สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 127 สภาวะไม่มั่นคง
บทที่ 127 สภาวะไม่มั่นคง[รีไรท์]
บทที่ 127 สภาวะไม่มั่นคง[รีไรท์]
“คุณฉู่ ผมมีเรื่องจะบอก ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเสี่ยวชิง มีคนจากกลุ่มธุรกิจใหญ่เพ่งเล็งเธอ แม้ว่าผมจะจัดการเรื่องนี้อย่างลับ ๆ แล้ว แต่มันก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีผลอะไร”
ในขณะที่ครอบครัวของฉู่เหินกำลังพูดคุยอย่างสนุกสนาน สายเรียกเข้าจากโจวหู่ก็ดังขึ้น การที่ได้รับสายจากโจวหู่ นั้นก็ทำให้ความสุขในใจของเขาหายไปทันที เสี่ยวชิงไปเหยียบหางคนอื่นเข้าเนี่ยนะ ? แถมดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะมีส่วนเกี่ยวกับเขาด้วย เรื่องนี้มันทำให้เขาโกรธมาก
เมื่อเป็นเรื่องของเสี่ยวชิงแบบนี้เขา ถ้างั้นเขาก็ไม่อยากจะเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว ถ้าชายหนุ่มช้าเกินไป นั่นก็จะยิ่งทำให้เสี่ยวชิงอยู่ในอันตรายมากกว่าเดิม ทว่าการที่ต้องเห็นงานปาร์ตี้สนุกสนานถูกขัดแบบนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีซักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงคิดแล้วคิดอีกเพื่อเรียบเรียงคำพูดออกมาให้ดีที่สุด
“มีอะไรรึเปล่าฉู่เหิน?” หวงเจี้ยนหมิงถามด้วยความสงสัยในท่าทีของฉู่เหิน หลังจากที่ชายหนุ่มรับสายเขาก็ดูร้อนรนผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงรู้ได้ทันทีเลยว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ
“อ๊ะ ไม่มีอะไรหรอกพี่ แค่จะไปเดินเล่นนิดหน่อยน่ะ” ชายหนุ่มยิ้มและพยายามทำตัวตามปกติ
“จะไปไหน?”
“จิงเหมิน” ฉู่เหินตอบคำถามไปทันทีโดยไม่ทันได้คิด แต่พี่ชายของเขากลับโบกมือให้ราวกับอนุญาตให้เขาไปได้
“งั้นก็ไปเถอะ อย่าคิดมากเลย แล้วโป๋อีกู่อยู่ไหนเนี่ย?” เพราะชายหนุ่มเคยแนะนำเขาไปว่าโป๋อีกู่คือปรมาจารย์ที่คอยมาคุ้มกันพี่ชายของเขา ดังนั้นหวงเจี้ยนหมิงถึงได้รู้จักกับโป๋อีกู่
“เสี่ยวเฉิน มีอะไรเกิดขึ้นกับเสี่ยวชิงรึเปล่า?”
หลังจากได้ยินคำถามนี้จากซูวี่เหมย หวงเจี้ยนหมิงก็มองไปที่คนอื่น ๆ อย่างช่วยไม่ได้ เธอไม่เห็นเหรอว่าหลิวจ้านซานกับภรรยาของเขาเองก็อยู่ที่นี่ ? เธอเป็นคนบอกให้คนอื่นลืมเองไม่ใช่รึไง แน่นอนว่าหลังจากถามออกไป ซูวี่เหมยก็เข้าใจ และไม่อาจถอนคำพูดได้แล้ว
“เสี่ยวเฉิน เกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวชิง?” หลิวจ้านซานที่ได้ยินคำถามนี้จากหวงเจี้ยนหมิงและซูวี่เหมยก็รู้ได้ทันทีเลยว่ามีอะไรผิดปกติ
“อย่าคิดมากน่า ไม่มีอะไรหรอกครับ มีคนคอยปกป้องเสี่ยวชิงอยู่แล้ว เสี่ยวชิงไม่เป็นอะไรหรอก” ฉู่เหินสรุปความให้ แต่ในใจของเขาคิดตรงกันข้ามเลยทีเดียว แม้ว่าเสี่ยวชิงจะได้รับการคุ้มครองอยู่ แต่ใครจะรู้เล่าว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า
“พักก่อนเถอะ มีคนอยู่ที่นั่นแล้ว พวกมันก็แค่รอให้เราเข้าไปจัดการก็เท่านั้นเอง พวกมันจะน่ากลัวขนาดไหนกันเชียว?” ฉู่เหินเลือกโกหกออกมาอย่างช่วยไม่ได้
“ฉู่เหิน นายจะไปจิงเหมินเหรอ? เยี่ยมเลย ช่วยเอาของไปให้พ่อฉันด้วยนะ” หวงม่านอิ่งลังเลก่อนจะพูดออกมา
ฉู่เหินรู้ดีว่าหวงม่านอิ่งเป็นคนยังไง และเมื่อเขากังวล อีกฝ่ายก็ขอร้องให้เขาเอาของไปให้ที่บ้าน มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ ทว่าเขาก็เชื่อว่าหวงม่านอิ่งเองก็ไม่เคยทำร้ายใคร ดังนั้นนี่จะต้องเป็นสิ่งที่ดีแน่ ๆ ชายหนุ่มจึงตอบรับไปทันที
แต่ก่อนออกเดินทาง ฉู่เหินก็ยังคงทำทุกอย่างแบบปกติ เพียงแต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นกลับกลายเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลึกลับในสายตาของทุกคน! นั่นเพราะฉู่เหินพาทุกคนไปที่สวนดอกไม้และแนะนำให้รู้จักกับเถาวัลย์กระหายเลือด และเตือนมันไว้ว่า มันจะต้องไม่ทำอะไรที่จะทำร้ายทุกคนที่อยู่ที่นี่
ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่เหินเชื่อถือได้ ทุกคนก็คิดว่าเขามีอาการฮิสทีเรียแล้ว แต่หลังจากได้ดูเถาวัลย์นี้แล้ว โป๋อีกู่ก็สัมผัสได้ถึงคลื่นแห่งความกลัว
ก่อนที่ชายหนุ่มจะออกไป ฉู่เหินก็ได้เจอกับเก้าอี้ตัวใหญ่อีกครั้ง เก้าอี้มงคลตัวนี้ถูกเก็บเอาไว้ตั้งนานเพื่อพี่ชายของเขา ครั้งล่าสุดมันได้รับการปรับปรุงจากฉู่เหิน และในที่สุดมันก็มีประโยชน์เสียที!
ฉู่เหินสร้างค่ายกลใต้เก้าอี้มงคล มันดูเหมือนไม่มีอะไรผิดปกติก็จริง แต่ว่าถ้าหากกดปุ่มลงไป ขาทั้งสี่ก็จะเคลื่อนไหวตามที่ผู้นั่งต้องการ มันกลายเป็นเก้าอี้เข็นที่สุดยอดไปแล้วในตอนนี้
จากนั้นเขาก็บอกให้พี่ชายของเขานั่งเก้าอี้ตัวนี้ เพราะมันให้ความรู้สึกดีกว่าเก้าอี้ตัวอื่น ซึ่งมันจะช่วยรักษาร่างกายในหลาย ๆ ส่วนได้ตั้งแต่คลายกล้ามเนื้อไปจนถึงช่วยระบบไหลเวียนของเลือด หลังจากจัดแจงทุกอย่างเสร็จสิ้น อาจารย์จางก็พาเขาไปที่สนามบิน
ฉู่เหินเลือกเดินทางโดยเครื่องบินเพื่อประหยัดเวลา แถมอาจารย์จางเองก็ซื้อตั๋วมาให้เขาล่วงหน้าแล้วด้วย ชายหนุ่มพยายามที่จะจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เขาสั่งซื้อมันผ่านโทรศัพท์ ซึ่งทำให้ฉู่เหินเริ่มรู้สึกรำคาญนิดหน่อย
ทว่าเมื่อเขาตั้งใจจะทำเรื่องดี ๆ ให้กับอาจารย์จางบ้าง ชายชราก็เลือกที่จะปฏิเสธ ใช้เวลาไม่นานนักฉู่เหินก็ถึงที่หมาย เขามองไปยังด้านนอกแล้วก็เห็นโจวหู่กำลังรอเขาอยู่
“เดินไปคุยไปกันเถอะ” ฉู่เหินบอกกับเขา
ทั้งสองเดินตรงไปยังลานจอดรถ ก่อนที่โจวหู่จะพาเขาขึ้นรถเบนซ์ไป เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเขาอยู่แล้ว เพราะโจวหู่ซื้อรถเบนซ์ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงแค่แป๊บเดียว
ฉู่เหินพูดไม่ออก เพราะจนกระทั่งตอนนี้เขายังไม่เคยมีรถเลยแม้แต่คันเดียว มีแต่ Audi ที่อาจารย์จางซื้อไว้ให้ แต่สำหรับฉู่เหินก็ไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นรถรุ่นอะไรแต่อย่างใด
“คุณฉู่ มีกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่สุดในเมืองจิงเหมิน ภายใต้ชื่อบริษัทการค้าจิงฮวา ว่ากันว่าประธานของบริษัทการค้าจิงฮวา ชื่อ หวงผู่เฟิงยวิน เขามีลูกชายคนหนึ่งชื่อ หวงฟู่เจิน แต่เขาเสียชีวิตเมื่อเดือนที่แล้ว ว่ากันว่าเขาเข้าร่วมคอนเสิร์ตโดยนักแสดงระดับ 3 และถูกเหยียบจนตาย!”
โจวหู่บอกเล่าถึงสถานการณ์ เมื่อได้ยินแบบนั้นฉู่เหินก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตาไปมา และตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งนั่นก็คือพ่อของไอ้หนุ่มอวดดีนั่นเอง ดูเหมือนว่าเขาต้องสงสัยเสี่ยวชิงว่าเป็นต้นเหตุที่ลูกชายเขาต้องตาย อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขากล้าที่จะเหยียดมือสกปรก ๆ ไปที่เสี่ยวชิง ฉู่เหินก็ไม่รังเกียจที่จะจัดการเขา
“เท่าที่ผมรู้ บริษัทการค้าจิงฮวาไม่ได้สนใจเสี่ยวชิงหรอก แต่เมื่อพวกเขาเจอเข้ากับคนกลุ่มหนึ่ง นั่นก็ทำให้พวกเขาเล็งมาที่เสี่ยวชิง ผมได้ตรวจสอบหลายอย่าง พวกเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร มีพลังอำนาจมากแค่ไหน แต่พวกเขาถูกชักจูงโดยผู้หญิงที่ท่าทางยั่วยวน”
หลังจากได้ยินแบบนั้น ฉู่เหินก็เริ่มแสดงความโกรธออกมาผ่านดวงตาของเขา ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะไม่ยอมแพ้เลย แถมยังกล้าที่จะยื่นมือเข้ามายุ่งต่อด้วย ดูเหมือนว่าฉู่เหินคงจะต้องถอนรากถอนโคนคนพวกนี้ออกให้หมดเสียแล้วสิ
“แล้วอย่างอื่นนอกจากนี้ล่ะ? พวกมันมีใครหนุนหลังอยู่ไหม และมันอยู่ที่ไหน?” เมื่อฉู่เหินถาม ดวงตาของเขาเยือกเย็นขึ้น ถ้ารู้ว่าอยู่ที่ไหน เขาจะจัดการให้หมดเลย
แม้ว่าจะคิดวิธีการกำจัดเอาไว้แล้ว หากแต่พวกเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่าขุมกำลังของพวกมันมีมากน้อยแค่ไหน ถึงแม้จะใช้ค่ายกล แต่มันก็อาจมีคนเหลือรอดมาได้ ดังนั้นฉู่เหินจึงต้องเตรียมตัวที่จะจัดการทุกอย่างโดยเร็วที่สุด
“พักก่อนเถอะฉู่เหิน เดี๋ยวผมจัดการเอง”
โจวหู่พูดออกมา เมื่อชายหนุ่มได้ยินแบบนั้น เขาก็เก็บดาบยาวเข้าไปในแหวน มันคือดาบที่เขาเก็บได้มาจากหญิงสาวที่เขาจัดการได้ที่โรงพยาบาล หลังจากที่เธอถูกจัดการไปแล้ว อาวุธของเธอก็ต้องกลายเป็นของเขา
Next