สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 131 ขโมย
บทที่ 131 ขโมย[รีไรท์]
บทที่ 131 ขโมย[รีไรท์]
เมื่อทั้งสองขึ้นมาข้างบนได้แล้ว พวกเขาก็ซ่อนตัว ก่อนจะออกสำรวจรอบ ๆ ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ
โกดังกว้างและโล่งมาก เพียงชั่วพริบตาฉู่เหินก็พบคนกว่า 10 คน พวกเขาเหล่านั้นดูแล้วน่าจะเป็นระดับปรมาจารย์กันหมด มีชายแก่คนหนึ่งท่ามกลางพวกเขาที่ดูแล้วน่าจะเก่งกว่าผู้หญิงที่โรงพยาบาลที่เขาปะทะไปก่อนหน้านี้เสียอีก
ฉู่เหินเชื่อว่าน่าจะต้องมีคนเก่งกาจซ่อนอยู่อีก ถ้าขืนเขาพุ่งเข้าไปแบบไม่ดูตาม้าตาเรือนคงได้ตายแน่ ๆ ดูแล้วยังไงนี่มันก็เป็นกับดักชัด ๆ
ไม่ไกลจากตัวเขามากนักมีเก้าอี้พร้อมกับคนนั่งอยู่บนนั้น ชายคนนั้นมีเลือดท่วมไปทั่วร่างพร้อมกับผ้าอุดปากเอาไว้อยู่ ร่างของเขาถูกมัดติดไว้กับเก้าอี้ ฉู่เหินจำได้ทันทีว่าชายคนนี้คือเพื่อนของเขา เว่ยตงจื่อ
ตอนนี้สภาพของเว่ยตงจื่อไม่ค่อยสู้ดีนัก ใบหน้าของเขาซีดเซียวและแววตาที่แทบจะสติหลุดไปอยู่แล้ว การทรมานแบบนี้มันเกินไปแล้ว ! ภาพที่เห็นตรงหน้าที่ให้ความโกรธแค้นของฉู่เหินเพิ่มขึ้นทวีคูณ
ต้องขอบคุณสติของเขาที่ยังดีอยู่ มันจึงทำให้ชายหนุ่มไม่เผลอพุ่งตัวออกไปทันที เขากำหมัดแน่น ดวงตาของฉู่เหินเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่รอการระบาย
โจวหู่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูท่าทางของฉู่เหินแล้วแอบถอนหายใจ แม้เขาจะคิดเสมอว่าฉู่เหินเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อนไหวและชอบธรรม แต่เมื่อเขาเห็นฉู่เหินที่เจอสถานการณ์แบบนี้เข้า นั่นก็ทำให้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าประโยคพวกนั้นสามารถสื่อถึงตัวของชายที่อยู่ข้าง ๆ เขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ในขณะที่พวกเขาทั้งสองกำลังเฝ้าดูอย่างเงียบ ๆ ทั้งสองคนก็เห็นเข้ากับชายคนหนึ่งที่สวมรองเท้าหนังสีดำขนาดใหญ่เดินไปที่เว่ยตงจื่อ หลังจากเห็นฉากนี้ ฉู่เหินก็ได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิดอีกครั้ง
“ไอ้หนุ่ม รีบบอกมาดีกว่า แกกับฉู่เหินมีความสัมพันธ์กันยังไง? อย่ามาหลอกกันด้วยล่ะว่าไม่รู้จักเขา ไวน์ที่เขาปากแกวันนั้นมันบอกทุกอย่างหมดแล้ว ความอดทนของเรามีจำกัดน่ะ ถ้าแกไม่พูดอีกละก็แกได้ตายแน่” ชายคนนี้พูดด้วยภาษาจีนกลางด้วยสำเนียงแข็งกร้าวพร้อมกับมองไปยังเหยื่อของเขาด้วยความดุดัน
“ฉันบอกพวกนายไปแล้วไง ฉันไม่รู้จักฉู่เหินจริง ๆ วันนั้นฉันดื่มมากไปก็เท่านั้นเอง ถ้าไม่พอใจก็ฆ่าฉันเลยสิ” เว่ยตงจื่อที่ดูท่าทางอ่อนแรงตอบกลับไป
พอได้ยินแบบนั้น ฉู่เหินก็แทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤตชีวิตและความตายแบบนี้ อีกฝ่ายก็ยังคงไม่ทรยศเพื่อน นี่สินะคือเพื่อนแท้ เพื่อนที่ไม่ขายเพื่อนด้วยกันเอง
ตอนแรกโจวหู่รู้สึกสับสนเล็กน้อยว่าทำไมฉู่เหินถึงให้ความสำคัญกับความรักและมิตรภาพมากนัก แต่เมื่อเขาได้ยินคำตอบของเว่ยตงจื่อ เขาก็เข้าใจทุกอย่างได้ในทันที ถ้าหากเขาเป็นเว่ยตงจื่อในตอนนี้ เป็นเขาจะหักหลังฉู่เหินหรือเปล่านะ?
อย่างไรก็ตาม หากเขารู้มิตรภาพระหว่างฉู่เหินและเว่ยตงจื่อที่ทั้งสองคนมีให้กัน หากเป็นแบบนั้น ตัวเขาเองจะทำได้แบบเว่ยตงจื่อไหม?
ทันใดนั้น ฉู่เหินก็ได้ยินเสียงดังอีกครั้ง ชายคนเดิมที่ใส่รองเท้าหนังกำลังทรมานเว่ยตงจื่ออีกครั้ง พวกเขารู้ดีว่าเว่ยตงจื่อนั้นรู้จักกับฉู่เหินแน่ ๆ เมื่อยิ่งปฏิเสธมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นกว่าเดิม เพราะถ้าพวกเขาไม่รู้จักกัน อีกฝ่ายก็คงไม่พูดออกมาแบบนี้แน่
ชายในรองเท้าหนังเลือกที่จะเงียบ เขายังคงทรมานเว่ยตงจื่อต่อไปเพราะคิดว่าทั้งสองจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแน่นอน ชายผู้นั้นวางแผนเอาไว้ว่าเก็บตัวเว่ยตงจื่อเป็นเหยื่อล่อให้ฉู่เหินออกมา ไม่งั้นละก็ป่านนี้เว่ยตงจื่อตายไปนานแล้ว
ฉู่เหินต้องการเวลามากกว่านี้ เขาต้องการแอบย่องไปยังด้านหลังของเว่ยตงจื่อและใช้ระเบิดแสงหรือระเบิดควันประมาณนั้น แต่คนพวกนี้ระมัดระวังและตื่นตัวมากเกินไป ทำให้ฉู่เหินได้แต่ส่ายหน้า หลังจากหาอยู่นาน 2 ชั่วโมง เขาก็ยังไม่พบวิธีที่ดีเลย
“คุณฉู่ ถ้าเราเจาะพื้นล่ะ!” โจวหู่เพิ่งระลึกได้ว่ามันลำบากมากในการขุดลงไปใต้ดินตอนนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะถอยกลับไปได้อีกแล้ว ทว่าเมื่อได้ยินที่โจวหู่พูดออกมา ฉู่เหินก็รู้สึกสนใจในข้อเสนอไม่น้อย
ทั้งสองค่อย ๆ ยกพื้นขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นฉู่เหินก็โบกมือเรียกฉู่เฟิงออกมา เมื่อฉู่เฟิงลงไปแล้ว ฉู่เหินก็ใช้ดาบขุดดินไปยังใต้พื้นเพื่อตรงไปยังเว่ยตงจื่อ
ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ฉู่เหินและฉู่เฟิงยังคงสามารถแบ่งปันการมองเห็นกันได้ ดังนั้นไม่เพียงแค่เจ้าหุ่นเชิดจะขุดได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น มันยังมีความแม่นยำอีกด้วยเมื่อได้สายตาของฉู่เหินช่วย ไม่นานนักก่อนที่ตะวันจะลับขอบฟ้า ในที่สุดฉู่เฟิงก็ขุดไปถึงใต้พื้นที่เว่ยตงจื่ออยู่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้นฉู่เหินจึงออกคำสั่งให้หยุด เขาต้องรอเวลาเสียก่อน เมื่อตะวันลับขอบฟ้าเมื่อไหร่มันจะเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาจะพาตัวเว่ยตงจื่อกลับออกมา ขอเพียงแค่ไฟในห้องสลัวลงไปเสี้ยววินาที เพียงชั่วพริบตานั้นฉู่เหินก็จะใช้กับดักของเขาได้ และเป็นดั่งปีศาจในเงามืด
เนื่องจากฉู่เหินสังเกตมานานแล้วว่าโกดังนี้ไม่มีกระทั่งไฟฟ้า ดังนั้นมันจึงเป็นโอกาสเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น
เวลาเคลื่อนผ่านไปนาทีต่อนาที ฉู่เหินเตรียมกับดักของเขาเสร็จแล้ว เหลือแค่เพียงเวลาที่ตรงจังหวะเท่านั้น โจวหู่เองก็เตรียมพร้อมและลงไปข้างล่างรออยู่แล้ว
ในขณะนั้นเอง ฉู่เหินรู้สึกได้ว่าพลังจิตวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ดวงตาของเขาก็เริ่มล้าเพราะไม่ได้กะพริบมานาน ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเขากลัวว่าเมื่อกะพริบตาแล้วจะพลาดโอกาสไป
นี่มันช่างเป็นการทรมานที่น่ากลัวเสียเหลือเกิน สำหรับคนที่ไม่ได้กะพริบตาแบบเขา ฉู่เหินรู้สึกว่าการทรมานแบบนี้ควรถูกระบุว่าเป็น 1 ในการทรมาน 10 อันดับแรก เพราะตอนนี้ชายหนุ่มไม่ได้กะพริบตามานานกว่า 10 นาทีแล้ว และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกวิงเวียนยังไงไม่รู้
ในขณะที่ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังเบื้องหน้า ฉู่เหินก็รู้สึกว่าเปลือกตากำลังจะตก และในทันใดนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ว่าแสงในโกดังแห่งนี้กำลังดับลง
เสี่ยววินาทีนั้นฉู่เหินก็ออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว “เอาเลย!” ในเวลาเดียวกัน กับดักในมือของเขาก็ถูกโยนไปอยู่ตรงหน้าของเว่ยตงจื่อ
เว่ยตงจื่อผู้เหนื่อยล้าจากการทรมานนั้นได้หมดสติหลับไปแล้ว แต่เมื่อเขาหลับ เขากลับรู้สึกว่าร่างกายของเขามันแปลก ๆ วินาทีที่เขาลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบเข้ากับชายประหลาดตรงหน้า แม้ว่าเขาจะไม่รู้จักบุคคลนั้นในขณะนี้ แต่เว่ยตงจื่อก็รู้สึกถึงความปลอดภัยอย่างคลุมเครือ
หลังจากฉู่เหินส่งกับดักปีศาจออกไป เขาก็รีบกะพริบตา ฉู่เหินพบว่าเขาน่าจะปรับทิศทางของกับดักปีศาจซะหน่อย แต่ตอนนี้เป็นเวลาเร่งด่วน เขาไม่มีเวลาปรับมันแล้ว ชายหนุ่มกะพริบตาอย่างรวดเร็วและเจาะเข้าไปในหลุมที่เขาขุดเอาไว้
เมื่อลงมาด้านล่าง ฉู่เหินก็รีบอุดรูทันที เชือกถูกคลายออกจากตัวของเว่ยตงจื่อ และร่างของเขาก็กำลังถูกพาออกมาจากที่นี่โดยฉู่เหิน หลังจากที่เดินออกมาได้เล็กน้อย เว่ยตงจื่อก็เห็นร่างของฉู่เหิน และร่างกายของเขาก็สั่นเทาด้วยความตื่นเต้น
“อย่าเพิ่งพูดอะไรจนกว่าพวกเราจะออกไปได้อย่างปลอดภัยล่ะ” ฉู่เหินเอ่ยเบา ๆ หลังจากที่มองไปยังเว่ยตงจื่อ ซึ่งเพื่อนของเขาก็พยักหน้ารับรู้กลับมา เขารู้ว่าเรื่องราวในตอนนี้น่าจะร้ายแรงมาก
Next