สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 145 ต่อสู้กันอีกครั้ง
บทที่ 145 ต่อสู้กันอีกครั้ง[รีไรท์]
บทที่ 145 ต่อสู้กันอีกครั้ง[รีไรท์]
ฉู่เหินสังเกตความเร็วของคู่ต่อสู้และรู้ดีว่าเขาไม่สามารถตอบโต้อีกฝ่ายได้แน่ เขายืนตัวตรง เป็นการดีที่สุดที่จะจับตัวชายชราไว้แบบเป็น ๆ ดังนั้นระหว่างการโจมตีนี้เขาน่าจะหยุดผู้อาวุโสคนนี้เอาไว้ได้
“เข้ามา!” ฉู่เหินตะโกนออกไป แม้ชายหนุ่มจะไม่ได้ปล่อยจิตสังหารออกไป แต่คลื่นพลังของเขาเองก็พลุ่งพล่านไปทั่วท้องฟ้า ว่าแล้วฉู่เหินก็พุ่งตัวไปข้าง ๆ ชายชราด้วยความรวดเร็วปานสายฟ้า
ชายชราคือคนที่เขาให้ความยกย่องเป็นอย่างมาก คนคนนี้คือคนที่เขาจำเป็นที่จะต้องทุ่มสุดตัวในการต่อสู้ครั้งนี้ ดังนั้นฉู่เหินจึงได้เร่งพลังของตัวเองออกมาอย่างจนถึงขีดสุด!
คนที่มองดูการต่อสู้ตรงหน้าพวกเขาตื่นกลัวไม่น้อย ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าชัยชนะจะตกเป็นของใคร แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงนี่ก็คือโชคดีที่พวกเขาจะได้เห็นอะไรแบบนี้
ชายชราย่างก้าวออกมา ร่างกายของเขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่ตาเปล่ามองไม่เห็น ถ้าเป็นแบบนี้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของชายชราจะรวดเร็วเท่ากับเงา แต่ฉู่เหินก็เองไม่ได้แปลกใจซักเท่าไหร่เพราะชายหนุ่มก็เคยใช้วิชานี้อยู่บ่อยครั้ง
ชายชราถือดาบขนาดยักษ์ไว้ในมือ มันมีความยาวเกือบ 10 เมตร ที่ตอนนี้กลับส่องแสงขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้ดาบหนามของชายชราแตกต่างไปจากเดิม เพราะคราวนี้มันเผยให้เห็นถึงแรงกดดันอันมหาศาลซึ่งฉู่เหินรู้สึกได้อย่างชัดเจน
ทักษะติดตัวนั้นพิเศษ เป็นทั้งความจริงและความนึกคิด มันเหมือนกับการที่เรายืนอยู่กลางทะเลและมองเห็นความกว้างใหญ่ของมัน นี่คือความเป็นจริงของมหาสมุทร สำหรับภูเขาก็คือความยิ่งใหญ่ และความยิ่งใหญ่ก็คือความเป็นจริงของภูเขา
สำหรับคนที่ผ่านการต่อสู้มานาน คนผู้นั้นมักจะมีจิตสังหารที่แผ่ออกมาตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อทุกคนเห็นจึงได้แต่คิดว่ามันเป็นทักษะของพวกเขา แต่แท้จริงแล้วมันคือความสามารถเฉพาะตัวของคนคนนั้น ความสามารถเฉพาะตัวนั้นไม่สามารถมองเห็นได้ หากแต่มันมีอยู่ติดตัวแตกต่างกันไปตามที่ตนเองถนัด
หลังจากที่เขาได้รู้จักกับผู้มีอำนาจมากมาย ฉู่เหินก็ได้รู้ถึงความพิเศษโลกใบนี้ มันก็เหมือนกับตอนที่เขาสร้างค่ายกล เขามักจะใช้ความพิเศษของพื้นโลกเป็นตัวกำหนด แต่ถ้าพูดถึงเรื่องวิชายุทธ์แล้ว เขาเองก็ไม่รู้อะไรมากเหมือนกัน จนกระทั่งวันนี้เมื่อเขาได้มาเจอกับชายชรานี่ ฉู่เหินรู้ทันทีเลยว่าคนที่มีวิชายุทธ์ตั้งแต่หนุ่ม ๆ มันเป็นอะไรที่ดีมาก
ฉู่เหินเองก็อยากมีทักษะติดตัวแบบนั้นเหมือนกัน และแล้วความเร็วของทั้งสองกำลังจะเข้าปะทะกัน พร้อมกับใช้วิชาของตัวเอง
ชายชรากระโดดขึ้นไปบนอากาศอีกครั้ง เขากำลังจะใช้วิชาเพลงกระบี่เขาหัวซาน! เมื่อเห็นแบบนั้น ฉู่เหินก็ตวัดดาบที่ยาวกว่า 5 เมตรเพื่อปัดป้องการโจมตีนั่นไว้ เพียงชั่วพริบตาทั้งสองก็ปะทะกันแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยกระบวนท่าเข้าไปแล้ว
ด้วยใจที่กำลังร้อนรน ฉู่เหินรู้ดีว่าตัวเองจะต้องทำอย่างไร เขาจะต้องทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้! อย่างไรก็ตาม เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ มันจะต้องทำให้ทุกคนตะลึงตาค้างแน่นอน!
ชายชรากระโดดขึ้นไปราวกับลูกศร ทว่าขาของชายชรากลับตกลงไปอยู่ในหลุมที่ฉู่เหินเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นทั้งชายชราและฉู่เหินจึงร่วงหล่นลงไปด้วยกัน!
นี่ทำให้การโจมตีของฉู่เหินไม่สำเร็จ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง!
ด้วยพลังของฉูเหินในตอนนี้ ชายหนุ่มสามารถชนะได้ไม่ง่าย ถ้าเกิดว่าเขาโดนการโจมตีครั้งนี้เข้าไป ยังไงก็ต้องบาดเจ็บหนักแน่ ๆ ทว่าเขาเองก็ไม่ได้อยากจะสู้บนอากาศอีกแล้วดังนั้นฉู่เหินจึงหยุดมือลง ชายชรามองหน้าชายหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจ
เมื่อเห็นแบบนั้น ฉู่เหินก็พลันกระโดดขึ้นไปบนหลังคาของโกดัง ซึ่งนั่นก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดาบฟาดลงมาตรงหน้าเขา ถ้าเป็นตามปกติแล้วชายชราจะต้องเข้าปะทะกับฉู่เฟิงตรงไปตรงมา แต่ฉู่เหินไม่คิดเลยว่าในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ชายชราจะใช้ท่าไม้ตายออกมาทันที
ตู้มมมมม
ฉู่เหินพยายามจะหลบ แต่มันก็ช้าไปเสียแล้ว ดาบปราณได้ฟาดผ่านหลังของเขาไปจนเผยให้เห็นกระดูก ฉู่เหินร้องออกมาแล้วม้วนตัวออกไป ซึ่งนั่นก็จังหวะเดียวกับกันที่ฉู่เฟิง หุ่นเชิดของเขาได้ชักดาบออกมาแล้วไล่ตามชายชรา ทั้งสองสู้ได้เข้าต่อสู้กันอีกครั้ง
เมื่อฉู่เฟิงกับชายชราต่อสู้กัน ฉู่เหินก็ไม่ได้ถูกสนใจมากนัก ดังนั้นเขาจึงรีบวิ่งตรงไปที่โกดังด้านหน้า ก่อนจะเข้าไปที่ด้านข้างของชายชราและช่วยเหลือฉู่เฟิงโจมตีชายชราทันที ฉู่เหินรู้ดีว่าเขาไม่อาจประมาทในตัวอีกฝ่ายได้เลย แต่ตัวเขาเองก็กลัวว่าจะได้รับผลกระทบจากคำสาปเหมือนกัน
ใคร ๆ ก็รู้ว่าเวลาคนโชคร้ายมันเป็นยังไง ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าจะมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้น
ชายชรามองไปยังฉู่เหิน สีหน้าของเขานั่นแข็งทื่อไร้ความรู้สึก เขาไม่คิดว่าจะตกลงมาจากโกดังแบบนี้ ถ้าไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่เชื่อแน่ ๆ ว่าปรมาจารย์จะตกหลุมพรางง่าย ๆ แบบนี้! ทำไมถึงได้ไม่ระวังตัวแบบนี้นะ!
ขณะที่ชายชรากำลังวิ่งไป เขาไม่ทันได้เห็นหลุมใหญ่นั่นเลย จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา หรือเขาอาจจะแก่เกินไปแล้วก็ได้ ในตอนนั้นเองเมื่อฉู่เหินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทั้งโกดังก็เริ่มสั่นคลอน
ฉู่เหินไม่ได้พูดอะไรพร้อมกับดึงชายชราออกมาทันที และเมื่อร่างของทั้งสองเพิ่งออกมา ตัวโกดังก็พังทลายลง
หลังจากเห็นฉากนี้ชายชราอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า เขาไม่กลัวการต่อสู้ในสนามรบ หากแต่เขาเป็นพวกดื้อรั้น และเมื่อเขากำลังคิดถึงตัวเองถูกฝังทั้งเป็นด้วยเศษเหล็ก เขาก็สั่นขึ้นมา
“ไม่เป็นไรใช่ไหมผู้อาวุโส! โทษทีที่ฉันใช้วิชาลับมากไปหน่อย ไม่งั้นด้วยทักษะของคุณ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น” ฉู่เหินขอโทษออกมา
“ลับเหรอ มันลับแบบไหนกันที่ทำให้ฉันตกหลุมพรางได้” พอได้ยินคำพูดแบบนี้จากฉู่เหินชายชราก็พูดออกมา
“น่าจะเป็นเพราะคำสาปของกระต่ายนั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ มันก็สาปให้โชคร้ายได้หมด” ฉู่เหินพูดอย่างไม่อาย
จากนั้นฉู่เหินก็มองไปยังแหวนของเขา เจ้ากระต่ายที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะโดนด่าก็รีบกลับเข้าไปในแหวนทันที แต่สิ่งที่น่าหงุดหงิดก็คือมันตบท้องตัวเองก่อนกลับเข้าไปอีกด้วย
“ฉันไม่คิดมาก่อนเลย ฉันรู้สึกขนลุกมากเมื่อมองไปที่เจ้านั่น และกลับกลายเป็นว่าฉันโดนไอ้เจ้ากระต่ายนั่นมันสาปเอาไว้ซะได้ ฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้มันไม่มีทางซะหรอก! มาเถอะ มาสู้กันใหม่อีกครั้ง”
พอได้ยินแบบนั้นสีหน้าของฉู่เหินก็มืดลง เขาไม่อยากจะสู้อีกแล้ว พลังของเขาหายไปจนหมดเกลี้ยงหลังจากที่ถูกรีดออกมาใช้จนหมด เหมือนนึกถึงสภาพของตัวเอง เขาก็อดเศร้าไม่ได้
แต่กลายเป็นว่าชายชรานี่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หลังจากพักผ่อนกันเล็กน้อย ฉู่เหินก็ถอนหายใจออกมา พวกปรมาจารย์นี้มั่นใจในตัวเองเหลือเกิน
เมื่อมองไปยังอีกฝ่ายที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความต้องการสู้ ฉู่เหินก็รู้ว่าการต่อสู้ยังคงต้องดำเนินต่อไป หลังจากถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า และถอยห่างออกไปไม่กี่ก้าว เขาก็เรียกอาวุธของเขาออกมาอีกครั้ง ชายหนุ่มเตรียมที่จะสู้กับชายชราอย่างจริงจังแล้ว ฝูงชนที่เฝ้ามองจากระยะไกลเห็นชายสองคนเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อีกรอบ หัวใจที่เพิ่งสงบลงกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง!
Next