สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 144 ยกขึ้นเบา
บทที่ 144 ยกขึ้นเบา ๆ[รีไรท์]
บทที่ 144 ยกขึ้นเบา ๆ[รีไรท์]
สายล่อฟ้าขนาดใหญ่ถูกเตะออกไปโดยฉู่เหิน ก่อนที่ร่างกายของเขาจะสั่นไหวแล้วพุ่งตามสายล่อฟ้าที่ขว้างออกไป ฉู่เหินกุมมือทั้งสองข้างเอาไว้ ใช้สายล่อฟ้าแทนตัวนำทาง
ถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่ามือของฉู่เหินนั้นไม่ได้จับที่สายล่อฟ้าตรง ๆ ดังนั้นตอนนี้จึงเหมือนว่าสายล่อฟ้านั้นจะลอยคู่ไปกับตัวเขา ภาพที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ที่ยืนดูการต่อสู้นั้นต่างตกใจกันไปตาม ๆ กัน พวกเขาใช้กล้องส่องทางไกลดังนั้นจึงเห็นการกระทำดังกล่าวได้อย่างชัดเจน
ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น ชายชราที่ต่อสู้กับฉู่เหินนั้นก็ตกใจจนอ้าปากค้าง เขาไม่คิดเลยว่าการรับรู้ของชายหนุ่มนั้นจะดีได้ขนาดนี้ ใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจหลักการไร้น้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าเป็นแบบนี้ ความสามารถในการต่อสู้ของคนตรงหน้าจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็นแน่ และก็หมายความว่าชายชราก็ต่อกรกับฉู่เหินได้ยากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ความคิดดังกล่าวมันกลับทำให้รอยยิ้มแห่งความพึงพอใจปรากฏบนใบหน้าของชายชรา ทั้งสองยังคงเป็นศัตรูกัน ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดอะไรออกไปสักคน
ด้วยสายล่อฟ้าที่อยู่รอบตัวของฉู่เหินอีก ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถยกของหนัก ๆ ขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นชายชรา เขาก็เริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้วเข้าโจมตีอีกครั้ง ถึงพวกเขาจะไม่ใช่ศิษย์และอาจารย์กัน แต่ตอนนี้มันก็พอดีกับความรู้สึกของชายชราเช่นกัน
“ไอ้หนู ขอทดสอบหน่อยแล้วกันนะว่ารู้จริงแล้วรึเปล่า” ดูท่าชายชรานั้นจะอ่านความคิดของฉู่เหินออก เขาไม่รีรอให้ฉู่เหินนั้นลงมือก่อน ทว่ากลับชิงโจมตีก่อนด้วยการแทง
คมของดาบนั้นพุ่งเข้ามาพร้อมเสียงคำราม ดูรุนแรงราวกับจะแหวกท้องฟ้าได้ ถึงแม้ว่าฉู่เหินจะเข้าใจหลักการไร้น้ำหนักแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกสั่นกลัวเจ้าดาบหนามของชายชราอยู่ดี ถ้าคมดาบนี้เข้าถึงตัวเขาละก็ คงจะตายในครั้งเดียวเป็นแน่
แต่เมื่อเขารู้สึกได้ถึงการโจมตีที่เข้ามา ดวงตาของฉู่เหินก็วาวโรจน์
ดาบหนามเป็นวัตถุที่จับต้องไม่ได้ ตอนนี้มันดูเหมือนกับดาบเลเซอร์ นั่นเป็นเพราะในดาบหนามนั้นมีพลังภายใน และเมื่อมีทั้งสองรวมกัน วัตถุที่ไม่มีจริงอยู่นั้นก็ถือกำเนิดขึ้นมา
เมื่อเขารู้สึกได้ถึงเสียงอันรุนแรงของดาบหนาม ฉู่เหินก็สัมผัสได้ว่าน้ำหนักของมันนั้นไม่ได้น้อยเลย แต่เมื่ออยู่ในมือของชายชรา มันกลับดูราวกับไร้น้ำหนัก หรือนี่คือจุดสูงสุดของวิชากัน?
สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก ถ้ามันมีน้ำหนักที่เบาจริง ๆ เขาก็น่าจะยกได้เหมือนกัน หรือว่าฉันเข้าใจอะไรผิดตรงไหนกันนะ ว่าแล้วฉู่เหินจึงเริ่มทำความเข้าใจกับมันเสียใหม่
ชายหนุ่มได้ทดลองรวบรวมพลังงานเข้ามาที่มือจากสายล่อฟ้า ทันใดนั้นดาบขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา มันเป็นดาบหนามเช่นเดียวกัน ทว่าของเขานั้นเล็กกว่ามาก
ถ้าดาบของชายชรานั้นยาวกว่า 10 เมตร งั้นดาบของเขาตอนนี้ก็คงยาวได้แค่ 5 เมตรเท่านั้น ความแข็งแกร่งของทั้งสองนั้นเป็นที่ประจักษ์แล้ว แต่มันไม่ได้ทำให้ฉู่เหินท้อเลย เขาจัดแจงควงดาบเล่มนั้นจู่โจมใส่ชายชราในทันที
แล้วดาบเล่มใหญ่ทั้งสองก็ปะทะกันจนส่งเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งท้องฟ้า! ถึงพลังของฉู่เหินจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังห่างชั้นกับชายชราเป็นอย่างมาก หลังจากปะทะกัน ฉู่เหินต้านรับอยู่ได้แค่ชั่วอึดใจก่อนจะพ่ายแพ้
จังหวะนั้นเอง! จู่ ๆ ดาบใหญ่ก็พลันตกลงมาจากท้องฟ้า หลังจากที่เห็นอย่างนั้นฉู่เหินก็ไม่รีรอ เขารีบพุ่งไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาพุ่งออกไป คมดาบก็จู่โจมใส่จุดที่เขาเคยยืนอยู่
โคร้มมม!!
เสียงดังกึกก้องจนดึงดูดคนที่อยู่รอบ ๆ จุดที่ฉู่เหินยืนอยู่นั้นก็มีถ้ำขนาด 2 เมตรปรากฏออกมา โกดังนั้นทำขึ้นมาจากเหล็กทั้งหมดก็จริง หากแต่ตอนนี้มันกลับระเบิดกระจุยไปเสียแล้ว
หลังจากเห็นฉากนั้น ไม่ต้องพูดถึงคนอื่น แม้แต่ตัวฉู่เหินเองก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตว่าหน้าผากของเขามีเหงื่อไหลออกมา!
“อันตรายนะชะมัด นี่มันเสี่ยงมากเลย” ในตอนนี้สายตาของชายชรามีความเคร่งเครียดอยู่ ทำให้ฉู่เหินถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ บางทีนี่คงจะเป็นจุดอ่อนเดียวของเขา
“ตอนนี้เราเป็นศัตรูกัน ถ้าไม่ฆ่าก็ต้องเป็นฝ่ายถูกฆ่า มีแค่ 2 อย่างนี้เท่านั้น ถ้าได้ก้าวเข้ามาสู่โลกของนักสู้แล้วละก็ อนาคตอันใกล้นี้นายอาจจะโดนหักหลังจากคนใกล้ตัวเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการก็ได้ถ้ายังคงไร้เดียงสาแบบนี้”
หลังจากที่ได้ยิน ฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทา โดยปกติแล้วผู้ฝึกฝนจะต้องละทิ้งความสัมพันธ์ทั้ง 6 ไป สำหรับเรื่องนี้เขากลับลังเล และคิดว่ามันจำเป็นจริงหรือ
“ถ้าศิลปะการต่อสู้คือความเดียวดาย และความโหดร้ายละก็ งั้นฉันก็ไม่อยากได้มันหรอก เพราะไม่งั้นเราก็คงไม่ต่างอะไรกับเดรัจฉาน?” ฉู่เหินพูดออกมาด้วยสั่นเครือ
หลังจากได้ยินคำ ๆ นั้น ชายชราก็สัมผัสได้ถึงจิตใจของฉู่เหิน คำพูดดังกล่าวทำให้เขานึกถึงอดีตของตัวเอง
“ถ้าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า ยอมรับหรือ? เพื่อที่จะไล่ตามสวรรค์ น้อยคนนักที่จะจดจำความรักได้ แล้วการต่อสู้ล่ะจะเหลืออะไรเอาไว้บ้าง?” ชายชราถอนหายใจอย่างจนใจ
“ถ้าฟ้าไม่ยุติธรรมก็เปลี่ยนมันซะ ถ้าเจอคนที่โหดร้ายฉันก็จะจัดการเขาซะ ฉันแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะปกป้องคนอื่น และฉันจะไม่ยอมหลงลืมสิ่งนั้นเด็ดขาด!” ฉู่เหินประกาศออกมาด้วยดวงตาที่แน่วแน่
อย่างไรก็ตาม คำพูดนั้นมันก็ได้ส่งไปถึงชายชรา ตอนนี้บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยหยดน้ำตา
“ถ้าฉันรู้ได้เร็วกว่านี้ละก็คงจะดี แต่น่าเสียดายที่ว่ามันสายเกินไปแล้ว!”
“เรื่องที่ได้รับมาจากผู้อื่นเนี่ย ไม่ต้องไปยึดถือมันมากก็ได้ มันจะดีกว่าที่จะมาฟาดฟันกัน อย่าเสียเวลาที่จะคุยอีกเลย”
หลังจากการสนทนา หัวใจของฉู่เหินก็สั่นไหวอย่างเงียบเชียบ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกเศร้าขนาดนี้
“ฉันยินดีนะที่นายมีความเมตตา แต่ทุกคนย่อมมีทางของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ความว่านายควรจะปล่อยมันไปเช่นกัน เหมือนกับที่คนจมน้ำแล้วเราไม่สามารถช่วยได้นั่นแหละ มาตัดสินกันเสียที ถึงฉันจะตาย ฉันก็ขอตายอย่างสมเกียรติแล้วกัน!”
ฉู่เหินมองไปทางชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาจะระลึกถึงศักดิ์ศรีที่ฝ่ายตรงข้ามมี ดังนั้นเขาเองก็จะสู้อย่างมีเกียรติเช่นกัน
ราวกับว่าได้พบพานคนรู้ใจ การที่ชายชราสามารถหาคนแบบนี้เจอ ต่อให้ตาย เขาก็ไม่เสียใจกับมันแล้วในตอนนี้
“เข้ามาเลย!” แล้วพวกเขาทั้งสองก็ปะทะกัน ในเวลาเดียวกันดาบของฉู่เหินก็วาดออกไป ทุกการฟาดฟันนั้นดูราวกับจะตัดผ่านผืนฟ้าได้
Next