงพฤกษาคงจะไม่อาจผสานได้เหมือนก่อนหน้านี้ แต่เขาก็พบว่าเมื่อทั้งสองกำลังรวมกัน มันก็แค่เพียงทำให้รู้สึกว่าร่างกายของเขาสบายขึ้นเป็นพิเศษโดยไม่รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งชายหนุ่มยังรู้สึกว่าด้วยว่าร่องรอยของสิ่งสกปรกในร่างกายของเขาถูกขับออกมา
การรวมตัวในครั้งนี้ทำให้มีอะไรบางอย่างถูกขับออกมา ซึ่งมันคือก็สิ่งสกปรกในร่างกายของเขานั่นเอง หลังจากนั้นฉู่เหินจึงถอดเสื้อผ้าออก และปล่อยให้ร่างกายขับสิ่งสกปรกออกมา
ในเวลานี้ฉู่เหินรู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่เพิ่มขึ้น หากเขาเจอชายชราผู้น่ากลัวนั้นอีกครั้ง ฉู่เหินมั่นใจว่าแม้จะไม่ใช้ไม้ตาย เขาก็สามารถฆ่าชายชราได้สบาย ๆ
ถึงแม้ว่าไฟนรกนั้นจะแตกต่างออกไป แต่มันก็เหนือกว่าไฟระดับอื่น ๆ ในหมวดหมู่เดียวกัน และไฟกิเลนเพลิงพฤกษาเองก็เป็นไฟอสูร มันเป็นไฟที่ร้ายกาจที่สุดในบรรดาไฟอสูรด้วยกัน นี่จึงเป็นผลให้การผสานกันระหว่างไฟนรกกับไฟกิเลนเพลิงพฤกษานั้นรุนแรงอย่างมาก
เหมือนที่เขาบอกกันว่าเปลวไฟที่มีจิตวิญญาณย่อมไม่ต้องการให้ตัวเองหายไปหรือถูกกลืนกิน ดังนั้นไฟทั้งสองจึงราวกับจะฆ่ากันให้ตายไปข้าง
ส่วนไฟของกริฟฟินนั้นฉู่เหินสามารถผนึกพวกมันเอาไว้ในแหวนมิติได้อย่างง่ายดาย เป็นเพราะบริเวณนี้มีความชื้นที่สูงมากทีเดียว ดังนั้นมันจึงโดนกำราบได้อย่างง่ายดาย ด้วยความที่ฉู่เหินนั้นอ่อนแอเกินไป แม้ว่าเขาต้องการช่วยไฟของตนเอง แต่เขาก็ไม่รู้วิธี ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกนอกจากดูอย่างเงียบ ๆ ในฐานะผู้ชม
ไฟกริฟฟินถูกผนึกไว้ในแหวนมิติเรียบร้อยแล้ว ส่วนไฟทั้งสองที่กำลังต่อสู้อยู่ ฉู่เหินก็แทบจะคาดเดาไม่ได้เลยว่าฝ่ายไหนจะชนะ และเนื่องจากความชื้นที่มีมากเกินไปที่จะสู้ต่อ ดังนั้นไฟทั้งสองจึงพุ่งเข้าสู่ร่างกายของฉู่เหินทันที
เมื่อไฟทั้งสองยังคงต่อสู้กันอย่างต่อเนื่องในร่างของฉู่เหิน มันก็ดูเหมือนว่าฉู่เหินจะไม่อาจทนได้ ความเจ็บปวดจากการรวมไฟในครั้งก่อนเมื่อเทียบกับครั้งนี้แล้วต่างกันมันมากเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาทิ้งสมอเรือและหยุดอยู่กลางทะเล
เมื่อการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายยังคงทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งสองก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จในการเอาชนะอีกฝ่ายได้เลย ฉู่เหินใช้จิตวิญญาณมองเข้าไปที่ไฟทั้งสองในร่างกาย เขาเห็นเข้ากับชายร่างเล็กสองคนที่อยู่ท่ามกลางเปลวไฟ ตอนนี้ไฟนรกได้หดตัวลงอย่างมากและไฟกิเลนก็เช่นกัน
ด้วยความสิ้นหวัง เมื่อเห็นว่าไฟทั้งสองนั้นไม่มีทีท่าจะแพ้ชนะ ดังนั้นฉู่เหินจึงเลือกที่จะพูดคุยกับพวกมันเพื่อเรียกสติ
“ทำไมไม่แบ่งปันชีวิตและความตายของกันและกันล่ะ? ไม่ต้องฆ่ากันก็ได้ แม้ว่าพวกนายจะไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่พวกนายก็จะได้ฝึกฝนทักษะความสามารถของกันและกัน วิธีนี้จะช่วยเพิ่มพลังของตัวเองได้ด้วย ทำไมไม่ลองดูล่ะ!”
หลังจากได้ยินเช่นนั้นพวกไฟก็หยุดในทันที ดูเหมือนพวกมันกำลังใช้ความคิด ผ่านไปไม่นานเปลวไฟทั้งสองก็พยักหน้าเห็นด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกมันรู้ว่าดีว่าความสามารถในปัจจุบันของตัวเองนั้นไม่เพียงพอที่จะกำจัดภูมิปัญญาทางจิตวิญญาณอีกฝ่ายได้ ดังนั้นด้วยวิธีนี้ ทั้งสองจึงรวมเป็นหนึ่งจิตวิญญาณ และใช้ร่างกายร่วมกัน ซึ่งนี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ในขณะที่เปลวไฟทั้งสองรวมกันจริง ๆ ฉู่เหินก็รู้สึกว่ามีบางอย่างในใจของเขา จากนั้นเขาก็ตรวจสอบอย่างรวดเร็ว
“หมัดกิเลน ดัชนีกิเลน” สิ่งนี้ปรากฏในใจของเขาไม่แปลกใจเลยว่ามันจะต้องเป็นวิชาการต่อสู้อย่างแน่นอน!
หมัดกิเลนและดัชนีกิเลนเป็นชุดการต่อสู้ที่ดีมาก ๆ ถ้าฝึกได้สำเร็จจะสามารถตัดผ่านแม่น้ำพร้อมทั้งทำลายอย่างอื่นได้ด้วยการออกหมัดเพียงอย่างเดียว ฉู่เหินนั้นดีใจสุดขีดเพราะเขาได้สิ่งที่เขากำลังตามหาอยู่เสียที!
หลังจากจัดการเรือของตัวเองแล้ว ฉู่เหินก็เริ่มฝึกวิชาที่ได้รู้มาอย่างเงียบ ๆ เขาคิดว่าทักษะของมันนั้นซับซ้อนพอสมควร ร่างกายของเขาไม่น่าจะเกิดความเคยชินได้รวดเร็วนัก
ทั้งหมัดกิเลนและดัชนีกิเลนค่อนข้างง่ายต่อการฝึกฝน แต่พัฒนาได้ยากมาก เพราะว่าความสามารถของมันแบ่งออกเป็นระดับ 4 ระดับเล็ก ๆ คือ แรกเริ่ม บรรลุ ตัดวิญญาณ และนิพพาน ซึ่งดูแล้วอาจต้องฝึกทั้งชีวิตเลยกว่าจะถึงขั้นสุดท้าย
แต่นั่นไม่ได้สร้างปัญหาให้กับฉู่เหินเลย เขาคิดแค่ว่าแค่สามารถฝึกฝนมันได้เขาก็มีความสุขแล้ว แต่ถ้าเขาทำไม่ได้มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
หลังจากฝึกหมัดกิเลนและดัชนีถึงระดับแรกเริ่มแล้ว เรือประมงของฉู่เหินก็มาถึงที่หมายตามกำหนด ชายหนุ่มกำลังมุ่งหน้าไปที่ศูนย์กลางของมหาสมุทร หลังจากนำเรือเก็บเข้าแหวน เขาก็ถือลูกปัดน้ำและลงสู่ก้นทะเลอีกครั้ง
ขณะที่ฉู่เหินเดินทาง สิ่งที่เขาไม่รู้เลยคือการเดินทางครั้งนี้ถูกจับตามองอยู่โดยครอบครัวฉลามพิษที่ฉู่เหินเคยต่อสู้มาก่อน ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ฉลามพิษล้มเหลว กลุ่มที่เหลือก็เริ่มมองหา ฉู่เหิน! จนถึงทุกวันนี้ฉู่เหินก็ยังอยู่ในหัวใจของพวกมัน และในที่สุดพวกมันก็พบฉู่เหินสักที!