สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 124 ทะลวง[รีไรท์]
บทที่ 124 ทะลวง[รีไรท์]
บทที่ 124 ทะลวง[รีไรท์]
ตอนนี้ฉู่เหินเริ่มคิดแล้วว่าตัวเองทำผิดพลาดมหันต์ที่ไม่ยอมรออยู่ในห้องที่มีค่ายกล แม้แต่ปรมาจารย์เอง พวกเขาก็คงไม่สามารถต้านทานคนมากมายในเวลาเดียวกันได้ด้วยซ้ำ แต่มันก็สายเกินไปแล้วที่จะพูดอะไร!
จากนั้นชายหนุ่มก็เงยหน้าและต่อสู้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำให้ได้ก็คือชนะเท่านั้นถึงจะรอด ถ้าเกิดแพ้ มันก็คงมีแต่ตายเท่านั้น “ตายยย!” ฉู่เหินตะโกนออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่พวกเขา
ทว่า ทันทีที่ร่างของฉู่เหินพุ่งเข้าไป ค้อนยักษ์ก็ถูกยกขึ้นมาอีกครั้ง ชายหนุ่มยกอาวุธทั้งสองในมือขึ้นเหนือหัว แต่ฉากต่อมามันทำเอาเขาต้องตะโกนด่า
ในจังหวะที่อาวุธทั้งสามเข้าปะทะกันกลางอากาศ ค้อนยักษ์นั่นกลับแตกหักออกพร้อมด้วยเสียงดัง คลิ๊ก! จากนั้นก็มีผงมากมายไหลออกมา นี่เป็นครั้งแรกที่ฉู่เหินรู้สึกไม่ดี
แต่เมื่อชายหนุ่มกำลังจะหลบมัน เขาก็พบว่ามีบางสิ่งปกคลุมใบหน้าของตนเอาไว้ ฉู่เหินไม่รู้ว่ามันคืออะไร หากแต่มันเกาะติดใบหน้าของเขาไว้ตลอดเวลา ในตอนนี้นั้น เขาไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้อีก เพราะเมื่อไหร่ที่ลืมตาขึ้นมา มันจะแสบมาก!
น้ำมะนาว พริกไทย และพริกป่น “บ้าเอ๊ย!! แม่ไม่รักรึไง ไอ้ลูกเต่าสารเลว เอ็งนี่มันบัดซบจริง ๆ!” ฉู่เหินสบถออกมาพร้อมกับถอยห่าง เขาเริ่มรู้สึกแล้วว่าไม่อาจสู้ได้
ในใจของฉู่เหินนั้น เขาเริ่มวางแผนการเอาตัวรอดอีกครั้ง ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ และในวินาทีความเป็นความตายนั้นเอง ทันใดนั้นเขาก็ได้ปลดปล่อยจิตวิญญาณของตัวเองออกมา
จริง ๆ แล้วฉู่เหินแทบรับรู้อะไรไม่ได้เลย จิตวิญญาณของเขาครอบคลุมอยู่ในระยะแค่เพียง 1 เมตรเท่านั้น แถมดวงตาของเขาเองก็ใช้การไม่ได้แล้ว นี่จึงทำให้มันยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ดังนั้นการใช้จิตวิญญาณในระยะเพียง 1 เมตรจึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับฉู่เหินแล้ว
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น จิตวิญญาณของเขาเองก็พยายามทำให้ร่างกายเอาตัวรอดอยู่ตลอดเวลา ประสาทสัมผัสของฉู่เหินจะเพิ่มสูงขึ้น มันทำให้เขาสามารถเอาตัวรอดจากอันตรายต่าง ๆ ได้ แม้ในขณะที่เขากำลังตื่นตระหนกก็ตาม
ในขณะที่หลบหลีกการโจมตี ในใจของฉู่เหินก็ยังคงคิดบางอย่าง ในอดีตทุกครั้งที่เขาฝึกฝน เขาใช้เวลาตลอดทั้งคืน แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ฝึกฝนอย่างหนักมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว แต่ทำไมตัวเขาถึงแข็งแกร่งขึ้นได้ละ?
ในตอนนี้ดูเหมือนว่าฉู่เหินจะเข้าใจแล้ว การที่จะเป็นผู้แข็งแกร่งนั้น คนผู้นั้นจะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งด้วยเช่นกัน ถ้าใจไม่เข้มแข็ง ถ้างั้นจะเป็นผู้แข็งแกร่งได้อย่างไร?
ผู้ฝึกตนนั้นเป็นที่รู้จักกันอีกชื่อว่า ผู้ฝึกเต๋า เมื่อพวกเขาฝึกเต๋า มันจะเป็นเพียง 3 ขอบเขตเท่านั้น ซึ่งไม่ได้อยู่ใน 5 ธาตุหลัก อย่างไรก็ตาม หากต้องการฝึกเต๋า แค่พูดอย่างเดียวนั้นไม่อาจทำได้ ต้องแสวงหาและฝึกฝนอย่างหนัก เส้นทางสายนี่มีแต่ความยากลำบาก คนธรรมดาไม่สามารถผ่าไปได้หรอก!
ดังนั้นถ้าอยากจะพิสูจน์ตนเอง คนผู้นั้นก็จะต้องมีความมั่นใจเสียก่อน หลังจากคิดแบบนั้นแล้ว ฉู่เหินก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองได้เห็นดวงตะวันและก้อนเมฆอีกครั้ง ในวินาทีที่เขาเปิดใจ โซ่ที่ล่ามอยู่ในร่างของเขาก็ได้ถูกทำลายลงพร้อมกับเสียงอันอ่อนเบา
ทันใดนั้นฉู่เหินก็สัมผัสได้ถึงพละกำลังมหาศาลที่พวยพุ่งออกมาจากร่างกายราวของเขา ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งขึ้นจนสามารถต่อยหมัดที่แรงขนาด 30,000 จินได้ ชายหนุ่มประกบหมัดเข้าด้วยกัน ส่งเสียงดังก้องออกมา ต่อให้มีกำแพงเขาก็จะต่อยมันให้แหลกได้ด้วยหมัดเดียว!
ไม่มีใครคาดคิดว่าฉู่เหินจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้เพียงชั่วพริบตาแบบนี้ พวกเขาพบว่ารัศมีจิตวิญญาณของชายหนุ่มตรงหน้าเพิ่มพูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มันขยายออกไปถึง 5 เมตร ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนทั่วไป
สำหรับคนที่อยู่ในระดับปรมาจารย์นั้นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะไม่มีใครที่สามารถขยายระยะตนเองออกมาได้เกินกว่าคนอื่นถึง 2 เท่าแบบนี้ ทว่าการขยายมันออกมานั้นก็ทำให้ฉู่เหินรู้สึกตะลึง และก็เป็นตอนนี้เองที่เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นอีกครั้ง
“ฉู่เหินได้ทำการปลดล็อกขีดจำกัดตนเอง ได้รับรางวัลเป็น กายภาพ+1 ว่องไว+1 ความทนทาน+2 และจิตวิญญาณ+2”
ระบบแจ้งเตือนดังขึ้นอีกครั้ง ถึงมันจะสั้น แต่ฉู่เหินก็อดขำไม่ได้ เขาเพิ่งจะเคยได้รับข้อความแบบนี้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น และมันไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย การเพิ่มค่าสถานะแบบนี้นี่เองที่ทำให้ฉู่เหินเก่งกาจขึ้นเป็น 2 เท่า
ชายหนุ่มไม่คิดว่าเลยมันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ เขาในตอนนี้นั้นได้ก้าวข้ามขีดจำกัด และเหยียบย่างเข้าสู่หนทางแห่งการเป็นปรมาจารย์ได้แล้ว ทว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ยังไม่จบลง เพราะอย่างนั้นฉู่เหินจึงกลับมาระมัดระวังอีกครั้ง
ด้วยพละกำลังกว่า 100 ปอนด์ ตอนนี้เขาจึงแข็งแกร่งกว่าเดิม พลังของฉู่เหินในตอนนี้เกือบเทียบเท่า 40,000 ปอนด์เข้าไปแล้ว ซึ่งด้วยค่าสถานะดังกล่าว มันก็ได้ทำให้เขาเก่งกาจและว่องไวมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงพละกำลังที่มากมายทำให้เขาต่อสู้ได้นานขึ้นอีกด้วย
ฉู่เหินไม่เข้าใจเลยว่าทำไมรัศมีจิตวิญญาณของเขาสามารถครอบคลุมได้ถึง 5 เมตรแบบนี้ แต่ด้วยระบบเชื่อมโลกา นี่อาจเป็นเพราะการที่เขาได้รับคุณสมบัติทางจิตวิญญาณ+2 ก็เป็นได้ละมั้ง
“หึหึ ดูเหมือนว่าฉันจะก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองอีกแล้วสินะ ถึงเวลาตายของพวกแกแล้วล่ะ!” ฉู่เหินโบกมือแล้วก็พุ่งเข้าใส่ชายชุดดำที่ใกล้ที่สุด
ฉู่เหินรู้ตัวดีว่าคนนอกนั้นไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเขา ชายคนหนึ่งได้ทำการพุ่งเข้าไปและใช้ดาบทั้งสองในมือหมายจะแทงหัวใจของฉู่เหิน
ด้วยสภาพของฉู่เหินที่ดวงตาใช้การไม่ได้ มันจึงทำให้ชายชุดดำมั่นใจว่าตัวเขาสามารถใช้ดาบจัดการเขาได้แน่ ๆ ทว่า ในวินาทีต่อมาเป้าหมายของเขากลับย่อตัวลงและหลบทันที
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำสำหรับคนเราเมื่อดวงตาใช้การไม่ได้จะสามารถหลบการโจมตีแบบนี้ได้ การที่จะหลบดาบแบบนี้มันต้องมีการเตรียมการมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เขาแทงดาบเข้ามาด้วยความรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครมองทัน
ในจังหวะที่ชายผู้นั้นกำลังตะลึงอยู่ ฉู่เหินก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเขาและใช้ดาบวงพระจันทร์ฟันเข้าไป คลิ๊ก! ชายคนที่ถือดาบอยู่ยังคงมีรอยยิ้มแห่งความเหยียดหยามอยู่บนใบหน้า หากแต่หัวของเขากลับหลุดออกจากบ่าเสียแล้ว
ชายผู้นั้นยังไม่เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำแม้แต่ตอนที่เขาตายแล้ว นั่นก็เพราะฉู่เหินนั้นเคลื่อนไหวเร็วเกินไปจนดวงตาของเขามองไม่ทัน
หลังจากจัดการชายคนนี้ไปแล้ว ฉู่เหินก็เขวี้ยงดาบในมือของเขาไปยังชายชุดดำที่ใกล้ที่สุดก่อนที่จะพุ่งต่อไป
ดาบนั่นพุ่งไปแล้วตัดหัวทุกคนที่มันเคลื่อนผ่าน ฉู่เหินพุ่งตัวเข้าไปรับมันมาไว้ในมือได้อย่างง่ายดาย ไม่มีใครรอดเลยสักคน ทุกคนถูกตัดหัวอย่างโหดเหี้ยม
ทันใดนั้นก็ปรากฏเสียงระเบิดดังขึ้น มีสามร่างร่วงลงไปกองบนพื้น ทำให้คนที่เหลือเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับสิ่งใด พวกเขารู้ว่าฉู่เหินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขาเองก็ไม่คิดว่าจะเก่งกาจได้ระดับนี้
Next