สุดยอดชาวประมง (极品小渔民) - บทที่ 114 การฟอกงาช้าง[รีไรท์]
โป๋อีกู่มองมาทางฉู่เหินที่กำลังเงยหน้ามองท้องฟ้าโดยไม่ได้พูดอะไร เรื่องพวกนี้มันค่อนข้างที่จะซับซ้อน ดังนั้นมันคงไม่ง่ายเลยที่จะอธิบายให้หวงม่านอิ่งฟัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินคำเชิญของฉู่เหิน โป๋อีกู่ก็เลือกที่จะตามฉู่เหินไป ซึ่งก็แน่นอนว่ามีหวงม่านอิ่งตามไปติด ๆ
หลังจากผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง ตำรวจก็มาถึงจนได้ ในขณะที่ 3 คนก่อนหน้านั้นจากไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่หัวขโมย 2 คนที่ถูกทิ้งให้นอนกองอยู่บริเวณนี้เท่านั้น
ในกรณีนี้ นี่ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นเสมอในเทียนเซี๋ยนจวน แต่อย่างน้อย การที่คนร้ายถูกจับกุม นั่นก็ทำให้เมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ความสงบในตอนนี้ทำให้พวกชาวบ้านนึกภาพความวุ่นวายก่อนหน้าแทบไม่ได้เลย แต่ถึงอย่างงั้น พวกชาวบ้านต่างเกรงว่านี่อาจเป็นเพียงแค่ความสงบก่อนพายุลูกใหม่จะมาเท่านั้น
จากการที่มีพวกคนเลวถูกจับกุมไปในครั้งนี้ พวกเขาทั้งหมดคงต้องเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในคุก เพราะจากการที่พวกเขาพยายามลักพาตัวและวางแผนร้ายกาจมากมาย มันทำให้เกิดปัญหาที่ร้ายแรง พวกชาวบ้านเมื่อได้รับทราบต่างพากันดีใจกันอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าครอบครัวของผู้ถูกจับกุมนั้นจะไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่คนพวกนี้ก็กลายเป็นเป้าหมายแห่งความเกลียดชังของคนในหมู่บ้าน โชคดีที่คนพวกนั้นไม่ค่อยมีครอบครัวมากเท่าไหร่
“งั้นฉันจะเรียกว่าโป๋อีกู่นะ! ชื่อดูเข้ากับยุคนี้ดี” ฉู่เหินที่เดิมคิดว่าชื่อโป๋อีกู่มันดูแปลก ๆ ดังนั้นตอนแรกเขาจึงลังเลว่าจะเรียกยังไงดี? กู๋ไป่หรอ? ใครตั้งให้เนี่ยชื่ออย่างกับตาลุง สุดท้ายฉู่เหินก็เลยต้องเรียกว่าโป๋อีกู่อย่างช่วยไม่ได้
ด้วยความที่ยังไม่ได้รู้จักกันมาก โป๋อีกู่จึงกลอกตาโดยที่ไม่ได้สนใจอีกฝ่าย ถึงเดิมเขาจะมีชื่อว่ากู๋ไป่ แต่เขามักจะถูกเรียกด้วยชื่อโป๋อีกู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเรื่องชื่อของตัวเอง
ทั้ง 3 ก็เข้ามานั่งอยู่ในรถของหัวหน้าเซี๋ยงที่กำลังมุ่งหน้ากลับไปยังหมูบ้านชาวประมง ตอนแรกนั้นหญิงสาวยังพูดคุยอยู่กับชายอีก 2 คนอย่างสนุกสนาน แต่ไม่นานเธอก็ผล็อยหลับไป
หลังจากฉู่เหินออกมาจากรถ เขาก็ขอให้โป๋อีกู่อุ้มหญิงสาวไปที่อีกห้อง ฉู่เหินมุ่งตรงไปที่หลังบ้านเพื่อไปเอาอาหารมาให้ ซึ่งมันก็ไม่ใช่อาหารธรรมดา เพราะนี่คือเนื้อของปลาเกล็ดขาวระดับ 3 ที่อยู่ในแหวนมิติ ด้วยเจ้าสิ่งนี้ มันจะช่วยให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและการไหลเวียนเลือดที่ดียิ่งขึ้น เนื้อปลานี่ถือเป็นของทดแทนที่วันนี้ฉู่เหินทำให้หัวหน้าเซี๋ยงต้องวุ่นวาย
เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าเซี๋ยงดูท่าจะพอใจเป็นอย่างมาก แต่พอฉู่เหินบอกว่ายังมีอีกมากในบ่อปลาของเขา หัวหน้าเซี๋ยงก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น เขารู้ดีว่ามันก็เป็นแค่ปลา แต่ถ้าพวกมันผ่านการจัดการอย่างถูกต้องล่ะก็ มันสามารถทำเงินให้ได้กว่าแสนหยวนเลยทีเดียว
หัวหน้าเซี๋ยงดูมีท่าทีที่พึงพอใจเป็นอย่างมาก เขายิ้มให้กับโป๋อีกู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา “เส้นลมปราณหรือกระดูกละ!” ฉู่เหินพูดอะไรไม่ออกเพราะว่าไม่เข้าใจความหมาย แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกถามนั้นจะเข้าใจว่าหมายถึงอะไร
“เส้นลมปราณที่ขาซ้ายถูกปิดอย่างสมบูรณ์ มีผลทำให้ความแข็งแกร่งในปัจจุบันลดลง หากในอีกไม่กี่ปียังไม่รักษา ฉันเกรงว่าตัวเองคงจะกลับไปเป็นคนธรรมดาแล้วละ” โป๋อีกู่ตอบไปตามความจริง
“ถ้างั้นก็น่าจะรักษาได้ตั้งนานแล้วนี่ มัวแต่ทำอะไรอยู่?” ฉู่เหินไม่ใช่หมอยา แน่นอนว่าเขาไม่รู้วิธีแก้ปัญหา แต่ว่าถ้าเกิดว่าอีกฝ่ายรู้วิธีรักษา เขาก็อาจจะมีสิ่งที่พอได้ก็ได้
“การกลั่นลมปราณที่ขาซ้ายของฉันไม่ใช่แค่ต้องผสานเส้นชีพจรเท่านั้นนะ เพราะถ้าจะทำแบบนั้น ขานี้ต้องมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งด้วย ซึ่งโชคร้าย…และสมบัติที่จะนำมาใช้ก็หายากเกินไป!” โป๋อีกู่ถอนหายใจอย่างหมดหวังและพูดความจริง
“อยากได้สมบัติแบบไหนล่ะ? ฉันก็มีอยู่บ้างนะ แต่ไม่รู้ว่าจะเหมาะกับนายรึเปล่า”
ทันทีที่ฉู่เหินว่าขึ้นมา โป๋อีกู่ก็ดูจะนิ่งไป เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อยากจะเอาของดีออกมาใช้กันง่าย ๆ หรอก ดังนั้นเขาจึงดูท่าทีชายตรงหน้าให้ดีก่อน
“ถ้าตามตำราเก่า ๆ แล้ว กระดูกสัตว์น่าจะดีที่สุด แต่ทุกวันนี้ของประมาณนั้นก็หายากเต็มที” โป๋อีกู่ดูจะคิดอะไรบางอย่างได้ แล้วดวงตาของเขาก็ซึมลงอีกครั้ง
“กระดูกสัตว์งั้นเหรอ? น่าจะมีอยู่บ้างนะ ตามมาสิ จะได้รู้ว่าควรจะใช้อะไร” หลังจากนั้น ฉู่เหินก็พาเข้าไปในห้องของตัวเองที่เต็มไปด้วยกระดูกของสัตว์ต่าง ๆ เรียงรายอยู่ในตู้
มีตั้งแต่กระดูกม้า กระดูกขาของเสือเขี้ยวดาบ กระดูกเต่ายักษ์ในทะเลลึก แม้แต่ของระดับ3 อย่างซากปลาเกล็ดขาว หรือของระดับ 5 อย่างงาช้างเขาก็มีเหมือนกัน
โป๋อีกู่รู้สึกตื่นเต้นมากที่มีของมากมายขนาดนี้ ถ้าใช้กระดูกอย่างอื่นเขาก็สามารถกลับมาอยู่ในสภาพปกติได้ แต่ถ้าเป็นงาช้างล่ะก็ เขาน่าจะสามารถพัฒนาความสามารถของตัวเองได้เลย!
ถ้าใช้มันล่ะก็ ไม่ได้แค่บรรเทาความเจ็บปวดเท่านั้น หากแต่เขาอาจจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดสูงสุดเลยก็เป็นได้! หลังจากที่เลือกอยู่นานโป๋อีกู่ก็สนใจที่จะใช้งาช้างอันนั้น ทว่าเขาก็ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยปากขอ เพราะรู้ดีว่ามันต้องมีค่ามหาศาลเป็นแน่
แค่งาช้างอันเดียวก็สามารถเอาเงินที่ได้มาใช้สร้างเมืองได้สบาย ๆ แล้ว แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ความคิดดังกล่าวก็มลายหายไปทันทีเพราะคำพูดของฉู่เหิน!
“อ้าว สนใจชิ้นนี้เหรอ! สมบัติระดับ 5 ถ้าอยากจะใช้งานมันจริง ๆ ละก็เดี๋ยวฉันช่วยเอง และเหลือ นายจะเอาไปทำอาวุธด้วยก็ได้นะ” อาวุธที่สร้างโดยวัตถุดิบระดับ 5 แน่นอนว่าเป็นความปรารถนาที่ฉู่เหินอยากให้เกิดขึ้น อีกอย่างเขามีของที่ดีมากกว่านี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นแค่งาช้างดังนั้นฉู่เหินจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องหวงขนาดนั้น
“ท่านฉู่! จะให้จริง ๆ งั้นเหรอครับ?” ถึงได้ยินอย่างงั้น โป๋อีกู่ก็ยังไม่อยากจะเชื่ออยู่ดี
“ท่านฉู่อะไรกันล่ะ ขนลุกชะมัด เรียกแค่ฉู่เหินก็ได้!” ฉู่เหินหน้าชาไปแวบหนึ่ง นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลัง…อ่ะ
“งั้นขอเรียกว่าพี่ฉู่ก็แล้วกัน!” โป๋อีกู่เกาหัวเล็กน้อย ทำให้ฉู่เหินนั้นงงตามไปด้วย แต่ก็ไม่อยากที่จะขัดอีกฝ่ายจึงปล่อยไป
“พี่ฉู่ งั้นผมเรียกพี่ว่าลูกพี่ก็ได้สินะ! จะได้ไม่รู้สึกว่าห่างเหินกันเกินไปไงล่ะ ส่วนผมจะเรียกว่าน้องชายก็ได้นะ เหมือนพวกพี่น้องร่วมสาบานไง”
“อืมมมม งั้นเรียกว่าลูกพี่ฉู่ หรือจะให้เรียกว่า คุณฉู่ดีล่ะ?”
ฉู่เหินนั้นกลอกตาอย่างเซ็งๆ แล้วก็เลิกต่อล้อต่อเถียง เอาวะคุณฉู่ยังดีกว่าท่านพี่เป็นไหน ๆ!
ก่อนที่ฉู่เหินก็ปล่อยไฟออกมา ถึงมันจะไม่ได้ร้อนมากนัก แต่มันก็ต่างกับไฟธรรมดา ดังนั้นการที่จะนำมาสกัดกระดูกสัตว์ มันก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงสักเท่าไหร่
หลังจากที่งากลายเป็นของเหลวไปแล้ว มันก็ถูกเอาไปทาที่ขาของโป๋อีกู่ ทันใดนั้นเขาก็สามารถรักษาเส้นลมปราณได้อย่างรวดเร็ว แต่หลังจากใช้ไปกว่า 200 หยด ฉู่เหินก็หยุดในทันที เพราะ 200 หยดถือว่าเป็นขีดจำกัดที่จะเอาเข้าร่างกายแล้ว